จากข้อมูลในหนังสือนำเที่ยว นครหลวงของซีเนียถูกปกป้องเกือบสมบูรณ์แบบจากพลังแห่งบรรพกาล สิ่งมีชีวิตฝ่ายมืดและสัตว์ร้ายที่ไม่ได้รับอนุญาตจากภายในจะมองเห็นเพียงความว่างเปล่าเท่านั้น ทั้งผู้คนและสิ่งปลูกสร้างจะเป็นอากาศธาตุอย่างสมบูรณ์สำหรับสิ่งที่มีประสงค์ร้ายต่อชาวเมืองในกำแพง และมีอำนาจแห่งแสงส่งผลให้เหล่าอสูรไม่อาจย่างกรายเข้ามาได้ไกลกว่าห้าสิบหลาอีกด้วย ยกเว้นจะมีมนุษย์ผู้ทำลายกฎของที่แห่งนี้โดยจงใจเท่านั้น
แล้วเจ้าตัวนั้นเหตุใดจึงเข้ามาได้ไกลเพียงนี้ ตอนนี้พวกเขาอยู่กลางใจเมืองห่างจากกำแพงหลายร้อยหลา แถมมองเห็นพวกเขาเสียอีก ดาริอุส ดรากานยืนกอดอกอย่างครุ่นคิด ผู้กล้าแสงตะวันนายจ้างยืนเท้าสะเอวมองอยู่ข้างๆ ท่าทางหงุดหงิดเต็มที
ตอนนี้บนอากาศ มังกรสองตัวกำลังจ้องกันอย่างเคร่งเครียด เหนือพวกเขาที่เป็นเหยื่อเพียงหนึ่งเดียว ต้องบอกว่าสองจะถูกเสียกว่า
“ต้องขออภัยที่ทำให้ท่านขุ่นใจ ข้ามาเชิญผู้กล้าแสงตะวันตามคำสั่งของท่านอะโฟเดลเท่านั้น ไม่ได้คิดทำร้าย” หัวเหมือนจระเข้ก้มอย่างนอบน้อม ท่าทางสุภาพกว่าภายนอกอย่างเด่นชัด แม้แต่ดาริอุสก็ยังคิดว่าหากเป็นแบบนี้คงคุยกันรู้เรื่อง
“ไม่ได้! เขาเป็นผู้กล้าจะให้ไปสมคบกับปิศาจได้อย่างไร” ไซเรน่า ฟราโกส์ยังคงควงหอกบนปลายนิ้วเล่นอย่างมีอารมณ์ พร้อมขว้างใส่อีกฝ่ายได้ทุกเมื่อ ดาริอุสสาบานว่าได้ยินคำสบถเบาๆจากไบรอัน ซึ่งขยี้หัวอย่างไม่สบอารมณ์
“หากให้ข้าเลือกระหว่างเจ้านั่นกับเจ้า ข้าเลือกทางนั้นโดยไม่มีข้อโต้แย้ง” ผู้กล้าแสงตะวันเลิกคิ้วถามอีกฝ่ายว่าข้องใจหรือไม่ ชี้นิ้วไปทางสัตว์ร้ายที่กระพือปีกพยุงตัวบนอากาศ “แล้วควงหอกกลางอากาศแบบนั้นไม่กลัวฟ้าผ่าบ้างหรือ”
“เอาสิ!” นางอัศวินมังกรไซเรน่าลองดี “หอกทุกเล่มของอัศวินมังกรแห่งซีเนียเป็นสิ่งวิเศษ มันดูดซับเวทมนตร์ต่างๆแล้วปล่อยออกเมื่อพุ่งเข้าหาเป้าหมาย ข้าไม่กลัวเวทมนตร์พื้นๆของท่านหรอก”
“แล้วเจ้ามาเพียงตนเดียวไม่มีใครตามมาบ้างหรือ บางคนที่เข้ามาในเขตนี้ได้ อย่างเวเบอร์ หรือทามิเอล”
นายจ้างของเขาพูดถึงใครกัน หากเป็นฝ่ายปิศาจแล้วจะผ่านระบบป้องกันเข้ามาได้อย่างไร
“นายของข้าให้สิ่งนั้นกับข้าผู้เดียว และข้ามั่นใจว่ามันมีแค่อันเดียวเท่านั้น”
“หยุดคุยกันได้แล้ว!!”
