กระทู้นี้แตกมาจาก http://ppantip.com/topic/31406583 อันเนื่องจากกระทู้เก่าถูกทิ้งมานานแล้ว เลยถือโอกาสตั้งกระทู้ใหม่ซะเลย อาศัยกระแสกระทู้รวมสมช.ในมิดเดิ้ลเอิร์ธเล็กๆ ^^

   คราวก่อนเราจบลงที่คณะเอล์ฟชาวโนลดอร์ขึ้นเหยียบชายฝั่งของมิดเดิ้ลเอิร์ธครั้งแรกในรอบนับพันปี โดยแบ่งเป็นสองกลุ่มคือกลุ่มของเฟอานอร์ นำโดยเจ้าชายเฟอานอร์ที่นับตามศักดิ์ตอนนี้คือจอมกษัตริย์แห่งโนลดอร์ และกลุ่มของฟิงโกลฟินซึ่งมีลูกๆฟิงกอนและทัวร์กอน รวมทั้งหลานๆที่เป็นลูกของน้องชายตามมาด้วย พร้อมด้วยเจ้าป้ากาลาเดรียลที่รักของเรา
แผ่นดินตะวันตกของมิดเดิ้ลเอิร์ธที่เป็นฉากสำคัญในยุคที่หนึ่งมีชื่อว่า เบเลริอันท์ (Beleriand) ซึ่งเป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์ภายใต้ปกครองของกษัตริย์ธิงโกล หรืออีกนัยนึงที่นี่คือดินแดนของชาวเทเลรีนั่นเอง จะเห็นว่าเบเลริอันท์ที่เป็นเวทีในยุคแรกนั้นอยู่ทางตะวันตกของมิดเดิ้ลเอิร์ธ(สีฟ้า) ซึ่งเมื่อเทียบแล้วส่วนที่หลงเหลือของเบเลริอันท์ในยุคที่สาม (สีเหลือง) คือเทือกเขาเอเรดลูอิน อันเป็นอาณาจักรลินดอนของกษัตริย์โนลดอร์องค์สุดท้าย กิล-กาลัดนั่นเอง



อาณาจักรของธิงโกลคือโดริอัธ (Doriath) ตั้งอยู่ ณ ใจกลางเบเลริอันพอดี แต่เดิมพวกซินดาร์อาศัยอยู่ในป่าเขาตามมีตามเกิดแต่ภายหลังเมื่อพวกซินดาร์ได้พบกับคนแคระจากเบเลกอสต์และด้วยคำแนะนำของเทพีเมลิอัน กษัตริย์ธิงโกลจึงดำริให้สร้างพระราชวังที่สร้างขึ้นจากการขุดศิลาใต้พิภพ เกิดเป็นห้องหับนับพัน ให้นามว่าเมเนกร๊อด (Menegroth)  และจากความร่วมมือของสองเผ่าพันธุ์นั้นเองบวกกับการตกแต่งจากการรังสรรค์ของเทพีเมลิอันจึงเกิดเป็นพระราชวังงดงามที่สุดที่เคยมีมาในมิดเดิ้ลเอิร์ธ (คุ้นๆมั๊ย พระราชวังในถ้ำที่มีห้องมากมาย? ท้องพระโรงของธรันดูอิลใน The Hobbit นั่นเอง ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเมเนกร็อธ) และในอาณาจักรโดริอัธก่อนกาลก่อสร้างพระราชวังนี่เองเป็นการถือกำเนิดของพระราชธิดาองค์เดียวของธิงโลและเมลิอัน ผู้งดงามที่สุดในบรรดาสิ่งมีชีวิตในพิภพ ทายาทลูกผสมระหว่างสายเลือดเอล์ฟและเทพไมอาร์ เจ้าหญิงลูธิเอน (Luthien) หรือทินูเวียล (Tinuviel) ดาราแห่งงรุ่งอรุณแห่งปวงชาวเอล์ฟ (Morning Star of the Elves)



