สุขสันต์วัน Star Wars ครับ May the 4th be with you
Part สุดท้ายแล้ว กระทู้ Part 1 1.5 และ 2 ตามลิงค์นี้นะครับ
http://ppantip.com/topic/31985827
http://ppantip.com/topic/31988937
http://ppantip.com/topic/31990035
...ความเดิมตอนที่แล้ว...
ตัวอย่างของเวเดอร์ได้ทำลายข้อจำกัดที่คนๆหนึ่งจะอยู่ทั้งด้านมืดและด้านสว่าง อีกทั้งยังทำให้การเป็นเจไดหรือซิธนั้น...ไม่สำคัญเท่าตัวตนภายในที่คนๆหนึ่งเลือกจะเป็น เราจึงกล่าวได้ว่าดาร์ธเวเดอร์คือต้นแบบของการเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างเจไดและซิธ ซึ่งถือเป็นการนำสมดุลมาสู่พลัง
In the time of greatest despair,
a child shall be born
who will destroy the Sith
and bring balance to the Force.
ในยุคแห่งวิกฤตกาล
เด็กผู้หนึ่งจะถือกำเนิด
ผู้ที่จะทำลายซิธ
และนำสมดุลมาสู่พลัง
นี่ดูจะทำให้ "คำทำนาย" ของอนาคิน/ดาร์ธเวเดอร์มีความหมายลึกซึ้งกว่าแค่การเขวี้ยงคนแก่ลงไปในห้องเครื่องสถานีอวกาศเยอะเลย
และเมื่อลองคิดกันจริงๆ คำทำนาย
"ผู้ที่จะทำลายซิธและนำสมดุลมาสู่พลัง" นั้นค่อนข้างจะขัดแย้งในตัวมันเองอยู่มาก เพราะการจะมี
"สมดุล" ได้ คุณจำเป็นต้องมีด้านตรงข้ามของ 2 สิ่ง ฉะนั้นการทำลายซิธจึงไม่ใช่การสร้างสมดุล แต่เป็นการลำเอียงไปทางด้านใดด้านหนึ่งมากกว่า
แต่!! หากการทำลายซิธ(พัลพาทีน)ของเวเดอร์นั้นเป็นตัวเบิกทางเพื่อนำมาสู่การประณีประนอมจนไปถึงความปรองดองของ 2 ฝั่ง ทำให้เจไดและซิธสามารถอยู่ร่มกันในฐานะผู้เรียนรู้วิถีแห่งพลังได้โดยไม่แบ่งแยกกีดกัน กรณีนี้ก็จะถือว่าดาร์ธเวเดอร์ได้ทำลายซิธ และนำสมดุลมาสู่พลังอย่างแท้จริง
7.ความหมายแฝงของ "บาเรีย"
กลับมาพูดถึงบทบาทของบาเรียจักรวาล การทำลายบาเรียนี้จะสื่อความหมายแฝงอีกอย่างของการ
ทำลายกำแพงในจิตใจของแต่ละคน เมื่อถึงจุดที่เจไดหรือซิธต้องพัฒนาความเข้าใจต่อสัจธรรมให้ก้าวผ่านการ
"แค่ทำตามกฎ(Code)หรือคำสอน" ไปสู่การเข้าใจหลักคุณธรรมจริยธรรมอย่างแท้จริง และสามารถตัดสินใจกระทำสิ่งที่เหมาะสมได้ในทุกสถานการณ์
เช่นนั้น การทำลายบาเรียอวกาศเพื่อให้จักรวาลพัฒนาไปอีกขั้นหนึ่ง จะเป็นเหมือนเงาของสะท้อนของการที่คนแต่ละคนทำลายกำแพงในตนเองและพัฒนาจิตใจให้สูงขึ้น นี่จะเป็นแง่คิดที่เหมาะกับการปิดฉากไตรภาค Star Wars คือการเข้าถึงสัจธรรมของ "ความดี-ความชั่ว" อย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่การสู้รบจนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งพ่ายแพ้ แต่คือการยอมรับและเข้าใจกันและกัน มองตัวเองได้ มองผู้อื่นออก นำพาแนวคิดและคำสอนทางจิตวิญญาณไปสู่ขอบเขตใหม่ เช่นเดียวกับจักรวาลที่รวมเป็นหนึ่งเดียวกับพลัง(Force)
8.ตัวจริงของเหล่าเอเลี่ยนลึกลับ
ณ จุดนี้หลายๆคนอาจจะพอเดาได้อยู่แล้ว แต่เผื่อใครที่ยังนึกไม่ออก ให้ลองนึกย้อนไปตอนที่โอบีวันตาย แล้วกลับมาปรากฏตัวอีกครั้งในร่างวิญญาณสีฟ้า ตอนที่โยดาตายแล้วกลับมาปรากฏตัวอีกครั้งในร่างวิญญาณสีฟ้า ตอนที่ดาร์ธเวเดอร์ตายแล้วกลับมาปรากฏตัวอีกครั้งในร่างวิญญาณสีฟ้า...
