อะไรคือสมดุลของพลังในสตาร์วอรส์

“เจ้าคือผู้ถูกเลือก เจ้าควรทำลายล้างพวกซิธ ไม่ใช่เข้าร่วม นำสมดุลมาสู่พลัง ไม่ใช่ทิ้งไว้ในความมืด” -Obi Wan Kenobi (EP.III)
แน่นอนว่าแฟนๆที่ติดตามมหากาพย์สตาร์วอร์สมาช้านานย่อมต้องคุ้นเคยกันดีกับคำว่า สมดุลของพลัง ที่ถูกกล่าวถึงในแทบจะทุกๆภาค แต่แท้จริงแล้วอะไรคือสมดุล ? 

ถ้าเราเชื่อการตีความตามคำพยากรณ์โบราณแบบดั่งเดิมของเจได ที่อาจารย์ไควกอนจินได้มองเห็นว่าอนาคินคือผู้นำสมดุลคืนสู่พลัง ใช่ มันอาจถูก เพราะหลังจากที่อนาคินก้าวเข้าสู่ด้านมืดและกวาดล้างเจไดจนหมดสิ้นไปจากจักรวาล นั่นทำให้เหลือเพียงดาร์ธเวเดอร์ (อนาคิน) และดาร์ธซีเดียส ที่เป็นซิท กับ โอบีวันและโยดาที่เป็นฝั่งของเจได เบ็ดเสร็จเป็นจำนวน 2-2 ซึ่งจะเรียกว่าสมดุลก็ได้ จวบจนในตอนสุดท้าย ที่อนาคินกลับเข้าสู่ด้านสว่างของเจไดและฆ่าดาร์ธซีเดียสแล้วสิ้นใจไป นั่นกลับทำให้ลุคกลายเป็นเจไดคนสุดท้าย (ในขณะนั้น) นั่นทำให้สมดุลของพลัง ไม่สมดุลอีกครั้ง เพราะมีเจได 1 แต่ซิท 0 แสดงว่า การตีความคำพยากรณ์ของเหล่าเจไดผิดงั้นเหรอ? 

"คำพยากรณ์อาจถูก ตีความผิด" -Master Yoda (EP.III)

ใช่ มันอาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้ ในไตรภาคเดิมและไตรภาคเก่า (EP.I - EP.VI) ที่ทำให้เราเชื่อว่าสมดุลคือการที่อนาคินสามารถทำลายล้างซิธลงได้หมดและนำสมดุลกลับสู่พลัง แต่ก็อย่างที่กล่าวไปข้างต้น สุดท้ายแล้วเหลือแต่ลุคที่เป็นเจได แต่ไม่มีซิทอีกแล้ว นี่ไม่ใช่สมดุล จนกระทั่งเรื่องราวดำเนินต่อไปจนเข้าสู่ EP.VII ที่ได้แสดงให้เราเห็นว่าบัดนี้ผู้ใช้พลังด้านมืดได้ปรากฏตัวขึ้นมาในจักรวาลอีกครั้ง นั่นคือสโน้ก และ ไคโรเรน อดีตเจไดฝึกหัดของลุค ที่ถูกชักจูงเข้าด้านมืดจากทั้งสโน้ก และตัวของลุคเอง นั่นทำให้สมดุลของพลังกลับมาสั่นคลอนอีกครั้ง เพราะตอนนี้มีด้านมืด 2 และด้านสว่าง 1 คือตัวลุค เจไดคนสุดท้าย 
 

แล้วอะไรกันแน่คือสมดุล จากจุดนี้ไปคือการตีความหมายของคำว่าสมดุลของพลังจากตัวผู้เขียน 

ย้อนกลับไปยังคำทำนาย ว่าอนาคินคือผู้ที่ถูกเลือก จะทำลายล้างซิท และนำสมดุลคืนสู่พลัง บวกกับคำพูดของโยดาในภาคที่ 3 ว่า พวกเราเองต่างหากที่ตีความของคำพยากรณ์ผิด โยดาอาจคิดถูกจริงตามนั้นก็ได้ นั่นก็เพราะ อนาคินคือผู้ทำลายล้างซิท อันนี้จริง เพราะดาร์ธเวเดอร์กับดาร์ธซีเดียสคือซิทสองคนสุดท้ายในจักรวาล ที่ตัวซีเดียสถูกอนาคินที่กลับใจฆ่าตาย ส่วนเวเดอร์ก็ตายลง ณ วินาทีที่อนาคินได้สติ ตอนนี้อนาคินได้เติมเต็มคำพยากรณ์ในส่วนการทำลายล้างซิทไปเรียบร้อย แล้วเรื่องนำสมดุลคืนสู่พลังละ? จริงๆแล้วความสมดุล (balance) ในสตาร์วอร์ส มันอาจไม่สามารถตีความเป็น "จำนวน" ได้นะ เพราะอะไร เพราะตราบใดที่มีแสงสว่างก็ย่อมมีความมืด อย่างใน EP.VII,VIII ที่แสดงให้เห็นว่าลุคผู้เป็นแสงสว่าง ได้ให้กำเนิดความมืดขึ้นมาใหม่ในคราบของไคโรเรน ที่ไม่ได้เรียกตัวเองว่าซิท แต่เรียกว่าเป็นอัศวินแห่งเรน (Knight of Ren) ที่นำโดยสโน้ค (เพราะซิทถูกอนาคินทำลายไปแล้ว) เพราะฉะนั้น หากเราตีความหมายของคำพยากรณ์ในเชิงนามธรรมอย่างจำนวน มันจะไม่มีวันเรียกว่าสมดุลได้เลย เราต้องตีความมันใหม่ในรูปของนามธรรม ว่าจริงๆแล้วสมดุลของพลัง คือการที่ผู้ใช้พลังสามารถเข้าใจพลังทั้งด้านสว่างและด้านมืดได้อย่างถ่องแท้เสียมากกว่า ซึ่งตัวอย่างของผู้ใช้พลังดังกล่าว ได้แก่ เรย์ เด็กสาวบ้านนอกนักเก็บขยะที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ถูกดึงเข้ามาพัวพันในสงครามและพบว่าตัวเองสามารถใช้พลังแบบเดียวกับเจไดได้จึงได้ตามหาลุคที่เป็นเจไดคนสุดท้ายเพื่อให้ฝึกปรือวิชาให้ ซึ่ง ณ วิหารเจได้ที่เรย์ได้ฝึกกับลุค เรย์ได้ค้นพบสัจธรรมข้อนึงว่า จริงๆแล้วด้านมืดของพลังไม่ใช่สิ่งอันตราย ไม่ใช่สิ่งต้องห้าม แต่เป็นเจไดเองต่างหากที่นิยามตนเองว่าคือแสงสว่างเสียจนเกลียดชังความมืด นั่นแหละคือสมดุลของพลัง แบบเดียวกับหยินและหยาง ที่ได้แสดงถึงความเท่ากันของสีขาวและดำ
 
