ยินดีที่ได้รู้จักนะไมค์ ครบรอบหนึ่งเดือนแล้ว
ก่อนอื่นขออภัยทุกท่าน ที่ดองรีวิวเสียนานจนเอามาอ้างได้หน้าตาเฉยว่า ครบรอบหนึ่งเดือนที่รู้จักไมค์ 555
อย่างที่เคยบอกกันค่ะ เป็นคนไม่ค่อยมีเวลา อีกทั้งสุขภาพก็ขึ้นๆลงๆ บางทีวางแผนไว้ก็ไม่สามารถทำได้อย่างที่ใจคิด
และเนื่องจากทำท่าให้ดูเหมือนว่าเป็นกระทู้ฉลองครบรอบ1เดือน(กว่าๆ) เลยขออนุญาตเวิ่นเว้อเลอะเทอะ ตามประสาคนที่รวบรัดอะไรไม่ค่อยเป็น ถ้าไมค์เข้ามาอ่าน ก็ทนๆเอาหน่อยนะคับ ไม่ไหวจริงๆก็ข้ามไป
ภารกิจไถ่บาปของดิชั้นในครั้งนี้จะไม่เกิดผลอะไรเลย หากขาดการสนับสนุนจากพี่ๆน้องๆแห่งบ้านAngelo Family Pantip ที่ช่วยเหลือดิชั้นทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องตั๋ว ที่พัก หาเพื่อนคนไทยให้ไปเป็นเพื่อนกัน เพราะเห็นว่าเราเดินทางไปลำพังและพูดจีนได้ไม่มาก อีกทั้งเพื่อนๆที่แอบซุ่มอ่านที่หลังไมค์มาให้กำลังใจและอวยพรขอให้เดินทางอย่างมีความสุข ไม่ว่าจะเป็นแฟนไมค์อย่างเดียวหรือแฟนแพคคู่จิ้นออมไมค์ เป็นสายสัมพันธ์ที่คนแปลกหน้ากันอย่างดิชั้นไม่คิดว่าจะมีกลุ่มแฟนที่มีน้ำใจพร้อมที่จะช่วยเหลือขนาดนี้ แม้ไม่ได้อยู่ในทีมของบ้านก็ตาม ขอเพียงเป็นคนที่รักไมค์ด้วยกัน ทุกคนก็สามารถแบ่งปันและดูแลกัน ขอบคุณอีกครั้งที่ช่วยเหลือนะคะ
แรกเริ่มเดิมที ดิชั้นตั้งใจแล้วว่าจะขอเป็นติ่งเรียบง่ายหน้าจอคอมจอไอแพด เนื่องจากภาระหน้าที่และเห็นแก่เวลาอันสมควรแล้วที่จะเลิกเป็นติ่งฮาร์ดคอร์เสียที คำว่านรกสวรรค์นั้นอยู่ที่ใด คำตอบก็คือ อยู่ที่สุดปลายนิ้วมือของเรานั่นเอง รู้ว่าอยู่ที่ไหน แต่ไม่เคยสัมผัสหรือหยิบจับต้องได้ ไม่ต่างอะไรกับการตามศิลปินดารา ที่พวกเค้าอยู่สุดปลายมือแต่แตะไม่ได้เอื้อมไม่ถึงอยู่ร่ำไป
แต่แล้วความคิดที่คุ้นเคยก็เริ่มเปลี่ยนไป หลังจากที่ได้มีโอกาสกลับมาทำความรู้จักกับไมค์ ไม่ว่าจะเพราะความบังเอิญ หรือโชคชะตา ทำให้คนอย่างดิชั้นที่ปิดหูปิดตากับวงการบันเทิงไทย ยอมที่จะปลดสลักกลอนประตูทิ้งๆเอาไว้ ให้ไมค์พิรัชต์ค่อยๆเข้ามาทำความรู้จัก แม้จะทำเป็นนั่งหันหลังให้กับเรื่องราวและภาพเคลื่อนไหวของเค้า แต่ประสาทสัมผัสส่วนอื่นก็แอบทำงานของมันไปอย่างเงียบๆไม่ให้รู้ตัว ทำให้รู้สึกว่าเค้าเป็นซุปเปอร์สตาร์ที่สัมผัสได้จริง
ความสัมพันธ์ของดิชั้นกับไมค์ต่างจากประสบการณ์ที่ผ่านมา จากที่ชอบศิลปินที่ฉากหน้า กับไมค์นั้น ดิชั้นกลับประทับใจในตัวตนอีกด้านที่ไม่คิดว่าจะเจอในตัวศิลปินวัยรุ่นมาก่อน มันอาจจะเป็นเรื่องจริง หรือแค่ภาพลักษณ์ที่เค้าพยายามสร้างขึ้น เราไม่อาจจะรู้ได้ แต่อย่างน้อย เค้าคือจุดเริ่มต้นเล็กๆของคำว่า"ไอดอลมีสาระ"
เมื่อถึงจุดที่ได้รับเค้ามาเป็นแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต มีความสุขทุกวันกับผลงานละครที่เค้าทุ่มเทตั้งใจแสดง เพลงเรียบง่ายความหมายลึกซึ้งจากเสียงหล่อๆของเค้า หน้าตาหม่นหมองตอนตื่นมามองกระจกยามเช้าที่เคยทักทายกันทุกวันก็หายไป กลับเป็นคนๆนึงที่มีรอยยิ้มอย่างมีความสุขในทุกเช้าที่คิดถึงไมค์มาอยู่แทนที่
แค่นี้มันก็พอเหมาะสมกับชีวิตที่ใช้สื่อบันเทิงและดาราให้เป็นประโยชน์แก่ตัวผู้บริโภคแล้วไม่ใช่หรือ
ในวันหนึ่ง มันมีจุดเริ่มต้นมาจาก....