นางอัศวินมังกรคำราม หอกโลหะคมกริบพุ่งออกจากมือเหมือนธนูหลุดผ่านแล่ง เป็นแสงสีเงินพุ่งสู่พื้นดุจฟ้าฟาด แท่งอาวุธยาวสีกระจ่างปักลงพื้นห่างจากเท้าของผู้กล้าแสงตะวันแค่คืบเดียว! เมื่อประกาศศักดาจบมันก็พุ่งกลับไปหาไซเรน่าด้วยความเร็วสูงจนไม่มีใครคว้าทัน
“เวลาอยู่กับข้าก็ต้องสนใจแต่ข้าสิ จริงไหม” หญิงสาวแสยะยิ้มเห็นเขี้ยวขาว
“สำหรับเจ้าข้าจะไม่ยื่นข้อเสนอ ไม่มีข้อแลกเปลี่ยน ไม่มีสัญญา ไม่มีการพนันขันต่อใดๆทั้งสิ้น!” ท่าทางผู้กล้าแสงตะวันก็คงหมดอารมณ์เล่นแล้วเช่นกัน
“อย่างนั้นคงต้องจัดการเจ้านั่นก่อน ท่านจึงจะมาคุยกับข้าได้”
นางอัศวินมังกร ไซเรน่า ฟราโกส์เลิกคิ้วด้วยความตกใจ ร่างสัตว์ฝ่ายมืดกลางอากาศถูกห่อหุ้มด้วยกรงแสงสีทอง เห็นชัดๆว่าเป็นมนตร์เคลื่อนย้าย! เป็นฝีมือผู้กล้าแสงตะวันเพื่อนเก่าหรือ
นางสบถในลำคอ เมื่อหันมามองตัวต้นเหตุก็ต้องชะงักไปอีกครั้ง กรงแสงแบบเดียวกันห่อหุ้มร่างของผู้กล้าหนุ่มกับผู้ติดตามเอาไว้ หมอนั่นใช้ปิศาจตัวนั้นดึงความสนใจนางเพื่อหนี! หญิงสาวรู้ว่าการใช้มนตร์เคลื่อนย้ายต้องใช้เวลามากเพื่อระบุพื้นที่ปลายทางที่ว่างเปล่า นางออกคำสั่งห้วนสั้น มังกรเขียวพุ่งดิ่งไปหากรงแสงด้านล่างด้วยความเร็วปานลมกรด!
ไม่มีอะไรเลย!
ภายในวงแสงที่น่าจะมีร่างของผู้กล้ากับคนติดตามอยู่กลับว่างเปล่าและเจิดจ้าด้วยประกายแสงจนแสบตา ในวินาทีที่เวทมนตร์ทำงานนางก็ตบคอที่ห่อหุ้มด้วยเกล็ดหนึ่งครั้ง มังกรบินพลันกระโจนไปด้านหน้าสุดแรงเกิดจนพ้นกรงแสง ข้างนอกนั่นมีไบรอัน แบล็คสโตน กับคนติดตามลงไปนอนคลุกฝุ่น แสดงว่าพวกเขากระโจนหนีออกมาก่อนนางหุนหันตามเข้าไป!
“หากช้าเพียงนิดเดียวคงถูกส่งไปสุดขอบทวีปเลยกระมัง” นางอัศวินมังกรแยกเขี้ยว แกว่งหอกในมือไปหยุดตรงหน้าผู้กล้าแสงตะวัน “คราวนี้อยากต่อรองบ้างหรือยัง”
ผู้กล้าแสงตะวันกล่าวยอมแพ้อย่างอ่อนแรง ท่ามกลางผู้คนที่กำลังมุงดูเหตุการณ์อยู่...
เป็นเวลาหลายชั่วโมงที่พวกเขาต้องรอนางอัศวินมังกรอย่างช่วยไม่ได้ ผู้กล้าแสงตะวันนายจ้างก็ไม่กล้าขัดเนื่องจากมีอาวุธที่ดูดซับเวทมนตร์ได้คอยจ่อคอหอยตลอดเวลา ความจริงดาริอุสคิดแผนไว้สำหรับหนี ทว่านายจ้างบอกว่าไม่ต้องจึงไม่ลงมือ อย่างน้อยนางก็แสดงความเป็นมิตรมากกว่าศัตรู
“เดี๋ยวพวกเราจะไปเบิร์นสเลย์กัน เจ้าคงไม่อยากทำให้ข้าเสียเวลาใช่ไหม”
“ท่านก็รู้ว่าข้าเบื่อที่นี่เต็มทนแล้ว” นางอัศวินมังกรยังคงจับหอกเล่มยาวไว้ในมือ ด้านคมชี้ไปหาหน้าอกเพื่อนชายที่นั่งกอดอกอยู่ข้างสัมภาระ “ข้าไม่ชอบทำตามกฎระเบียบ ไม่ชอบคำสั่ง ไม่ชอบที่ต้องมีคนมาอ่อนน้อมเวลาอยู่ใกล้ๆ มีแต่ท่านที่ไม่เหมือนใคร”
“ตรงที่ข้าสามารถบรรยายข้อเสียของเจ้าได้หลายร้อยข้อหรือ”
“ไม่หรอก เรื่องนั้นใครก็ทำได้...ท่านคงเข้าใจกระมัง ความรู้สึกของคนนอกคอกไร้จุดยืน...”