   สงครามครั้งแรกของเบเลริอันท์เกิดขึ้นก่อนที่พวกโนลดอร์จะกลับมายังมิดเดิ้ลเอิร์ธ ในครั้งนั้นพวกซินดาร์และไลเควนดิต่อสู้กับพวกออร์คและสูญเสียอย่างหนัก แม้จะมีชัย จากนั้นเป็นต้นมาพวกไลเควนดิจึงกลับไปอาศัยยังออสซิริอันท์ (Ossiriand) ดินแดนที่มีแม่น้ำเจ็ดสายไหลผ่าน ทางตะวันออกของเบเลริอันท์และถูกขนานนามว่ากรีนเอล์ฟ ขณะที่ทางโดริอัธนั้นเทพีเมลิอันท์สร้างข่ายเวทย์ปกคลุมอาณาจักรไม่ให้บุคคลภายนอกหรือสิ่งชั่วร้ายเล็ดลอดเข้ามาได้ โดริอัธจึงกลายเป็นดินแดนที่ถูกพิทักษ์สมดังชื่อ

   เมื่อคณะของเฟอานอร์และบุตรมาถึงมิดเดิ้ลเอิร์ธ จึงเกิดการต่อสู้ครั้งที่สองขึ้น คือ การต่อสู้ใต้กลุ่มดาว (Daglor-nuin-Giliath) และมีชัยขนะอย่างงดงาม เฟอานอร์เกิดลำพองใจและไม่รู้ถึงพลังอำนาจแท้จริงของอังค์บันด์จึงยกทัพไปยังอังค์บัน แต่ถูกล้อมไว้และโดนเหล่าบัลร็อกทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส เหล่าโอรสแห่งเฟอานอร์มาช่วยบิดาของตนไว้ได้ แต่เฟอานอร์รู้ตัวดีว่าไม่รอดแน่ และได้มองไปยังหอคอยธังโกโรดริม จึงรู้ว่าลำพังอำนาจทั้งหมดทั้งมวลของชาวโนลดอร์ก็ไม่อาจทำลายปราการแห่งมอร์กอร์ธลงได้ จึงเอ่ยปากสาปแช่ง และให้เหล่าบุตรสาบานจะล้างแค้นแทนตน แล้วเฟอานอร์จึงสิ้นใจ แต่จิตวิญญาณแห่งไฟของเฟอานอร์นั้นรุนแรงเกินผู้ได้จึงได้เผาผลาญร่างของโนลดอร์ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดเป็นเถ้าถ่านปลิวไปตามสายลม หลังจากความตายของเฟอานอร์ มอร์กอร์ธแสร้งส่งทูตมาส่งสารขอยอมแพ้ กระทั่งจะคืนซิลมาริลให้แก่บุตรแห่งเฟอานอร์ ฝ่ายมายดรอสพี่คนโตหวังจะตลบหลังมอร์กอร์ธแต่พลาด จึงถูกจับเป็ยตัวประกันและถูกตรึงข้อมือไว้บนยอดผา เหนือปราการแห่งอังค์บันด์นั่นเอง

ฝ่ายคณะของฟิงโกลฟินเดินทางมาถึงฮิธลุม (Hithlum) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเบเลริอันท์พร้อมกับแสงจันทร์แรกส่องต้องพิภพ และเมื่อแสงตะวันปรากฏเหนือน่านฟ้า ฟิงโกลฟินจึงเป่าแตรประจำองค์ และยกเข้าตีปราการของมอร์ก็อธ แต่เมื่อไม่สำเร็จจึงล่าถอยออกมา ตอนนั้นเองที่ฟิงกอนแอบเข้าไปช่วยมายดรอสด้วยความช่วยเหลือของพญาอินทรืโธรอนดอร์ จึงสามารถช่วยมายดรอสออกมาได้ แต่ต้องตัดมือข้างขวาทิ้ง วีรกรรมของฟิงกอนนี้เองทำให้ร้อยร้าวแห่งราชวงศ์โนลดอร์ประสานเข้าหากัน มายดรอสประกาศสละสิทธิ์ในราชบัลลังก์และยกให้แก่อาของตน ฟิงโกลฟินจึงขึ้นเป็นจอมกษัตริย์ของชาวโนลดอร์ และสร้างอาณาจักร์ของตนในฮิธลุม