http://youtu.be/AVKUr6YKp3c
เมื่อได้ดูครั้งแรก ก็รู้สึกทึ่งในความคิดความเชื่อมั่นในตัวของไมค์ คนเงียบๆไม่ค่อยพูด กลับกล้าพูดในสิ่งที่ศิลปินไทยในเวลานั้นอาจจะไม่มีใครกล้าคิดถึงจุดนั้น นอกจากความกล้าแล้วยังต้องใช้แรงใจอย่างมากมายตามที่ไมค์ร้องขอจากแฟนคลับในวันนั้น มันไม่มีทางจะสู้ชนะได้เลย ถ้าขาดกำลังใจที่ดีจากแฟนๆที่ยังศรัทธาในตัวเค้า และวันนี้ก็พิสูจน์แล้ว ว่าไมค์คิดไม่ผิด
ดิชั้นนั่งถามตัวเองว่า ในขณะที่ไมค์พูดออกมา วันนั้น เวลานั้น ดิชั้นไปทำอะไร อยู่ที่ไหน อยู่เพื่อใคร หรือกำลังเอาแรงใจไปส่งมอบให้ใครที่เค้าไม่ต้องการอย่างจริงจัง อยู่ที่ไหนซักแห่งบนโลกใบนี้รึเปล่า
คลิปถัดมาที่ตอกย้ำความรู้สึกคือ.
http://youtu.be/b9LqVI3VdXg
คนที่ถ่ายคลิปเหล่านี้ไว้เป็นใครกันดิชั้นไม่ทราบ เค้าเฝ้าดูไมค์เติบโต จากน้องไมค์ที่น่ารัก กลายเป็นหนุ่มสูงใหญ่ ต้องรักกันมากขนาดไหน ถึงตามไปเฝ้าที่ประตูตึกได้บ่อยขนาดนั้น เดินผ่านเพียงแค่ทักทายกัน. ถ่ายรูป ยิ้มให้ รับผิดชอบความรู้สึกของกันและกัน ดูแลให้เค้ารู้สึกว่าแฟนๆไม่เคยทิ้งเค้า ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไรก็ตาม
แล้วทำไมดิชั้นต้องรู้สึกเสียดายวันเวลาของตัวเองเมื่อดูคลิปนี้ด้วย...
youtubeนั้นเป็นสื่อชั้นดี มีค่าเทียบได้กับไทม์แมชชีนของโดราเอม่อน เมื่อคุณเปิดลิ้นชักแล้วเอาหัวมุดลงไปเพื่อย้อนเวลาไปทำความรู้จักกับเด็กชายไมค์ ไล่เรียงขึ้นมาเสมือนได้เติบโตไปกับเค้า. ไม่เพียงได้เห็นแง่มุมอันหลากหลายของไมค์มากขึ้น แต่ยังรับรู้ถึงความทุ่มเท ความพยายามที่แฟนคลับมีให้อย่างยาวนานต่อเนื่อง ฝ่าฟันวิกฤติกระแสk-pop ที่ถาโถมจนยืนไม่ติด เดินเคียงคู่มาด้วยกันกับไมค์
ชีวิตติ่งอย่างดิชั้น เข้าใจสภาพดีว่าต้องทรหดมากแค่ไหน กว่าจะได้มาซึ่งคลิปวีดิโอ ภาพนิ่ง ต้องสละเวลาส่วนนึงของชีวิต อุทิศสังขารอันร่วงโรยจากการนั่งหน้าจอคอมเพื่ออุดหนุนดูแลศิลปินในดวงใจคนนึง โดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆนอกจากให้เค้ารับรู้ว่าทุกครั้งที่หันมาหา ยังจะมีพวกเรายืนอยู่ตรงนี้ ฝนตกแดดออกยังไง หิวแค่ไหน พวกเราก็ทน เพียงเพื่อให้รู้สึกว่ายังมีกันและกัน
ฟังดูอาจจะเกินจริง แต่หัวอกชีวิตแฟนคลับที่ดิชั้นพบเห็นมักจะเป็นแบบนั้นเสมอ ไม่ได้คิดจะเอาศิลปินมาเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ แต่เค้าเปรียบเสมือน"เซลล์"เซลล์หนึ่งร่างกายเรา ที่ต้องดูแลรักษา ถ้าเซลล์เสื่อม เราก็เสื่อมด้วย ไม่มีเค้าเราอาจยังไม่ถึงตาย แต่เราก็เจ็บก็ปวดและรู้สึกได้
จึงอยากขอบคุณบรรดาติ่งน้อยผู้กล้าหาญที่ทำหน้าที่อย่างเข้มแข็งและเสียสละ ร่วมออกรบเคียงข้างกับศิลปินของคุณทุกคน
เพราะพวกคุณคือส่วนหนึ่งของความสำเร็จของศิลปินด้วย เมื่อแฟนคลับดี ย่อมส่งเสริมศิลปินให้ดียิ่งขึ้นไป หลายหนที่ศิลปินพังเพราะแฟนคลับที่ใจแคบ แต่ดูเหมือนไมค์จะโชคดี ที่มีแฟนคลับที่ดีและเคียงข้างไมค์เสมอ เมื่อย้อนหลังกลับไปดูเรื่องในวันวานของไมค์
ก็ยิ่งทำให้ดิชั้นยิ่งประหลาดใจว่า อดทนกันมาได้ถึงขนาดนี้ มีใจให้กันมาได้นานขนาดนั้น มันเพราะอะไรกันนะ
