ความสับสนมันมาจากการที่พี่เราจากไป ทำให้ทุกคนตั้งความหวังกับเราแทน ทั้งที่เมื่อก่อนไม่ค่อยมีใครสนใจเราเท่าไหร เค้าจะให้ความสำคัญกับพี่เราซะมาก เพราะเป็นคนเรียนเก่ง ภาษาก็ดี ตรงกันข้ามกับเรามากๆเลย พี่เราขออะไรก็ได้ ได้หมดทุกอย่างจริงๆ เราเองกลับไม่กล้าขอแม่ เราไม่ได้อวยตัวเองนะแค่สงสารแม่(พ่อกับแม่เราเลิกกัน) เพราะพี่เราขอเยอะมากจริงๆแล้วแม่เราก็ไม่มีมากพอสำหรับลูกสองคนในเวลาเดียวกัน เราจึงใช้ชีวิตในแบบของเรารีบๆเรียนให้จบหางานทำภายใน4ปี ในขณะที่พี่เรากว่าจะจบ6ปี ไม่พอต่อโทก็เรียนไม่จบเสียเงินฟรีๆไปเป็นแสนๆ เราอยากเรียนโทเหมือนกันแต่ไม่กล้าขอเงินแม่ ตอนนี้พี่เราไม่อยู่แล้วมันก็เรื่องทรัพย์สินของเค้าพวกประกันต่างๆ พี่เราเขียนให้พ่อด้วย แต่ด้วยกฎหมายไม่เขียนพ่อก็มีสิทธิเรียกร้องได้ แม่เราก็โกรธนะตอนรู้เรื่อง แม่เราเค้าก็ว่าพ่อไม่เคยมาเลี้ยงดูยังจะมาเอาเงินไปอีก เราคนกลางทำตัวไม่ถูกเลยจริงๆ แม่พูดมาคำนึงตอนพ่อขอโทษเรื่องไม่ได้เลี้ยงดูเรากับพี่ แม่พูดว่าไม่ต้องขอโทษฉันแค่ไม่รู้ว่าจะเลี้ยงลูกสองยังไงด้วยตัวคนเดียว เราสงสารแม่มากๆ คำนี้มันวนอยู่ในหัวเราตลอด เราเลยรู้สึกไม่ค่อยดีกับพ่อ ไม่ค่อยโทรหาเค้า เราทำตัวไม่ถูก พอพ่อโทรมาเค้าก็จะตัดพ้อเรา ว่าไม่โทรหา ไม่คิดถึง พูดประมาณประชด เรายิ่งเบื่อเข้าไปอีก เราไม่ชอบคนพูดประชดอยู่แล้วเป็นทุน เราควรทำยังไงกับความคิดเราดี ยอมรับว่าเครียด สับสน จนต้องมาระบายที่นี่ บางทีเราอาจได้มุมมองใหม่ๆจากที่นี่ ขอบคุณทุกความคิดเห็นนะคะ
สับสนจริงๆควรทำตัวไงดี