พอดีไปเจอข่าวในหน้าเว็บไซต์ของไทยรัฐค่ะ
เป็นข่าวเกี่ยวกับการรักษามะเร็งด้วยวิธีสมัยใหม่ อ่านแล้วรู้สึกสนใจค่ะ เพราะว่ามีคนรู้จักป่วยเป็นมะเร็งอยู่ จึงอยากจะแนะนำให้เขา
แต่ในเนื้อข่าวไม่ได้ลงข้อมูลเกี่ยวกับโรงพยาบาลนี้ไว้ บอกแค่ว่าเป็นโรงพยาบาลสมัยใหม่ในกว่างโจว
จึงอยากขอรบกวนทุกท่าน ไม่ทราบว่ามีใครพอจะรู้บ้างว่าโรงพยาบาลนี้ชื่อโรงพยาบาลอะไร และพอจะมีข้อมูลติดต่อของโรงพยาบาลนี้บ้างมั้ยคะ
รายละเอียดเนื้อข่าวตามด้านล่างนี้เลยนะคะ
ขอบพระคุณมากๆ ค่ะ
--------------------------------------------------------------
รพ.มะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวบูรณาการ “นวัตกรรม-เทคโนโลยี” บำบัดรักษามะเร็ง!!!
ภัยเงียบซึ่งถือเป็นสาเหตุการตายอับดับ 1 ของคนไทย และเป็นภัยร้ายที่คุกคามทั้งสุขภาพชีวิต และทรัพย์สินของประชากรทั่วโลก
จากวิกฤติของ “มะเร็ง” โรคร้ายที่เหมือนจะแพร่ขยายอย่างไม่มีอะไรมาหยุดยั้งได้ คือ จุดก่อกำเนิดของโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งด้านสิ่งแวดล้อม เครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์ โดยมุ่งหวังให้เป็นองค์กรทางการแพทย์ระดับสากลที่รักษามะเร็งด้วยนวัตกรรม และเทคโนโลยีในการรักษาแบบใหม่ที่มีการรักษาแบบผสมผสาน ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้ป่วยมะเร็ง
ภายใต้แนวคิดใหม่ในการรักษาโรคมะเร็งนั้น คือการทำให้เป็นแบบมาตรฐาน รวมถึงมีเอกลักษณ์ และมีความเป็นมนุษยธรรม ที่รักษาอย่างมีเหตุผล และมีการรักษาแบบบาดแผลเล็ก ร่วมกับการบูรณาการหลายแขนง ทั้ง การฝังแร่ไอโอดีน การใช้ภูมิคุ้มกันบำบัด การใช้ความเย็น การอุดหลอดเลือดเฉพาะจุด การฉายแสงและทำคีโมเฉพาะจุด ที่รวมเป็นการ รักษาแบบเจาะจงเซลล์มะเร็ง ทำให้การรักษาเกิดความสมดุล ร่วมกับการรักษากับเทคนิคการแพทย์แผนจีน ซึ่งทำให้การรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งมีประสิทธิภาพและเกิดผลข้างเคียงกับผู้ป่วยน้อย
จากการที่ทีมข่าวสาธารณสุขได้มีโอกาสเดินทางไปเยี่ยมชมการรักษาของโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว ทำให้ได้เห็นว่าเทคโนโลยีการรักษาอันก้าวหน้าของโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสามารถดึงดูดผู้ป่วยจากหลายประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้เข้ามารับการรักษาที่โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว โดยประมาณร้อยละ 80 มาจากประเทศเวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย บังกลาเทศ และกัมพูชา เป็นต้น
