สวัสดีค่ะ ทุกท่าน
จริงๆ แอบสิงใน นี้มานานแล้ว (อ่านอย่างเดียว)
วันนี้ อยากลอง มาแชร์ประสบการณ์ ของตัวเองบ้าง จริงๆ มันไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรหรอกค่ะ
แต่ว่า อยากเอามาแชร์ให้ฟังค่ะ เกี่ยวกับประสบการณ์ การผ่าแผลคีรอยด์
เรื่องของเรื่องคือ ตอนสมัยวัยรุ่น เพื่อนๆจะฮิต เจอะหูกันหลายๆรู ก็เลย อยากลองบ้าง
เจาะมาตอนแรกไม่มีปัญหาอะไร แต่มีอากาแพ้ต่างหู เลยไปเกาๆ บริเวณที่มันคัน ประกอบกับการ
เข้าร้านทำผม ช่างจะไดร์ผม แล้วมาโดน บริเวณหู ทำให้ มันเกิดเป็นแผลคีรอยด์เกิดขึ้น...
นานวัน แผลก็เริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จน ไม่กล้ามัดผม จึงตัดสินใจ ไปหาหมอ..เพื่อรักษา
ครั้งที่ 1 ไปพบหมอ ที่โรงพยาบาล รัฐบาล (ตอนนั้น จขกท. อยู่ต่างจังหวัด เนื่องจากเป็น คน ตจว)
หมอแนะนำให้ ฉีดยาสเตอรอยด์ และวันนั้นก็ตัดสินใจ ฉีดทันที (ค่ารักษา 30 บาท ใช้บัตร 30 บาทรักษาทุกโรค)
กลับบ้าน มาค่ะ...นอนปวดระบม ร้าววววว ไปข้างนึงของ ศรีษะเลยค่ะ ตอนฉีด แบบทรมานมากแล้ว กลับมาเจ็บ ตุบๆ ต่ออีก
หลังจากนั้น บวม ปูดใหญ่ๆขึ้นค่ะ 2-3 วันผ่านไป แผลมัน ไม่เล็กลง สักนิดเลย แต่ ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น คือ แผลมันนุ่มลง
แต่ครั้นจะ ให้ฉีดอีก หมอบอกว่า ต้องฉีดต่อเนื่อง กัน 3-5 ครั้ง แผลจะยุบ แต่ ไม่ไหวค่ะ มันปวดมาก เลยไม่ไปตามที่หมอนัด
เนื่องจาก เข็ด ขยาด แขยง ตอนที่เจอความรู้สึก เจ็บแบบนั้น ทำให้ตัดสินใจ หยุดทำ......
หลังจากนั้นไม่นาน มันก็ ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เพราะ คันๆ และ เข้าร้านทำผม แล้ว ช่างไดร์ โดนหูบ่อยๆ แล้ว ขาดความมั่นใจ ในการมัดผม จึงตัดสินใจ
ครั้งที่2 กลับไปหาหมอ อีกรอบ รอบนี้ คุยกะหมอ บอกว่า ขอเจ็บครั้งเดียว คือผ่า ตัด
วันนั้น ขึ้นเขียง ( 30 บาทรักษา ทุกโรค อีกแล้ว) หมอ ฉีดยาชา (เจ็บค่ะ แต่น้อยกว่า ตอนฉีด สเตียรอยด์ ครั้งแรกมาก) หลังจากนั้น ก็ไม่รู้สึกอะไรเลย
เย็บแผล แล้ว กลับมาบ้าน 7 วันไปตัดไหม แผลก็โอเครดีค่ะ (ไม่ได้ถ่ายรูปตอนนั้นเอาไว้)
หลังจากนั้นพอแผลหายดีก็ใช้ชีวิตปกติ เข้าร้าน ทำผม เรื่อยๆ ช่างก็ไดร์ ผมมา โดน ช่วงแผลบ่อยๆ แต่เราก็ไม่เอะใจ เพราะ มันหายแล้ว
จน หลังๆ เริ่มมาสังเกตุ ว่า แผลมันเริ่ม นูนๆ แต่เราก็ไม่สนใจ แล้วมันก็เริ่ม คันๆ เราก็เกาๆ บ้าง จนมันเริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนเริ่มใหญ่กว่าเดิมมาก
