ได้ไม่คุ้มเสีย! เสียงสะท้อนถึง กสทช. กับภารกิจกระหน่ำแจก 'คูปองทีวีดิจิตอล'
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 11 มิ.ย. 2557 05:30
กลายเป็นสร้างความกังวล มากกว่าจะได้สบายใจกันเสียแล้ว กับการแจกคูปองเพื่อซื้อเซตท็อปบ็อกซ์ สนับสนุนการเข้าถึงและรับชมทีวีดิจิตอลของไทย…
กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ไม่น้อย กับบทสรุปของคณะกรรมการ (บอร์ด) คณะกรรมการบริหารกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) ที่มติให้แจกคูปองสำหรับซื้อกล่องรับสัญญาณทีวีดิจอตอล หรือ เซตท็อปบ็อกซ์ ในราคา 1,000 บาท แก่ประชาชน 25 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศไทย โดยคาดว่าจะเริ่มต้นแจกคูปองดังกล่าวได้ภายในเดือน ก.ค.นี้
จากความคืบหน้าดังกล่าว หากมองภาพรวมแล้วเหมือนจะสร้างความพึงพอใจให้กับฝ่ายประชาชนซึ่งเป็นผู้รับประโยชน์ และบรรดาผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลเจ้าของช่อง ที่ก่อนหน้านี้เคยออกมาบอกว่าการแจกคูปองล่าช้า อาจส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อผู้ประกอบการถึงกว่าสองพันล้านบาท
แต่… ในกรณีนี้ยังมีบางฝ่ายที่มองว่าราคาคูปอง 1,000 บาท ไม่ได้ส่งผลดีอย่างไรกับทุกฝ่าย ทั้งยังถือเป็นการโยนประโยชน์ให้กับบรรดานักธุรกิจเสียมากกว่า
-- ทีวีดิจิตอล... ความหวังใหม่ของคนดู --
"ราคาคูปอง 1,000 บาท ยังไงก็ถือว่าสูงเกินไป" นายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าว และอธิบายต่อไปว่า จากข้อมูลที่ได้รับมาเข้าใจว่าราคาเริ่มต้นของเซตท็อปบ็อกซ์นั้นอยู่ที่ 600-700 บาทเท่านั้น ซึ่งในต่างประเทศ เช่น จีน ก็มีราคาอยู่ในระดับดังกล่าว หมายความว่าหากในจีนสามารถทำราคาเซตท็อปบ็อกซ์ได้ในช่วงนั้น ไทยก็สามารถทำให้มีราคาเดียวกันได้"
-- ราคากล่อง สูงตามราคาคูปอง ! --
นอกจากนี้ ประธานทีดีอาร์ไอ ยังแสดงความเห็นว่า ลูกค้ารายใหญ่ของตลาดเซตท็อปบ็อกซ์ก็คือ ผู้ที่ยังไม่สามารถรับชมทีวีดิจิตอลได้ ทั้งผู้ที่ใช้ทีวีรุ่นเก่าและผู้ที่ไม่ได้ติดตั้งเคเบิลทีวีหรือทีวีดาวเทียม ซึ่งหาก กสทช. (คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ) ยอมแจกคูปองในราคาที่สูงกว่าราคาเซตท็อปบ็อกซ์ ก็ย่อมให้ผู้ค้าเซตท็อปบ็อกซ์ตั้งราคาให้สูงตามไปด้วย ขณะเดียวกัน หากกล่องมีราคาไม่สมดุลกับราคาคูปอง เช่น กล่องราคา 800 บาท แต่คูปองมูลค่า 1,000 บาท เชื่อว่าประชาชนก็จะต้องเลือกซื้อกล่องที่มีราคาเท่ากับมูลค่าคูปอง ทำให้ผู้ค้าที่ตั้งราคาไว้สูงกลายเป็นฝ่ายที่ได้เปรียบ
-- ไม่มีประเทศไหนแจกคูปองไปทั่ว ! --