นอกจากนี้ ทางโรงพยาบาลมะเร็งสมัย ใหม่กว่างโจวยังมีการจัดกิจกรรมสำหรับผู้ป่วยที่ถือเป็นทั้งการให้กำลังกายและกำลังใจ โดยเริ่มจากให้กำลังกายผู้ป่วยด้วยการจัดกิจกรรมให้ผู้ป่วยได้มีพื้นที่ในการออกกำลังเพื่อเสริมกำลังให้กับร่างกายด้วยวิธีการออกกำลังกายแบบง่ายๆ เช่น ไทเก็ก เป็นต้น
ขณะเดียวกันทางโรงพยาบาลจะมีการจัดมอบเกียรติบัตรพร้อมโล่ให้กับผู้ป่วยที่สามารถพิชิตโรคมะเร็งได้จน มีคุณภาพชีวิตและสุขภาพร่างกายที่ดีขึ้นเพื่อเป็นการให้กำลัง ใจผู้ป่วย เพราะปัจจัยหนึ่งที่สำคัญสำหรับผู้ป่วยมะเร็งคือ “กำลังใจ” ซึ่งในช่วงต้นปี 2557 มีผู้ป่วยได้รับรางวัลนี้ถึง 8 คน และหนึ่งในผู้ป่วยที่ได้รับรางวัลเป็นผู้ป่วยจากประเทศไทย
นายอิน พรหมปัญญา อายุ 52 ปี ชาวจังหวัดเชียงใหม่ เล่าว่า รู้ว่าเป็นมะเร็งลำไส้ระยะที่4และมีเนื้อร้ายลุกลามไปที่ตับ เมื่อประมาณช่วงเดือน ธ.ค.2556 จึงเริ่มทำการรักษา โดยเริ่มรักษากับโรงพยาบาลในประเทศไทยก่อน แต่ก็พยายามหาวิธีอื่นจากหลายๆที่รักษาควบคู่ไปด้วย เนื่องจากเดิมทีการรักษานั้นใน 100 วัน ตนต้องเข้าออกโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษาประมาณ 80 วัน จึงรู้สึกเหนื่อยและท้อแท้ จนมีเพื่อนแนะนำให้ไปปรึกษาและรักษาที่โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว ตนจึงลองไปปรึกษาและเข้ารับการรักษา
“ผมเริ่มเข้ารับการรักษาครั้งแรกเมื่อวันที่ 14 ม.ค.2557 โดยในวันที่มาวันแรกก็จะได้รับการตรวจร่างกายตามปกติ แต่ที่นอกเหนือจากที่เคยรักษาคือโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว ได้มีการระดมทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญการรักษาในด้านต่างๆมาร่วมกันวินิจฉัยโรค ก่อนทำการรักษา โดยของผมแพทย์ได้ทำการรักษาแบบผสมผสานคือการฉายแสงเฉพาะจุดร่วมกับการใช้มีดความเย็น ซึ่งขณะนี้ผมทำการรักษาแล้ว 4 ครั้ง และรู้สึกได้ว่าร่างกายแข็งแรงขึ้น ทั้งนี้ก่อนที่จะมารักษาที่นี่ผมต้องเข้าห้องน้ำวันละประมาณ 26 ครั้ง ซึ่งทุกครั้งจะถ่ายเป็นเลือดและน้ำหนักตัวก็ลดลงเพราะกินอะไรไม่ได้ แต่ปัจจุบันระบบขับถ่ายกลับมาเป็นปกติเหลือเข้าห้องน้ำเพียงวันละ 1 ครั้ง และกลับมากินอาหารได้ตามปกติทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น” นายอินเล่าและว่า ส่วนเรื่องที่พักเมื่อเดินทางไปรักษาที่สาธารณรัฐประชาชนจีนหรือประเทศจีนนั้น ทางโรงพยาบาลก็จะมีห้องพักให้ได้อยู่กับครอบครัว ส่วนค่ารักษาจะอยู่ที่ประมาณครั้งละ 1แสนบาทซึ่งแพทย์ระบุว่าผมน่าจะรักษาประมาณ 6ครั้ง