จนต้องตัดสินใจ ต้อง หาวิธีจัดการอีกรอบ แต่ ครั้งนี้เราย้ายมาอยู่ แถว สมุทรปราการแล้ว มาเรียนต่อที่มหาวิทยาลัย จึงไม่ได้ กลับไปทำที่ต่างจังหวัด
จึงไปโรงพยาบาล แถวใกล้ๆ ที่พัก พอไปปรึกษา หมอ หมอแนะนำ 2 วิธี คือ ฉีด กับผ่า
จึงตัดสินใจ ผ่า สิคร๊าบบบ (เจ็บทีเดียว) แต่ครั้งนี้ค่ารักษา อยู่ที่ 8- 9 พันบาท เป็นโรงพยาบาล เอกชน ราคาเลย แพงหน่อย
กระบวนการทุกอย่างเหมือนกันหมดเลยค่ะ ขึ้นเขียง ฉีดยาชา แล้ว ผ่าออก แต่ ก่อนเย็บแผล หรือหลังเย็บแผล จำไม่ได้ค่ะ
หมอจะฉีด สเตอรอยด์ เข้าไปด้วย เพื่อระงับไม่ให้แผล เกิดใหม่อีก 7 วันตัดไหม ปกติ
จากวันนั้น ถึงวันนี้ ประมาณ 8 ปีได้แล้ว แผลยังปกติ ไม่มีการนูนขึ้นมาอีกเลย แต่หลังจากผ่าครั้งที่ 2. จขกท ไม่เข้าร้านทำผม เลย
คือเข้าแหล่ะ แต่นานๆ ครั้ง แบบ นับครั้งได้ คือหลีกเลี่ยง การให้ร้านทำผม ไดร์ผมให้ เพื่อลดการกระตุ้นไปโดนที่แผล
ร่ายมาซะยาว ... เพราะว่า จทกท ยังใหม่ในการเล่าเรื่อง ยังจับประเด็นสำคัญๆ ยังไม่ค่อยถูก นะค่ะ
ไว้ครั้งหน้า มีอะไรจะมาอัพเดตให้นะค่ะ
ขอบคุณค่ะ
ผ่าตัดแผลคีรอยด์มา^^
จริงๆ แอบสิงใน นี้มานานแล้ว (อ่านอย่างเดียว)
วันนี้ อยากลอง มาแชร์ประสบการณ์ ของตัวเองบ้าง จริงๆ มันไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรหรอกค่ะ
แต่ว่า อยากเอามาแชร์ให้ฟังค่ะ เกี่ยวกับประสบการณ์ การผ่าแผลคีรอยด์
เรื่องของเรื่องคือ ตอนสมัยวัยรุ่น เพื่อนๆจะฮิต เจอะหูกันหลายๆรู ก็เลย อยากลองบ้าง
เจาะมาตอนแรกไม่มีปัญหาอะไร แต่มีอากาแพ้ต่างหู เลยไปเกาๆ บริเวณที่มันคัน ประกอบกับการ
เข้าร้านทำผม ช่างจะไดร์ผม แล้วมาโดน บริเวณหู ทำให้ มันเกิดเป็นแผลคีรอยด์เกิดขึ้น...
นานวัน แผลก็เริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จน ไม่กล้ามัดผม จึงตัดสินใจ ไปหาหมอ..เพื่อรักษา
ครั้งที่ 1 ไปพบหมอ ที่โรงพยาบาล รัฐบาล (ตอนนั้น จขกท. อยู่ต่างจังหวัด เนื่องจากเป็น คน ตจว)
หมอแนะนำให้ ฉีดยาสเตอรอยด์ และวันนั้นก็ตัดสินใจ ฉีดทันที (ค่ารักษา 30 บาท ใช้บัตร 30 บาทรักษาทุกโรค)
กลับบ้าน มาค่ะ...นอนปวดระบม ร้าววววว ไปข้างนึงของ ศรีษะเลยค่ะ ตอนฉีด แบบทรมานมากแล้ว กลับมาเจ็บ ตุบๆ ต่ออีก
หลังจากนั้น บวม ปูดใหญ่ๆขึ้นค่ะ 2-3 วันผ่านไป แผลมัน ไม่เล็กลง สักนิดเลย แต่ ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น คือ แผลมันนุ่มลง
แต่ครั้นจะ ให้ฉีดอีก หมอบอกว่า ต้องฉีดต่อเนื่อง กัน 3-5 ครั้ง แผลจะยุบ แต่ ไม่ไหวค่ะ มันปวดมาก เลยไม่ไปตามที่หมอนัด
เนื่องจาก เข็ด ขยาด แขยง ตอนที่เจอความรู้สึก เจ็บแบบนั้น ทำให้ตัดสินใจ หยุดทำ......