ส่วนอีกคนก็คือไคโรเรน เด็กชายผู้น่าสงสาร ผู้ที่จะโดนลุงแท้ๆของตัวเองฆ่า (ลุค) เพราะหวาดกลัวต่อความมืดที่ก่อตัวในจิตใจของไคโรเรน นั่นทำให้เค้าเลือกที่จะเดินไปหาสโน้ค เลือกที่จะเข้าสู่ด้านมืดของพลัง แต่ตัวเขาเองกลับพบว่ายังคงมีความขัดแย้งอยู่ภายในใจลึกๆ ซึ่งตัวสโน้กเองรู้ดีจึงให้ไคโรเรนสังหารฮันโซโลพ่อแท้ๆของตัวเอง เพื่อทำให้ไคโรเรนดำดิ่งสู่ความมืดโดยสมบูรณ์ใน EP.VII แต่ถึงแม้ไคโรเรนจะทำได้สำเร็จ ตัวเค้าเองก็ยังคงมีความขัดแย้งอยู่ สังเกตได้จากใน EP.VIII ที่เค้าไม่สามารถลงมือฆ่าแม่ของตัวเองได้ (เลอา) นั่นทำให้เรย์ มองเห็นความสว่างที่เหลืออยู่ในใจชายผู้น่าสงสารคนนี้ 

ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วผมมองว่าสองคนนี้แหละ คือตัวแทนของคำว่าสมดุลแห่งพลัง เจไดที่ไม่กลัวและยอมรับที่ใช้ยืมพลังจากด้านมืดอย่างเรย์ และผู้ใช้ด้านมืดของพลังที่มีความสว่างอยู่ในจิตใจลึกๆอย่างไคโรเรน นี่อาจคือความหมายที่แท้จริงของคำพยากรณ์ 

แล้วอนาคินมาเกี่ยวอะไรตรงนี้?

อนาคินคือคนแรกที่แสดงให้เราเห็นว่า แม้แต่ดาร์ธเวเดอร์ผู้เหี้ยมโหดก็ยังมีความสว่างในจิตใจและสามารถหวนคืนสู่ด้านสว่างของเจไดได้ ในตอนที่เค้าตัดสินใจที่จะช่วยชีวิตลูกชาย ที่โชว์เท่ต่อหน้าดาร์ธซีเดียสจนโดนไฟดูดเกือบตาย นอกจากนั้นแล้ว ไคโรเรนหรือชื่อจริง เบนโซโล ก็ถือเป็นผู้สืบทอดสายเลือดของอนาคิน เพราะแม่ของเค้าคือเลอาลูกสาวของอนาคิน นั่นทำให้อนาคินคือบุคคลในคำทำนายอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะคำว่านำสมดุลคืนสู่พลังในความหมายของคำทำนาย คือการที่ผู้ใช้พลังสามารถเลือกเส้นทางเดินได้ว่าจะใช้ด้านมืดหรือด้านสว่างได้อย่างอิสระไม่ยึดติดกับธรรมเนียมโบราณอย่างเจไดหรือซิทอีกต่อไป เพราะตราบใดที่มีแสงสว่างก็ย่อมมีเงามืด ไม่มีใครที่จะเป็นแสงสว่างที่จะขาวที่สุดหรือความมืดที่จะดำที่สุดได้ การหลอมรวมความสว่างและมืดเข้าเป็นหนึ่งเดียวนั่นแหละคือสมดุลของพลัง ที่ตัวอนาคินเองก็ยังแสดงจุดนี้ออกมาไม่ชัดเจนนัก แต่มันกลับมาแสดงให้เราได้เห็นอีกครั้งในรุ่นหลานอย่างไคโรเรน และเรย์ ที่ก็ยังไม่รู้เป็นใครมาจากไหนแต่พวกเค้าไม่กลัวที่จะเข้าใจและก้าวเข้าหาพลังในด้านตรงข้ามของตัวเอง โดยสุดท้ายนี้การตีความในเรื่องสมดุลของตัวผู้เขียนจะถูกต้องหรือไม่อย่างไร ก็เป็นแค่เพียงการตีความจากมุมมองของผู้เขียนเท่านั้น

18 ธันวาคมนี้ เจอกันในโรงภาพยนตร์นะคร้าบ 

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่