หลิน ซ่าวหัว (Mr. Lin shaohua) ผู้จัดการใหญ่โรงพยาบาลมะเร็งสมัย ใหม่กว่างโจว เล่าว่า การเลือกใช้วิธีการรักษาแบบบูรณาการนั้น เนื่องจาก ทางโรงพยาบาลเชื่อว่าเป็นวิธีต่อสู้และกำจัดเนื้อร้ายที่ดีที่สุด เช่นวิธีการฝังแร่ไอโอดีน ร่วมกับการใช้ความร้อนแบบเฉพาะจุด ซึ่งจะทำให้เนื้อร้ายถูกทำลายโดยกลไกของมันเองคือได้รับความร้อนสลับเย็นจนไม่สามารถทนได้ และสำหรับการเลือกทำให้บาดแผลเล็ก ก็เพื่อลดการได้รับบาดเจ็บของผู้ป่วยและทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็วที่สุด อย่างไรก็ตามการจะนำเครื่องมือแต่ละชนิดมาใช้รักษาผู้ป่วยได้ ทางโรงพยาบาลต้องขออนุญาตและอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของกระทรวงสาธารณสุขของจีนก่อนทุกครั้ง
“การรักษาแบบบาดแผลเล็กและเฉพาะจุด พร้อมกับการบูรณาการกับการแพทย์แผนจีนและแพทย์แผนปัจจุบัน มีจุดเด่น คือ ผู้ป่วยมีบาดแผลเล็ก เห็นผลเร็ว ฟื้นตัวเร็ว ตรงจุดและแม่นยำ รูปแบบการรักษาเหล่านี้จะไปกำจัดเซลล์มะเร็งเฉพาะจุด และการรักษาไม่ทำลายเนื้อเยื่อของอวัยวะปกติที่อยู่รอบๆ นอกจากนี้ทาง โรงพยาบาลยังพยายามหลีกเลี่ยงข้อเสียจากการฉายแสงและคีโม ที่โดยปกติจะไปทำลายภูมิคุ้มกันในร่างกายของผู้ป่วย ทั้งนี้ก็เพื่อบรรเทาความเจ็บปวดของผู้ป่วย รวมถึงยืดอายุของผู้ป่วยออกไปให้นานที่สุด และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยให้ดีขึ้น” หลิน ซ่าวหัว กล่าว
ทีมข่าวสาธารณสุข ขอเอาใจช่วยโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว กับเป้าหมายการจะก้าวสู่ความเป็นสากล ภายใต้การใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีการรักษาแบบบูรณาการ เพราะนั่นหมายถึงการทำให้ผู้ป่วยทั่วโลกมีคุณภาพชีวิตและสุขภาพร่างกายที่ดีขึ้น
แต่สิ่งหนึ่งที่เราต้องขอฝากไว้ คือ ในโลก แห่งความเป็นจริง แม้แต่หมอเทวดาหรือการมีเครื่องไม้เครื่องมือที่วิเศษสักปานใดก็ไม่สามารถดลบันดาลให้การรักษาโรคร้ายนี้สัมฤทธิผลได้ หากขาดสิ่งสำคัญนั่นคือ การใช้ชีวิตอยู่บนความ ไม่ประมาทของประชาชน
เพราะการไม่มีโรคคือลาภอันประเสริฐ คือสัจธรรมที่ไม่เคยล้าสมัย
แต่ลาภที่ประเสริฐนี้จะเกิดขึ้นได้ ก็ด้วยการประพฤติปฏิบัติตัวของเรานั่นเอง.
ทีมข่าวสาธารณสุข
ที่มา :
http://www.thairath.co.th/content/416498
มีใครรู้จักโรงพยาบาลตามในข่าวนี้บ้างมั้ยคะ
เป็นข่าวเกี่ยวกับการรักษามะเร็งด้วยวิธีสมัยใหม่ อ่านแล้วรู้สึกสนใจค่ะ เพราะว่ามีคนรู้จักป่วยเป็นมะเร็งอยู่ จึงอยากจะแนะนำให้เขา
แต่ในเนื้อข่าวไม่ได้ลงข้อมูลเกี่ยวกับโรงพยาบาลนี้ไว้ บอกแค่ว่าเป็นโรงพยาบาลสมัยใหม่ในกว่างโจว
จึงอยากขอรบกวนทุกท่าน ไม่ทราบว่ามีใครพอจะรู้บ้างว่าโรงพยาบาลนี้ชื่อโรงพยาบาลอะไร และพอจะมีข้อมูลติดต่อของโรงพยาบาลนี้บ้างมั้ยคะ
รายละเอียดเนื้อข่าวตามด้านล่างนี้เลยนะคะ
ขอบพระคุณมากๆ ค่ะ
--------------------------------------------------------------
รพ.มะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวบูรณาการ “นวัตกรรม-เทคโนโลยี” บำบัดรักษามะเร็ง!!!
