ในสมัยก่อนการที่เป็นผู้ชายมักจะได้เปรียบเสมอในทางด้านการงาน สวัสดิการ และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่พอมาในยุคปัจจุบันที่มีการเรียกร้องความเท่าเทียมเกิดขึ้นทำให้เกิดความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ซึ่งส่งผลทำให้ผญที่ไม่เคยได้รับสิทธิต่าง ๆ ก็ได้รับจนบางอย่างก็ได้รับมาแบบไม่รู้ตัว เช่น การอ้างว่าตนเป็นผญควรได้รับสิทธิก่อนหรือเวลาเกิดอันตรายหรือเหตุฉุกเฉินใด มักจะเรียกร้องหาผชเพื่อให้ไปแก้ไขหรือรับปัญหานั้นก่อนตนเสมอ ในฐานะที่ผมเป็นผชและเคยโดนทั้ง ๆ ที่ตนเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆหรือผลได้ผลเสียกับเหตุการณ์นี้เลย เช่น สมัยเรียนเลิกเรียนปุ๊บก็อยากกลับห้องนอนพักสบาย ๆ แต่พอกลับถึงห้อง อาจารย์กลับเรียกกลุ่มผชไปยกของ ทั้งๆที่พวกผมก็กลับมาถึงห้องแล้วแต่ยังมีกลุ่มของผญอยู่กับอาจารย์ อ่านมาถึงตรงนี้อย่าเพิ่งด่านะครับว่าเป็นผชก็ต้องช่วยยกของสิ มันก็แค่กล่องใส่หนังสือที่คนเดียวก็ยกได้ กับตะกร้าใส่มีของเล็กน้อย กลับเรียกกลุ่มพวกผชมาซะเกือบทั้งคณะเหมือนกับว่าจะต้องไปยกตู้ ยกเตียงย้ายบ้านกันเลยทีเดียว
.
ผญหลายๆคนที่ผมรู้จัก ส่วนใหญ่มักจะได้ดีแต่พอลองลงไปในดีเทลส่วนใหญ่เกิดจากการที่ผญเหล่านั้นได้รับโอกาสจากผชมาทั้งนั้น เช่น การที่ผญคนหนึ่งจะมีฐานะการงาน การเงินที่ดีขึ้นได้ บางคนไม่ได้ดูเก่งไปมากกว่าผชเลยด้วยซ้ำ แต่ทำไมกลับไปได้ไกลกว่าผชมาก ส่วนผญที่เก่งกว่าแต่ไม่ได้มีแฟนทำงานคนเดียวกลับเติบโตได้ช้ากว่าผญที่มีแฟน อย่างบางคนทำงานสายการแพทย์ยังซื้อบ้านเงินสดให้พ่อแม่ไม่ได้ แต่กลับเพื่อนผญบางคนของผมได้แฟนไปอยู่ต่างประเทศและทำงานที่นั้น ไม่กี่ปีซื้อบ้าน 2 ล้านด้วยเงินสดแถมซื้อรถให้พ่อแม่ได้ด้วย (ทำงานได้เพราะได้ PR จากผชที่นั้น) เห็นถึงความแตกต่างไหมครับ
.
ผมจึงมีคำถามว่า แล้วผชละโอกาสที่จะได้มีแฟนต่างชาติและได้มีโอกาสทำงานที่ต่างประเทศแบบผญน่าจะมีน้อยกว่ามาก ซึ่งโดยทั่วไปสังคมมักจะมองว่าการเป็นผชจะต้องสร้างทุกอย่างด้วยตนเองมันถึงจะดี มันถึงจะภาคภูมิใจ แต่กลับกันสังคมไม่เคยว่าผญรุนแรงแบบนี้ เช่น ถ้าผชไปมีแฟนผญต่างชาติจนไปได้ดีที่ต่างประเทศสังคมมักจะบอกว่าเพราะเกาะเมียกินแหละเลยรวยแบบนี้ถ้าไม่ได้เกาะเมียคงไม่รวยแบบนี้แน่นอน แต่ถ้าเป็นผญสังคมมักจะบอกว่าก็ไม่เห็นจะแปลกเพราะความสามารถของผญมากกว่ามั้ง การที่ผญได้ผัวรวยก็เป็นความสามารถของผญเอง ถึงจะได้ผัวต่างชาติมาแต่ก็รวยได้เพราะตัวผญเองนี้แหละ ซึ่งมันก็ใช่ แต่คำว่าโอกาสในการได้ไปถึงจุดนั้นของผญมันมักจะมีมากกว่าเสมอ
.
เพราะว่าสังคมส่วนใหญ่ในโลกสอนว่าผชจะต้องเป็นฝ่ายให้มากกว่ารับเสมอ ยิ่งผญส่วนใหญ่ในต่างประเทศมักจะคิดว่าเป็นผชจะต้องมาเลี้ยงผญสิไม่ใช่ให้ผญมาเลี้ยง คบกันถ้าผชไม่มีกำลังมากพอก็จะไม่เอา ซึ่งต่างจากผชที่ส่วนใหญ่ไม่ได้มีความคิดแบบนี้เลย
.