ดิชั้นจัดเป็นติ่งใจร้ายและเห็นแก่ตัวคนหนึ่ง ที่พร้อมจะสลัดรักความสัมพันธ์ที่มีให้กันมาได้เพียงแค่รู้ว่าเขาเหล่านั้นหมดใจให้เรา หรือเค้าเหล่านั้นทำให้เราผิดหวัง อย่างที่เคยมีคนบอกว่าติ่งมันก็มีอายุของมันนะ นั่นคือเรื่องจริง เพราะความเชื่อว่าเราชาวติ่งเลือกได้ ว่าเราควรสนับสนุนใคร เราควรรู้ว่าอะไรจริงอะไรหลอก หมดรักเมื่อไหร่ก็หมดอายุเมื่อนั้น จุดพอใจในตัวศิลปินของแต่ละคนนั้นมันไม่เท่ากัน สำหรับดิชั้น พอใจที่จะเดินคู่ขนานกันไปกับเค้าเหล่านั้น เพราะเคยเจ็บปวดมาก็มาก ผิดหวังเสียใจมาก็เยอะ และแม้จะมีบางวงที่ทำให้ดิชั้นเก็บเค้าไว้ตลอดกาลแต่ถึงวันนี้ก็ไม่คิดจะทำอะไรที่ต้องลำบากตัวเองอีกแล้ว เลยสร้างช่องว่างระหว่างเรากับศิลปินขึ้นมาเอง
แล้วทำไมต้องไมค์?
" เซอร์วิสติดดิน" เป็นคำที่ดิชั้นใช้กับบรรดาศิลปินไทย ที่รู้สึกว่าคุณจะมาใกล้ชิดจนชั้นรู้จักตัวตนของคุณทำไม จะไม่เหลือช่องว่างไว้ให้จินตนาการกันบ้างเลยหรือ มันอาจเป็นการชดเชยให้กับแฟนๆที่ไม่อาจเติมเต็มด้านความสามารถในงานแสดงรึเปล่า เหล่านี้คืออคติในใจติ่งนิยมของนอกคนนึง ที่ไม่คุ้นเคยและไม่คิดจะทำความรู้จักกับวัฒนธรรมแฟนคลับแบบไทยๆนี้ ว่ามันน่ารักและอบอุ่นอย่างไร มาตรฐานที่ดิชั้นตั้งไว้สูงลิ่ว มันทำให้ไม่อาจหาศิลปินไทยในดวงใจเจอได้ง่ายๆ จะมีมั้ยนะคนที่ทำให้เรายอมรับได้เทียบเท่ากับศิลปินต่างชาติที่ผ่านๆมา ลำพังแค่แฟนเซอร์วิสไม่อาจทำให้ดิชั้นกลับใจกลับตัวได้แน่นอน บางทีมันก็แค่ความคาดหวัง...
ทั้งหมดนี้เกิดเป็นคำถามวนไปมาในหัวใจคับแคบของติ่งคนนี้มาตลอด คนที่ไม่เคยรู้หรือมองว่า"ตรงนี้ยังมีดี"
เรื่องราวของไมค์ทำให้ความคิดของดิชั้นเปลี่ยนไปมาก...
คำว่า"โตไปด้วยกันนะ" เป็นคำพูดที่ดิชั้นได้ใช้บอกกับดาราคนนึงที่เคยตามสนับสนุนกันมาเมื่อหลายปีก่อน วันนี้ ไมค์พูดเองโดยความต้องการของเขาเอง เหมือนรู้ว่าตัวนั้นยังมีเรื่องต้องพัฒนาอีกมาก อยากให้ทุกคนเป็นกำลังใจ คอยบอกกล่าวดูแลซึ่งกันและกัน ติ่งก็มีชีวิตของติ่ง ไมค์ก็มีชีวิตของไมค์ เราต่างต้องทำหน้าที่ของตัวเอง แต่เมื่อไหร่ที่หันมามอง ก็จะเห็นและรู้สึกได้ว่าเรายังอยู่เคียงข้างกัน ได้ยินเสียงหายใจ และบางครั้งก็เห็นเหงื่อเห็นน้ำตาของกันและกัน
แม้ไมค์จะมีพฤติกรรม "เซอร์วิส" ดังที่ดิชั้นกล่าวถึงอยู่บ้าง แต่เมื่อมองอีกด้านในเรื่องของการทำงาน ไมค์ทุ่มเทเพื่อคำว่าคุณภาพ เพื่ออยู่ในวงการนี้ได้อย่างมีศักดิ์ศรี. รู้และปรับปรุงตัวเอง เติบโตขึ้นเรื่อยๆตามวัยของเค้า ดิชั้นหลงรักกับงานแสดงที่ดูเหมือนไมค์จะถนัดและชื่นชอบที่จะทำ แต่เสน่ห์ในการเป็นนักร้องนักเต้นของเค้า มันก็เป็นสิ่งที่วงการบันเทิงของเอเชียมองหาในตัวศิลปินคนนึง ใครๆก็ต้องการคนที่มีความสามารถรอบด้าน เหมือนดังที่ไมค์เป็นและพัฒนาเพิ่มทักษะของตัวเองอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการกำกับเอ็มวี ตัดต่อเอง ดีไซน์ทุกอย่างด้วยตัวเอง ออกแบบท่าเต้น ควบคุมทุกอย่างในเรื่องบริหารธุรกิจกองถ่าย ด้วยอายุเพียงเท่านี้ แม้จะเติบโตขึ้นมาไม่เหมือนกับเด็กวัยเดียวกัน แต่ก็ทำให้ไมค์นั้นแข็งแกร่งและโดดเด่น เหมาะสมกับการเป็นคนในวงการบันเทิง ไมค์กำลังเติบโต ความที่ยังไม่เพอร์เฟกต์เต็มร้อยในทุกๆเรื่อง กลับทำให้เค้ามีเสน่ห์น่าจับตามอง อยากคอยเอาใจช่วย เพราะรู้ว่าเค้าสู้จริงๆ
คนที่มีพรสวรรค์ กับคนที่มีเสน่ห์ ต่างก็มีวิธีพัฒนาศักกายภาพที่แตกต่างกัน เราไม่ควรเอาใครไปเปรียบเทียบกับใคร แต่มองไปที่ความตั้งใจดี และแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในอาชีพของเค้า ถ้าคุณอยากได้แรงใจจากใคร คุณก็ควรทุ่มเทแรงกายออกมาให้เห็น ไมค์จัดการกับหน้าที่การงานของตัวเองได้ดี มีความเป็นมืออาชีพคนหนึ่ง แต่หลายครั้งที่เค้าต้องแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง ไม่มีใครคอยปกป้องเหมือนเช่นศิลปินในต่างประเทศ
เพราะเลือกที่จะเป็นอิสระในการทำงาน ดังนั้นเรื่องระบบการจัดการก็ต้องดูแลเองด้วย ในต่างประเทศเหล่าศิลปินที่หมดสัญญาแต่ยังอยู่ในวงการบันเทิง มักจะตั้งบริษัทของตัวเองเพื่อดูเรื่องงานติดต่อเจรจาธุรกิจโดยตรง แต่ดาราเหล่านั้นก็จัดว่าเป็นผู้ใหญ่มากกว่าไมค์มาก และอาจจะมีสายสัมพันธ์หรือผู้คนรอบตัวมากพอ ที่จะช่วยกันเกื้อหนุนให้อยู่ในวงการนี้ การมีทีมมืออาชีพคอยอยู่เคียงข้างศิลปินนับว่าเป็นเรื่องที่คนเล็กๆคนเดียวจะจัดการได้ยาก แต่ก็เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับก้าวย่างที่จะออกไปทำงานระดับประเทศ โอกาสจะเป็นของคนที่เตรียมพร้อมเสมอ ดิชั้นเอาใจช่วยอย่างมากในเรื่องนี้ และขอให้ทุกอย่างสำเร็จด้วยดี
แต่ถึงอย่างไร ดิชั้นไม่ต้องเลือกเหรียญด้านใดกับการชื่นชอบไมค์. เค้ามีให้ทุกอย่างที่แฟนคลับคนนึงอยากเห็นอยากสัมผัสได้ ไมค์อาจจะวางแผนมาแล้วในใจว่าจะทำให้เราหลงใหลเค้ายังไง. หรือแท้ที่จริงมันก็แสดงออกมาตรงๆจากหัวใจของเค้าเอง เพราะไม่ว่าจะดีใจ เสียใจ โกรธ นอยด์ งอน ผู้ชายคนนี้ก็ทำมันออกมาทั้งหมดแล้ว ไม่มีใครทำให้เราดีใจและเสียใจที่สุดได้เท่ากับคนในครอบครัวเดียวกัน มุมมองที่มีต่อผู้ชายที่ดิชั้นไม่เคยพบเจอหรือพูดคุยด้วยเลยคนนี้ อาจจะไม่เกิดขึ้น ถ้าไม่มีคลิปที่แฟนคลับผู้ทุ่มเทได้ช่วยกันอัพโหลดเอาไว้อย่างมากมายมหาศาล อยากบอกขอบคุณมากๆ ที่ทำสิ่งเหล่านี้เพื่อไมค์และแฟนหน้าใหม่อย่างพวกเรา ขอบคุณค่ะ
หนึ่งเดือนผ่านไป กับการขึ้นๆลงๆไทม์แมชชีน ย้อนเวลาหาอดีต จนโดราเอม่อนบ่นว่าเหนื่อยแล้ว พักบ้างไรบ้าง
ดิชั้นได้รู้จักและเริ่มเข้าใจในตัวของไมค์มากขึ้น นอกจากแค่เสน่ห์ภายนอกและดวงตาของเค้า อยากเรียนรู้ อยากอยู่เคียงข้าง เอาใจช่วยให้กำลังใจจนกว่าจะมีวันที่ไมค์ถึงจุดหมายที่สวยงาม ทุกวันที่เติบโตไปด้วยกัน อาจจะมีบางวันที่เราเผลอละเลยความรู้สึกกันไปบ้าง บางวันเราก็สนุกก็ขำกับสิ่งที่อีกฝ่ายโพสต์หากันบ้าง เจอหน้ากันทำเป็นเมินๆใส่กัน แต่ก็แอบชายตามอง เราก็ยิงสวนด้วยกล้องบ้าง แต่เมื่อมีภัยมาเราก็จะอยู่เคียงข้างกัน สู้ด้วยกัน
แม้ติ่งจะมีอายุขัยของมัน แต่เราก็จะใช้มันให้ดีที่สุด ยามที่เรายังอยู่ด้วยกันนะ
Noch_Nacha
38วันผ่านไปที่ได้เจอกับไมค์พิรัชต์ ความประทับใจในเสิ่นเจิ้นกับก้าวแรกของศิลปินไทย
