ชื่อยายอาจฟังดูแรงไปหน่อย แต่แกไม่ได้ทำร้ายใครหรอกค่ะ
ยายอสรพัดพิษคนนี้อยู่หมู่บ้านเดียวกับอาม่าเรา ซึ่งบ้านอยู่ตรงข้ามกันเลย ยายแกเป็นคนเสียงดัง ชอบพูด พูดจริงๆนะ พูดๆๆๆๆๆๆ ไม่เคยฟังคนอื่นเลย เวลาเข้ามาเยี่ยมหาอาม่าเรานะ อาม่าเราเงียบมาก เราได้ยินแต่เสียงยายอสรพัดพิษพูดๆๆๆๆอยู่คนเดียว เราก็ยังแซวอาม่าเราว่านี่ยายอสรพัดพิษเขามาคุยกับใครหรอ
เราเข้าใจว่ายายอสรพัดพิษแกอยู่บ้านคนเดียว แกคงเหงา เพราะลูกชายกับลูกสะใภ้แกออกไปทำงาน ส่วนหลานสาวชั้นประถมก็ไปเรียน คงเหงาปาก เรื่องพูดมากไม่ฟังใครเราก็ไม่ได้ว่าอะไร แค่เล่าให้ฟัง 55
ประเด็นคือ บ้านอาม่าปลูกต้นมะม่วงอยู่สองต้น ทั้งสองต้นอยู่รอดมาจากน้ำท่วมทั้ง 2 รอบ และให้ผลดกงาม และอร่อยสุดๆทั้งแบบเปรี้ยวและเหลืองหวาน ปกติเวลาหน้ามะม่วงออก บ้านเราจะเก็บมะม่วงได้พูนเข่ง เข่งลักษณะกลม ขนาดเท่าเข่งกล้วยเวลาเราไปซื้อตามตลาดผลไม้ตอนจะไปเช็งเม้งอ่ะคะ บางส่วนอาม่าก็สั่งให้ไม่ต้องเก็บ รอให้มันออกเหลืองๆกินหวานๆค่อยเก็บ บางส่วนที่เก็บมาแล้วก็ให้ห่อกระดาษหนังสือพิมพ์บ่มให้เหลือง บางส่วนที่เปลือกเขียว แกก็บอกให้เอาไปแบ่งคนที่ชมรมผู้สูงอายุประจำหมู่บ้าน ซึ่งรวมถึงยายอสรพัดพิษคนนี้ด้วย (โต๊ะชมรมตั้งอยู่ข้างรั้วบ้านอาม่า และทุกคนก็สนิทกับอาม่า แวะไปเวียนมาหากัน เล่าเรื่องโน่นนี่นั่นให้กันฟัง)
ตอนนี้อาม่าเราเสียมาได้ครบปีแล้ว และเมื่อไม่นานมานี้ป้าซึ่งอยู่บ้านเดียวกับอาม่าบอกเราว่า เขาเก็บมะม่วงได้แค่ไม่ถึงครึ่งเข่งเองรอบนี้ มันโดนสอยไปทุกวันๆ บางลูกไม่เก็บเพราะอยากจะรอให้เหลืองหน่อยค่อยเก็บ ก็หายไปซะงั้น อีกอย่างป้าบอกว่า ผู้ใหญ่ที่ชมรมสูงอายุเห็นยายอสรพัดพิษมาเก็บไป เก็บไปเยอะมาก จนเดินเอี้ยงข้าง แล้วก็ล้มลง บางคนยังแซวว่าสงสัยว่าอาม่าผลัก เพราะแกขโมยมะม่วงอาม่า โดยไม่ได้ขออนุญาตเจ้าของก่อน ซึ่งเจ้าของในที่นี้คือป้าของเราแล้ว อย่างน้อยก็ควรจะบอกบ้าง
ป้าเล่าว่า มีอยู่วันนึง ยายอสรพัดพิษแกมาด่อมๆมองๆต้นมะม่วงอยู่หน้าบ้าน ป้าเราเลยตะโกนออกมาจากในบ้านว่า มาหาใคร ยายอสรพัดพิษแกเลยตกใจ แล้วตะโกนกลับมาว่า อ้าว อยู่บ้านด้วยหรอ คืออัลไล??? ป้าเราเลยตะโกนกลับไปว่า ก็อยู่ทุกวันแหละ จะเอาอะไรล่ะ