ดาริอุสสังเกตความเศร้าแผ่ออกมาจากดวงตาสีอำพันก่อนมันจะถูกกลืนลึกลงไปอีกครั้ง
“อยู่ที่นี่เองไซเรน่า หาตัวอยู่นานเชียวละ”
นายทหารผู้หนึ่งร่อนลงพื้นหญ้าพร้อมมังกรประจำตัวกับมังกรสีเขียวอีกตัวหนึ่ง ซึ่งดาริอุสจำได้ว่าเป็นของไซเรน่า
“มีอะไรอีก ข้าจำได้ว่าส่งหนังสือลาพักไปแล้วนี่” หญิงสาวเอียงคอทำท่าไม่รู้ไม่เห็น
“เจ้าถูกเรียกตัวด่วน” ชายในชุดประจำการเพียบพร้อมด้วยแผ่นหนังที่ขากางเกงกันเสียดสี และเกราะอ่อนที่ช่วงบ่ากับหน้าอกอธิบาย เรียกว่าอธิบายกับท่อนไม้ดีกว่า เพราะหญิงสาวหันหน้าหนีไปทางอื่นอย่างเอือมระอา “ตอนนี้พวกเราต้องการคนมีฝีมือและเจ้าเป็นหนึ่งในนั้น”
“แหมๆ ธรรมดาแทบจะฆ่าให้ตาย พอมีเรื่องก็ก้มหัวขอร้อง ก็บางเรื่องพวกเจ้าทำไม่ได้แต่ข้าทำได้นี่นะ” หญิงสาวประชดอย่างไม่ใยดี “มีเรื่องด่วนถึงเมืองต่างๆในจักรวรรดิใช่ไหม ไม่อย่างนั้นคงไม่เรียกใช้ข้าหรอก”
“อย่าพูดแบบนั้นเลย ในหมู่พวกเราเจ้าขี่มังกรได้นานที่สุด มีความสามารถในการหลบหลีกผู้ติดตามมากที่สุด”
“แต่ตำแหน่งก็ตันอยู่แค่นี้ ผลงานข้าแทบถมทะเลสาบกระจกของแอสนาร์ได้ก็ยังไม่มีผลต่อการเลื่อนขั้น จนเบื่อไม่อยากทำงานแล้ว” หญิงสาวถอนหายใจ “เจ้าน่าจะใช้บริการเวทมนตร์เคลื่อนย้ายบ้างนะ ม้าเร็วตัวนี้เบื่องานประเภทคนอื่นไม่อยากทำเต็มทีแล้ว”
“นั่นเป็นตัวหลอก คงไม่มีใครนึกหรอกว่าหนึ่งในสองจักรวรรดิจะยังใช้ม้าเร็วส่งสาสน์แบบนี้อยู่”
“เจ้าพูดกับทางนั้นแบบนี้ด้วยก็บอกมาดีกว่า...หากถูกใช้ล้างห้องน้ำก็ไม่แปลกใจสักนิด ข้าทำมาทุกอย่างแล้วนี่นา” หญิงสาวถอนใจแล้วตวัดหอกลงพาดบ่า ปล่อยผู้กล้าให้เป็นอิสระ “ข้าแค่ส่งมังกรกลับไปเอาของเท่านั้น ไม่คิดว่าเจ้าจะใช้มันตามหาข้า เอาล่ะข้าจะฟังคำสั่งอีกสักครั้ง! จะตามไปรายงานตัวเดี๋ยวนี้ละ”
หญิงสาวลุกขึ้นบิดแขนอย่างเกียจคร้าน นางหันไปฉีกยิ้มให้เพื่อนชายแล้วเก็บหอกไว้ตรงข้างอานนั่งตรงส่วนหลัง ดาริอุสเคยอ่านเจอว่า วัตถุใดๆที่นำไปใส่ให้มังกร มันจะติดตัวไปทุกเวลาที่ต้องการ ไม่ว่าจะเรียกออกมาจากมิติอื่นหรือไม่
“ความจริงเจ้าไม่ต้องลำบากขนาดนี้ก็ได้ แล้วเจอกัน ไซเรน่า” ผู้กล้าแสงตะวันยกมือลาอย่างเสียไม่ได้...
แม้กำหนดการจะพลาดไปเล็กน้อยแต่ไม่ใช่เรื่องสำคัญ ข้อมูลที่ต้องการส่งถึงมือผู้กล้าแสงตะวันทันทีที่ทำได้ เขาจ้องมองข้อความด้วยสีหน้าครุ่นคิด หากดาริอุสก็ครุ่นคิดเช่นเดียวกันว่าวัตถุในมือของนายจ้างมันคือสิ่งที่เขาคิดหรือไม่ มันดูเหมือนกับเครื่องในของสิ่งมีชีวิตบางประเภทที่ไม่เคยผ่านความร้อน อาจยังไม่ผ่านการชะล้างด้วยซ้ำ
“พวกท่านส่งข้อความโดยใช้สิ่งนั้นหรือ น่าสะอิดสะเอียนสุดๆ” ดาริอุสย่นจมูก เขาเสเดินวนรอบห้องโถงของหอคอยเพื่อหามุมหลบกลิ่น
“มันคือชิ้นส่วนของสัตว์วิเศษชนิดหนึ่ง ข้อความที่ถูกสลักลงไปจะปรากฏเมื่อถึงมือเป้าหมายเท่านั้น” ผู้กล้าตอบอย่างสุขุม พลันตกในห้วงความคิดอีกครั้ง “ไม่น่ามันเร็วไป จะให้ทำตอนนี้มันเร็วเกินไป”
“ไม่หรอกหากท่านจะไปล้างมือเสียตอนนี้ โยนสิ่งนั้นทิ้งด้วย!”