ก่อนอื่นขออภัยทุกท่าน ที่ดองรีวิวเสียนานจนเอามาอ้างได้หน้าตาเฉยว่า ครบรอบหนึ่งเดือนที่รู้จักไมค์ 555
อย่างที่เคยบอกกันค่ะ เป็นคนไม่ค่อยมีเวลา อีกทั้งสุขภาพก็ขึ้นๆลงๆ บางทีวางแผนไว้ก็ไม่สามารถทำได้อย่างที่ใจคิด
และเนื่องจากทำท่าให้ดูเหมือนว่าเป็นกระทู้ฉลองครบรอบ1เดือน(กว่าๆ) เลยขออนุญาตเวิ่นเว้อเลอะเทอะ ตามประสาคนที่รวบรัดอะไรไม่ค่อยเป็น ถ้าไมค์เข้ามาอ่าน ก็ทนๆเอาหน่อยนะคับ ไม่ไหวจริงๆก็ข้ามไป
ภารกิจไถ่บาปของดิชั้นในครั้งนี้จะไม่เกิดผลอะไรเลย หากขาดการสนับสนุนจากพี่ๆน้องๆแห่งบ้านAngelo Family Pantip ที่ช่วยเหลือดิชั้นทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องตั๋ว ที่พัก หาเพื่อนคนไทยให้ไปเป็นเพื่อนกัน เพราะเห็นว่าเราเดินทางไปลำพังและพูดจีนได้ไม่มาก อีกทั้งเพื่อนๆที่แอบซุ่มอ่านที่หลังไมค์มาให้กำลังใจและอวยพรขอให้เดินทางอย่างมีความสุข ไม่ว่าจะเป็นแฟนไมค์อย่างเดียวหรือแฟนแพคคู่จิ้นออมไมค์ เป็นสายสัมพันธ์ที่คนแปลกหน้ากันอย่างดิชั้นไม่คิดว่าจะมีกลุ่มแฟนที่มีน้ำใจพร้อมที่จะช่วยเหลือขนาดนี้ แม้ไม่ได้อยู่ในทีมของบ้านก็ตาม ขอเพียงเป็นคนที่รักไมค์ด้วยกัน ทุกคนก็สามารถแบ่งปันและดูแลกัน ขอบคุณอีกครั้งที่ช่วยเหลือนะคะ
แรกเริ่มเดิมที ดิชั้นตั้งใจแล้วว่าจะขอเป็นติ่งเรียบง่ายหน้าจอคอมจอไอแพด เนื่องจากภาระหน้าที่และเห็นแก่เวลาอันสมควรแล้วที่จะเลิกเป็นติ่งฮาร์ดคอร์เสียที คำว่านรกสวรรค์นั้นอยู่ที่ใด คำตอบก็คือ อยู่ที่สุดปลายนิ้วมือของเรานั่นเอง รู้ว่าอยู่ที่ไหน แต่ไม่เคยสัมผัสหรือหยิบจับต้องได้ ไม่ต่างอะไรกับการตามศิลปินดารา ที่พวกเค้าอยู่สุดปลายมือแต่แตะไม่ได้เอื้อมไม่ถึงอยู่ร่ำไป
แต่แล้วความคิดที่คุ้นเคยก็เริ่มเปลี่ยนไป หลังจากที่ได้มีโอกาสกลับมาทำความรู้จักกับไมค์ ไม่ว่าจะเพราะความบังเอิญ หรือโชคชะตา ทำให้คนอย่างดิชั้นที่ปิดหูปิดตากับวงการบันเทิงไทย ยอมที่จะปลดสลักกลอนประตูทิ้งๆเอาไว้ ให้ไมค์พิรัชต์ค่อยๆเข้ามาทำความรู้จัก แม้จะทำเป็นนั่งหันหลังให้กับเรื่องราวและภาพเคลื่อนไหวของเค้า แต่ประสาทสัมผัสส่วนอื่นก็แอบทำงานของมันไปอย่างเงียบๆไม่ให้รู้ตัว ทำให้รู้สึกว่าเค้าเป็นซุปเปอร์สตาร์ที่สัมผัสได้จริง
ความสัมพันธ์ของดิชั้นกับไมค์ต่างจากประสบการณ์ที่ผ่านมา จากที่ชอบศิลปินที่ฉากหน้า กับไมค์นั้น ดิชั้นกลับประทับใจในตัวตนอีกด้านที่ไม่คิดว่าจะเจอในตัวศิลปินวัยรุ่นมาก่อน มันอาจจะเป็นเรื่องจริง หรือแค่ภาพลักษณ์ที่เค้าพยายามสร้างขึ้น เราไม่อาจจะรู้ได้ แต่อย่างน้อย เค้าคือจุดเริ่มต้นเล็กๆของคำว่า"ไอดอลมีสาระ"
เมื่อถึงจุดที่ได้รับเค้ามาเป็นแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต มีความสุขทุกวันกับผลงานละครที่เค้าทุ่มเทตั้งใจแสดง เพลงเรียบง่ายความหมายลึกซึ้งจากเสียงหล่อๆของเค้า หน้าตาหม่นหมองตอนตื่นมามองกระจกยามเช้าที่เคยทักทายกันทุกวันก็หายไป กลับเป็นคนๆนึงที่มีรอยยิ้มอย่างมีความสุขในทุกเช้าที่คิดถึงไมค์มาอยู่แทนที่
แค่นี้มันก็พอเหมาะสมกับชีวิตที่ใช้สื่อบันเทิงและดาราให้เป็นประโยชน์แก่ตัวผู้บริโภคแล้วไม่ใช่หรือ
ในวันหนึ่ง มันมีจุดเริ่มต้นมาจาก....