อีกอย่างนะ เรามีพยานปากสำคัญ ที่บอกได้ว่า ยายอสรพัดพิษมาขโมยมะม่วงหลายครั้งแล้ว ป้าเราเอามะม่วงที่สอยมากไปให้ลูกสะใภ้แก ป้าบอกลูกสะใภ้แกเป็นคนดี พอป้าเอาไปให้ ลูกสะใภ้แกบอกว่า “อร่อยนะ เคยกินบ่อย แม่เขาไปสอยมาให้กินบ่อยๆนะ” OMG!!! ลูกสะใภ้บ้านเดียวกันพูดเองกับปาก นี่ไม่คิดจะบอกแม่ผัวหน่อยหรอว่ามันผิดนะ ไปขโมยของเขาโดยไม่ได้รับอนุญาตนะ
เท่านี้ยังไม่พอ คือเราเข้าใจนะว่า ต้นมะม่วงมันยื่นล้ำออกนอกรั้วบ้านไป แต่ก็ไม่ได้ไปรบกวนบ้านใคร เพราะมันยื่นมาหน้าบ้าน ไม่ใช่บ้านข้างๆ แต่ที่เราไม่เข้าใจคือ ต้นกล้วยหลังบ้าน มันอยู่ในเขตรั้วบ้าน และมันก็ไม่ได้ยื่นออกไปนอกบ้าน ป้าเราบอกว่า วันก่อนยายอสรพัดพิษ แกเดินมาบอกว่า “เมื่อวันก่อนโน้น แกให้ลูกชายแกมาตัวกล้วยในบ้านไปนะ” ห๊ะ กล้วยtooเนี่ยนะ อัลไลเนี่ยย แกบอกอีกว่า “จะเอาไปทำบุญนะ” ซึ่งแกไม่ได้มาขอก่อน แกมาตัดเอาไปดื้อๆเลย แล้วค่อยมาบอก จากนั้นป้าบอกว่า ก็มียายในชมรมผู้สูงอายุบอกว่า “เอาไปทำบุญอะไร เห็นกล้วยตั้งขายอยู่ร้านลูกสะใภ้แกในตลาดโน่น” อะไรเนี่ยยย??
คือเราคิดว่า จะเอาไปทำบุญ ขอเจ้าของก่อนไหม เราเต็มใจให้นะ เพราะมันเยอะ แบ่งให้ได้ แต่นี่ยายเล่นเอาไปทั้งเครือ แถมไม่แบ่งเจ้าของ เอาไปทำบุญจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ ที่เหลือนี่มันขโมยกันชัดๆ
นอกจากมะม่วงกับกล้วยบ้านอาม่าแล้ว บ้านข้างๆก็โดนเหมือน ประมาณว่าลูกชายแกไม่อยากให้ปลูกพวกพืชผักสวนครัว บ้านมีแต่ปลูกดอกไม้ ยายอสรพัดพิษแกเลยไปขโมยผักสวนครัวบ้านข้างมาทำกับข้าวแทน คือจะบอกว่า นี่คุณกำลังบังคับให้แม่คุณเป็นขโมยอยู่นะ คือบ้านก็รวย มีฐานะ ทำไมทำงี้ ถ้าแม่จะต้องขโมยของของคนอื่น ก็ให้แกปลูกผักของแกไปเถอะ จะอะไรนักหน้า มะม่วงเราอยากกินเหลืองๆบ้าง ก็ไม่ได้กิน หายตลอด รอลูกเล็กๆ เล็งแล้วว่าลูกนี้รอให้มันใหญ่อีกหน่อยค่อยเก็บไปกิน หายตลอดๆ จะบอกที่ขโมยไปถ้าเอาไปขายก็หลายพันนะโว้ยย
คือควรจะทำยังไงกับบ้านนี้ ครอบครัวนี้ โดยเฉพาะยายอสรพัดพิษคนนี้ดีคะ
เราเห็นหน้ายายคนนี้ทีไร เราก็นึกถึงอาม่าทุกที ช่วงสุดท้ายของชีวิต แกต้องนอนอยู่แต่กับเตียง เดินไม่ได้ พอยายอสรพัดพิษมาทีไร แกทำได้แค่นอนอยู่บนเตียง หันหัวหนีไปอีกข้าง เดินหนีไม่ได้เหมือนแต่ก่อน ที่แกจะเดินหนีออกไปข้างนอกให้อาหารปลาบ้าง ทั้งๆที่ก็เพิ่งจะให้ไปเอง
ขอวิธีเผ็ดแบบที่ได้ผลชะงัดกับคนแบบนี้ด้วยนะคะ
ขอบคุณค่ะ
ขอแท็ก ศาลาประชาคมนะคะ ปัญหาสังคม เพราะเราเห็นว่ามันเป็นปัญหาเดือดร้อนชาวบ้าน
เราไม่รู้ว่าต้องแท็กอะไรอีก แนะนำได้นะคะ
ยาย(อสรพัด)พิศ ควรจะทำยังไงดีกับยายคนนี้ ขอวิธีแก้เผ็ดที่ได้ผลชะงัดค่ะ
ยายอสรพัดพิษคนนี้อยู่หมู่บ้านเดียวกับอาม่าเรา ซึ่งบ้านอยู่ตรงข้ามกันเลย ยายแกเป็นคนเสียงดัง ชอบพูด พูดจริงๆนะ พูดๆๆๆๆๆๆ ไม่เคยฟังคนอื่นเลย เวลาเข้ามาเยี่ยมหาอาม่าเรานะ อาม่าเราเงียบมาก เราได้ยินแต่เสียงยายอสรพัดพิษพูดๆๆๆๆอยู่คนเดียว เราก็ยังแซวอาม่าเราว่านี่ยายอสรพัดพิษเขามาคุยกับใครหรอ
เราเข้าใจว่ายายอสรพัดพิษแกอยู่บ้านคนเดียว แกคงเหงา เพราะลูกชายกับลูกสะใภ้แกออกไปทำงาน ส่วนหลานสาวชั้นประถมก็ไปเรียน คงเหงาปาก เรื่องพูดมากไม่ฟังใครเราก็ไม่ได้ว่าอะไร แค่เล่าให้ฟัง 55
ประเด็นคือ บ้านอาม่าปลูกต้นมะม่วงอยู่สองต้น ทั้งสองต้นอยู่รอดมาจากน้ำท่วมทั้ง 2 รอบ และให้ผลดกงาม และอร่อยสุดๆทั้งแบบเปรี้ยวและเหลืองหวาน ปกติเวลาหน้ามะม่วงออก บ้านเราจะเก็บมะม่วงได้พูนเข่ง เข่งลักษณะกลม ขนาดเท่าเข่งกล้วยเวลาเราไปซื้อตามตลาดผลไม้ตอนจะไปเช็งเม้งอ่ะคะ บางส่วนอาม่าก็สั่งให้ไม่ต้องเก็บ รอให้มันออกเหลืองๆกินหวานๆค่อยเก็บ บางส่วนที่เก็บมาแล้วก็ให้ห่อกระดาษหนังสือพิมพ์บ่มให้เหลือง บางส่วนที่เปลือกเขียว แกก็บอกให้เอาไปแบ่งคนที่ชมรมผู้สูงอายุประจำหมู่บ้าน ซึ่งรวมถึงยายอสรพัดพิษคนนี้ด้วย (โต๊ะชมรมตั้งอยู่ข้างรั้วบ้านอาม่า และทุกคนก็สนิทกับอาม่า แวะไปเวียนมาหากัน เล่าเรื่องโน่นนี่นั่นให้กันฟัง)
ตอนนี้อาม่าเราเสียมาได้ครบปีแล้ว และเมื่อไม่นานมานี้ป้าซึ่งอยู่บ้านเดียวกับอาม่าบอกเราว่า เขาเก็บมะม่วงได้แค่ไม่ถึงครึ่งเข่งเองรอบนี้ มันโดนสอยไปทุกวันๆ บางลูกไม่เก็บเพราะอยากจะรอให้เหลืองหน่อยค่อยเก็บ ก็หายไปซะงั้น อีกอย่างป้าบอกว่า ผู้ใหญ่ที่ชมรมสูงอายุเห็นยายอสรพัดพิษมาเก็บไป เก็บไปเยอะมาก จนเดินเอี้ยงข้าง แล้วก็ล้มลง บางคนยังแซวว่าสงสัยว่าอาม่าผลัก เพราะแกขโมยมะม่วงอาม่า โดยไม่ได้ขออนุญาตเจ้าของก่อน ซึ่งเจ้าของในที่นี้คือป้าของเราแล้ว อย่างน้อยก็ควรจะบอกบ้าง
ป้าเล่าว่า มีอยู่วันนึง ยายอสรพัดพิษแกมาด่อมๆมองๆต้นมะม่วงอยู่หน้าบ้าน ป้าเราเลยตะโกนออกมาจากในบ้านว่า มาหาใคร ยายอสรพัดพิษแกเลยตกใจ แล้วตะโกนกลับมาว่า อ้าว อยู่บ้านด้วยหรอ คืออัลไล??? ป้าเราเลยตะโกนกลับไปว่า ก็อยู่ทุกวันแหละ จะเอาอะไรล่ะ