"ยกตัวอย่าง ในออสเตรเลีย มีการแจกคูปองในลักษณะเดียวกันนี้ แต่เขาก็แจกให้เฉพาะผู้สูงอายุ ผู้พิการ และทหารผ่านศึกเท่านั้น อย่างในญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ก็จะแจกให้เฉพาะผู้ที่มีรายได้ต่ำ ในอังกฤษก็เป็นไปในลักษณะใกล้เคียงกัน หรือจะแจกให้ทั้งหมดอย่างอเมริกาก็ได้ แต่คือแจกให้เฉพาะผู้ที่ทำเรื่องขอรับคูปองเท่านั้น ไม่ใช่แจกแบบหว่านไปทั่วเหมือนที่ประเทศไทยกำลังจะทำ เพราะเชื่อว่ามีประชาชนจำนวนไม่น้อยไม่ต้องการรับคูปองดังกล่าว เพราะสามารถรับชมทีวีดิจิตอลได้จากเคเบิลทีวี ทีวีดาวเทียม หรือมีทีวีที่สามารถรับระบบออกอากาศแบบดิจิตอลได้อยู่แล้ว
-- ห่วงเสียเงินเยอะ! ได้ผลน้อย --
ส่วนตัวไม่อยากให้ กสทช. มองว่าต้องการนำรายได้จากการประมูลใบอนุญาตให้บริการทีวีดิจิตอลกว่า 51,000 ล้านบาท มาใช้โดยสิ้นเปลือง แม้จะถือเป็นความสำเร็จจากการจัดประมูล แต่ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเร่งนำเงินส่วนดังกล่าวออกมาใช้ และยังถือเป็นการใช้แบบเยอะเกินความจำเป็นอีกด้วย กับการแจกคูปองละ 1,000 บาท ให้กับทั้ง 25 ล้านครัวเรือน ซึ่งมีมูลค่ากว่า 25,000 ล้านบาท เพราะในส่วนของการสนับสนุนกิจการกระจายเสียง โทรทัศน์ และโทรคมนาคม ก็ยังสามารถพัฒนาหรือปรับปรุงในส่วนอื่นๆ ได้อีก ทั้งวิทยุชุมชน หรือการสนับสนุเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการรับชมได้อย่างทั่วถึง และการสนับสนุนเพื่อให้เกิดการพัฒนารายการที่มีเนื้อหาและคุณภาพดี
เสนอ 4 ข้อ ให้ปรับใหม่!
ประธานทีดีอาร์ไอ ระบุว่า ต้องการนำเสนอแนวทาง 4 ข้อไปยัง กสทช. ดังนี้…
1. แจกคูปองเพื่อกระตุ้นและสนับสนุนการออกอากาศทีวีในระบบภาคพื้นดินเท่านั้น
2. กำหนดราคาคูปองให้อยู่ที่ 600-700 บาท
3. เปิดให้ผู้ที่มีความต้องการรับคูปองจริงๆ ยื่นเรื่องขอรับคูปองและพิจารณามอบให้ตามที่มีการร้องขอ
4. จัดให้มีการเปิดรับฟังความเห็นสาธารณะ ซึ่งนอกจากจะเป็นการรับฟังความเห็นส่วนรวมแล้วยังเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายของ พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 ที่ระบุให้ กสทช. ต้องจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียและประชาชนทั่วไป เพื่อนำความคิดเห็นที่ได้มาประกอบการพิจารณาก่อนออกระเบียบ ประกาศ หรือคำสั่ง เกี่ยวกับการกำกับดูแลการประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมที่มีผลบังคับใช้
ท่ามกลางแรงกดดันจากมุมมองของนักวิชาการและองค์กรเพื่อผู้บริโภค ที่ต้องการให้ราคาคูปองดังกล่าว ปรับลดเป็น 500-700 บาท เพื่อสร้างกลไกให้ราคาเซตท็อปบ็อกซ์ปรับลดตามไปด้วยนั้น แถมยังใกล้ถึงกำหนดต้องแจกจ่ายแก่ประชาชนตามที่ กสทช. เคยมุ่งมั่นว่าจะต้องทำให้ได้นี้ ท้ายที่สุด จะสามารถกระตุ้นการเข้าถึงและรับชมทีวีดิจิตอลได้มากน้อยเพียงใด และกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จะใช่ประชาชนหรือไม่ อีกไม่นานคงได้รู้กัน...!
อ่าน "ซื้อหรือยัง? 'เซตท็อปบ็อกซ์' เพื่อทีวีดิจิตอล ย่านดังวางขายเพียบ!"
ได้ที่นี่ เพื่อทำความรู้จักกับเซตท็อปบ็อกซ์.
