*วอลุ่มซื้อขาย 4.9 หมื่นล้าน มากสุดนับแต่ต้นปี 2557 ทำให้เป็นอีกครั้งที่ “โมนิก้า” ต้องหยิบยกเรื่องผลประกอบการมาเล่าสู่กันฟังอีก...จะคิดว่าเพื่อเตือนสติ หรือ กลับสู่พื้นฐาน...ก็สุดแท้แต่จะคิดค่ะ...พูดอย่างนี้เป็นไปตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย...อย่าได้คิดเป็นอื่นค่ะ
*ช่องว่างระหว่างความคาดหวังกับความเป็นจริงที่ต่างกันอย่างสุดขั้ว และไม่มีทีท่าจะมาบรรจบกันง่ายๆ แถมบางครั้งยังสวนทางกันอีก....ทำให้นักลงทุนจำต้องพิจารณาเปิดทางหนีทีไล่ได้ทันท่วงทีเจ้าค่ะ
*นักลงทุนพึงระวังว่า ปรากฏการณ์ sale on fact ยังมีมนต์ขลังทุกครั้งที่มีการประกาศผลประกอบการ หรือแม้กระทั่งเหตุการณ์ขายทำกำไร หลังราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมากเกินไป ก็ยังเป็นเรื่องที่นักลงทุนต้องตรึกตรองให้มากเป็นพิเศษ เพราะการที่ดัชนีติดอยู่ตรงบริเวณแนวต้าน 1,400 จุดประมาณสามสี่ครั้ง เสมือนเป็นเครื่องเตือนใจขาประจำว่า “มีโอกาสขาย ก็ต้องขาย”...อย่าได้ถือไว้ทำหอกให้เสียค่าโง่นะคะ
*เนื่องจากดัชนีวิ่งขึ้นมาปิดถึงที่ระดับ 1,396.03 จุด บวกไป 20.89 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.99 หมื่นล้านบาท มันหมายถึงนักลงทุนมีความมั่นใจในการลงทุนอย่างล้นปรี่ (แบบสั้น หรือ แบบยาว วันนี้ได้รู้กัน) และหุ้นกลุ่มหลักที่ได้รับอานิสงส์ดังกล่าวเต็มๆ คงหนีไม่พ้นหุ้นกลุ่มบลูชิพ ส่วนหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กคงเกาะกระแสดังกล่าวขึ้นตามไปด้วยก็เท่านั้นเอง
*ประเด็นดังกล่าวมีเอฟเฟ็กต์สุดๆ เมื่อหุ้นบัตรเครดิตไฟแรง KTC ประกาศผลประกอบการกำไรสุทธิลดหน้าตาเฉย ...ออกอ่าวออกทะเลเสียอย่างนั้น....ตรวจสอบรายละเอียดพบว่ากำไรที่หายเพราะกำไรพิเศษจากการขายสินทรัพย์ออกจากมือ...แต่กำไรปกติยังแจ่มแจ๋ว... มิน่า...ราคาหุ้นในกระดานยังพยายามยกตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับมีคำอธิบายเชิงลึกว่า เป็นการเด้งรับข่าวครึ่งปีหลังกำไรจะดีขึ้นแบบนี้...ไม่รู้เร็วเกินไปไหมคะพี่หมอ.... ล่าสุดราคาหุ้นปิดที่ 38.75 บาท บวกไป 2.50 บาท หรือขึ้นไป 7%
*ตรงกันข้ามกับในรายของ ICHI ก่อนหน้านี้เชียร์กันมากเหลือเกินว่า ปีนี้ธุรกิจก็ยังอู้ฟู่! ทำให้ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา พวกนกรู้ไล่ราคากันอย่างบ้าระห่ำ จนหุ้นวิ่งขึ้นไปถึง 20.50 บาท แม้ในระหว่างทางจะโดนเทขายทำกำไรชุดใหญ่ออกมาเป็นระยะ แต่ราคาหุ้นก็พยายามถีบตัวขึ้นไปตลอดเวลา ...ล่าสุดวานนี้ มีแรงซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ราคาหุ้นเลยพุ่งขึ้นมาปิดที่ 24.30 บาท บวกไป 3.80 บาท หรือขึ้นไป 18.54% ...เพดานทะลุอย่างนี้ ระวังตะวันฝนตกนะคะ...กลัวหลังคาโหว่ค่ะ
