(30 ธ.ค. 67) ช่วงที่ผ่านมามีเหตุการณ์ 2 เหตุการณ์ที่แตกต่างกันแต่พอมานั่งขบคิดดีๆโดยฟังกับกลุ่มนักทฤษฎีสมคบคิดกลับทำให้น่าประหลาดใจว่าคนร้ายตัวจริงใน 2 เหตุการณ์นี้เป็นคนกลุ่มเดียวกัน เอาว่าใกล้ๆปีใหม่แล้วเอย่าว่าเรามาอ่านอะไรสนุกๆไม่เครียดและคิดตามกันให้บันเทิงเริงใจกันบ้างดีกว่านะคะ
เรื่องที่ 1 คือเหตุการณ์สงครามระหว่างไทยกับว้า
เป็นที่แน่นอนแล้วว่า ณ จนถึงเวลานี้ไม่มีสงครามเกิดขึ้น แต่ไม่ใช่ใน Tiktok ที่มีคนโพสต์ปั่นกระแสว่าสงครามเกิดขึ้นแล้ว มีกองพลนั้น กองพันปิศาจ บลาๆเข้ามาช่วยรบบลาๆๆๆๆ ถ้าคนไม่รู้อะไรก็คิดไปได้นะว่า โห….เหตุการณ์ขนาดนี้รัฐบาลไทยไม่มีนำเสนอข่าวเลยต้องมาเสพข่าวใน Tiktok เอย่าก็อยากจะบอกนะคะ คนไทยกูรูเยอะ แต่กูรูที่เยอะก็เป็นเหยื่อของแกงคอลเซ็นเตอร์ไม่น้อยเช่นกัน เพราะถ้าคนที่รู้เหตุการณ์ดีจะทราบดีว่าไม่มีสงครามใดๆเกิดขึ้น ทุกอย่างเงียบกริบ
แล้ว…..ทำไมมีการปล่อยข่าวพวกนี้ออกมาละ???
นักวิเคราะห์ทฤษฎีสมคบคิดของไทยหลายคนได้ให้ความเห็นตรงกันดังนี้
1. มีกลุ่มที่ได้รับผลประโยชน์จากสงครามนี้ในการขายอาวุธให้ทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายชาติพันธุ์อื่นๆโดยใช้สถานการณ์นี้เป็นตัวขับเคลื่อน
2. มีกลุ่มที่ใช้ไทยเป็นร่างทรงในการสร้างปัญหาระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน เฉกเช่นเดียวกันกับที่เคยเกิดขึ้นในยูเครนเพื่อที่จะให้ได้สิทธิ์ในการนำอาวุธและกองกำลังเข้ามาในประเทศไทยได้อย่างถูกต้อง เพราะต้องการจะสร้างให้ไทยเกิดความขัดแย้งกับเมียนมาผ่านการตัวกลางอย่างว้า
3. มีกลุ่มที่ซื้อเหล่าผู้ทำคอนเทนต์คอยชี้นำให้คนในประเทศไทยด้อยค่ากองทัพเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง และเมื่อกองทัพอ่อนแอ การเมืองก็จะเข้าควบคุมกองทัพอีกทีเพื่อให้เป็นไปตามที่ผู้สนับสนุนของฝ่ายนั้นต้องการเพราะอย่าลืมว่ากองทัพไทยไม่ได้ต้องการให้เกิดสงครามระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน
เรื่องที่ 2 คือเหตุการณ์ของชาวเมียนมาในไทยที่ล่าสุดบีบข้าราชการให้ได้สัญชาติไทย ดังเคสล่าสุดที่เกิดขึ้นกับปลัดอำเภอในจังหวัดสมุทรสาคร ต้องขอย้อนกลับไปเมื่อสัก 20-30 ปีก่อนเห็นจะได้ ช่วงนั้นเริ่มมีชาวเมียนมาเข้ามาในประเทศไทยโดยส่วนใหญ่เป็นลูกจ้างเรือประมงที่จังหวัดสมุทรสาคร เมื่อการงานดี การเงินดี คนเมียนมาเริ่มหลั่งไหลเข้ามา