หลังจากนั้นไม่นาน มันก็ ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เพราะ คันๆ และ เข้าร้านทำผม แล้ว ช่างไดร์ โดนหูบ่อยๆ แล้ว ขาดความมั่นใจ ในการมัดผม จึงตัดสินใจ
ครั้งที่2 กลับไปหาหมอ อีกรอบ รอบนี้ คุยกะหมอ บอกว่า ขอเจ็บครั้งเดียว คือผ่า ตัด
วันนั้น ขึ้นเขียง ( 30 บาทรักษา ทุกโรค อีกแล้ว) หมอ ฉีดยาชา (เจ็บค่ะ แต่น้อยกว่า ตอนฉีด สเตียรอยด์ ครั้งแรกมาก) หลังจากนั้น ก็ไม่รู้สึกอะไรเลย
เย็บแผล แล้ว กลับมาบ้าน 7 วันไปตัดไหม แผลก็โอเครดีค่ะ (ไม่ได้ถ่ายรูปตอนนั้นเอาไว้)
หลังจากนั้นพอแผลหายดีก็ใช้ชีวิตปกติ เข้าร้าน ทำผม เรื่อยๆ ช่างก็ไดร์ ผมมา โดน ช่วงแผลบ่อยๆ แต่เราก็ไม่เอะใจ เพราะ มันหายแล้ว
จน หลังๆ เริ่มมาสังเกตุ ว่า แผลมันเริ่ม นูนๆ แต่เราก็ไม่สนใจ แล้วมันก็เริ่ม คันๆ เราก็เกาๆ บ้าง จนมันเริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนเริ่มใหญ่กว่าเดิมมาก
จนต้องตัดสินใจ ต้อง หาวิธีจัดการอีกรอบ แต่ ครั้งนี้เราย้ายมาอยู่ แถว สมุทรปราการแล้ว มาเรียนต่อที่มหาวิทยาลัย จึงไม่ได้ กลับไปทำที่ต่างจังหวัด
จึงไปโรงพยาบาล แถวใกล้ๆ ที่พัก พอไปปรึกษา หมอ หมอแนะนำ 2 วิธี คือ ฉีด กับผ่า
จึงตัดสินใจ ผ่า สิคร๊าบบบ (เจ็บทีเดียว) แต่ครั้งนี้ค่ารักษา อยู่ที่ 8- 9 พันบาท เป็นโรงพยาบาล เอกชน ราคาเลย แพงหน่อย
กระบวนการทุกอย่างเหมือนกันหมดเลยค่ะ ขึ้นเขียง ฉีดยาชา แล้ว ผ่าออก แต่ ก่อนเย็บแผล หรือหลังเย็บแผล จำไม่ได้ค่ะ
หมอจะฉีด สเตอรอยด์ เข้าไปด้วย เพื่อระงับไม่ให้แผล เกิดใหม่อีก 7 วันตัดไหม ปกติ
จากวันนั้น ถึงวันนี้ ประมาณ 8 ปีได้แล้ว แผลยังปกติ ไม่มีการนูนขึ้นมาอีกเลย แต่หลังจากผ่าครั้งที่ 2. จขกท ไม่เข้าร้านทำผม เลย
คือเข้าแหล่ะ แต่นานๆ ครั้ง แบบ นับครั้งได้ คือหลีกเลี่ยง การให้ร้านทำผม ไดร์ผมให้ เพื่อลดการกระตุ้นไปโดนที่แผล
ร่ายมาซะยาว ... เพราะว่า จทกท ยังใหม่ในการเล่าเรื่อง ยังจับประเด็นสำคัญๆ ยังไม่ค่อยถูก นะค่ะ
ไว้ครั้งหน้า มีอะไรจะมาอัพเดตให้นะค่ะ
ขอบคุณค่ะ