จุดหักมุมของไตรภาค 7-8-9 ก็คือ เอเลี่ยนร่างพลังงานเหล่านั้น...ไม่ใช่เอเลี่ยนสายพันธุ์ใหม่ แต่เป็น
เหล่าเจไดและซิธจากทุกยุคทุกสมัย ที่ก่อนตายได้เข้าถึงความลับของการมีชีวิตอยู่หลังความตายและการสร้างสมดุลระหว่างความมืดกับแสงสว่าง จึงได้ร่วมกันปรากฏตัวในยุคสุดท้ายนี้เพื่อขับเคลื่อนเหตุการณ์ต่างๆ นำพาเจไดและซิธรุ่นใหม่มาร่วมมือกัน ให้เป็นไปตามเจตจำนงค์ของพลัง บาเรียจะถูกทำลาย และจักรวาลได้เข้าสู่ยุคที่สงบสุขโดยแท้จริง
-The End-
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
จบแล้วนะครับ สำหรับ Star Wars ในเวอร์ชั่นของคุณ Banditincorporated ใครสนใจไปหาดูเวอร์ชั่นเต็มจากคลิปนี้เลยครับ(ในบทแปลนี้ผมข้ามหลายตอนหลายช่วงไปพอสมควร)
ขอบคุณสำหรับการติดตามชมครับ สนใจพูดคุยถกเถียงกันประเด็นไหนก็คอมเมนต์ได้ตามสะดวกเลยนะครับ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
[กระทู้วิเคราะห์-กึ่ง-Fanfic] เนื้อเรื่องของ Star Wars : VII ควรเป็นอย่างไร?[Part 3]
Part สุดท้ายแล้ว กระทู้ Part 1 1.5 และ 2 ตามลิงค์นี้นะครับ
http://ppantip.com/topic/31985827
http://ppantip.com/topic/31988937
http://ppantip.com/topic/31990035
...ความเดิมตอนที่แล้ว...
ตัวอย่างของเวเดอร์ได้ทำลายข้อจำกัดที่คนๆหนึ่งจะอยู่ทั้งด้านมืดและด้านสว่าง อีกทั้งยังทำให้การเป็นเจไดหรือซิธนั้น...ไม่สำคัญเท่าตัวตนภายในที่คนๆหนึ่งเลือกจะเป็น เราจึงกล่าวได้ว่าดาร์ธเวเดอร์คือต้นแบบของการเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างเจไดและซิธ ซึ่งถือเป็นการนำสมดุลมาสู่พลัง
In the time of greatest despair,
a child shall be born
who will destroy the Sith
and bring balance to the Force.