คนที่เข้ามาก่อนเริ่มพูดไทยได้อ่านไทยออกก็เริ่มตั้งตนเป็นหัวโจกหัวหน้า สวมรอยเป็นประหนึ่งเจ้าหน้าที่ตั้งชมรม สมาคมช่วยเหลือคนต่างด้าวด้วยกันที่ถูกเอาเปรียบ ดูเผินๆก็เหมือนจะไม่มีอะไร แต่มันไม่ใช่แค่นั้นลับหลังคนเหล่านี้วิ่งเต้นเจ้าหน้าที่ ข้าราชการ ตำรวจเพื่อให้ได้มาซึ่งสัญชาติไทยโดยอ้างว่าตนเป็นชนกลุ่มน้อยเป็นชาติพันธุ์ แถมเมืองไทยก็ให้โอกาสคนกลุ่มนี้ได้ลืมตาอ้าปากง่ายๆเสียด้วย สุดท้ายพวกเข้ามาก่อนก็อาศัยช่องโหว่ตรงนี้ในการได้มาซึ่งสัญชาติไทย โดยมีคนไทยขายชาติบางคนให้การสนับสนุน
เมื่อมีสัญชาติไทยคนกลุ่มนี้ก็เริ่มคิดการใหญ่ขึ้นยิ่งภายหลังเริ่มมีพรรคการเมืองบางพรรคที่ต้องการให้มีคนสนับสนุนด้วยละก็ เขายิ่งจะผลักดันคนเหล่านี้โดยล่าสุดคนกลุ่มนี้ได้เข้าไปนั่งในสภาในตำแหน่งกรรมาธิการต่างๆเป็นหุ่นเชิดคอยรับงานนักการเมืองในการเขียนแผนงานหาผลประโยชน์ให้แก่นักการเมืองที่เขาสังกัดโดยได้ค่าตอบแทนเป็นเงินทอง สัญชาติไทยแก่พวกพ้องและการคุ้มครองจากพวกนักการเมืองเหล่านี้ไม่ให้ตำรวจ ทหารเข้ามายุ่ง ซึ่งพอเกิดเหตุวุ่นวายทีเราจะเห็นทันทีว่ามันจะมีพรรคการเมืองบางพรรคที่รับงานกลุ่มบางกลุ่มมาให้คนออกมาทำกิจกรรมสร้างความเดือดร้อนบ่อนทำลายประเทศไทยในยามที่ผู้นำประเทศไม่ได้ซูฮกหรือคล้อยตามกลุ่มคนกลุ่มนั้น
เอาเป็นว่ากลุ่มคนกลุ่มนั้นคือกลุ่มไหน เอย่าให้ทุกคนไปลองคิดกันเล่นๆปีใหม่แล้วกันนะคะ แต่แปลกตรงที่นักทฤษฎีสมคบคิดในไทยหลายท่านต่างบอกว่าคนกลุ่มนั้นใน 2 เหตุการณ์นี้เป็นคนกลุ่มเดียวกัน…..แหมมันช่างน่าประหลาดใจเสียจริงๆ
เรื่อง : AYA IRRAWADEE
https://www.facebook.com/share/p/15vDP3SRFp/
มีไอ้โม่งอยู่เบื้องหลัง ลับ ลวง พราง กับทฤษฎีสมคบคิดเรื่องเมียนมา สร้างสถานการณ์ขัดแย้ง เพื่อกอบโกยผลประโยชน์
เรื่องที่ 1 คือเหตุการณ์สงครามระหว่างไทยกับว้า
เป็นที่แน่นอนแล้วว่า ณ จนถึงเวลานี้ไม่มีสงครามเกิดขึ้น แต่ไม่ใช่ใน Tiktok ที่มีคนโพสต์ปั่นกระแสว่าสงครามเกิดขึ้นแล้ว มีกองพลนั้น กองพันปิศาจ บลาๆเข้ามาช่วยรบบลาๆๆๆๆ ถ้าคนไม่รู้อะไรก็คิดไปได้นะว่า โห….เหตุการณ์ขนาดนี้รัฐบาลไทยไม่มีนำเสนอข่าวเลยต้องมาเสพข่าวใน Tiktok เอย่าก็อยากจะบอกนะคะ คนไทยกูรูเยอะ แต่กูรูที่เยอะก็เป็นเหยื่อของแกงคอลเซ็นเตอร์ไม่น้อยเช่นกัน เพราะถ้าคนที่รู้เหตุการณ์ดีจะทราบดีว่าไม่มีสงครามใดๆเกิดขึ้น ทุกอย่างเงียบกริบ
แล้ว…..ทำไมมีการปล่อยข่าวพวกนี้ออกมาละ???
