ผมเด็กกับผู้หญิงโดนนักกีฬาทีม...รุมทำร้าย

ผมอยู่นครสวรรค์ อายุผม17ใกล้18 ผมกับเพื่อนไม่เคยมีเรื่องกับใครไม่รุ้จักกันมาก่อนแต่กับเจอเหตุการณ์แบบนี้
เมื่อวันที่ 26มกราคม2557 เวลาตี2:30 ถึงตี3 ผมไปทานมาม่าไข่ใน ตลาดบ่อนไก่นครสวรรค์ ผมขับบิ๊กไบค์ไป2คันกับพี่ชายมีผู้หญิงซ้อนไปคันละคน
ไปถึงร้านกำลังจอดรถมีเสียงด่าขึ้นมาว่า  ไอ้เหี่ย ผมก็ไม่ได้อะไรผมก็ยืนรอเพราะโต๊ะเต็ม พอกลุ่มวัยรุ่นที่พูดตะโกนด่าขึ้น กินเสร็จก็เดินไปขึ้นรถเก๋ง ประมาณ10กว่าคน ขึ้นรถ3คัน ผมก็ลงไปนั่งโต๊ะสั่งมาม่า แล้วพี่ชายผมให้ไปยืนรอ พี่ผมฉี่ที่บริเวณกะถางต้นไม้ ผมยืนรอได้สักพักกลุ่มวัยรุ่นนั้น ปาขวดใส่ผม
ผมกับพี่ีชายจึงถามปาขวดมาทำไม
กลุ่มวัยรุ่นก็บอก "กูไม่ได้ปา มีอะไรป่าว" แล้วพวกผมกับพี่ชายก็ถามปามาทำไม
ผมกับพี่ชาย : ปามาทำไม
กลุ่มวัยรุ่น : พูดมาว่า "กูปาเองมีอะไรป่าว กูเป็นทหารอยู่ในค่าย ปืนกูก็มี ลูกผู้ชายพอป่าวแน่จริงวางหมวก

ผมกับพี่ชาย เดินถอยมาผมถือหมวกกันน๊อคอยู่ผมก็วางหมวกลงบนรถมอเตอร์ไซค์ผม แล้วพวกวัยรุ่นลงจากรถเก๋ง3คันมาลุมกระทืบผมผมหมดสติหลับไปนอนกับพื้น แล้วผมก็ยังโดนเตะที่บริเวณหน้าไม่หยุดแฟนผมก้มมากอดเอาตัวนอนทับผม พวกมันก็เตะหน้าแฟนผม เตะขาแล้วพี่ผมวิ่งไปพวกวัยรุ่นวิง่ตามไปกระทืบพี่ผม เหตุการณ์นี้มีคนอยู่บริเวณนั้นหลายคนแต่ไม่มีใครกล้าช่วย พอพวกมันจะกลับไปขึ้นรถมา ทุบรถบิ๊กไบค์ของพวกผมถึบจนคว้ำได้รับความเสียหาย มีพี่ผู้ชาย2คนมาช่วยผมบอกพวกมันว่าน้องพอแล้ว น้องเค้าแย่แล้วพวกวุ่ยรุ่นก็ขึ้นรถหนีไป

หลังจากนั้นผมได้ไปโรงพยาบาล
เช้ารุ่งขึ้นผมไปแจ้งความตำรวจมาสืบหาตัวตำรวจ เรียกกลุ่มวัยรุ่นมา ปรากฏว่าเป็นนักฟุตบอลนครสวรรค์ ทีมนครสวรรค์ อยู่หลายคน
แล้วผมกับเค้าไม่เคยรู้จักกัน ผมเรียกค่าเสียหาย3คน 2แสน5หมื่นเพราะฟันผมหลุดไป4 ซี่ โยกอีก2ซี่ แฟนผมตาเขียวเดือนกว่าตาแตก พี่ชายผมขาบวมบิ๊กไบค์เป็นลอยล้มจำนวนมาก พวกนักบอลพาทนายของเค้ามาต่อที่ 2แสนผมยังไม่ยอมเค้ายอมรับว่าเค้าเป็นคนทำพวกผม แล้วต่อลองไปต่อลองมาเค้าจะจ่ายที่1แสน5หมื่นทางผมไม่ยอม เรื่องผ่านไปตำรวจขอเวลาคุยให้ มาต่อรองที่เงิน1แสนพวกผมก็ยอมที่1แสน นัดวันจ่ายเงินเรียบร้อยพอถึงวัน ก็ไม่มาพวกผมไปกันหมดสุดท้ายเรื่องผ่านมา 4 5 เดือนไม่จ่ายเงินสักบาท โทรมาหาผมแล้วบอกผมว่าน้องก็ผิด ผมกับงงเลยครับผมเด็กอายุ17ปีโดนวัยรุ่น อายุ 25 - 35 ปีลุมกระทืบเป็นนักกีฬามีงานการทำที่สำคัญ อยู่ตำบลหมูบ้านใกล้ๆกับผม วันมาเคลียกับตำรวจบอกเด็กบ้านเดียวกันผมกับทำไมเรื่องผ่านไปขนาดนี้ผมกับไม่ได้อะไรผมไม่รู้จะพึ่งใคร เลยอยากแชร์ให้ทุกคนได้รู้ครับ