*เช่นเดียวกัน SAWAD มูลค่าซื้อขายอันดับ 1 ในกระดาน บวกแรงมากถึงระดับซิลลิ่งเช่นกัน ที่ระดับราคาสูงสุดของวัน 14.70 บาท บวกไป 3.10 บาท...เล่นข่าวผลประกอบการจะโต 35% ดันราคาสนุก วันนี้บ่ายจะรายงานผลไตรมาสแรก...ระวังเซล ออน แฟ็กต์ด้วยนะคะ ที่รัก
*น่าสังเกตเป็นพิเศษ ทั้ง SAWAD และ ICHI ล้วนเป็นเด็กในคาถา ASP...ไม่รู้แรงเสกเป่าของดร.ก้อง จอมขมังเวทย์ มากหรือไฉน...น่าพินิจค่ะ
*ส่วนตัวแหล่มๆ ที่พุ่งทะยานอย่างร้อนแรง และยังเป็นหุ้นที่เหมาะต่อการเล่นเก็งกำไรสุดๆ และตำแหน่งดังกล่าวคงตกให้กับ TKS เพราะเป็นหุ้นที่นักลงทุนเข้ามาเล่นเป็นพักๆ ผนวกกับวอลุ่มการซื้อขายก็ผลุบๆ โผล่ๆ เอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้ “โมนิก้า” ถึงอยากให้ขาลุยหันมาชำเลืองหุ้นตัวนี้อีกครั้ง ล่าสุดประกาศงบไตรมาส 1 กำไรเพิ่มขึ้นเป็น 110 ล้านบาท ....น่าตามไปดูจริงๆ
*ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเดิม....ส่วนในรายของ INET ชอบทำให้คนแก่มีความหวังเป็นนิจ แต่สุดท้ายก็ท่าดีทีเหลวเป็นประจำ ขนาดเดือนที่แล้วหุ้นขึ้นถึง 4.14 บาทอย่างร้อนแรง เผลอแค่แป๊บเดียวหุ้นรูดลงอย่างต่อเนื่องหน้าตาเฉย ทั้งที่โบรกเกอร์อุตส่าห์ออกบทวิเคราะห์เชียร์จะมีกำไรสูง
*ส่วนหุ้นที่เข้าทำนองกระเบื้องเฟื่องฟูลอย IVL ขยับตัวบนความเชื่อเดิมๆ และการเคลื่อนตัวก็ยังเป็นแพทเทิร์นเดิมๆ เพราะเคยทะยานขึ้นทำ new high ที่ระดับ 24.60 บาท แต่วานนี้พุ่งขึ้นมาปิดที่ 25 บาท บวกไป 1.40 บาท หรือขึ้นไป 6% วอลุ่มมากถึง 1,650 ล้านบาทแบบนี้...มีลุ้นไปต่อ หลังแรงซื้อที่มีเข้ามามหาศาลบอกให้รู้ว่า ทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นเจ้าค่ะ
*ซึมมานาน สองแม่ลูก AI และ AIE ทำกำไรระเบิดระเบ้อชนิดเกาะพ่วง เพราะลูกตัวใหญ่กว่าแม่ชนิดบังมิด...ราคาหุ้นที่เคยย่ำแย่ชนิดดูไม่ได้นานกว่า 2 เดือน จึงดี๊ด๊าเป็นพิเศษวานนี้ ...ฟ้าหลังฝน สวยงามเสมอค่ะ....ใครขาย จ่ายค่าโง่แพงแน่ค่ะ รอบนี้
*ตบท้ายกันที่หุ้น CPF และ CPALL เคยเป็นหุ้นที่เดี๊ยนเชียร์ให้เล่นอยู่พักหนึ่ง ครั้นราคาหุ้นเริ่มอ่อนตัวลงเรื่อยๆ ก็จำเป็นต้องตัดใจขายขาดทุน แต่เมื่อราคาหุ้นลงมาสุดเหว “โมนิก้า” คิดว่า ได้จังหวะทยอยเก็บของ เพราะหุ้นประเภทนี้มักดีดตัวขึ้นแรง หรือไม่ก็นอนนิ่งแช่แป้งอยู่กับที่ ยิ่งเห็นทั้งสองตัวลงมาใกล้ฐานเก่าแล้วเด้งขึ้นทันที ยิ่งต้องจับตามากเป็นพิเศษ...งานนี้บอกได้แค่ มันน่า....ค่ะ