ได้ไม่คุ้มเสีย! เสียงสะท้อนถึง กสทช. กับภารกิจกระหน่ำแจก 'คูปองทีวีดิจิตอล' [ไทยรัฐออนไลน์ 11 มิ.ย. 57]
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 11 มิ.ย. 2557 05:30
กลายเป็นสร้างความกังวล มากกว่าจะได้สบายใจกันเสียแล้ว กับการแจกคูปองเพื่อซื้อเซตท็อปบ็อกซ์ สนับสนุนการเข้าถึงและรับชมทีวีดิจิตอลของไทย…
กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ไม่น้อย กับบทสรุปของคณะกรรมการ (บอร์ด) คณะกรรมการบริหารกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) ที่มติให้แจกคูปองสำหรับซื้อกล่องรับสัญญาณทีวีดิจอตอล หรือ เซตท็อปบ็อกซ์ ในราคา 1,000 บาท แก่ประชาชน 25 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศไทย โดยคาดว่าจะเริ่มต้นแจกคูปองดังกล่าวได้ภายในเดือน ก.ค.นี้
จากความคืบหน้าดังกล่าว หากมองภาพรวมแล้วเหมือนจะสร้างความพึงพอใจให้กับฝ่ายประชาชนซึ่งเป็นผู้รับประโยชน์ และบรรดาผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลเจ้าของช่อง ที่ก่อนหน้านี้เคยออกมาบอกว่าการแจกคูปองล่าช้า อาจส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อผู้ประกอบการถึงกว่าสองพันล้านบาท
แต่… ในกรณีนี้ยังมีบางฝ่ายที่มองว่าราคาคูปอง 1,000 บาท ไม่ได้ส่งผลดีอย่างไรกับทุกฝ่าย ทั้งยังถือเป็นการโยนประโยชน์ให้กับบรรดานักธุรกิจเสียมากกว่า
-- ทีวีดิจิตอล... ความหวังใหม่ของคนดู --
"ราคาคูปอง 1,000 บาท ยังไงก็ถือว่าสูงเกินไป" นายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าว และอธิบายต่อไปว่า จากข้อมูลที่ได้รับมาเข้าใจว่าราคาเริ่มต้นของเซตท็อปบ็อกซ์นั้นอยู่ที่ 600-700 บาทเท่านั้น ซึ่งในต่างประเทศ เช่น จีน ก็มีราคาอยู่ในระดับดังกล่าว หมายความว่าหากในจีนสามารถทำราคาเซตท็อปบ็อกซ์ได้ในช่วงนั้น ไทยก็สามารถทำให้มีราคาเดียวกันได้"
-- ราคากล่อง สูงตามราคาคูปอง ! --
นอกจากนี้ ประธานทีดีอาร์ไอ ยังแสดงความเห็นว่า ลูกค้ารายใหญ่ของตลาดเซตท็อปบ็อกซ์ก็คือ ผู้ที่ยังไม่สามารถรับชมทีวีดิจิตอลได้ ทั้งผู้ที่ใช้ทีวีรุ่นเก่าและผู้ที่ไม่ได้ติดตั้งเคเบิลทีวีหรือทีวีดาวเทียม ซึ่งหาก กสทช. (คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ) ยอมแจกคูปองในราคาที่สูงกว่าราคาเซตท็อปบ็อกซ์ ก็ย่อมให้ผู้ค้าเซตท็อปบ็อกซ์ตั้งราคาให้สูงตามไปด้วย ขณะเดียวกัน หากกล่องมีราคาไม่สมดุลกับราคาคูปอง เช่น กล่องราคา 800 บาท แต่คูปองมูลค่า 1,000 บาท เชื่อว่าประชาชนก็จะต้องเลือกซื้อกล่องที่มีราคาเท่ากับมูลค่าคูปอง ทำให้ผู้ค้าที่ตั้งราคาไว้สูงกลายเป็นฝ่ายที่ได้เปรียบ
-- ไม่มีประเทศไหนแจกคูปองไปทั่ว ! --