แจ้งความคืบหน้าครับ
วันนี้ไปให้ปากคำเพิ่มเติม เพื่อสั่งฟ้องศาล เลยยุ่งๆอยู่
ตอนนี้มีสื่อได้นำเสนอข่าวให้ผม ทางช่อง 3 รายการ Flash News  ของวันที่ 25 พ.ค.2557  และ ทางช่อง 7 รายการ เช้านี้ที่หมอชิด ของวันที่ 26 พ.ค. 2557 และช่องทางหนังสือพิมพ์ เดลินิวส์ ฉบับที่ 23,602 วันอังคารที่ 27 พฤษภาคม 2557
ขอบคุณทุกช่องทางและทุกๆคนที่ให้คำแนะนำที่ดี ที่มีส่วนช่วยให้คดีดำเนินคืบหน้าต่อไปครับ  ขอบคุณอีกครั้งครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
จ้างทนายดำเนินคดีเลยครับ บอกตรงๆ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 69
ผมไม่แปลกใจเลยที่คดีมันยืดเยื้อมาหลายเดือน คืองี้ เราต้องเข้าใจก่อนว่า  หากเกิดกรณีพิพาทจนถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาลแล้วเนี่ย  ตำรวจ  ประกัน  ทนาย คนกลุ่มนี้เค้าจะรู้จักมักคุ้นกันดีอยู่ เพราะหากมีเรื่องมีราวก็ต้องได้เจอกัน พุดคุย ประสานงานกันตลอด คนกลุ่มเหล่านี้เค้าจะได้เจอกันบ่อยบนสถานีตำรวจ เชื่อเหอะ เค้ามีเบอร์ของกันและกันอยู่ ถ้าไม่มี ก็แอบขอกันในช่วงที่เจอกันนั่นแหล่ะ มันจะมีแอบคุยกันนอกรอบ ทีนี้ในขั้นตอนการเจรจาค่าเสียหาย จากตัวเลขที่เราเรียกไป ถ้าอีกฝ่ายต่อรองลงมาแล้วตกลงกันไม่ได้ ตำรวจจะรู้งานทันทีว่า ให้นัดรอบหน้ามาเจอกันใหม่ อาจจะเดือนนึงนัดมาใหม่ หากยังตกลงตัวเลขกันไม่ได้อีกก็เลื่อนไปอีกเรื่อยๆ พูดง่ายๆคือ เลื่อนจน จขกท รำคาญจนสุดท้ายต้องยอมรับเงินก้อนดังกล่าวเพื่อให้มันจบๆไป  เพราะอะไรรู้มั้ยครับ เพราะถ้าคุณยืนยันไม่ยอมความหรือไม่ยอมลดยอดเงินค่าเสียหาย ตำรวจมันต้องทำสำนวนส่งฟ้องศาลสถานเดียว ซึ่งโดยสันดานแล้ว ตำรวจมันจะขี้เกียจเขียนสำนวนมากเพราะรายละเอียดขั้นตอนมันเยอะ ทีนี้ สิ่งที่ จขกท จะทำ ก็คือ