ภัยเงียบซึ่งถือเป็นสาเหตุการตายอับดับ 1 ของคนไทย และเป็นภัยร้ายที่คุกคามทั้งสุขภาพชีวิต และทรัพย์สินของประชากรทั่วโลก
จากวิกฤติของ “มะเร็ง” โรคร้ายที่เหมือนจะแพร่ขยายอย่างไม่มีอะไรมาหยุดยั้งได้ คือ จุดก่อกำเนิดของโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งด้านสิ่งแวดล้อม เครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์ โดยมุ่งหวังให้เป็นองค์กรทางการแพทย์ระดับสากลที่รักษามะเร็งด้วยนวัตกรรม และเทคโนโลยีในการรักษาแบบใหม่ที่มีการรักษาแบบผสมผสาน ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้ป่วยมะเร็ง
ภายใต้แนวคิดใหม่ในการรักษาโรคมะเร็งนั้น คือการทำให้เป็นแบบมาตรฐาน รวมถึงมีเอกลักษณ์ และมีความเป็นมนุษยธรรม ที่รักษาอย่างมีเหตุผล และมีการรักษาแบบบาดแผลเล็ก ร่วมกับการบูรณาการหลายแขนง ทั้ง การฝังแร่ไอโอดีน การใช้ภูมิคุ้มกันบำบัด การใช้ความเย็น การอุดหลอดเลือดเฉพาะจุด การฉายแสงและทำคีโมเฉพาะจุด ที่รวมเป็นการ รักษาแบบเจาะจงเซลล์มะเร็ง ทำให้การรักษาเกิดความสมดุล ร่วมกับการรักษากับเทคนิคการแพทย์แผนจีน ซึ่งทำให้การรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งมีประสิทธิภาพและเกิดผลข้างเคียงกับผู้ป่วยน้อย
จากการที่ทีมข่าวสาธารณสุขได้มีโอกาสเดินทางไปเยี่ยมชมการรักษาของโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว ทำให้ได้เห็นว่าเทคโนโลยีการรักษาอันก้าวหน้าของโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวสามารถดึงดูดผู้ป่วยจากหลายประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้เข้ามารับการรักษาที่โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว โดยประมาณร้อยละ 80 มาจากประเทศเวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย บังกลาเทศ และกัมพูชา เป็นต้น
นอกจากนี้ ทางโรงพยาบาลมะเร็งสมัย ใหม่กว่างโจวยังมีการจัดกิจกรรมสำหรับผู้ป่วยที่ถือเป็นทั้งการให้กำลังกายและกำลังใจ โดยเริ่มจากให้กำลังกายผู้ป่วยด้วยการจัดกิจกรรมให้ผู้ป่วยได้มีพื้นที่ในการออกกำลังเพื่อเสริมกำลังให้กับร่างกายด้วยวิธีการออกกำลังกายแบบง่ายๆ เช่น ไทเก็ก เป็นต้น
ขณะเดียวกันทางโรงพยาบาลจะมีการจัดมอบเกียรติบัตรพร้อมโล่ให้กับผู้ป่วยที่สามารถพิชิตโรคมะเร็งได้จน มีคุณภาพชีวิตและสุขภาพร่างกายที่ดีขึ้นเพื่อเป็นการให้กำลัง ใจผู้ป่วย เพราะปัจจัยหนึ่งที่สำคัญสำหรับผู้ป่วยมะเร็งคือ “กำลังใจ” ซึ่งในช่วงต้นปี 2557 มีผู้ป่วยได้รับรางวัลนี้ถึง 8 คน และหนึ่งในผู้ป่วยที่ได้รับรางวัลเป็นผู้ป่วยจากประเทศไทย
นายอิน พรหมปัญญา อายุ 52 ปี ชาวจังหวัดเชียงใหม่ เล่าว่า รู้ว่าเป็นมะเร็งลำไส้ระยะที่4และมีเนื้อร้ายลุกลามไปที่ตับ เมื่อประมาณช่วงเดือน ธ.ค.2556 จึงเริ่มทำการรักษา โดยเริ่มรักษากับโรงพยาบาลในประเทศไทยก่อน แต่ก็พยายามหาวิธีอื่นจากหลายๆที่รักษาควบคู่ไปด้วย เนื่องจากเดิมทีการรักษานั้นใน 100 วัน ตนต้องเข้าออกโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษาประมาณ 80 วัน จึงรู้สึกเหนื่อยและท้อแท้ จนมีเพื่อนแนะนำให้ไปปรึกษาและรักษาที่โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว ตนจึงลองไปปรึกษาและเข้ารับการรักษา