"ยกตัวอย่าง ในออสเตรเลีย มีการแจกคูปองในลักษณะเดียวกันนี้ แต่เขาก็แจกให้เฉพาะผู้สูงอายุ ผู้พิการ และทหารผ่านศึกเท่านั้น อย่างในญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ก็จะแจกให้เฉพาะผู้ที่มีรายได้ต่ำ ในอังกฤษก็เป็นไปในลักษณะใกล้เคียงกัน หรือจะแจกให้ทั้งหมดอย่างอเมริกาก็ได้ แต่คือแจกให้เฉพาะผู้ที่ทำเรื่องขอรับคูปองเท่านั้น ไม่ใช่แจกแบบหว่านไปทั่วเหมือนที่ประเทศไทยกำลังจะทำ เพราะเชื่อว่ามีประชาชนจำนวนไม่น้อยไม่ต้องการรับคูปองดังกล่าว เพราะสามารถรับชมทีวีดิจิตอลได้จากเคเบิลทีวี ทีวีดาวเทียม หรือมีทีวีที่สามารถรับระบบออกอากาศแบบดิจิตอลได้อยู่แล้ว
-- ห่วงเสียเงินเยอะ! ได้ผลน้อย --
ส่วนตัวไม่อยากให้ กสทช. มองว่าต้องการนำรายได้จากการประมูลใบอนุญาตให้บริการทีวีดิจิตอลกว่า 51,000 ล้านบาท มาใช้โดยสิ้นเปลือง แม้จะถือเป็นความสำเร็จจากการจัดประมูล แต่ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเร่งนำเงินส่วนดังกล่าวออกมาใช้ และยังถือเป็นการใช้แบบเยอะเกินความจำเป็นอีกด้วย กับการแจกคูปองละ 1,000 บาท ให้กับทั้ง 25 ล้านครัวเรือน ซึ่งมีมูลค่ากว่า 25,000 ล้านบาท เพราะในส่วนของการสนับสนุนกิจการกระจายเสียง โทรทัศน์ และโทรคมนาคม ก็ยังสามารถพัฒนาหรือปรับปรุงในส่วนอื่นๆ ได้อีก ทั้งวิทยุชุมชน หรือการสนับสนุเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการรับชมได้อย่างทั่วถึง และการสนับสนุนเพื่อให้เกิดการพัฒนารายการที่มีเนื้อหาและคุณภาพดี
เสนอ 4 ข้อ ให้ปรับใหม่!
ประธานทีดีอาร์ไอ ระบุว่า ต้องการนำเสนอแนวทาง 4 ข้อไปยัง กสทช. ดังนี้…
1. แจกคูปองเพื่อกระตุ้นและสนับสนุนการออกอากาศทีวีในระบบภาคพื้นดินเท่านั้น
2. กำหนดราคาคูปองให้อยู่ที่ 600-700 บาท
3. เปิดให้ผู้ที่มีความต้องการรับคูปองจริงๆ ยื่นเรื่องขอรับคูปองและพิจารณามอบให้ตามที่มีการร้องขอ
4. จัดให้มีการเปิดรับฟังความเห็นสาธารณะ ซึ่งนอกจากจะเป็นการรับฟังความเห็นส่วนรวมแล้วยังเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายของ พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 ที่ระบุให้ กสทช. ต้องจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียและประชาชนทั่วไป เพื่อนำความคิดเห็นที่ได้มาประกอบการพิจารณาก่อนออกระเบียบ ประกาศ หรือคำสั่ง เกี่ยวกับการกำกับดูแลการประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมที่มีผลบังคับใช้
ท่ามกลางแรงกดดันจากมุมมองของนักวิชาการและองค์กรเพื่อผู้บริโภค ที่ต้องการให้ราคาคูปองดังกล่าว ปรับลดเป็น 500-700 บาท เพื่อสร้างกลไกให้ราคาเซตท็อปบ็อกซ์ปรับลดตามไปด้วยนั้น แถมยังใกล้ถึงกำหนดต้องแจกจ่ายแก่ประชาชนตามที่ กสทช. เคยมุ่งมั่นว่าจะต้องทำให้ได้นี้ ท้ายที่สุด จะสามารถกระตุ้นการเข้าถึงและรับชมทีวีดิจิตอลได้มากน้อยเพียงใด และกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จะใช่ประชาชนหรือไม่ อีกไม่นานคงได้รู้กัน...!
อ่าน "ซื้อหรือยัง? 'เซตท็อปบ็อกซ์' เพื่อทีวีดิจิตอล ย่านดังวางขายเพียบ!" ได้ที่นี่ เพื่อทำความรู้จักกับเซตท็อปบ็อกซ์.