ดาริอุสทำให้นายจ้างยิ้มกว้าง ผู้กล้าแสงตะวันก้มตัวลงกระซิบบางอย่างกับชิ้นส่วนปริศนาในมือ แล้วเจ้าสิ่งนั้นก็หายไปทันควัน ทิ้งไว้แค่ควันสีแดงเลือดและกลิ่นฉุนเฉียวเหมือนซากเน่า
“ข้าจะไปทำธุระในตลาด คิดว่าเจ้าคงอยากเดินดูอะไรด้วย...ทำหน้าที่องครักษ์ให้ดีล่ะ” ผู้กล้านายจ้างเดินนำลงบันไปเวียนลงหอคอย “เดี๋ยวข้าไปล้างมือในห้องน้ำที่ใกล้ที่สุดก็ได้ เดินเบียดกันหน่อยก็ได้หรอกน่า” ไบรอัน แบล็คสโตนหัวเราะเมื่อดาริอุสไม่ยอมเข้าใกล้เขาเกินสามหลา
ตลาดในเบิร์นสเลย์ยังคึกคักเหมือนที่เขาจำได้ ดาริอุสมองร้านรวงที่เรียงรายอย่างเป็นระเบียบ ด้านหน้าของเขาคือนายจ้างคนสำคัญ กำลังตัดสินใจเลือกระหว่างผ้าคลุมไหล่สีม่วงกับน้ำเงิน ข้างๆกันเป็นร้านอาหารจำพวกผักที่เขาชอบ คนสวนแบบจอบเสียมคนหนึ่งยกมือทักเพราะจำเขาได้ เขาอยากแว่บไปดูทางโน้นทางนี้บ้างติดเพียงผู้กล้าแสงตะวันที่กำลังรอเงินทอนอยู่
“หากเจ้าไม่รีบข้าอยากไปดูร้านดอกไม้สักหน่อย” ดาริอุสพยักหน้าตอบรับ ชายหนุ่มมาดหรูอย่างผู้กล้าแสงตะวันคงมีคนรักเป็นเจ้าหญิงสูงศักดิ์ที่ไหนสักแห่งแน่นอน คงทั้งสวยและเพียบพร้อม เหมาะสมอย่างกับกิ่งทองใบหยก
“ซื้อไปให้คนรักหรือ” ดาริอุสเผลอละลาบละล้วง ผู้กล้าส่ายหน้าเบาๆเดินนำไปหาร้านดอกไม้อีกซอยหนึ่ง
“ซื้อให้คนในครอบครัว ข้าไม่มีคนรัก”
เสียงกริ่งหน้าร้านดังเบาๆ หญิงคนขายดอกไม้ร้องทักเพราะรู้จักกับดาริอุสมาก่อน นางเป็นสาววัยรุ่นท่าทางแก่นแก้ว ผู้กล้าพยักหน้าให้แล้วขอตัวไปเลือกดอกไม้ ดาริอุสอยากคุยกับคนรู้จักแต่งานต้องมาก่อนในฐานะมืออาชีพ
“เยอบีร่า หมายความว่า คุณคือแสงสว่างของฉัน” ผู้กล้าแสงตะวันทำท่าเหมือนหนุ่มเจ้าชู้สมัยใหม่ไม่มีผิด “ไอริสแสดงถึงปัญญาและความกล้าหาญ อมาริริสคือความภาคภูมิใจ ขอกิ่งวิลโลว์กับใบปาล์มด้วยถ้ามี ความหมายดีมากเลยละ จัดเป็นช่อให้ด้วย ขอบคุณ”
“ไม่มีกุหลาบหรือ” ดาริอุสยกเสียงสูงอย่างเผลอตัว ไม่ว่าใครจะจัดดอกไม้ย่อมเลือกที่เป็นที่นิยมอย่างกุหลาบหรือลิลลี่มากกว่า
“ก็บอกแล้วว่าไม่ได้ให้คนรัก ตอนนี้ข้าไม่มีคนรัก พอใจหรือยัง”
“แสดงว่าเคยแล้วสิ ท่านโดนหักอกหรือ” ดาริอุสหน้าเสียเพราะคิดว่าเผลอพูดแทงใจดำอีกฝ่าย ทว่าคู่สนทนากลับหัวเราะเบาๆอย่างไม่เดือดเนื้อร้อนใจ
“ข้าเคยมีคนรักมาหลายคนแล้ว ข้าเป็นฝ่ายร้างราเพื่อไม่ให้พวกนางเจ็บ คนสำคัญที่สุดของข้าในตอนนี้เป็นผู้หญิง นางเป็นเหมือนน้องสาวคนหนึ่ง เป็นญาติคนเดียวที่เหลืออยู่...อย่ามองแบบนั้น ไม่ใช่แม่ไซเรน่าหรอก”
“แล้วเมื่อไรท่านจึงจะมีความรักได้โดยไม่ทำให้อีกฝ่ายเจ็บล่ะ ท่านเป็นพวกชอบใช้ความรุนแรงหรือ”
เป็นเวลากว่าห้านาทีกว่าผู้กล้าแสงตะวันจะหยุดหัวเราะได้ ดาริอุสเอียงคออย่างฉงนว่านายจ้างกำลังพูดถึงอะไรกันแน่
“ข้าจะจ่ายเงินตรงนี้เลย ประเดี๋ยวจะมีผู้หญิงในผ้าคลุมมารับช่อดอกไม้...คราวนี้ก็เป็นตาเจ้าพาข้าเที่ยวบ้างแล้ว เราจะไปแอสนาร์กันต่อ ดังนั้น พาข้าไปหาซื้อชุดหนาๆก่อนได้ไหม เจ้าเทียวไปเทียวมาบ่อยคงรู้ที่ดีๆมากกว่าข้าแน่” ดาริอุสพยักหน้า เขาอยากเดินเที่ยวตามใจตัวเองเต็มแก่แล้ว...