1.ยกเลิกตัวเลขค่าเสียหายที่ตกลงกันไว้แต่แรก กลับไปตั้งไว้ที่ยอดเดิมคือ สองแสนห้าหมื่น หรือมากกว่านั้น ด้วยเหตุคือ บาดเจ็บสามคน ผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจ ขาดรายได้จากการทำงาน รวมทั้งมีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการซ่อมแซมมอเตอร์ไซท์ให้มีสภาพเหมือนเดิม รวมแล้วมันมากกว่าที่ทางคู่กรณีเสนอให้
2.ทั้งสามคนที่โดนทำร้ายให้ไปขอใบรับรองแพทย์ทุกคน หากไปหาหมอวันเดียวแล้วกลับมารักษาตัวที่บ้าน ให้กลับไปขอใหม่แล้วบอกว่าอาการที่เคยไปตรวจวันนั้นมันยังไม่หายดี ยังมีอาการแทรกซ้อน ปวด เจ็บ หรือ อาการอื่นๆ ไม่สามารถทำงานได้หรือไม่สามารถดำรงชีวิตได้ตามปกติ แล้วขอให้หมอออกใบรับรองแพทย์ให้ใหม่    โดยระบุวันที่มารักษาจนถึงวันถึงวันที่คาดว่าจะหายดี ให้ได้จำนวนวันมากที่สุด เช่น ไปหาหมอครั้งแรก วันที่ 1 กพ. ตอนนี้วันที่ 24 พค.ให้ไปหาหมออีก บอกว่ายังมีอาการแทรกซ้อน ยังไม่หาย ยังเจ็บอยู่ คุณจะได้ใบรับรองแพทย์ใหม่ โดยรายละเอียดประมาณว่า พักรักษาตัว 120 วัน  หรือ 4 เดือน หรือได้มากกว่านั้นยิ่งดี เพราะคนสามคน รักษาตัวคนละสี่เดือน รวมแล้ว ก็ 12 เดือน หลักการเรียกร้องค่าเสียหายไม่ว่าจะเรียกร้องเองหรือฟ้องศาล ศาลก็จะพิจารณาจากใบรับรองแพทย์เนี่ยแหล่ะ ว่าหยุดงานและขาดรายได้กี่วัน คิดเป็นรายได้ที่ขาดหายไปเท่าไหร่ พวกคุณอาจจะมีทั้งเรียนบ้าง ทำงานบ้าง สมมติว่า ทั้งสามคนมีรายได้เฉลี่ยตกเดือนละ หมื่นห้า ดังนั้น 12 เดือน  ก้จะต้องตกเป็นเงินที่จะต้องชดใช้อยุ่ที่  หนึ่งแสนแปดหมื่นบาท ใหนจะค่าเสียหายอื่นๆอีก เช่น รักษาตาแบบพิเศษ ตรวจแบบพิเศษ ใหนจะฟันที่หายไปอีกหลายซี่ ต้องไปทำศัลยกรรมช่องปาก ก็บวกเข้าไปเลย ไปปรึกษาหมอฟันว่าถ้าจะรักษาให้ออกมาดีที่สุด เท่าไหร่ ก็บวกเข้าไปอีก
3.ติดต่อบริษัทประกันของรถบิกไบท์ ให้หาอู่ดีๆเพื่อประเมินราคาค่าเสียหายจากการซ่อมแซม แน่นอนว่าบริษัทประกันที่ต้องรับผิดชอบค่าเสียหายในการซ่อมจะต้องไปไล่เบี้ยค่าเสียหายคืนจากคู่กรณีคุณแน่นอน ดังนั้นถ้ามีก็ให้ดึงมาเป็นพวกซะ (บริษัทประกันเค้าจะมีทีมทนายซึ่งเป็นทีมที่ใหญ่มาก เค้าจะช่วยคุณได้เยอะ)จากนั้นให้ร้านประเมินราคา โดยใช้หลักว่าเป็นราคาที่ซ่อมแล้วสภาพรถเหมือนเดิมทุกอย่าง ทุกส่วนที่เสียหายไม่ซ่อม เปลี่ยนอย่างเดียว ซึ่งรถของคุณมีสองคัน ตีไปประมาณ ห้าหมื่น นั่นหมายความว่า รวมของเดิมอีกแสนแปด ก็จะเป็นสองแสนสามละ มีค่าเยียวยาสภาพจิตใจ หรือค่าทำขวัญ อีกคนละประมาณ สองหมื่นเป็นอย่างน้อย นั่นหมายความว่า คุณสามารถเรียกร้องหรือฟ้องศาลเรียกค่าเสียหาย โดยใช้หลักการพิจารณาดังกล่าว  ได้ 3-4 แสนบาท
4.ทางเลือกเพิ่มเติม เพื่อให้ตัวเองมีอำนาจต่อรองเพิ่มขึ้น คือใช้บริการสำนักทนาย โดยสำนวนตอนนี้ทางคู่กรณียอมรับผิดแล้ว เชื่อเหอะทนายลูบปากรอเลย เพราะสู้ยังงัยก็ชนะ คุณบอกเลยให้ช่วยดำเนินคดี โดยทางคุณอยากได้ค่าเสียหายสามแสนบาท(หรือแล้วแต่ตัวเลขที่อยากได้) แต่ถ้าทนายสามารถเรียกร้องได้มากกว่านั้น ส่วนที่ได้เกินมาให้ทนายเอาไปเลย ปรึกษาถึงแนวทางการเตรียมตัว เตรียมหลักฐาน หรือความเป็นไปได้อื่นๆแต่ถ้าจะให้ดีควรเลือกใช้ทนายต่างถิ่น เพราะทนายในพื้นที่อาจจะถุกกลืนไปแล้วกับผุ้มีอิทธิพลในพื้นที่ อาจจะซวยเจอเล่ห์เหลี่ยมหรือลูกพิศดารจนทำให้ได้เงินชดเชยเพียงหลักหมื่น อย่าลืมว่า อาชีพทนาย ทำคนถูกให้ผิด หรือ ทำคนผิดให้ถูก ได้ทั้งนั้น
ความคิดเห็นที่ 46
ผมว่า  คุณต้องทำเรื่องให้มันใหญ่โตไปเลยนะ  มันเป็นนักบอล  มันอยู่ที่แจ้ง   มันไม่กล้า เริ่องเสียเชื่อเสียง    ถ้าคุณทำเงียบๆ  คุณจะโดนอิทธิพลกลบ   เพราะเจ้าของทีม มักเป็นผู้มีอิทธิพล