หุ่นระวังประวัติสาทซ้ำรอย
*ช่องว่างระหว่างความคาดหวังกับความเป็นจริงที่ต่างกันอย่างสุดขั้ว และไม่มีทีท่าจะมาบรรจบกันง่ายๆ แถมบางครั้งยังสวนทางกันอีก....ทำให้นักลงทุนจำต้องพิจารณาเปิดทางหนีทีไล่ได้ทันท่วงทีเจ้าค่ะ
*นักลงทุนพึงระวังว่า ปรากฏการณ์ sale on fact ยังมีมนต์ขลังทุกครั้งที่มีการประกาศผลประกอบการ หรือแม้กระทั่งเหตุการณ์ขายทำกำไร หลังราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมากเกินไป ก็ยังเป็นเรื่องที่นักลงทุนต้องตรึกตรองให้มากเป็นพิเศษ เพราะการที่ดัชนีติดอยู่ตรงบริเวณแนวต้าน 1,400 จุดประมาณสามสี่ครั้ง เสมือนเป็นเครื่องเตือนใจขาประจำว่า “มีโอกาสขาย ก็ต้องขาย”...อย่าได้ถือไว้ทำหอกให้เสียค่าโง่นะคะ
*เนื่องจากดัชนีวิ่งขึ้นมาปิดถึงที่ระดับ 1,396.03 จุด บวกไป 20.89 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.99 หมื่นล้านบาท มันหมายถึงนักลงทุนมีความมั่นใจในการลงทุนอย่างล้นปรี่ (แบบสั้น หรือ แบบยาว วันนี้ได้รู้กัน) และหุ้นกลุ่มหลักที่ได้รับอานิสงส์ดังกล่าวเต็มๆ คงหนีไม่พ้นหุ้นกลุ่มบลูชิพ ส่วนหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กคงเกาะกระแสดังกล่าวขึ้นตามไปด้วยก็เท่านั้นเอง
*ประเด็นดังกล่าวมีเอฟเฟ็กต์สุดๆ เมื่อหุ้นบัตรเครดิตไฟแรง KTC ประกาศผลประกอบการกำไรสุทธิลดหน้าตาเฉย ...ออกอ่าวออกทะเลเสียอย่างนั้น....ตรวจสอบรายละเอียดพบว่ากำไรที่หายเพราะกำไรพิเศษจากการขายสินทรัพย์ออกจากมือ...แต่กำไรปกติยังแจ่มแจ๋ว... มิน่า...ราคาหุ้นในกระดานยังพยายามยกตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับมีคำอธิบายเชิงลึกว่า เป็นการเด้งรับข่าวครึ่งปีหลังกำไรจะดีขึ้นแบบนี้...ไม่รู้เร็วเกินไปไหมคะพี่หมอ.... ล่าสุดราคาหุ้นปิดที่ 38.75 บาท บวกไป 2.50 บาท หรือขึ้นไป 7%
*ตรงกันข้ามกับในรายของ ICHI ก่อนหน้านี้เชียร์กันมากเหลือเกินว่า ปีนี้ธุรกิจก็ยังอู้ฟู่! ทำให้ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา พวกนกรู้ไล่ราคากันอย่างบ้าระห่ำ จนหุ้นวิ่งขึ้นไปถึง 20.50 บาท แม้ในระหว่างทางจะโดนเทขายทำกำไรชุดใหญ่ออกมาเป็นระยะ แต่ราคาหุ้นก็พยายามถีบตัวขึ้นไปตลอดเวลา ...ล่าสุดวานนี้ มีแรงซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ราคาหุ้นเลยพุ่งขึ้นมาปิดที่ 24.30 บาท บวกไป 3.80 บาท หรือขึ้นไป 18.54% ...เพดานทะลุอย่างนี้ ระวังตะวันฝนตกนะคะ...กลัวหลังคาโหว่ค่ะ