http://youtu.be/AVKUr6YKp3c
เมื่อได้ดูครั้งแรก ก็รู้สึกทึ่งในความคิดความเชื่อมั่นในตัวของไมค์ คนเงียบๆไม่ค่อยพูด กลับกล้าพูดในสิ่งที่ศิลปินไทยในเวลานั้นอาจจะไม่มีใครกล้าคิดถึงจุดนั้น นอกจากความกล้าแล้วยังต้องใช้แรงใจอย่างมากมายตามที่ไมค์ร้องขอจากแฟนคลับในวันนั้น มันไม่มีทางจะสู้ชนะได้เลย ถ้าขาดกำลังใจที่ดีจากแฟนๆที่ยังศรัทธาในตัวเค้า และวันนี้ก็พิสูจน์แล้ว ว่าไมค์คิดไม่ผิด
ดิชั้นนั่งถามตัวเองว่า ในขณะที่ไมค์พูดออกมา วันนั้น เวลานั้น ดิชั้นไปทำอะไร อยู่ที่ไหน อยู่เพื่อใคร หรือกำลังเอาแรงใจไปส่งมอบให้ใครที่เค้าไม่ต้องการอย่างจริงจัง อยู่ที่ไหนซักแห่งบนโลกใบนี้รึเปล่า
คลิปถัดมาที่ตอกย้ำความรู้สึกคือ.
http://youtu.be/b9LqVI3VdXg
คนที่ถ่ายคลิปเหล่านี้ไว้เป็นใครกันดิชั้นไม่ทราบ เค้าเฝ้าดูไมค์เติบโต จากน้องไมค์ที่น่ารัก กลายเป็นหนุ่มสูงใหญ่ ต้องรักกันมากขนาดไหน ถึงตามไปเฝ้าที่ประตูตึกได้บ่อยขนาดนั้น เดินผ่านเพียงแค่ทักทายกัน. ถ่ายรูป ยิ้มให้ รับผิดชอบความรู้สึกของกันและกัน ดูแลให้เค้ารู้สึกว่าแฟนๆไม่เคยทิ้งเค้า ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไรก็ตาม
แล้วทำไมดิชั้นต้องรู้สึกเสียดายวันเวลาของตัวเองเมื่อดูคลิปนี้ด้วย...
youtubeนั้นเป็นสื่อชั้นดี มีค่าเทียบได้กับไทม์แมชชีนของโดราเอม่อน เมื่อคุณเปิดลิ้นชักแล้วเอาหัวมุดลงไปเพื่อย้อนเวลาไปทำความรู้จักกับเด็กชายไมค์ ไล่เรียงขึ้นมาเสมือนได้เติบโตไปกับเค้า. ไม่เพียงได้เห็นแง่มุมอันหลากหลายของไมค์มากขึ้น แต่ยังรับรู้ถึงความทุ่มเท ความพยายามที่แฟนคลับมีให้อย่างยาวนานต่อเนื่อง ฝ่าฟันวิกฤติกระแสk-pop ที่ถาโถมจนยืนไม่ติด เดินเคียงคู่มาด้วยกันกับไมค์
ชีวิตติ่งอย่างดิชั้น เข้าใจสภาพดีว่าต้องทรหดมากแค่ไหน กว่าจะได้มาซึ่งคลิปวีดิโอ ภาพนิ่ง ต้องสละเวลาส่วนนึงของชีวิต อุทิศสังขารอันร่วงโรยจากการนั่งหน้าจอคอมเพื่ออุดหนุนดูแลศิลปินในดวงใจคนนึง โดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆนอกจากให้เค้ารับรู้ว่าทุกครั้งที่หันมาหา ยังจะมีพวกเรายืนอยู่ตรงนี้ ฝนตกแดดออกยังไง หิวแค่ไหน พวกเราก็ทน เพียงเพื่อให้รู้สึกว่ายังมีกันและกัน
ฟังดูอาจจะเกินจริง แต่หัวอกชีวิตแฟนคลับที่ดิชั้นพบเห็นมักจะเป็นแบบนั้นเสมอ ไม่ได้คิดจะเอาศิลปินมาเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ แต่เค้าเปรียบเสมือน"เซลล์"เซลล์หนึ่งร่างกายเรา ที่ต้องดูแลรักษา ถ้าเซลล์เสื่อม เราก็เสื่อมด้วย ไม่มีเค้าเราอาจยังไม่ถึงตาย แต่เราก็เจ็บก็ปวดและรู้สึกได้
จึงอยากขอบคุณบรรดาติ่งน้อยผู้กล้าหาญที่ทำหน้าที่อย่างเข้มแข็งและเสียสละ ร่วมออกรบเคียงข้างกับศิลปินของคุณทุกคน
เพราะพวกคุณคือส่วนหนึ่งของความสำเร็จของศิลปินด้วย เมื่อแฟนคลับดี ย่อมส่งเสริมศิลปินให้ดียิ่งขึ้นไป หลายหนที่ศิลปินพังเพราะแฟนคลับที่ใจแคบ แต่ดูเหมือนไมค์จะโชคดี ที่มีแฟนคลับที่ดีและเคียงข้างไมค์เสมอ เมื่อย้อนหลังกลับไปดูเรื่องในวันวานของไมค์
ก็ยิ่งทำให้ดิชั้นยิ่งประหลาดใจว่า อดทนกันมาได้ถึงขนาดนี้ มีใจให้กันมาได้นานขนาดนั้น มันเพราะอะไรกันนะ