(มีต่อ)
นักรบจันทรา ตอนที่ 3
แล้วเจ้าตัวนั้นเหตุใดจึงเข้ามาได้ไกลเพียงนี้ ตอนนี้พวกเขาอยู่กลางใจเมืองห่างจากกำแพงหลายร้อยหลา แถมมองเห็นพวกเขาเสียอีก ดาริอุส ดรากานยืนกอดอกอย่างครุ่นคิด ผู้กล้าแสงตะวันนายจ้างยืนเท้าสะเอวมองอยู่ข้างๆ ท่าทางหงุดหงิดเต็มที
ตอนนี้บนอากาศ มังกรสองตัวกำลังจ้องกันอย่างเคร่งเครียด เหนือพวกเขาที่เป็นเหยื่อเพียงหนึ่งเดียว ต้องบอกว่าสองจะถูกเสียกว่า
“ต้องขออภัยที่ทำให้ท่านขุ่นใจ ข้ามาเชิญผู้กล้าแสงตะวันตามคำสั่งของท่านอะโฟเดลเท่านั้น ไม่ได้คิดทำร้าย” หัวเหมือนจระเข้ก้มอย่างนอบน้อม ท่าทางสุภาพกว่าภายนอกอย่างเด่นชัด แม้แต่ดาริอุสก็ยังคิดว่าหากเป็นแบบนี้คงคุยกันรู้เรื่อง
“ไม่ได้! เขาเป็นผู้กล้าจะให้ไปสมคบกับปิศาจได้อย่างไร” ไซเรน่า ฟราโกส์ยังคงควงหอกบนปลายนิ้วเล่นอย่างมีอารมณ์ พร้อมขว้างใส่อีกฝ่ายได้ทุกเมื่อ ดาริอุสสาบานว่าได้ยินคำสบถเบาๆจากไบรอัน ซึ่งขยี้หัวอย่างไม่สบอารมณ์
“หากให้ข้าเลือกระหว่างเจ้านั่นกับเจ้า ข้าเลือกทางนั้นโดยไม่มีข้อโต้แย้ง” ผู้กล้าแสงตะวันเลิกคิ้วถามอีกฝ่ายว่าข้องใจหรือไม่ ชี้นิ้วไปทางสัตว์ร้ายที่กระพือปีกพยุงตัวบนอากาศ “แล้วควงหอกกลางอากาศแบบนั้นไม่กลัวฟ้าผ่าบ้างหรือ”
“เอาสิ!” นางอัศวินมังกรไซเรน่าลองดี “หอกทุกเล่มของอัศวินมังกรแห่งซีเนียเป็นสิ่งวิเศษ มันดูดซับเวทมนตร์ต่างๆแล้วปล่อยออกเมื่อพุ่งเข้าหาเป้าหมาย ข้าไม่กลัวเวทมนตร์พื้นๆของท่านหรอก”
“แล้วเจ้ามาเพียงตนเดียวไม่มีใครตามมาบ้างหรือ บางคนที่เข้ามาในเขตนี้ได้ อย่างเวเบอร์ หรือทามิเอล”
นายจ้างของเขาพูดถึงใครกัน หากเป็นฝ่ายปิศาจแล้วจะผ่านระบบป้องกันเข้ามาได้อย่างไร
“นายของข้าให้สิ่งนั้นกับข้าผู้เดียว และข้ามั่นใจว่ามันมีแค่อันเดียวเท่านั้น”
“หยุดคุยกันได้แล้ว!!”
นางอัศวินมังกรคำราม หอกโลหะคมกริบพุ่งออกจากมือเหมือนธนูหลุดผ่านแล่ง เป็นแสงสีเงินพุ่งสู่พื้นดุจฟ้าฟาด แท่งอาวุธยาวสีกระจ่างปักลงพื้นห่างจากเท้าของผู้กล้าแสงตะวันแค่คืบเดียว! เมื่อประกาศศักดาจบมันก็พุ่งกลับไปหาไซเรน่าด้วยความเร็วสูงจนไม่มีใครคว้าทัน
“เวลาอยู่กับข้าก็ต้องสนใจแต่ข้าสิ จริงไหม” หญิงสาวแสยะยิ้มเห็นเขี้ยวขาว
“สำหรับเจ้าข้าจะไม่ยื่นข้อเสนอ ไม่มีข้อแลกเปลี่ยน ไม่มีสัญญา ไม่มีการพนันขันต่อใดๆทั้งสิ้น!” ท่าทางผู้กล้าแสงตะวันก็คงหมดอารมณ์เล่นแล้วเช่นกัน
“อย่างนั้นคงต้องจัดการเจ้านั่นก่อน ท่านจึงจะมาคุยกับข้าได้”
นางอัศวินมังกร ไซเรน่า ฟราโกส์เลิกคิ้วด้วยความตกใจ ร่างสัตว์ฝ่ายมืดกลางอากาศถูกห่อหุ้มด้วยกรงแสงสีทอง เห็นชัดๆว่าเป็นมนตร์เคลื่อนย้าย! เป็นฝีมือผู้กล้าแสงตะวันเพื่อนเก่าหรือ
นางสบถในลำคอ เมื่อหันมามองตัวต้นเหตุก็ต้องชะงักไปอีกครั้ง กรงแสงแบบเดียวกันห่อหุ้มร่างของผู้กล้าหนุ่มกับผู้ติดตามเอาไว้ หมอนั่นใช้ปิศาจตัวนั้นดึงความสนใจนางเพื่อหนี! หญิงสาวรู้ว่าการใช้มนตร์เคลื่อนย้ายต้องใช้เวลามากเพื่อระบุพื้นที่ปลายทางที่ว่างเปล่า นางออกคำสั่งห้วนสั้น มังกรเขียวพุ่งดิ่งไปหากรงแสงด้านล่างด้วยความเร็วปานลมกรด!
