ของสอบถามอาจารย์ทั้งหลายเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลังวิกฤติหนี้สาธารณะยูโรโซน

นับตั้งแต่เลห์แมนบาร์เธอร์สประกาศล้มละลายในปี  2551  สร้างความปั่นป่วนแก่ระบบการเงินโลก  ส่งผลให้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอยและรัฐบาลประเทศต่างๆต้องใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลากหลายรูปแบบ  ทั้งการลดดอกเบี้ย  อัดฉีดสภาพคล่อง กระตุ้นการบริโภค และการลงทุนภายในประเทศ  ทำให้ประเทศต่างๆต้องตั้งงบประมาณขาดดุลเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการกระตุ้นเศรษฐกิจและมีการกู้เงินจำนวนมากเพื่อมาใช้ในการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ  ทำให้หนี้สาธารณะเพิ่มสูงขึ้นเกินกว่าระดับปกติ  และเป็นภาระของแต่ละประเทศที่จะต้องหาเงินมาชำระหนี้จำนวนมหาศาลให้ทันเวลา
    สถานการณ์หนี้สาธารณะของประเทศก็เป็นเช่นเดียวกับหนี้ของบริษัทและคนทั่วไป  ถ้ามีความสามารถในการหารายได้และมีโครงสร้างทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งก็ไม่มีปัญหาในการชำระคืนหนี้  แต่ถ้ามีข้อจำกัดในการหารายได้และมีโครงสร้างทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอ  ภาระหนี้สินจำนวนมหาศาลก็จะทำให้ล้มละลายได้  กรณีนี้ได้เกิดขึ้นกับกลุ่มประเทศยุโรปที่มีหนี้สาธารณะอยู่ในระดับสูง  โดยกรีซเป็นประเทศแรกในกลุ่มที่เกิดวิกฤติ  เหตุการณ์นี้ได้สร้างความวิตกกังวลให้แก่นักลงทุนว่าสถานการณ์จะลุกลามไปยังประเทศอื่นๆในกลุ่มยุโรปที่มีโครงสร้างเศรษฐกิจที่อ่อนแอ  โดยเฉพาะกลุ่ม  PIIGS  ที่ใช้สกุลเงินยูโร  เช่น  โปรตุเกส  ไอร์แลน  อิตาลี่  สเปน  ฮังการี่  และบัลแกเรีย
    สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ  GDP  ของประเทศที่ประสบปัญหา  กรีซ 130%  โปรตุเกส 76%  ไอร์แลน 64%  สเปน 55%
    สัดส่วนหนี้สินระยะสั้นที่ต้องชำระคืนภายใน 1 ปี  ต่อหนี้สินทั้งหมด  ของประเทศที่ประสบปัญหา  กรีซ 24%  โปรตุเกส 17%  ไอร์แลน 8%  สเปน 6.8%  
    สัดส่วนการขาดดุลการคลังต่อ  GDP  ของประเทศที่ประสบปัญหา  กรีซ 12.7%  ไอร์แลน 11.6%  สเปน 11.4%  โปรตุเกส 9.3%    
    สัดส่วนการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดต่อ  GDP  ของประเทศที่ประสบปัญหา  กรีซ 11.9%  โปรตุเกส 10%  สเปน 6%   ไอร์แลน 3%
    อัตราการว่างงานของกลุ่มประเทศยูโรโซนในปี 2553 ปรับตัวสูงขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 10% โดยประเทศสมาชิกยูโรโซนที่มีอัตราการว่างงานสูงที่สุด เช่น สเปน 22.5% ลัตเวีย 19.7% เอสโตรเนีย 19% โดยปัจจัยหลักที่ส่งผลให้ระดับการว่างงานสูง คือ การหดตัวของภาคการผลิตในแต่ละประเทศสมาชิก
