หลังจากทำงานในโรงงานต่างจังหวัดมา 9 ปี จากหัวหน้าผู้ควบคุมงาน เลื่อนตำแหน่งขึ้นเรื่อยๆจนเป็นหัวหน้าแผนก
เมื่อหัวหน้าเราไม่มีท่าทีจะลาออก ถึงเวลาที่เราคงต้องไปโตที่อื่น
เราสมัครงานไปที่ headhunter ที่ประกาศรับสมัครใน bangkok post โดยส่ง resume ไป 1 หน้ากระดาษ
สัมภาษณ์ผ่าน headhunter ไปได้ด้วยดี ราบรื่นจนจำไม่ได้ว่าคุยอะไรกันบ้าง
เราคิดว่าเป็นเรื่องปกติ จนออกจากห้องประชุมมา เจอคนคนหนึ่งรออยู่หน้าห้อง ทักเราว่า 'เป็นไง เรียบร้อยดีไหม'
เขาคือเพื่อนบ้านที่ติดกับเรา อยู่กันมา 6-7 ปี เป็นเพื่อนบ้านที่ดีมากทั้งครอบครัว
และเป็น HRD ของบริษัทเดียวกัน ก่อนที่เขาจะลาออกมาทำงานกับ headhunter นี้
ตอนยังอยู่บริษัทเดียวกัน เขาเคยเข้ามาคุยในห้องทำงานของเราว่า ด้วย qualification ของเรา เราควรหางานใหม่ในระดับสูงขึ้น เราก็ยิ้มๆ
เราไม่รู้เลยว่าเขามาทำงานที่นี่ เจอเขาคราวนี้ เราถึงบางอ้อว่า มันง่ายเหลือเชื่อ
นัดสัมภาษณ์ครั้งใหม่กับ Operation Director ที่จะเป็นนายโดยตรงของเรา
เราขอเรียก'นาย' เป็น 1 ใน 2 ของ 'นาย' ในชีวิตเรา
นายมีไฟล์ประวัติเราอยู่แล้ว นายเล่าเรื่องบริษัท ตำแหน่งของเราแต่ก่อนใตรทำ ทำอะไร อย่างไร (ราว 20 นาที)
นาย : คุณอยากถามอะไรไหม
เรา : ตอนนี้ที่ตำแหน่งว่างอยู่ ใครดูแลคะ
นาย : ผมน่ะสิ คุณเอ๋ย ผมน่ะอีก 3-4 ปีก็เกษียณแล้วนะคุณ เปิดสวิทช์คอมพิวเตอร์ยังไม่เป็นเลย (นายจบวิศวะจากอังกฤษ)
เรา : ทำไมถึงสนใจเรา เราค่อนข้างอายุมาก (30+) ควรรับคนที่อายุน้อย ไม่มีครอบครัวก่อนไม่ใช่หรือคะ
นาย : ผมอยากได้คนที่เป็นผู้ใหญ่ คนก่อนอายุน้อย มีปัญหากับเพื่อนร่วมงานมาก (เล่าต่อถึงรายละเอียด อีกราว 15 นาที)
เรา : ไม่ลองโปรโมทผู้ช่วยที่ยังอยู่ขึ้นมาหรือคะ
นาย : คงไม่ไหวหรอก (ตำแหน่งเราจะต้องเริ่มระบบ MRP เปลี่ยนจากที่เคยใช้กระดาษ+เครื่องคิดเลข)
นายระบายความในใจต่ออีก 20 นาที ตอนนี้เกินชั่วโมงแล้ว มองผ่านกระจกออกไป เราเห็น candidate 2 คนรออยู่นอกห้อง
เรา : วันนี้นายต้องสัมภาษณ์กี่คนคะ
นาย : 3 คน แต่ไม่ต้องสัมภาษณ์แล้ว ผมรับคุณนี่แหละ
เรา : เอ๊ยย ยังไงก็คุยกับเขาหน่อยสิคะ เขาอาจทำได้ดีกว่าเรานะคะ
นาย: อือ คุยก็ได้
หลังจากนั้น 1 อาทิตย์ headhunter ก็เรียกเราไปตกลงค่าจ้างกับ HR manager ของบริษัท ตกลงกันได้ด้วยดี
เราก็กลายเป็นผู้จัดการมือใหม่ ได้มารับใช้นายอยู่ 2 ปี
ตอนต่อค่ะ