มันคือเป็นการเปิดโอกาสให้ผญคว้าผชที่มีกำลังทรัพย์มากมาครอบครองเพื่อทำให้ตนเองมีโอกาสมากกว่าเดิม มีทรัพย์มากกว่าเดิมในการพัฒนาหรือต่อยอดให้ตนเองมีชีวิตที่ดีขึ้นได้แบบง่าย ๆ
.
คิดง่ายๆเหมือนการเล่นเกมถ้าคุณเลือกตัวละครผญจะมีโอกาสได้รับผู้ช่วยในการผ่านด่าน 90% แบบนี้แค่พยายามเล่นไปแปปเดียวก็ผ่านด่านละ แต่กลับกันถ้าเลือกตัวละครผชจะมีโอกาสได้รับผู้ช่วย 10% คุณคิดว่าการผ่านด่านในเกมนี้มันจะยากกว่าไหม ? ซึ่งเกมที่ว่านี้มันก็คือ เกมชีวิตของเรานี้ละ
.
ในเกมก็คงไม่มีใครแคร์หรอกว่าวิธีการในการผ่านด่านจะต้องทำอย่างไรจะเล่นเก่งแค่ไหน จะทำคะแนนได้มากเท่าไร แต่สนใจแค่ว่าผลลัพธ์ที่ได้ตอนท้ายคือจะผ่านด่านได้ไหมต่างหาก จะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อผ่านด่านให้ได้มากกว่า มันก็เหมือนกับการที่เราเห็นทั้งผญและผชบางคนทำงานเก่งเอามาก ๆ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตอะไรสักอย่าง กลับกันบางคนไม่ได้ทำงานเก่งอะไรเลยแต่ รวยไวมาก มีชีวิตที่ดีมาก (อันนี้กรณีที่ไม่ได้ทำเรื่องสีเทานะครับ)
.
สมัยก่อนผมคิดว่าความยุติธรรมมันมีจริงเสมอ เป็นชายหรือหญิงก็ต้องเท่าเทียมกันสิ แต่ ณ ปัจจุบันผมได้รับรู้แล้วว่าบางเรื่องมันไม่มีความยุติธรรมอยู่จริง เช่น การเข้าห้องน้ำถ้าผชเผลอเข้าห้องน้ำผญก็จะโดนด่าว่าเป็นโรคจิตทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้รู้ความจริงอะไรเลย แต่กลับกันถ้าผญเผลอเดินเข้าไปในห้องน้ำชายกลับไม่เคยโดนว่าเป็นโรคจิตเลย
.
มาถึงสรุปคำถามที่ผมอยากจะรู้ว่าจริงๆ ในยุคนี้ยุคที่คนเรียกร้องความเท่าเทียมกัน ทุกเพศต้องมีความเท่าเทียม โอกาสได้รับสิ่งต่างๆ ต้องเท่ากัน ผญได้เปรียบมากกว่าผชในหลายๆ เรื่องใช่หรือไม่ โอกาสในการเติบโตและรวยมีมากกว่าผชจริงหรือไม่ครับ ?
ยุคนี้ผญมีโอกาสมากกว่าผชจริงหรือไม่ ?
.
ผญหลายๆคนที่ผมรู้จัก ส่วนใหญ่มักจะได้ดีแต่พอลองลงไปในดีเทลส่วนใหญ่เกิดจากการที่ผญเหล่านั้นได้รับโอกาสจากผชมาทั้งนั้น เช่น การที่ผญคนหนึ่งจะมีฐานะการงาน การเงินที่ดีขึ้นได้ บางคนไม่ได้ดูเก่งไปมากกว่าผชเลยด้วยซ้ำ แต่ทำไมกลับไปได้ไกลกว่าผชมาก ส่วนผญที่เก่งกว่าแต่ไม่ได้มีแฟนทำงานคนเดียวกลับเติบโตได้ช้ากว่าผญที่มีแฟน อย่างบางคนทำงานสายการแพทย์ยังซื้อบ้านเงินสดให้พ่อแม่ไม่ได้ แต่กลับเพื่อนผญบางคนของผมได้แฟนไปอยู่ต่างประเทศและทำงานที่นั้น ไม่กี่ปีซื้อบ้าน 2 ล้านด้วยเงินสดแถมซื้อรถให้พ่อแม่ได้ด้วย (ทำงานได้เพราะได้ PR จากผชที่นั้น) เห็นถึงความแตกต่างไหมครับ
.