วิธีที่นึกออก ต้องไปออกรายการแบบสรยุทธ   คุณจะได้เปรียบทันที   มันมีกฏมีอะไร ของพวกสมาคมบอล หรือฝ่ายจัดการแข่งขันด้วย  ทำผิดแบบนี้ต้องโดนลงโทษ    ถ้าเป็นเมืองนอก เป็นนักบอล   จะเป็นเรื่องใหญ่เลย  เรียกได้เป็นล้านๆแน่นอน
ความคิดเห็นที่ 232
ช่วยๆกันเซฟข้อความแถๆ กันมันหายนะครับ
ผมแคปมาให้แล้ว

ความคิดเห็นที่ 206
ถ้านักบอลไม่ผิดจริงไม่ต้องกลัวหรอกครับ เดี๋ยวความจริงก้จะปรากฏออกมาเอง ที่ชาวเน็ตรุมกระหน่ำโจมตี ไม่ได้เป็นเพราะตามน้ำ แต่เพราะอยากให้มั่นใจว่าคนที่ไม่มีแบ็ค จะได้รับความยุติธรรม ว่าเรื่องจะไปถึงคนที่มีอำนาจในการจัดการ ตัดสิน กำหนดบทลงโทษ ลากตัวนักบอลที่ปล่อยให้เรื่องค้างคาออกมา ไม่ใช่ปล่อยให้เรื่องมันจบไปเฉยๆ ถ้าจขกทกุเรื่องทั้งหมดขึ้น เค้าก้จะได้รับผลนั้นไปเอง และตอนนี้เค้าก็เสียฟันไปแล้ว "เสียฟัน" เป็นคำที่อาจฟังดูไม่ร้ายแรงนะ แต่นึกภาพคุณฟันหลอ4ซี่ แล้วมันก็ไม่งอกขึ้นมาอีกแล้วดูสิ เผื่อจะเข้าใจอะไรๆมากขึ้น จะได้รู้ครับ ว่าสมัยนี้ ทำผิดคนรู้เห็นได้ง่าย ไม่ว่ากระบวนการยุติธรรมจะต่ำชั้นแค่ไหน สังคมก็รุมประนามได้อยู่ดี

