มีความรู้สึกว่าไม่ได้กินน้ำพริกเป็นเรื่องเป็นราวมาหลายวันแล้ว พอดีต้นมะรุมข้างบ้านช่วงนี้แทงยอดอ่อน
อวบ ๆ อ้วน ๆ น่าเอามานึ่งกินกับน้ำพริกมาก ๆ
ถ้าจะจัดแบบสิ้นคิด อันดับแรกต้องนึกถึงน้ำพริกอ่อง เพราะถือว่าเป็นของถูกคู่กัน แต่พอดีช่วงนี้กำลังอยู่ในอารมณ์
สยองน้ำพริกอ่อง ที่เพิ่งไปเจอที่เขาเลี้ยงงานบุญวันก่อน สังเกตให้ดีจะมันอะไรกันนักกันหนา
มีน้ำพริกอีกอย่าง ท้องถิ่นเรียกน้ำพริกโย๊ะ ที่อื่นก็อาจทำแบบนี้แต่มีคำเรียกที่ต่างกันไป ซึ่งวิธีทำก็ไม่ได้ยากเย็น
หรือซับซ้อนมากมาย เป็นน้ำพริกที่น่าทำกินเหมือนกัน
วันนี้ก็เลยตำน้ำพริกโย๊ะกินกับผักนึ่ง เจริญอาหารดีแท้
ขอยืนยันว่าทำง่ายมาก ๆ อีกครั้ง ถ้าอยากจะลองทำกินก็ตามนี้เลยครับ พริกขี้หนูสด(เผ็ด) พริกหนุ่ม (สี+ปริมาณ)
กระเทียม หอมแดง กะปิ ปล้าร้าบด (ไม่ชอบไม่ต้องใส่) หมูสับ (จะเปลี่ยนเป็นเนื้อปลาสดเช่นปลาช่อน ปลานิลก็ได้)
ทั้งหมดเอาลงต้ม ใส่น้ำพอประมาณ
ต้มจนทั้งหมดสุกแล้ว ตักออกพักไว้ให้เย็น
ลงครกโขลกละเอียด
น้ำต้ม อย่าทิ้งเตรียมไว้ผสม
น้ำพริกแบบนี้ ผักนึ่งต้องจัดหนัก ๆ
และแล้ว ผักก็สุก
เอาน้ำพริกที่โขลกเตรียมไว้ ผสมกับน้ำต้มกะปิ ชิมให้ได้รสเค็มนิด ๆ ตามชอบ ชอบเปรี้ยว
บีบมะนาวใส่ลงไปด้วย เห็นซีด ๆ อย่างนี้แซ่บอย่าบอกใครเชียว พริกขี้หนูเป็นกำมือเชียวนะ
จะให้คล่องคอ ต้องแถมของถูกคู่อีกอย่าง ไข่ต้มสักฟอง แค่นี้เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอมละครับ
ก็เป็นน้ำพริกที่ทำง่าย ๆ และวัตถุดิบก็หาได้ทั่วไป ถ้าอยากลองทำก็ขอเชิญชวนนะครับ จะได้บรรยากาศ
และรสชาติการกินน้ำพริกไปอีกแบบหนึ่ง
"ผักนึ่ง น้ำพริกโย๊ะ" เมนูสุขภาพที่ขอแนะนำ
อวบ ๆ อ้วน ๆ น่าเอามานึ่งกินกับน้ำพริกมาก ๆ
ถ้าจะจัดแบบสิ้นคิด อันดับแรกต้องนึกถึงน้ำพริกอ่อง เพราะถือว่าเป็นของถูกคู่กัน แต่พอดีช่วงนี้กำลังอยู่ในอารมณ์
สยองน้ำพริกอ่อง ที่เพิ่งไปเจอที่เขาเลี้ยงงานบุญวันก่อน สังเกตให้ดีจะมันอะไรกันนักกันหนา
มีน้ำพริกอีกอย่าง ท้องถิ่นเรียกน้ำพริกโย๊ะ ที่อื่นก็อาจทำแบบนี้แต่มีคำเรียกที่ต่างกันไป ซึ่งวิธีทำก็ไม่ได้ยากเย็น
หรือซับซ้อนมากมาย เป็นน้ำพริกที่น่าทำกินเหมือนกัน
วันนี้ก็เลยตำน้ำพริกโย๊ะกินกับผักนึ่ง เจริญอาหารดีแท้
ขอยืนยันว่าทำง่ายมาก ๆ อีกครั้ง ถ้าอยากจะลองทำกินก็ตามนี้เลยครับ พริกขี้หนูสด(เผ็ด) พริกหนุ่ม (สี+ปริมาณ)
กระเทียม หอมแดง กะปิ ปล้าร้าบด (ไม่ชอบไม่ต้องใส่) หมูสับ (จะเปลี่ยนเป็นเนื้อปลาสดเช่นปลาช่อน ปลานิลก็ได้)
ทั้งหมดเอาลงต้ม ใส่น้ำพอประมาณ
ต้มจนทั้งหมดสุกแล้ว ตักออกพักไว้ให้เย็น
ลงครกโขลกละเอียด
น้ำต้ม อย่าทิ้งเตรียมไว้ผสม
น้ำพริกแบบนี้ ผักนึ่งต้องจัดหนัก ๆ
และแล้ว ผักก็สุก
เอาน้ำพริกที่โขลกเตรียมไว้ ผสมกับน้ำต้มกะปิ ชิมให้ได้รสเค็มนิด ๆ ตามชอบ ชอบเปรี้ยว
บีบมะนาวใส่ลงไปด้วย เห็นซีด ๆ อย่างนี้แซ่บอย่าบอกใครเชียว พริกขี้หนูเป็นกำมือเชียวนะ
จะให้คล่องคอ ต้องแถมของถูกคู่อีกอย่าง ไข่ต้มสักฟอง แค่นี้เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอมละครับ
ก็เป็นน้ำพริกที่ทำง่าย ๆ และวัตถุดิบก็หาได้ทั่วไป ถ้าอยากลองทำก็ขอเชิญชวนนะครับ จะได้บรรยากาศ
และรสชาติการกินน้ำพริกไปอีกแบบหนึ่ง