ไม่มีอะไรเลย!
ภายในวงแสงที่น่าจะมีร่างของผู้กล้ากับคนติดตามอยู่กลับว่างเปล่าและเจิดจ้าด้วยประกายแสงจนแสบตา ในวินาทีที่เวทมนตร์ทำงานนางก็ตบคอที่ห่อหุ้มด้วยเกล็ดหนึ่งครั้ง มังกรบินพลันกระโจนไปด้านหน้าสุดแรงเกิดจนพ้นกรงแสง ข้างนอกนั่นมีไบรอัน แบล็คสโตน กับคนติดตามลงไปนอนคลุกฝุ่น แสดงว่าพวกเขากระโจนหนีออกมาก่อนนางหุนหันตามเข้าไป!
“หากช้าเพียงนิดเดียวคงถูกส่งไปสุดขอบทวีปเลยกระมัง” นางอัศวินมังกรแยกเขี้ยว แกว่งหอกในมือไปหยุดตรงหน้าผู้กล้าแสงตะวัน “คราวนี้อยากต่อรองบ้างหรือยัง”
ผู้กล้าแสงตะวันกล่าวยอมแพ้อย่างอ่อนแรง ท่ามกลางผู้คนที่กำลังมุงดูเหตุการณ์อยู่...
เป็นเวลาหลายชั่วโมงที่พวกเขาต้องรอนางอัศวินมังกรอย่างช่วยไม่ได้ ผู้กล้าแสงตะวันนายจ้างก็ไม่กล้าขัดเนื่องจากมีอาวุธที่ดูดซับเวทมนตร์ได้คอยจ่อคอหอยตลอดเวลา ความจริงดาริอุสคิดแผนไว้สำหรับหนี ทว่านายจ้างบอกว่าไม่ต้องจึงไม่ลงมือ อย่างน้อยนางก็แสดงความเป็นมิตรมากกว่าศัตรู
“เดี๋ยวพวกเราจะไปเบิร์นสเลย์กัน เจ้าคงไม่อยากทำให้ข้าเสียเวลาใช่ไหม”
“ท่านก็รู้ว่าข้าเบื่อที่นี่เต็มทนแล้ว” นางอัศวินมังกรยังคงจับหอกเล่มยาวไว้ในมือ ด้านคมชี้ไปหาหน้าอกเพื่อนชายที่นั่งกอดอกอยู่ข้างสัมภาระ “ข้าไม่ชอบทำตามกฎระเบียบ ไม่ชอบคำสั่ง ไม่ชอบที่ต้องมีคนมาอ่อนน้อมเวลาอยู่ใกล้ๆ มีแต่ท่านที่ไม่เหมือนใคร”
“ตรงที่ข้าสามารถบรรยายข้อเสียของเจ้าได้หลายร้อยข้อหรือ”
“ไม่หรอก เรื่องนั้นใครก็ทำได้...ท่านคงเข้าใจกระมัง ความรู้สึกของคนนอกคอกไร้จุดยืน...”