ในยุคแห่งวิกฤตกาล
เด็กผู้หนึ่งจะถือกำเนิด
ผู้ที่จะทำลายซิธ
และนำสมดุลมาสู่พลัง
นี่ดูจะทำให้ "คำทำนาย" ของอนาคิน/ดาร์ธเวเดอร์มีความหมายลึกซึ้งกว่าแค่การเขวี้ยงคนแก่ลงไปในห้องเครื่องสถานีอวกาศเยอะเลย
และเมื่อลองคิดกันจริงๆ คำทำนาย "ผู้ที่จะทำลายซิธและนำสมดุลมาสู่พลัง" นั้นค่อนข้างจะขัดแย้งในตัวมันเองอยู่มาก เพราะการจะมี "สมดุล" ได้ คุณจำเป็นต้องมีด้านตรงข้ามของ 2 สิ่ง ฉะนั้นการทำลายซิธจึงไม่ใช่การสร้างสมดุล แต่เป็นการลำเอียงไปทางด้านใดด้านหนึ่งมากกว่า
แต่!! หากการทำลายซิธ(พัลพาทีน)ของเวเดอร์นั้นเป็นตัวเบิกทางเพื่อนำมาสู่การประณีประนอมจนไปถึงความปรองดองของ 2 ฝั่ง ทำให้เจไดและซิธสามารถอยู่ร่มกันในฐานะผู้เรียนรู้วิถีแห่งพลังได้โดยไม่แบ่งแยกกีดกัน กรณีนี้ก็จะถือว่าดาร์ธเวเดอร์ได้ทำลายซิธ และนำสมดุลมาสู่พลังอย่างแท้จริง
7.ความหมายแฝงของ "บาเรีย"
กลับมาพูดถึงบทบาทของบาเรียจักรวาล การทำลายบาเรียนี้จะสื่อความหมายแฝงอีกอย่างของการ ทำลายกำแพงในจิตใจของแต่ละคน เมื่อถึงจุดที่เจไดหรือซิธต้องพัฒนาความเข้าใจต่อสัจธรรมให้ก้าวผ่านการ"แค่ทำตามกฎ(Code)หรือคำสอน" ไปสู่การเข้าใจหลักคุณธรรมจริยธรรมอย่างแท้จริง และสามารถตัดสินใจกระทำสิ่งที่เหมาะสมได้ในทุกสถานการณ์
เช่นนั้น การทำลายบาเรียอวกาศเพื่อให้จักรวาลพัฒนาไปอีกขั้นหนึ่ง จะเป็นเหมือนเงาของสะท้อนของการที่คนแต่ละคนทำลายกำแพงในตนเองและพัฒนาจิตใจให้สูงขึ้น นี่จะเป็นแง่คิดที่เหมาะกับการปิดฉากไตรภาค Star Wars คือการเข้าถึงสัจธรรมของ "ความดี-ความชั่ว" อย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่การสู้รบจนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งพ่ายแพ้ แต่คือการยอมรับและเข้าใจกันและกัน มองตัวเองได้ มองผู้อื่นออก นำพาแนวคิดและคำสอนทางจิตวิญญาณไปสู่ขอบเขตใหม่ เช่นเดียวกับจักรวาลที่รวมเป็นหนึ่งเดียวกับพลัง(Force)
8.ตัวจริงของเหล่าเอเลี่ยนลึกลับ
ณ จุดนี้หลายๆคนอาจจะพอเดาได้อยู่แล้ว แต่เผื่อใครที่ยังนึกไม่ออก ให้ลองนึกย้อนไปตอนที่โอบีวันตาย แล้วกลับมาปรากฏตัวอีกครั้งในร่างวิญญาณสีฟ้า ตอนที่โยดาตายแล้วกลับมาปรากฏตัวอีกครั้งในร่างวิญญาณสีฟ้า ตอนที่ดาร์ธเวเดอร์ตายแล้วกลับมาปรากฏตัวอีกครั้งในร่างวิญญาณสีฟ้า...
จุดหักมุมของไตรภาค 7-8-9 ก็คือ เอเลี่ยนร่างพลังงานเหล่านั้น...ไม่ใช่เอเลี่ยนสายพันธุ์ใหม่ แต่เป็นเหล่าเจไดและซิธจากทุกยุคทุกสมัย ที่ก่อนตายได้เข้าถึงความลับของการมีชีวิตอยู่หลังความตายและการสร้างสมดุลระหว่างความมืดกับแสงสว่าง จึงได้ร่วมกันปรากฏตัวในยุคสุดท้ายนี้เพื่อขับเคลื่อนเหตุการณ์ต่างๆ นำพาเจไดและซิธรุ่นใหม่มาร่วมมือกัน ให้เป็นไปตามเจตจำนงค์ของพลัง บาเรียจะถูกทำลาย และจักรวาลได้เข้าสู่ยุคที่สงบสุขโดยแท้จริง
-The End-
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
จบแล้วนะครับ สำหรับ Star Wars ในเวอร์ชั่นของคุณ Banditincorporated ใครสนใจไปหาดูเวอร์ชั่นเต็มจากคลิปนี้เลยครับ(ในบทแปลนี้ผมข้ามหลายตอนหลายช่วงไปพอสมควร)
ขอบคุณสำหรับการติดตามชมครับ สนใจพูดคุยถกเถียงกันประเด็นไหนก็คอมเมนต์ได้ตามสะดวกเลยนะครับ