เอกสารเผยแพร่ : SAWAD แจงปรับปรุงบัญชีต้นเหตุกำไร Q1/61 ต่ำกว่าความจริง-ลูกหนี้ที่ีมีปัญหาทยอยจ่ายหนี้ค้างแล้ว
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -16 พ.ค. 61 15:21 น.
บริษัทศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD ยันผลการดำเนินงานยังเติบโต 10% แจงปรับปรุงบัญชีไตรมาส1/60 ต้นเหตุกำไรไตรมาส 1/61 ต่ำกว่าความจริง ส่วนตัวเลขหนี้เอ็นพีแอลเพิ่มขึ้น มาจากลูกค้าเอสเอ็มอีรายหนึ่ง ปัจจุบันกลับมาเป็นลูกค้าปกติแล้ว ขณะที่มูลค่าหลักประกันลูกหนี้สูงกว่ามูลหนี้
นางสาวธิดา แก้วบุตตา กรรมการ บริษัทศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ SAWAD เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส1/61 ที่บริษัทได้รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์ อาจจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน บริษัทขอชี้แจงว่าสาเหตุที่ทำให้ภาพรวมของผลประกอบการไตรมาส1/61 บริษัทและบริษัทย่อยกำไรสุทธิลดลง 27.43% จากไตรมาส 1/2560 ที่มีกำไรสุทธิ 881.62 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดไตรมาส1/61 ที่มีกำไรสุทธิ 639.83 ล้านบาทเป็นเพียงการปรับลดลงทางบัญชีเท่านั้นส่วนผลการดำเนินงานจริงยังมีการเติบโตทั้งกำไรและรายได้
ประเด็นหลักที่ทำให้ภาพรวมผลประกอบการไตรมาส1/2561ลดลงเมื่อเปรียบกับงวดเดียวกันของปี2560เนื่องจากสิ้นงวดบัญชี 31มีนาคม 2560 บริษัทได้มีการรับรู้รายการพิเศษจากการปรับปรุงมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ บริษัทเงินทุน กรุงเทพธนาธร จำกัด(มหาชน) หรือ BFIT และมีการจัดประเภทเงินลงทุนจากเงินลงทุนเผื่อขายเป็นเงินลงทุนในบริษัทย่อยตามมาตรฐานบัญชีทำให้เกิดกำไรจากการเปลี่ยนประเภทเงินลงทุนจำนวน 102.06 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังได้มีการปรับปรุงรายได้อื่นๆในส่วนที่เกิดจากการปรับปรุงมูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์สุทธิที่ได้มาที่เกี่ยวข้องกับ BFIT อีกจำนวน185.65 ล้านบาทจากเดิมที่บันทึกต้องอยู่ในรายได้อื่นๆของงบไตรมาส4 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2560
นางสาวธิดา อธิบายต่อว่า การปรับปรุงงบการเงินดังกล่าวและกำไรพิเศษที่ได้จากการจัดประเภทเงินลงทุนในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนใน BFIT ทำให้รายได้รวมไตรมาส1/2560 ฉบับปรับปรุง บริษัทมีรายได้รวมจำนวน1871.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงบก่อนปรับปรุง185.65 ล้านบาท และมีกำไรพิเศษดังกล่าวอีก102.06ล้านบาทรวมเป็นเงิน287.71 ล้านบาท ทำให้ภาพรวมผลประกอบการไตรมาส 1/2561 ลดลง อย่างไรก็ตามในปี2561 นี้บริษัทจะไม่มีการปรับมูลค่าเงินลงทุนแต่อย่างใด
“หากไม่รวมรายการพิเศษดังกล่าวในไตรมาส1/2561บริษัทจะมีรายได้รวมเพิ่มขึ้น160.33ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น10.12%และมั่นใจว่าภาพรวมผลประกอบการปีนี้จะยังเติบโตต่อเนื่อง และไม่มีการปรับมูลค่าเงินลงทุนเพิ่มเติมอีก” นางสาวธิดา กล่าว
สำหรับประเด็นความกังวลเกี่ยวกับตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ที่เพิ่มขึ้น เกิดจากลูกหนี้เอสเอ็มอีกรายหนึ่งที่จ่ายล่าช้ากว่ากำหนด ซึ่งปัจจุบันลูกหนี้รายดังกล่าวก็ได้ทยอยจ่ายยอดค้างมาแล้ว ประกอบกับมูลค่าหลักประกันของลูกหนี้รายดังกล่าวที่นำมาวางเป็นหลักประกันไว้มีมูลค่ามากกว่ามูลหนี้
ลักษณะธุรกิจของ SAWAD
กลุ่มบริษัทประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อรายย่อย ภายใต้เครื่องหมายบริการ ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ ซึ่งประกอบด้วย 5 ธุรกิจหลัก ได้แก่ 1) สินเชื่อรายย่อยแบบมีหลักประกันประเภท ทะเบียนรถเก่าทุกประเภท บ้านและโฉนดที่ดิน 2) สินเชื่อรายย่อยแบบไม่มีหลักประกันภายใต้การกำกับ 3) บริหารสินทรัพย์ 4) รับจ้างติดตามหนี้ 5) บริการที่ปรึกษาและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการทำธุรกิจสินเชื่อ
SAWAD ดอยแล้วโว้ย ใครทุน 69 ตอนนี้ขาดทุน -50% แล้ว มันจะลงเรื่อยๆ อาการมันออก
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -16 พ.ค. 61 15:21 น.
บริษัทศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD ยันผลการดำเนินงานยังเติบโต 10% แจงปรับปรุงบัญชีไตรมาส1/60 ต้นเหตุกำไรไตรมาส 1/61 ต่ำกว่าความจริง ส่วนตัวเลขหนี้เอ็นพีแอลเพิ่มขึ้น มาจากลูกค้าเอสเอ็มอีรายหนึ่ง ปัจจุบันกลับมาเป็นลูกค้าปกติแล้ว ขณะที่มูลค่าหลักประกันลูกหนี้สูงกว่ามูลหนี้
นางสาวธิดา แก้วบุตตา กรรมการ บริษัทศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ SAWAD เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส1/61 ที่บริษัทได้รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์ อาจจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน บริษัทขอชี้แจงว่าสาเหตุที่ทำให้ภาพรวมของผลประกอบการไตรมาส1/61 บริษัทและบริษัทย่อยกำไรสุทธิลดลง 27.43% จากไตรมาส 1/2560 ที่มีกำไรสุทธิ 881.62 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดไตรมาส1/61 ที่มีกำไรสุทธิ 639.83 ล้านบาทเป็นเพียงการปรับลดลงทางบัญชีเท่านั้นส่วนผลการดำเนินงานจริงยังมีการเติบโตทั้งกำไรและรายได้
ประเด็นหลักที่ทำให้ภาพรวมผลประกอบการไตรมาส1/2561ลดลงเมื่อเปรียบกับงวดเดียวกันของปี2560เนื่องจากสิ้นงวดบัญชี 31มีนาคม 2560 บริษัทได้มีการรับรู้รายการพิเศษจากการปรับปรุงมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ บริษัทเงินทุน กรุงเทพธนาธร จำกัด(มหาชน) หรือ BFIT และมีการจัดประเภทเงินลงทุนจากเงินลงทุนเผื่อขายเป็นเงินลงทุนในบริษัทย่อยตามมาตรฐานบัญชีทำให้เกิดกำไรจากการเปลี่ยนประเภทเงินลงทุนจำนวน 102.06 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังได้มีการปรับปรุงรายได้อื่นๆในส่วนที่เกิดจากการปรับปรุงมูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์สุทธิที่ได้มาที่เกี่ยวข้องกับ BFIT อีกจำนวน185.65 ล้านบาทจากเดิมที่บันทึกต้องอยู่ในรายได้อื่นๆของงบไตรมาส4 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2560
นางสาวธิดา อธิบายต่อว่า การปรับปรุงงบการเงินดังกล่าวและกำไรพิเศษที่ได้จากการจัดประเภทเงินลงทุนในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนใน BFIT ทำให้รายได้รวมไตรมาส1/2560 ฉบับปรับปรุง บริษัทมีรายได้รวมจำนวน1871.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงบก่อนปรับปรุง185.65 ล้านบาท และมีกำไรพิเศษดังกล่าวอีก102.06ล้านบาทรวมเป็นเงิน287.71 ล้านบาท ทำให้ภาพรวมผลประกอบการไตรมาส 1/2561 ลดลง อย่างไรก็ตามในปี2561 นี้บริษัทจะไม่มีการปรับมูลค่าเงินลงทุนแต่อย่างใด
“หากไม่รวมรายการพิเศษดังกล่าวในไตรมาส1/2561บริษัทจะมีรายได้รวมเพิ่มขึ้น160.33ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น10.12%และมั่นใจว่าภาพรวมผลประกอบการปีนี้จะยังเติบโตต่อเนื่อง และไม่มีการปรับมูลค่าเงินลงทุนเพิ่มเติมอีก” นางสาวธิดา กล่าว
สำหรับประเด็นความกังวลเกี่ยวกับตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ที่เพิ่มขึ้น เกิดจากลูกหนี้เอสเอ็มอีกรายหนึ่งที่จ่ายล่าช้ากว่ากำหนด ซึ่งปัจจุบันลูกหนี้รายดังกล่าวก็ได้ทยอยจ่ายยอดค้างมาแล้ว ประกอบกับมูลค่าหลักประกันของลูกหนี้รายดังกล่าวที่นำมาวางเป็นหลักประกันไว้มีมูลค่ามากกว่ามูลหนี้
ลักษณะธุรกิจของ SAWAD
กลุ่มบริษัทประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อรายย่อย ภายใต้เครื่องหมายบริการ ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ ซึ่งประกอบด้วย 5 ธุรกิจหลัก ได้แก่ 1) สินเชื่อรายย่อยแบบมีหลักประกันประเภท ทะเบียนรถเก่าทุกประเภท บ้านและโฉนดที่ดิน 2) สินเชื่อรายย่อยแบบไม่มีหลักประกันภายใต้การกำกับ 3) บริหารสินทรัพย์ 4) รับจ้างติดตามหนี้ 5) บริการที่ปรึกษาและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการทำธุรกิจสินเชื่อ