ก่อนที่จะนำเสนอเรื่องแกงขาหมูใบชะมวง ขออนุญาตฉายหนังตัวอย่างสักเรื่องหนึ่ง เพราะเหตุการณ์มันต่อเนื่องกัน
ประมาณ 10 โมง ได้รับโทรศัพท์จากหลานชายบอกว่าจะพาแม่กับลูกชายเข้าไปแวะแอ่วหา กะดูเวลาแล้วคิดว่าน่าจะ
ประมาณเที่ยงถึง จึงบอกว่าไม่ต้องแวะกินข้าวที่ไหนให้ตรงมากินข้าวกลางวันที่นี่เลย
แขก 3 คน น่าจะเล่นไม่ยาก มีเวลาเกือบ 2 ชั่วโมง ไปตลาดจัดไก่ติดสะโพก มา 3 ชิ้น 80 บาท อย่างง่ายแต่มั่นใจว่า
ต้องถูกปากถูกใจคนนั่งรถมาเหนื่อย ๆ แน่นอน
ต้มไก่ 2 ชิ้น ผลออกมาเป็นอย่างนี้
หุงข้าวให้ 1 หม้อ สวยใช้ได้
เหลือไก่ 1 ชิ้น สับ ๆ แกงอ่อมไก่ใส่ใบเล็บครุฑ
รู้สึกว่าทุกคนชอบนะ น่าจะถูกปาก ถ้าไปซื้อข้าว 3 กล่องก็น่าจะเป็น 100 เหมือนกัน แต่จะ
ให้ตุ้ม ๆ อย่างนี้คงไม่ เผลอ ๆ ไม่อิ่มด้วยซ้ำ
หลังจากนั้นหลานชายกับลูกชายเขาก็ขึ้นไปทำธุระที่ขุนยวม 163 ก.ม. คงกลับมาประมาณ 5 โมงเย็น
วันนี้ตั้งใจจะแกงใบชะมวงอยู่แล้ว เพราะไปได้มาจากกาดนัดเมื่อวาน ถือโอกาสแกงเลี้ยงแขกซะเลย
ขาหมูขาหลัง 1 ขา 108 บาท แกะเอาแต่เนื้อกระดูกไม่เอา
ประสาเซียนขาหมู ส่วนที่เป็นหนังเอาไปอบให้หนังแห้ง เพื่อความกรุบกรอบตอนแกงสุกและรีดน้ำมันไปในตัว
น้ำพริกแกง ข่า ตะไคร้ หอมแดง (เยอะหน่อย) กระเทียม กะปิ เอาลงผัดน้ำมันไฟอ่อนจนหอม
เอาหมูและหนังหมูลงไปผัดจนหมูหดตัวเติมน้ำขลุกขลิกผัดต่อ
หมูนิ่มแล้วเติมน้ำ เคี่ยวให้เปื่อยนุ่ม วันนี้ใช้บริการหม้อพี่หลี
นี่ไงครับใบชะมวง เคยเห็นเป็นครั้งที่ 2 ในชีวิตและเป็นการแกงครั้งที่ 2 ในชีวิตเหมือนกัน
คราวก่อนแกงใส่ซี่โครง มีหลาย ๆ ท่านบอกว่ามันไม่ใช่ จะให้เจ๋งจริงต้องขาหมู ของคู่กัน
ฉีกเอาแกนกลางออกเตรียมไว้
หมูเริ่มจะเปื่อยดีแล้ว ใส่ใบชะมวงลงไป น้ำแกงจะมีรสเปรี้ยว ตัดด้วยความหวานจากน้ำตาลปึก
ให้ได้รส เปรี้ยว หวาน เค็ม ชิมจนพอใจ แกงต่อไปให้ใบชะมวงนุ่ม แกงนานอย่างไรก็ไม่เละครับ
และแล้ว
เป็นที่ตื่นเต้นทั้งเจ้าของบ้านและแขกที่มาเยี่ยม ซึ่งทุกคนก็ไม่รู้จักและไม่เคยกินมาก่อน ต่างกินเอา ๆ
จนลืมกล้วว่า ขาหมูนะ หนังหมูนะ อ้วนนะ
กินข้าวเสร็จไม่นาน หลังจากแขกกลับไปแล้ว มานั่งเล่นโทรศัพท์เปิดนั่นเปิดนี่ดู บ้านมันสั่นโซฟาที่นั่ง
โยกไปโยกมา รู้ได้ทันทีว่าแผ่นดินไหว แต่คราวนี้รู้สึกว่ามันหนักมาก หนักที่สุดในชีวิตที่เคยเจอมาก็ว่าได้
ซึ่งตอนนี้ทุกท่านที่ติดตามข่าวสารคงทราบกันดีแล้ว
โม้มาอย่างยาว ก็ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามมาจนถึงบรรทัดนี้ สวัสดีครับ
"แกงขาหมูใบชะมวง" แกงหน้าตาดูดี มีสกุล
ประมาณ 10 โมง ได้รับโทรศัพท์จากหลานชายบอกว่าจะพาแม่กับลูกชายเข้าไปแวะแอ่วหา กะดูเวลาแล้วคิดว่าน่าจะ
ประมาณเที่ยงถึง จึงบอกว่าไม่ต้องแวะกินข้าวที่ไหนให้ตรงมากินข้าวกลางวันที่นี่เลย
แขก 3 คน น่าจะเล่นไม่ยาก มีเวลาเกือบ 2 ชั่วโมง ไปตลาดจัดไก่ติดสะโพก มา 3 ชิ้น 80 บาท อย่างง่ายแต่มั่นใจว่า
ต้องถูกปากถูกใจคนนั่งรถมาเหนื่อย ๆ แน่นอน
ต้มไก่ 2 ชิ้น ผลออกมาเป็นอย่างนี้
หุงข้าวให้ 1 หม้อ สวยใช้ได้
เหลือไก่ 1 ชิ้น สับ ๆ แกงอ่อมไก่ใส่ใบเล็บครุฑ
รู้สึกว่าทุกคนชอบนะ น่าจะถูกปาก ถ้าไปซื้อข้าว 3 กล่องก็น่าจะเป็น 100 เหมือนกัน แต่จะ
ให้ตุ้ม ๆ อย่างนี้คงไม่ เผลอ ๆ ไม่อิ่มด้วยซ้ำ
หลังจากนั้นหลานชายกับลูกชายเขาก็ขึ้นไปทำธุระที่ขุนยวม 163 ก.ม. คงกลับมาประมาณ 5 โมงเย็น
วันนี้ตั้งใจจะแกงใบชะมวงอยู่แล้ว เพราะไปได้มาจากกาดนัดเมื่อวาน ถือโอกาสแกงเลี้ยงแขกซะเลย
ขาหมูขาหลัง 1 ขา 108 บาท แกะเอาแต่เนื้อกระดูกไม่เอา
ประสาเซียนขาหมู ส่วนที่เป็นหนังเอาไปอบให้หนังแห้ง เพื่อความกรุบกรอบตอนแกงสุกและรีดน้ำมันไปในตัว
น้ำพริกแกง ข่า ตะไคร้ หอมแดง (เยอะหน่อย) กระเทียม กะปิ เอาลงผัดน้ำมันไฟอ่อนจนหอม
เอาหมูและหนังหมูลงไปผัดจนหมูหดตัวเติมน้ำขลุกขลิกผัดต่อ
หมูนิ่มแล้วเติมน้ำ เคี่ยวให้เปื่อยนุ่ม วันนี้ใช้บริการหม้อพี่หลี
นี่ไงครับใบชะมวง เคยเห็นเป็นครั้งที่ 2 ในชีวิตและเป็นการแกงครั้งที่ 2 ในชีวิตเหมือนกัน
คราวก่อนแกงใส่ซี่โครง มีหลาย ๆ ท่านบอกว่ามันไม่ใช่ จะให้เจ๋งจริงต้องขาหมู ของคู่กัน
ฉีกเอาแกนกลางออกเตรียมไว้
หมูเริ่มจะเปื่อยดีแล้ว ใส่ใบชะมวงลงไป น้ำแกงจะมีรสเปรี้ยว ตัดด้วยความหวานจากน้ำตาลปึก
ให้ได้รส เปรี้ยว หวาน เค็ม ชิมจนพอใจ แกงต่อไปให้ใบชะมวงนุ่ม แกงนานอย่างไรก็ไม่เละครับ
และแล้ว
เป็นที่ตื่นเต้นทั้งเจ้าของบ้านและแขกที่มาเยี่ยม ซึ่งทุกคนก็ไม่รู้จักและไม่เคยกินมาก่อน ต่างกินเอา ๆ
จนลืมกล้วว่า ขาหมูนะ หนังหมูนะ อ้วนนะ
กินข้าวเสร็จไม่นาน หลังจากแขกกลับไปแล้ว มานั่งเล่นโทรศัพท์เปิดนั่นเปิดนี่ดู บ้านมันสั่นโซฟาที่นั่ง
โยกไปโยกมา รู้ได้ทันทีว่าแผ่นดินไหว แต่คราวนี้รู้สึกว่ามันหนักมาก หนักที่สุดในชีวิตที่เคยเจอมาก็ว่าได้
ซึ่งตอนนี้ทุกท่านที่ติดตามข่าวสารคงทราบกันดีแล้ว
โม้มาอย่างยาว ก็ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามมาจนถึงบรรทัดนี้ สวัสดีครับ