ดาริอุสสังเกตความเศร้าแผ่ออกมาจากดวงตาสีอำพันก่อนมันจะถูกกลืนลึกลงไปอีกครั้ง
“อยู่ที่นี่เองไซเรน่า หาตัวอยู่นานเชียวละ”
นายทหารผู้หนึ่งร่อนลงพื้นหญ้าพร้อมมังกรประจำตัวกับมังกรสีเขียวอีกตัวหนึ่ง ซึ่งดาริอุสจำได้ว่าเป็นของไซเรน่า
“มีอะไรอีก ข้าจำได้ว่าส่งหนังสือลาพักไปแล้วนี่” หญิงสาวเอียงคอทำท่าไม่รู้ไม่เห็น
“เจ้าถูกเรียกตัวด่วน” ชายในชุดประจำการเพียบพร้อมด้วยแผ่นหนังที่ขากางเกงกันเสียดสี และเกราะอ่อนที่ช่วงบ่ากับหน้าอกอธิบาย เรียกว่าอธิบายกับท่อนไม้ดีกว่า เพราะหญิงสาวหันหน้าหนีไปทางอื่นอย่างเอือมระอา “ตอนนี้พวกเราต้องการคนมีฝีมือและเจ้าเป็นหนึ่งในนั้น”
“แหมๆ ธรรมดาแทบจะฆ่าให้ตาย พอมีเรื่องก็ก้มหัวขอร้อง ก็บางเรื่องพวกเจ้าทำไม่ได้แต่ข้าทำได้นี่นะ” หญิงสาวประชดอย่างไม่ใยดี “มีเรื่องด่วนถึงเมืองต่างๆในจักรวรรดิใช่ไหม ไม่อย่างนั้นคงไม่เรียกใช้ข้าหรอก”
“อย่าพูดแบบนั้นเลย ในหมู่พวกเราเจ้าขี่มังกรได้นานที่สุด มีความสามารถในการหลบหลีกผู้ติดตามมากที่สุด”
“แต่ตำแหน่งก็ตันอยู่แค่นี้ ผลงานข้าแทบถมทะเลสาบกระจกของแอสนาร์ได้ก็ยังไม่มีผลต่อการเลื่อนขั้น จนเบื่อไม่อยากทำงานแล้ว” หญิงสาวถอนหายใจ “เจ้าน่าจะใช้บริการเวทมนตร์เคลื่อนย้ายบ้างนะ ม้าเร็วตัวนี้เบื่องานประเภทคนอื่นไม่อยากทำเต็มทีแล้ว”
“นั่นเป็นตัวหลอก คงไม่มีใครนึกหรอกว่าหนึ่งในสองจักรวรรดิจะยังใช้ม้าเร็วส่งสาสน์แบบนี้อยู่”
“เจ้าพูดกับทางนั้นแบบนี้ด้วยก็บอกมาดีกว่า...หากถูกใช้ล้างห้องน้ำก็ไม่แปลกใจสักนิด ข้าทำมาทุกอย่างแล้วนี่นา” หญิงสาวถอนใจแล้วตวัดหอกลงพาดบ่า ปล่อยผู้กล้าให้เป็นอิสระ “ข้าแค่ส่งมังกรกลับไปเอาของเท่านั้น ไม่คิดว่าเจ้าจะใช้มันตามหาข้า เอาล่ะข้าจะฟังคำสั่งอีกสักครั้ง! จะตามไปรายงานตัวเดี๋ยวนี้ละ”
หญิงสาวลุกขึ้นบิดแขนอย่างเกียจคร้าน นางหันไปฉีกยิ้มให้เพื่อนชายแล้วเก็บหอกไว้ตรงข้างอานนั่งตรงส่วนหลัง ดาริอุสเคยอ่านเจอว่า วัตถุใดๆที่นำไปใส่ให้มังกร มันจะติดตัวไปทุกเวลาที่ต้องการ ไม่ว่าจะเรียกออกมาจากมิติอื่นหรือไม่
“ความจริงเจ้าไม่ต้องลำบากขนาดนี้ก็ได้ แล้วเจอกัน ไซเรน่า” ผู้กล้าแสงตะวันยกมือลาอย่างเสียไม่ได้...
แม้กำหนดการจะพลาดไปเล็กน้อยแต่ไม่ใช่เรื่องสำคัญ ข้อมูลที่ต้องการส่งถึงมือผู้กล้าแสงตะวันทันทีที่ทำได้ เขาจ้องมองข้อความด้วยสีหน้าครุ่นคิด หากดาริอุสก็ครุ่นคิดเช่นเดียวกันว่าวัตถุในมือของนายจ้างมันคือสิ่งที่เขาคิดหรือไม่ มันดูเหมือนกับเครื่องในของสิ่งมีชีวิตบางประเภทที่ไม่เคยผ่านความร้อน อาจยังไม่ผ่านการชะล้างด้วยซ้ำ
“พวกท่านส่งข้อความโดยใช้สิ่งนั้นหรือ น่าสะอิดสะเอียนสุดๆ” ดาริอุสย่นจมูก เขาเสเดินวนรอบห้องโถงของหอคอยเพื่อหามุมหลบกลิ่น
“มันคือชิ้นส่วนของสัตว์วิเศษชนิดหนึ่ง ข้อความที่ถูกสลักลงไปจะปรากฏเมื่อถึงมือเป้าหมายเท่านั้น” ผู้กล้าตอบอย่างสุขุม พลันตกในห้วงความคิดอีกครั้ง “ไม่น่ามันเร็วไป จะให้ทำตอนนี้มันเร็วเกินไป”
“ไม่หรอกหากท่านจะไปล้างมือเสียตอนนี้ โยนสิ่งนั้นทิ้งด้วย!”