เมื่อวิกฤติหนี้สาธารณะยูโรโซนเกิดขึ้น หลายประเทศโดยเฉพาะประเทศที่มีสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP เกินกว่าระดับขั้นสูงที่เหมาะสม คือ เกิน 60% ของ GDP  ได้ตื่นตัวที่จะดำเนินนโยบายการคลังเพื่อลดการใช้จ่ายของรัฐบาล และเพิ่มรายได้ภาษีอากรเพื่อลดการขาดดุลงบประมาณ เช่น ญี่ปุ่นมีหนี้สาธารณะสูงถึง 200% ของ GDP นับว่าสูงกว่ากรีซมาก แต่ญี่ปุ่นมีข้อได้เปรียบกรีซเพราะที่ผ่านมาญี่ปุ่นเกินดุลบัญชีเดินสะพัดมาอย่างต่อเนื่อง และผู้เป็นเจ้าหนี้สาธารณะเกือบทั้งหมดคือประชาชนในประเทศ ในช่วงกลางเดือนมิถุนายน 2553 รัฐบาลญี่ปุ่นได้ประกาศจำกัดงบประมาณรายจ่ายในช่วง 3 ปีข้างหน้าที่ 71,000,000 พันล้านเยน หรือ 781 พันล้านเหรียญสหรัฐ และเพิ่มภาษี
ประเทศอังกฤษซึ้งประสบปัญหาขาดดุลงบประมาณจำนวนมาก เดือนมิถุนายน 2553รัฐบาลอังกฤษได้ประกาศปรับลดงบประมาณรายจ่ายลง 17.7 พันล้านปอน และเพิ่มอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มจาก 17.5% เป็น 20% ในเดือนมกราคม 2554 และจะค่อยๆลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลลงจาก 28% เหลือ 24% โดยทยอยลดเป็นเวลา 4 ปี
ประเทศเยอรมนีซึ้งเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในยุโรป เดือนมิถุนายน 2553 รัฐบาลเยอรมนีได้ประกาศลดงบประมาณรายจ่างลง 80,000 ล้านยูโร ในปี 2557 ประกอบด้วย มาตรการต่างๆ ดังนี้ ลดเงินช่วยเหลือผู้ปกครองในการดูแลบุตรลง ลดจำนวนข้าราชการลง 15,000 คน และชะลอการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่
ประเทศฝรั่งเศสซึ้งเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ในยุโรป ขาดดุลงบประมาณ 8% และคาดว่าหนี้สาธารณะจะเพิ่มขึ้นเป็น 83.2% ของ GDP และรัฐบาลฝรั่งเศสได้ประกาศแผนลดการขาดดุลงบประมาณลงให้เหลือ 3% ในปี 2558 โดยปรับลดการใช้จ่ายในด้านต่างๆลง โดยเฉพาะการเพิ่มอายุการเกษียณ จาก 60 ปี เป็น 63 ปี
ประเทศอิตาลีซึ้งมีหนี้สาธารณะสูงถึง 118% ของ GDP แม้ว่าตัวเลขขาดดุลงบประมาณค่อนข้างต่ำ เพียง 5.3% ของ GDP เมื่อปี 2552 แต่รัฐบาลอิตาลีก็ได้เห็นชอบกับการลดการขาดดุลงบประมาณลงให้เหลือไม่เกิน 3% ของ GDP ภายในปี 2555 ประกอบด้วยมาตรการต่างๆ ดังนี้ การลดเงินเดือนรัฐมาตรีและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรลง 10% ลดการจ่ายเงินอุดหนุนให้กับรัฐบาลท้องถิ่น และกำหนดว่าจ้างข้าราชการใหม่เป็นสัดส่วนเพียง 20% ของข้าราชการที่ออกไปในช่วงปี 2554 - 2556

ผมขอสอบถามท่านอาจารย์ทั้งหลายว่าหลังการซบเซาของเศรษฐกิจกลุ่ม PIIGS อันมาจากปัญหาหนี้สาธารณะ ประกอบกับการลดอัตราการใช้จ่ายงบประมาณของแต่ละประเทศ กลุ่มยูโรโซนมีการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างไรครับ และมาตรการที่ไช้กระตุ้นเศรษฐกิจส่งผลอย่างไรต่อกลุ่ม PIIGS ครับผม

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่