นักวิเคราะห์ทฤษฎีสมคบคิดของไทยหลายคนได้ให้ความเห็นตรงกันดังนี้
1. มีกลุ่มที่ได้รับผลประโยชน์จากสงครามนี้ในการขายอาวุธให้ทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายชาติพันธุ์อื่นๆโดยใช้สถานการณ์นี้เป็นตัวขับเคลื่อน
2. มีกลุ่มที่ใช้ไทยเป็นร่างทรงในการสร้างปัญหาระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน เฉกเช่นเดียวกันกับที่เคยเกิดขึ้นในยูเครนเพื่อที่จะให้ได้สิทธิ์ในการนำอาวุธและกองกำลังเข้ามาในประเทศไทยได้อย่างถูกต้อง เพราะต้องการจะสร้างให้ไทยเกิดความขัดแย้งกับเมียนมาผ่านการตัวกลางอย่างว้า
3. มีกลุ่มที่ซื้อเหล่าผู้ทำคอนเทนต์คอยชี้นำให้คนในประเทศไทยด้อยค่ากองทัพเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง และเมื่อกองทัพอ่อนแอ การเมืองก็จะเข้าควบคุมกองทัพอีกทีเพื่อให้เป็นไปตามที่ผู้สนับสนุนของฝ่ายนั้นต้องการเพราะอย่าลืมว่ากองทัพไทยไม่ได้ต้องการให้เกิดสงครามระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน
เรื่องที่ 2 คือเหตุการณ์ของชาวเมียนมาในไทยที่ล่าสุดบีบข้าราชการให้ได้สัญชาติไทย ดังเคสล่าสุดที่เกิดขึ้นกับปลัดอำเภอในจังหวัดสมุทรสาคร ต้องขอย้อนกลับไปเมื่อสัก 20-30 ปีก่อนเห็นจะได้ ช่วงนั้นเริ่มมีชาวเมียนมาเข้ามาในประเทศไทยโดยส่วนใหญ่เป็นลูกจ้างเรือประมงที่จังหวัดสมุทรสาคร เมื่อการงานดี การเงินดี คนเมียนมาเริ่มหลั่งไหลเข้ามา คนที่เข้ามาก่อนเริ่มพูดไทยได้อ่านไทยออกก็เริ่มตั้งตนเป็นหัวโจกหัวหน้า สวมรอยเป็นประหนึ่งเจ้าหน้าที่ตั้งชมรม สมาคมช่วยเหลือคนต่างด้าวด้วยกันที่ถูกเอาเปรียบ ดูเผินๆก็เหมือนจะไม่มีอะไร แต่มันไม่ใช่แค่นั้นลับหลังคนเหล่านี้วิ่งเต้นเจ้าหน้าที่ ข้าราชการ ตำรวจเพื่อให้ได้มาซึ่งสัญชาติไทยโดยอ้างว่าตนเป็นชนกลุ่มน้อยเป็นชาติพันธุ์ แถมเมืองไทยก็ให้โอกาสคนกลุ่มนี้ได้ลืมตาอ้าปากง่ายๆเสียด้วย สุดท้ายพวกเข้ามาก่อนก็อาศัยช่องโหว่ตรงนี้ในการได้มาซึ่งสัญชาติไทย โดยมีคนไทยขายชาติบางคนให้การสนับสนุน
เมื่อมีสัญชาติไทยคนกลุ่มนี้ก็เริ่มคิดการใหญ่ขึ้นยิ่งภายหลังเริ่มมีพรรคการเมืองบางพรรคที่ต้องการให้มีคนสนับสนุนด้วยละก็ เขายิ่งจะผลักดันคนเหล่านี้โดยล่าสุดคนกลุ่มนี้ได้เข้าไปนั่งในสภาในตำแหน่งกรรมาธิการต่างๆเป็นหุ่นเชิดคอยรับงานนักการเมืองในการเขียนแผนงานหาผลประโยชน์ให้แก่นักการเมืองที่เขาสังกัดโดยได้ค่าตอบแทนเป็นเงินทอง สัญชาติไทยแก่พวกพ้องและการคุ้มครองจากพวกนักการเมืองเหล่านี้ไม่ให้ตำรวจ ทหารเข้ามายุ่ง ซึ่งพอเกิดเหตุวุ่นวายทีเราจะเห็นทันทีว่ามันจะมีพรรคการเมืองบางพรรคที่รับงานกลุ่มบางกลุ่มมาให้คนออกมาทำกิจกรรมสร้างความเดือดร้อนบ่อนทำลายประเทศไทยในยามที่ผู้นำประเทศไม่ได้ซูฮกหรือคล้อยตามกลุ่มคนกลุ่มนั้น
เอาเป็นว่ากลุ่มคนกลุ่มนั้นคือกลุ่มไหน เอย่าให้ทุกคนไปลองคิดกันเล่นๆปีใหม่แล้วกันนะคะ แต่แปลกตรงที่นักทฤษฎีสมคบคิดในไทยหลายท่านต่างบอกว่าคนกลุ่มนั้นใน 2 เหตุการณ์นี้เป็นคนกลุ่มเดียวกัน…..แหมมันช่างน่าประหลาดใจเสียจริงๆ
เรื่อง : AYA IRRAWADEE
https://www.facebook.com/share/p/15vDP3SRFp/