ดาริอุสทำให้นายจ้างยิ้มกว้าง ผู้กล้าแสงตะวันก้มตัวลงกระซิบบางอย่างกับชิ้นส่วนปริศนาในมือ แล้วเจ้าสิ่งนั้นก็หายไปทันควัน ทิ้งไว้แค่ควันสีแดงเลือดและกลิ่นฉุนเฉียวเหมือนซากเน่า
“ข้าจะไปทำธุระในตลาด คิดว่าเจ้าคงอยากเดินดูอะไรด้วย...ทำหน้าที่องครักษ์ให้ดีล่ะ” ผู้กล้านายจ้างเดินนำลงบันไปเวียนลงหอคอย “เดี๋ยวข้าไปล้างมือในห้องน้ำที่ใกล้ที่สุดก็ได้ เดินเบียดกันหน่อยก็ได้หรอกน่า” ไบรอัน แบล็คสโตนหัวเราะเมื่อดาริอุสไม่ยอมเข้าใกล้เขาเกินสามหลา
ตลาดในเบิร์นสเลย์ยังคึกคักเหมือนที่เขาจำได้ ดาริอุสมองร้านรวงที่เรียงรายอย่างเป็นระเบียบ ด้านหน้าของเขาคือนายจ้างคนสำคัญ กำลังตัดสินใจเลือกระหว่างผ้าคลุมไหล่สีม่วงกับน้ำเงิน ข้างๆกันเป็นร้านอาหารจำพวกผักที่เขาชอบ คนสวนแบบจอบเสียมคนหนึ่งยกมือทักเพราะจำเขาได้ เขาอยากแว่บไปดูทางโน้นทางนี้บ้างติดเพียงผู้กล้าแสงตะวันที่กำลังรอเงินทอนอยู่
“หากเจ้าไม่รีบข้าอยากไปดูร้านดอกไม้สักหน่อย” ดาริอุสพยักหน้าตอบรับ ชายหนุ่มมาดหรูอย่างผู้กล้าแสงตะวันคงมีคนรักเป็นเจ้าหญิงสูงศักดิ์ที่ไหนสักแห่งแน่นอน คงทั้งสวยและเพียบพร้อม เหมาะสมอย่างกับกิ่งทองใบหยก
“ซื้อไปให้คนรักหรือ” ดาริอุสเผลอละลาบละล้วง ผู้กล้าส่ายหน้าเบาๆเดินนำไปหาร้านดอกไม้อีกซอยหนึ่ง
“ซื้อให้คนในครอบครัว ข้าไม่มีคนรัก”
เสียงกริ่งหน้าร้านดังเบาๆ หญิงคนขายดอกไม้ร้องทักเพราะรู้จักกับดาริอุสมาก่อน นางเป็นสาววัยรุ่นท่าทางแก่นแก้ว ผู้กล้าพยักหน้าให้แล้วขอตัวไปเลือกดอกไม้ ดาริอุสอยากคุยกับคนรู้จักแต่งานต้องมาก่อนในฐานะมืออาชีพ
“เยอบีร่า หมายความว่า คุณคือแสงสว่างของฉัน” ผู้กล้าแสงตะวันทำท่าเหมือนหนุ่มเจ้าชู้สมัยใหม่ไม่มีผิด “ไอริสแสดงถึงปัญญาและความกล้าหาญ อมาริริสคือความภาคภูมิใจ ขอกิ่งวิลโลว์กับใบปาล์มด้วยถ้ามี ความหมายดีมากเลยละ จัดเป็นช่อให้ด้วย ขอบคุณ”
“ไม่มีกุหลาบหรือ” ดาริอุสยกเสียงสูงอย่างเผลอตัว ไม่ว่าใครจะจัดดอกไม้ย่อมเลือกที่เป็นที่นิยมอย่างกุหลาบหรือลิลลี่มากกว่า
“ก็บอกแล้วว่าไม่ได้ให้คนรัก ตอนนี้ข้าไม่มีคนรัก พอใจหรือยัง”
“แสดงว่าเคยแล้วสิ ท่านโดนหักอกหรือ” ดาริอุสหน้าเสียเพราะคิดว่าเผลอพูดแทงใจดำอีกฝ่าย ทว่าคู่สนทนากลับหัวเราะเบาๆอย่างไม่เดือดเนื้อร้อนใจ
“ข้าเคยมีคนรักมาหลายคนแล้ว ข้าเป็นฝ่ายร้างราเพื่อไม่ให้พวกนางเจ็บ คนสำคัญที่สุดของข้าในตอนนี้เป็นผู้หญิง นางเป็นเหมือนน้องสาวคนหนึ่ง เป็นญาติคนเดียวที่เหลืออยู่...อย่ามองแบบนั้น ไม่ใช่แม่ไซเรน่าหรอก”
“แล้วเมื่อไรท่านจึงจะมีความรักได้โดยไม่ทำให้อีกฝ่ายเจ็บล่ะ ท่านเป็นพวกชอบใช้ความรุนแรงหรือ”
เป็นเวลากว่าห้านาทีกว่าผู้กล้าแสงตะวันจะหยุดหัวเราะได้ ดาริอุสเอียงคออย่างฉงนว่านายจ้างกำลังพูดถึงอะไรกันแน่
“ข้าจะจ่ายเงินตรงนี้เลย ประเดี๋ยวจะมีผู้หญิงในผ้าคลุมมารับช่อดอกไม้...คราวนี้ก็เป็นตาเจ้าพาข้าเที่ยวบ้างแล้ว เราจะไปแอสนาร์กันต่อ ดังนั้น พาข้าไปหาซื้อชุดหนาๆก่อนได้ไหม เจ้าเทียวไปเทียวมาบ่อยคงรู้ที่ดีๆมากกว่าข้าแน่” ดาริอุสพยักหน้า เขาอยากเดินเที่ยวตามใจตัวเองเต็มแก่แล้ว...
(มีต่อ)