ถ้านักบอลไม่ผิดจริง ก็ไม่จำเป็นต้องกลัวอะไรเลย จขกทต่างหากที่ต้องกลัวเพราะเขาไม่มีแบ็ค ต้องหวังพึ่งกระบวนการยุติธรรมอย่างเดียว แต่ถ้านักบอลผิด แล้วใช้อำนาจในทางมิชอบ ข่มขู่ หนีคดี หรือเบี้ยวไม่ยอมชดใช้ค่าเสียหาย ก็อาจจะหนีผลกรรมไปได้สักระยะนึง แต่นับจากนี้ไม่ว่าจะดำเนินอาชีพในฐานะนักบอลต่อยังไง ก็จะมีแต่คนรุมประนามสาปแช่ง ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดแน่นอน คนเราทำอะไรไว้ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำครับ ตอนทำดันไม่คิดเอง บางสิ่งสูญเสียไปเอากลับคืนมาไม่ได้ ถ้าฝ่ายจขกทตาบอด อยากรู้นักว่าจะชดใช้ให้ยังไง

จากที่พิจารณาดู ใช่ว่าจะฟังความจขกทข้างเดียว แต่ถ้าเค้ามีปืนจริง คงไม่โดนทำร้ายหนักขนาดนี้ ส่วนเรื่องที่กร่างใส่ เรื่องแบบนี้ใครก้อ้างกันได้ครับ ไม่งั้นคนที่ไปทำร้ายคนอื่นปางตายก้อ้างได้หมดละว่าเพราะอีกฝ่ายทำกร่างก่อน เรื่องมันอยู่ที่ว่า ฝ่ายจขกทโดนทำร้ายขนาดนี้มีหลักฐานชัดเจน ทั้งผุ้ชายผุ้หญิง ในขณะที่นักบอลยังคงไร้ริ้วรอย (ถ้ามีริ้วรอยก็ออกมาแสดงตัวเลยครับ เรื่องจะได้จบที่การทำร้ายทั้งสองฝ่าย) คนเราแม้จะโดนยั่วยุแค่ไหนคนที่ผิดก็คือคนที่ลงมืออยู่ดี และถึงจะบอกว่าจขกทกวนตีนก่อน นักบอลจะผิดน้อยลงงั้นเหรอ ที่ทำร้ายเค้าขนาดนี้ทั้งๆที่ตัวเองก็เป้นผุ้ใหญ่ แต่กลับรังแกเด็กไม่มีทางสู้(หรืออาจจะมี แต่น้องอายุ17 18 ยังไม่บรรลุนิติภาวะด้วยซ้ำ) และนักบอลก็ไม่ใช่ผุ้ใหญ่ใจดีที่นั่งอยู่เฉยๆแล้วโดนลูบคมอยู่แล้วครับ เรื่องแค่นี้น่าจะทำความเข้าใจได้อยู่
ความคิดเห็นที่ 254
ผมล่ะแปลกใจกับไอ้พวกที่คิดว่า "สมควรโดนกระทืบเพราะกวนตีน" คืออีกฝ่ายกวนตีนแล้วเรามีสิทธิ์จะไปกระทืบเค้ารึไง? ถ้าไม่งั้นจะมีกฎหมายไว้ทำไม ไม่งั้นอีกหน่อยใครจะไล่กระทืบใครก็ได้งั้นสิเพราะอ้างได้ว่าอีกฝ่ายกวนตีนก่อน

คือจะเขม่นกันมาจากที่ไหน เขม่นเรื่องอะไรมันอาจจะมีมากกว่านั้น แต่สุดท้ายไอ้คนที่ทำมันก็ผิดอยู่ดีก็ต้องรับผลกรรมไป ถ้ามันรอดไปได้มันก็กร่างเหมือนเดิม ต้องเอาให้หนักจะได้สำนึก

ส่วนพวกที่เข้าข้างเพราะเป็นพี่/เพื่อน หรืออะไรก็แล้วแต่ (เห็นแล้วเข้าใจว่าทำไมบ้านเมืองแม่มวุ่นวายไม่จบซะที) พอเป็นพวกตัวเองเมื่อไรก็หลับหูหลับตาเข้าข้างซะ... ไม่มองว่าฝั่งตัวเองผิดรึเปล่าแต่เป็นพวกเดียวกันก็ปกป้องไว้ก่อนแทนที่จะช่วยตักเตือนกัน นักบอลบางคนแม่มก็ชอบคิดว่าตัวเองมีอภิสิทธิ์เหนือคนอื่น เพื่อนแม่มก็กร่างตามไปด้วยบอกว่ากรูเป็นเพื่อนนักบอลนะเว่ย ไรงี้

ปัญญาอ่อนทั้งนั้น....
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่