*เช่นเดียวกัน SAWAD มูลค่าซื้อขายอันดับ 1 ในกระดาน บวกแรงมากถึงระดับซิลลิ่งเช่นกัน ที่ระดับราคาสูงสุดของวัน 14.70 บาท บวกไป 3.10 บาท...เล่นข่าวผลประกอบการจะโต 35% ดันราคาสนุก วันนี้บ่ายจะรายงานผลไตรมาสแรก...ระวังเซล ออน แฟ็กต์ด้วยนะคะ ที่รัก
*น่าสังเกตเป็นพิเศษ ทั้ง SAWAD และ ICHI ล้วนเป็นเด็กในคาถา ASP...ไม่รู้แรงเสกเป่าของดร.ก้อง จอมขมังเวทย์ มากหรือไฉน...น่าพินิจค่ะ
*ส่วนตัวแหล่มๆ ที่พุ่งทะยานอย่างร้อนแรง และยังเป็นหุ้นที่เหมาะต่อการเล่นเก็งกำไรสุดๆ และตำแหน่งดังกล่าวคงตกให้กับ TKS เพราะเป็นหุ้นที่นักลงทุนเข้ามาเล่นเป็นพักๆ ผนวกกับวอลุ่มการซื้อขายก็ผลุบๆ โผล่ๆ เอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้ “โมนิก้า” ถึงอยากให้ขาลุยหันมาชำเลืองหุ้นตัวนี้อีกครั้ง ล่าสุดประกาศงบไตรมาส 1 กำไรเพิ่มขึ้นเป็น 110 ล้านบาท ....น่าตามไปดูจริงๆ
*ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเดิม....ส่วนในรายของ INET ชอบทำให้คนแก่มีความหวังเป็นนิจ แต่สุดท้ายก็ท่าดีทีเหลวเป็นประจำ ขนาดเดือนที่แล้วหุ้นขึ้นถึง 4.14 บาทอย่างร้อนแรง เผลอแค่แป๊บเดียวหุ้นรูดลงอย่างต่อเนื่องหน้าตาเฉย ทั้งที่โบรกเกอร์อุตส่าห์ออกบทวิเคราะห์เชียร์จะมีกำไรสูง
*ส่วนหุ้นที่เข้าทำนองกระเบื้องเฟื่องฟูลอย IVL ขยับตัวบนความเชื่อเดิมๆ และการเคลื่อนตัวก็ยังเป็นแพทเทิร์นเดิมๆ เพราะเคยทะยานขึ้นทำ new high ที่ระดับ 24.60 บาท แต่วานนี้พุ่งขึ้นมาปิดที่ 25 บาท บวกไป 1.40 บาท หรือขึ้นไป 6% วอลุ่มมากถึง 1,650 ล้านบาทแบบนี้...มีลุ้นไปต่อ หลังแรงซื้อที่มีเข้ามามหาศาลบอกให้รู้ว่า ทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นเจ้าค่ะ
*ซึมมานาน สองแม่ลูก AI และ AIE ทำกำไรระเบิดระเบ้อชนิดเกาะพ่วง เพราะลูกตัวใหญ่กว่าแม่ชนิดบังมิด...ราคาหุ้นที่เคยย่ำแย่ชนิดดูไม่ได้นานกว่า 2 เดือน จึงดี๊ด๊าเป็นพิเศษวานนี้ ...ฟ้าหลังฝน สวยงามเสมอค่ะ....ใครขาย จ่ายค่าโง่แพงแน่ค่ะ รอบนี้
*ตบท้ายกันที่หุ้น CPF และ CPALL เคยเป็นหุ้นที่เดี๊ยนเชียร์ให้เล่นอยู่พักหนึ่ง ครั้นราคาหุ้นเริ่มอ่อนตัวลงเรื่อยๆ ก็จำเป็นต้องตัดใจขายขาดทุน แต่เมื่อราคาหุ้นลงมาสุดเหว “โมนิก้า” คิดว่า ได้จังหวะทยอยเก็บของ เพราะหุ้นประเภทนี้มักดีดตัวขึ้นแรง หรือไม่ก็นอนนิ่งแช่แป้งอยู่กับที่ ยิ่งเห็นทั้งสองตัวลงมาใกล้ฐานเก่าแล้วเด้งขึ้นทันที ยิ่งต้องจับตามากเป็นพิเศษ...งานนี้บอกได้แค่ มันน่า....ค่ะ