อีกอย่างนะ เรามีพยานปากสำคัญ ที่บอกได้ว่า ยายอสรพัดพิษมาขโมยมะม่วงหลายครั้งแล้ว ป้าเราเอามะม่วงที่สอยมากไปให้ลูกสะใภ้แก ป้าบอกลูกสะใภ้แกเป็นคนดี พอป้าเอาไปให้ ลูกสะใภ้แกบอกว่า “อร่อยนะ เคยกินบ่อย แม่เขาไปสอยมาให้กินบ่อยๆนะ” OMG!!! ลูกสะใภ้บ้านเดียวกันพูดเองกับปาก นี่ไม่คิดจะบอกแม่ผัวหน่อยหรอว่ามันผิดนะ ไปขโมยของเขาโดยไม่ได้รับอนุญาตนะ
เท่านี้ยังไม่พอ คือเราเข้าใจนะว่า ต้นมะม่วงมันยื่นล้ำออกนอกรั้วบ้านไป แต่ก็ไม่ได้ไปรบกวนบ้านใคร เพราะมันยื่นมาหน้าบ้าน ไม่ใช่บ้านข้างๆ แต่ที่เราไม่เข้าใจคือ ต้นกล้วยหลังบ้าน มันอยู่ในเขตรั้วบ้าน และมันก็ไม่ได้ยื่นออกไปนอกบ้าน ป้าเราบอกว่า วันก่อนยายอสรพัดพิษ แกเดินมาบอกว่า “เมื่อวันก่อนโน้น แกให้ลูกชายแกมาตัวกล้วยในบ้านไปนะ” ห๊ะ กล้วยtooเนี่ยนะ อัลไลเนี่ยย แกบอกอีกว่า “จะเอาไปทำบุญนะ” ซึ่งแกไม่ได้มาขอก่อน แกมาตัดเอาไปดื้อๆเลย แล้วค่อยมาบอก จากนั้นป้าบอกว่า ก็มียายในชมรมผู้สูงอายุบอกว่า “เอาไปทำบุญอะไร เห็นกล้วยตั้งขายอยู่ร้านลูกสะใภ้แกในตลาดโน่น” อะไรเนี่ยยย??
คือเราคิดว่า จะเอาไปทำบุญ ขอเจ้าของก่อนไหม เราเต็มใจให้นะ เพราะมันเยอะ แบ่งให้ได้ แต่นี่ยายเล่นเอาไปทั้งเครือ แถมไม่แบ่งเจ้าของ เอาไปทำบุญจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ ที่เหลือนี่มันขโมยกันชัดๆ
นอกจากมะม่วงกับกล้วยบ้านอาม่าแล้ว บ้านข้างๆก็โดนเหมือน ประมาณว่าลูกชายแกไม่อยากให้ปลูกพวกพืชผักสวนครัว บ้านมีแต่ปลูกดอกไม้ ยายอสรพัดพิษแกเลยไปขโมยผักสวนครัวบ้านข้างมาทำกับข้าวแทน คือจะบอกว่า นี่คุณกำลังบังคับให้แม่คุณเป็นขโมยอยู่นะ คือบ้านก็รวย มีฐานะ ทำไมทำงี้ ถ้าแม่จะต้องขโมยของของคนอื่น ก็ให้แกปลูกผักของแกไปเถอะ จะอะไรนักหน้า มะม่วงเราอยากกินเหลืองๆบ้าง ก็ไม่ได้กิน หายตลอด รอลูกเล็กๆ เล็งแล้วว่าลูกนี้รอให้มันใหญ่อีกหน่อยค่อยเก็บไปกิน หายตลอดๆ จะบอกที่ขโมยไปถ้าเอาไปขายก็หลายพันนะโว้ยย
คือควรจะทำยังไงกับบ้านนี้ ครอบครัวนี้ โดยเฉพาะยายอสรพัดพิษคนนี้ดีคะ
เราเห็นหน้ายายคนนี้ทีไร เราก็นึกถึงอาม่าทุกที ช่วงสุดท้ายของชีวิต แกต้องนอนอยู่แต่กับเตียง เดินไม่ได้ พอยายอสรพัดพิษมาทีไร แกทำได้แค่นอนอยู่บนเตียง หันหัวหนีไปอีกข้าง เดินหนีไม่ได้เหมือนแต่ก่อน ที่แกจะเดินหนีออกไปข้างนอกให้อาหารปลาบ้าง ทั้งๆที่ก็เพิ่งจะให้ไปเอง
ขอวิธีเผ็ดแบบที่ได้ผลชะงัดกับคนแบบนี้ด้วยนะคะ
ขอบคุณค่ะ
ขอแท็ก ศาลาประชาคมนะคะ ปัญหาสังคม เพราะเราเห็นว่ามันเป็นปัญหาเดือดร้อนชาวบ้าน
เราไม่รู้ว่าต้องแท็กอะไรอีก แนะนำได้นะคะ