ดิชั้นจัดเป็นติ่งใจร้ายและเห็นแก่ตัวคนหนึ่ง ที่พร้อมจะสลัดรักความสัมพันธ์ที่มีให้กันมาได้เพียงแค่รู้ว่าเขาเหล่านั้นหมดใจให้เรา หรือเค้าเหล่านั้นทำให้เราผิดหวัง อย่างที่เคยมีคนบอกว่าติ่งมันก็มีอายุของมันนะ นั่นคือเรื่องจริง เพราะความเชื่อว่าเราชาวติ่งเลือกได้ ว่าเราควรสนับสนุนใคร เราควรรู้ว่าอะไรจริงอะไรหลอก หมดรักเมื่อไหร่ก็หมดอายุเมื่อนั้น จุดพอใจในตัวศิลปินของแต่ละคนนั้นมันไม่เท่ากัน สำหรับดิชั้น พอใจที่จะเดินคู่ขนานกันไปกับเค้าเหล่านั้น เพราะเคยเจ็บปวดมาก็มาก ผิดหวังเสียใจมาก็เยอะ และแม้จะมีบางวงที่ทำให้ดิชั้นเก็บเค้าไว้ตลอดกาลแต่ถึงวันนี้ก็ไม่คิดจะทำอะไรที่ต้องลำบากตัวเองอีกแล้ว เลยสร้างช่องว่างระหว่างเรากับศิลปินขึ้นมาเอง
แล้วทำไมต้องไมค์?
" เซอร์วิสติดดิน" เป็นคำที่ดิชั้นใช้กับบรรดาศิลปินไทย ที่รู้สึกว่าคุณจะมาใกล้ชิดจนชั้นรู้จักตัวตนของคุณทำไม จะไม่เหลือช่องว่างไว้ให้จินตนาการกันบ้างเลยหรือ มันอาจเป็นการชดเชยให้กับแฟนๆที่ไม่อาจเติมเต็มด้านความสามารถในงานแสดงรึเปล่า เหล่านี้คืออคติในใจติ่งนิยมของนอกคนนึง ที่ไม่คุ้นเคยและไม่คิดจะทำความรู้จักกับวัฒนธรรมแฟนคลับแบบไทยๆนี้ ว่ามันน่ารักและอบอุ่นอย่างไร มาตรฐานที่ดิชั้นตั้งไว้สูงลิ่ว มันทำให้ไม่อาจหาศิลปินไทยในดวงใจเจอได้ง่ายๆ จะมีมั้ยนะคนที่ทำให้เรายอมรับได้เทียบเท่ากับศิลปินต่างชาติที่ผ่านๆมา ลำพังแค่แฟนเซอร์วิสไม่อาจทำให้ดิชั้นกลับใจกลับตัวได้แน่นอน บางทีมันก็แค่ความคาดหวัง...
ทั้งหมดนี้เกิดเป็นคำถามวนไปมาในหัวใจคับแคบของติ่งคนนี้มาตลอด คนที่ไม่เคยรู้หรือมองว่า"ตรงนี้ยังมีดี"
เรื่องราวของไมค์ทำให้ความคิดของดิชั้นเปลี่ยนไปมาก...
คำว่า"โตไปด้วยกันนะ" เป็นคำพูดที่ดิชั้นได้ใช้บอกกับดาราคนนึงที่เคยตามสนับสนุนกันมาเมื่อหลายปีก่อน วันนี้ ไมค์พูดเองโดยความต้องการของเขาเอง เหมือนรู้ว่าตัวนั้นยังมีเรื่องต้องพัฒนาอีกมาก อยากให้ทุกคนเป็นกำลังใจ คอยบอกกล่าวดูแลซึ่งกันและกัน ติ่งก็มีชีวิตของติ่ง ไมค์ก็มีชีวิตของไมค์ เราต่างต้องทำหน้าที่ของตัวเอง แต่เมื่อไหร่ที่หันมามอง ก็จะเห็นและรู้สึกได้ว่าเรายังอยู่เคียงข้างกัน ได้ยินเสียงหายใจ และบางครั้งก็เห็นเหงื่อเห็นน้ำตาของกันและกัน
แม้ไมค์จะมีพฤติกรรม "เซอร์วิส" ดังที่ดิชั้นกล่าวถึงอยู่บ้าง แต่เมื่อมองอีกด้านในเรื่องของการทำงาน ไมค์ทุ่มเทเพื่อคำว่าคุณภาพ เพื่ออยู่ในวงการนี้ได้อย่างมีศักดิ์ศรี. รู้และปรับปรุงตัวเอง เติบโตขึ้นเรื่อยๆตามวัยของเค้า ดิชั้นหลงรักกับงานแสดงที่ดูเหมือนไมค์จะถนัดและชื่นชอบที่จะทำ แต่เสน่ห์ในการเป็นนักร้องนักเต้นของเค้า มันก็เป็นสิ่งที่วงการบันเทิงของเอเชียมองหาในตัวศิลปินคนนึง ใครๆก็ต้องการคนที่มีความสามารถรอบด้าน เหมือนดังที่ไมค์เป็นและพัฒนาเพิ่มทักษะของตัวเองอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการกำกับเอ็มวี ตัดต่อเอง ดีไซน์ทุกอย่างด้วยตัวเอง ออกแบบท่าเต้น ควบคุมทุกอย่างในเรื่องบริหารธุรกิจกองถ่าย ด้วยอายุเพียงเท่านี้ แม้จะเติบโตขึ้นมาไม่เหมือนกับเด็กวัยเดียวกัน แต่ก็ทำให้ไมค์นั้นแข็งแกร่งและโดดเด่น เหมาะสมกับการเป็นคนในวงการบันเทิง ไมค์กำลังเติบโต ความที่ยังไม่เพอร์เฟกต์เต็มร้อยในทุกๆเรื่อง กลับทำให้เค้ามีเสน่ห์น่าจับตามอง อยากคอยเอาใจช่วย เพราะรู้ว่าเค้าสู้จริงๆ
คนที่มีพรสวรรค์ กับคนที่มีเสน่ห์ ต่างก็มีวิธีพัฒนาศักกายภาพที่แตกต่างกัน เราไม่ควรเอาใครไปเปรียบเทียบกับใคร แต่มองไปที่ความตั้งใจดี และแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในอาชีพของเค้า ถ้าคุณอยากได้แรงใจจากใคร คุณก็ควรทุ่มเทแรงกายออกมาให้เห็น ไมค์จัดการกับหน้าที่การงานของตัวเองได้ดี มีความเป็นมืออาชีพคนหนึ่ง แต่หลายครั้งที่เค้าต้องแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง ไม่มีใครคอยปกป้องเหมือนเช่นศิลปินในต่างประเทศ
เพราะเลือกที่จะเป็นอิสระในการทำงาน ดังนั้นเรื่องระบบการจัดการก็ต้องดูแลเองด้วย ในต่างประเทศเหล่าศิลปินที่หมดสัญญาแต่ยังอยู่ในวงการบันเทิง มักจะตั้งบริษัทของตัวเองเพื่อดูเรื่องงานติดต่อเจรจาธุรกิจโดยตรง แต่ดาราเหล่านั้นก็จัดว่าเป็นผู้ใหญ่มากกว่าไมค์มาก และอาจจะมีสายสัมพันธ์หรือผู้คนรอบตัวมากพอ ที่จะช่วยกันเกื้อหนุนให้อยู่ในวงการนี้ การมีทีมมืออาชีพคอยอยู่เคียงข้างศิลปินนับว่าเป็นเรื่องที่คนเล็กๆคนเดียวจะจัดการได้ยาก แต่ก็เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับก้าวย่างที่จะออกไปทำงานระดับประเทศ โอกาสจะเป็นของคนที่เตรียมพร้อมเสมอ ดิชั้นเอาใจช่วยอย่างมากในเรื่องนี้ และขอให้ทุกอย่างสำเร็จด้วยดี
แต่ถึงอย่างไร ดิชั้นไม่ต้องเลือกเหรียญด้านใดกับการชื่นชอบไมค์. เค้ามีให้ทุกอย่างที่แฟนคลับคนนึงอยากเห็นอยากสัมผัสได้ ไมค์อาจจะวางแผนมาแล้วในใจว่าจะทำให้เราหลงใหลเค้ายังไง. หรือแท้ที่จริงมันก็แสดงออกมาตรงๆจากหัวใจของเค้าเอง เพราะไม่ว่าจะดีใจ เสียใจ โกรธ นอยด์ งอน ผู้ชายคนนี้ก็ทำมันออกมาทั้งหมดแล้ว ไม่มีใครทำให้เราดีใจและเสียใจที่สุดได้เท่ากับคนในครอบครัวเดียวกัน มุมมองที่มีต่อผู้ชายที่ดิชั้นไม่เคยพบเจอหรือพูดคุยด้วยเลยคนนี้ อาจจะไม่เกิดขึ้น ถ้าไม่มีคลิปที่แฟนคลับผู้ทุ่มเทได้ช่วยกันอัพโหลดเอาไว้อย่างมากมายมหาศาล อยากบอกขอบคุณมากๆ ที่ทำสิ่งเหล่านี้เพื่อไมค์และแฟนหน้าใหม่อย่างพวกเรา ขอบคุณค่ะ
หนึ่งเดือนผ่านไป กับการขึ้นๆลงๆไทม์แมชชีน ย้อนเวลาหาอดีต จนโดราเอม่อนบ่นว่าเหนื่อยแล้ว พักบ้างไรบ้าง
ดิชั้นได้รู้จักและเริ่มเข้าใจในตัวของไมค์มากขึ้น นอกจากแค่เสน่ห์ภายนอกและดวงตาของเค้า อยากเรียนรู้ อยากอยู่เคียงข้าง เอาใจช่วยให้กำลังใจจนกว่าจะมีวันที่ไมค์ถึงจุดหมายที่สวยงาม ทุกวันที่เติบโตไปด้วยกัน อาจจะมีบางวันที่เราเผลอละเลยความรู้สึกกันไปบ้าง บางวันเราก็สนุกก็ขำกับสิ่งที่อีกฝ่ายโพสต์หากันบ้าง เจอหน้ากันทำเป็นเมินๆใส่กัน แต่ก็แอบชายตามอง เราก็ยิงสวนด้วยกล้องบ้าง แต่เมื่อมีภัยมาเราก็จะอยู่เคียงข้างกัน สู้ด้วยกัน
แม้ติ่งจะมีอายุขัยของมัน แต่เราก็จะใช้มันให้ดีที่สุด ยามที่เรายังอยู่ด้วยกันนะ
Noch_Nacha