“ผมเริ่มเข้ารับการรักษาครั้งแรกเมื่อวันที่ 14 ม.ค.2557 โดยในวันที่มาวันแรกก็จะได้รับการตรวจร่างกายตามปกติ แต่ที่นอกเหนือจากที่เคยรักษาคือโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว ได้มีการระดมทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญการรักษาในด้านต่างๆมาร่วมกันวินิจฉัยโรค ก่อนทำการรักษา โดยของผมแพทย์ได้ทำการรักษาแบบผสมผสานคือการฉายแสงเฉพาะจุดร่วมกับการใช้มีดความเย็น ซึ่งขณะนี้ผมทำการรักษาแล้ว 4 ครั้ง และรู้สึกได้ว่าร่างกายแข็งแรงขึ้น ทั้งนี้ก่อนที่จะมารักษาที่นี่ผมต้องเข้าห้องน้ำวันละประมาณ 26 ครั้ง ซึ่งทุกครั้งจะถ่ายเป็นเลือดและน้ำหนักตัวก็ลดลงเพราะกินอะไรไม่ได้ แต่ปัจจุบันระบบขับถ่ายกลับมาเป็นปกติเหลือเข้าห้องน้ำเพียงวันละ 1 ครั้ง และกลับมากินอาหารได้ตามปกติทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น” นายอินเล่าและว่า ส่วนเรื่องที่พักเมื่อเดินทางไปรักษาที่สาธารณรัฐประชาชนจีนหรือประเทศจีนนั้น ทางโรงพยาบาลก็จะมีห้องพักให้ได้อยู่กับครอบครัว ส่วนค่ารักษาจะอยู่ที่ประมาณครั้งละ 1แสนบาทซึ่งแพทย์ระบุว่าผมน่าจะรักษาประมาณ 6ครั้ง
หลิน ซ่าวหัว (Mr. Lin shaohua) ผู้จัดการใหญ่โรงพยาบาลมะเร็งสมัย ใหม่กว่างโจว เล่าว่า การเลือกใช้วิธีการรักษาแบบบูรณาการนั้น เนื่องจาก ทางโรงพยาบาลเชื่อว่าเป็นวิธีต่อสู้และกำจัดเนื้อร้ายที่ดีที่สุด เช่นวิธีการฝังแร่ไอโอดีน ร่วมกับการใช้ความร้อนแบบเฉพาะจุด ซึ่งจะทำให้เนื้อร้ายถูกทำลายโดยกลไกของมันเองคือได้รับความร้อนสลับเย็นจนไม่สามารถทนได้ และสำหรับการเลือกทำให้บาดแผลเล็ก ก็เพื่อลดการได้รับบาดเจ็บของผู้ป่วยและทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็วที่สุด อย่างไรก็ตามการจะนำเครื่องมือแต่ละชนิดมาใช้รักษาผู้ป่วยได้ ทางโรงพยาบาลต้องขออนุญาตและอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของกระทรวงสาธารณสุขของจีนก่อนทุกครั้ง
“การรักษาแบบบาดแผลเล็กและเฉพาะจุด พร้อมกับการบูรณาการกับการแพทย์แผนจีนและแพทย์แผนปัจจุบัน มีจุดเด่น คือ ผู้ป่วยมีบาดแผลเล็ก เห็นผลเร็ว ฟื้นตัวเร็ว ตรงจุดและแม่นยำ รูปแบบการรักษาเหล่านี้จะไปกำจัดเซลล์มะเร็งเฉพาะจุด และการรักษาไม่ทำลายเนื้อเยื่อของอวัยวะปกติที่อยู่รอบๆ นอกจากนี้ทาง โรงพยาบาลยังพยายามหลีกเลี่ยงข้อเสียจากการฉายแสงและคีโม ที่โดยปกติจะไปทำลายภูมิคุ้มกันในร่างกายของผู้ป่วย ทั้งนี้ก็เพื่อบรรเทาความเจ็บปวดของผู้ป่วย รวมถึงยืดอายุของผู้ป่วยออกไปให้นานที่สุด และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยให้ดีขึ้น” หลิน ซ่าวหัว กล่าว
ทีมข่าวสาธารณสุข ขอเอาใจช่วยโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว กับเป้าหมายการจะก้าวสู่ความเป็นสากล ภายใต้การใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีการรักษาแบบบูรณาการ เพราะนั่นหมายถึงการทำให้ผู้ป่วยทั่วโลกมีคุณภาพชีวิตและสุขภาพร่างกายที่ดีขึ้น
แต่สิ่งหนึ่งที่เราต้องขอฝากไว้ คือ ในโลก แห่งความเป็นจริง แม้แต่หมอเทวดาหรือการมีเครื่องไม้เครื่องมือที่วิเศษสักปานใดก็ไม่สามารถดลบันดาลให้การรักษาโรคร้ายนี้สัมฤทธิผลได้ หากขาดสิ่งสำคัญนั่นคือ การใช้ชีวิตอยู่บนความ ไม่ประมาทของประชาชน
เพราะการไม่มีโรคคือลาภอันประเสริฐ คือสัจธรรมที่ไม่เคยล้าสมัย
แต่ลาภที่ประเสริฐนี้จะเกิดขึ้นได้ ก็ด้วยการประพฤติปฏิบัติตัวของเรานั่นเอง.
ทีมข่าวสาธารณสุข
ที่มา : http://www.thairath.co.th/content/416498