http://ppantip.com/topic/32190577
ผู้จัดการมือใหม่ : ก่อนจะได้เป็นผู้จัดการ
เมื่อหัวหน้าเราไม่มีท่าทีจะลาออก ถึงเวลาที่เราคงต้องไปโตที่อื่น
เราสมัครงานไปที่ headhunter ที่ประกาศรับสมัครใน bangkok post โดยส่ง resume ไป 1 หน้ากระดาษ
สัมภาษณ์ผ่าน headhunter ไปได้ด้วยดี ราบรื่นจนจำไม่ได้ว่าคุยอะไรกันบ้าง
เราคิดว่าเป็นเรื่องปกติ จนออกจากห้องประชุมมา เจอคนคนหนึ่งรออยู่หน้าห้อง ทักเราว่า 'เป็นไง เรียบร้อยดีไหม'
เขาคือเพื่อนบ้านที่ติดกับเรา อยู่กันมา 6-7 ปี เป็นเพื่อนบ้านที่ดีมากทั้งครอบครัว
และเป็น HRD ของบริษัทเดียวกัน ก่อนที่เขาจะลาออกมาทำงานกับ headhunter นี้
ตอนยังอยู่บริษัทเดียวกัน เขาเคยเข้ามาคุยในห้องทำงานของเราว่า ด้วย qualification ของเรา เราควรหางานใหม่ในระดับสูงขึ้น เราก็ยิ้มๆ
เราไม่รู้เลยว่าเขามาทำงานที่นี่ เจอเขาคราวนี้ เราถึงบางอ้อว่า มันง่ายเหลือเชื่อ
นัดสัมภาษณ์ครั้งใหม่กับ Operation Director ที่จะเป็นนายโดยตรงของเรา
เราขอเรียก'นาย' เป็น 1 ใน 2 ของ 'นาย' ในชีวิตเรา
นายมีไฟล์ประวัติเราอยู่แล้ว นายเล่าเรื่องบริษัท ตำแหน่งของเราแต่ก่อนใตรทำ ทำอะไร อย่างไร (ราว 20 นาที)
นาย : คุณอยากถามอะไรไหม
เรา : ตอนนี้ที่ตำแหน่งว่างอยู่ ใครดูแลคะ
นาย : ผมน่ะสิ คุณเอ๋ย ผมน่ะอีก 3-4 ปีก็เกษียณแล้วนะคุณ เปิดสวิทช์คอมพิวเตอร์ยังไม่เป็นเลย (นายจบวิศวะจากอังกฤษ)
เรา : ทำไมถึงสนใจเรา เราค่อนข้างอายุมาก (30+) ควรรับคนที่อายุน้อย ไม่มีครอบครัวก่อนไม่ใช่หรือคะ
นาย : ผมอยากได้คนที่เป็นผู้ใหญ่ คนก่อนอายุน้อย มีปัญหากับเพื่อนร่วมงานมาก (เล่าต่อถึงรายละเอียด อีกราว 15 นาที)
เรา : ไม่ลองโปรโมทผู้ช่วยที่ยังอยู่ขึ้นมาหรือคะ
นาย : คงไม่ไหวหรอก (ตำแหน่งเราจะต้องเริ่มระบบ MRP เปลี่ยนจากที่เคยใช้กระดาษ+เครื่องคิดเลข)
นายระบายความในใจต่ออีก 20 นาที ตอนนี้เกินชั่วโมงแล้ว มองผ่านกระจกออกไป เราเห็น candidate 2 คนรออยู่นอกห้อง
เรา : วันนี้นายต้องสัมภาษณ์กี่คนคะ
นาย : 3 คน แต่ไม่ต้องสัมภาษณ์แล้ว ผมรับคุณนี่แหละ
เรา : เอ๊ยย ยังไงก็คุยกับเขาหน่อยสิคะ เขาอาจทำได้ดีกว่าเรานะคะ
นาย: อือ คุยก็ได้
หลังจากนั้น 1 อาทิตย์ headhunter ก็เรียกเราไปตกลงค่าจ้างกับ HR manager ของบริษัท ตกลงกันได้ด้วยดี
เราก็กลายเป็นผู้จัดการมือใหม่ ได้มารับใช้นายอยู่ 2 ปี
ตอนต่อค่ะ http://ppantip.com/topic/32190577