ผมจึงมีคำถามว่า แล้วผชละโอกาสที่จะได้มีแฟนต่างชาติและได้มีโอกาสทำงานที่ต่างประเทศแบบผญน่าจะมีน้อยกว่ามาก ซึ่งโดยทั่วไปสังคมมักจะมองว่าการเป็นผชจะต้องสร้างทุกอย่างด้วยตนเองมันถึงจะดี มันถึงจะภาคภูมิใจ แต่กลับกันสังคมไม่เคยว่าผญรุนแรงแบบนี้ เช่น ถ้าผชไปมีแฟนผญต่างชาติจนไปได้ดีที่ต่างประเทศสังคมมักจะบอกว่าเพราะเกาะเมียกินแหละเลยรวยแบบนี้ถ้าไม่ได้เกาะเมียคงไม่รวยแบบนี้แน่นอน แต่ถ้าเป็นผญสังคมมักจะบอกว่าก็ไม่เห็นจะแปลกเพราะความสามารถของผญมากกว่ามั้ง การที่ผญได้ผัวรวยก็เป็นความสามารถของผญเอง ถึงจะได้ผัวต่างชาติมาแต่ก็รวยได้เพราะตัวผญเองนี้แหละ ซึ่งมันก็ใช่ แต่คำว่าโอกาสในการได้ไปถึงจุดนั้นของผญมันมักจะมีมากกว่าเสมอ
.
เพราะว่าสังคมส่วนใหญ่ในโลกสอนว่าผชจะต้องเป็นฝ่ายให้มากกว่ารับเสมอ ยิ่งผญส่วนใหญ่ในต่างประเทศมักจะคิดว่าเป็นผชจะต้องมาเลี้ยงผญสิไม่ใช่ให้ผญมาเลี้ยง คบกันถ้าผชไม่มีกำลังมากพอก็จะไม่เอา ซึ่งต่างจากผชที่ส่วนใหญ่ไม่ได้มีความคิดแบบนี้เลย
.
มันคือเป็นการเปิดโอกาสให้ผญคว้าผชที่มีกำลังทรัพย์มากมาครอบครองเพื่อทำให้ตนเองมีโอกาสมากกว่าเดิม มีทรัพย์มากกว่าเดิมในการพัฒนาหรือต่อยอดให้ตนเองมีชีวิตที่ดีขึ้นได้แบบง่าย ๆ
.
คิดง่ายๆเหมือนการเล่นเกมถ้าคุณเลือกตัวละครผญจะมีโอกาสได้รับผู้ช่วยในการผ่านด่าน 90% แบบนี้แค่พยายามเล่นไปแปปเดียวก็ผ่านด่านละ แต่กลับกันถ้าเลือกตัวละครผชจะมีโอกาสได้รับผู้ช่วย 10% คุณคิดว่าการผ่านด่านในเกมนี้มันจะยากกว่าไหม ? ซึ่งเกมที่ว่านี้มันก็คือ เกมชีวิตของเรานี้ละ
.
ในเกมก็คงไม่มีใครแคร์หรอกว่าวิธีการในการผ่านด่านจะต้องทำอย่างไรจะเล่นเก่งแค่ไหน จะทำคะแนนได้มากเท่าไร แต่สนใจแค่ว่าผลลัพธ์ที่ได้ตอนท้ายคือจะผ่านด่านได้ไหมต่างหาก จะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อผ่านด่านให้ได้มากกว่า มันก็เหมือนกับการที่เราเห็นทั้งผญและผชบางคนทำงานเก่งเอามาก ๆ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตอะไรสักอย่าง กลับกันบางคนไม่ได้ทำงานเก่งอะไรเลยแต่ รวยไวมาก มีชีวิตที่ดีมาก (อันนี้กรณีที่ไม่ได้ทำเรื่องสีเทานะครับ)
.
สมัยก่อนผมคิดว่าความยุติธรรมมันมีจริงเสมอ เป็นชายหรือหญิงก็ต้องเท่าเทียมกันสิ แต่ ณ ปัจจุบันผมได้รับรู้แล้วว่าบางเรื่องมันไม่มีความยุติธรรมอยู่จริง เช่น การเข้าห้องน้ำถ้าผชเผลอเข้าห้องน้ำผญก็จะโดนด่าว่าเป็นโรคจิตทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้รู้ความจริงอะไรเลย แต่กลับกันถ้าผญเผลอเดินเข้าไปในห้องน้ำชายกลับไม่เคยโดนว่าเป็นโรคจิตเลย
.
มาถึงสรุปคำถามที่ผมอยากจะรู้ว่าจริงๆ ในยุคนี้ยุคที่คนเรียกร้องความเท่าเทียมกัน ทุกเพศต้องมีความเท่าเทียม โอกาสได้รับสิ่งต่างๆ ต้องเท่ากัน ผญได้เปรียบมากกว่าผชในหลายๆ เรื่องใช่หรือไม่ โอกาสในการเติบโตและรวยมีมากกว่าผชจริงหรือไม่ครับ ?