เพื่อริดรอนการใช้อำนาจล้นฟ้า เต็มไปด้วยอคติ ความลำเอียงขององค์กรอิสระในเวลานี้ น่าจะถึงเวลาที่คนไทยร่วมกันรณรงค์เรียกร้อง ให้มีการตรวจสอบ สะสาง บรรดาองค์กรที่ประพฤติผิดทำนองคลองธรรม คนไทยที่เป็น ผู้พิพากษา อัยการ ทนายความ นิติกร ในหน่วยงานรัฐและเอกชน ฯลฯ ท่านทั้งหลายที่ร่ำเรียนทำงานมาในสายกฏหมาย รักษาความเที่ยงธรรม ท่านเหล่านี้คงรู้สึกอยู่หรอกว่า เกิดอะไรขึ้นในเวลานี้ คำตัดสินใดที่ขัดต่อความเที่ยงธรรม อยากขอให้ออกมารวมตัว ตรวจสอบองค์กรอิสระ ร่วมกับประชาชน เป็นที่ปรึกษาและศูนย์กลางให้กับประชาชนทั้งหลายที่ทนความอยุติธรรมไม่ได้ เพราะเรื่องนี้ โยงไปถึงความมั่นคงของประเทศและสังคม หากองค์กรที่มีคนด้อยคุณธรรมเป็นผู้ชี้ชะตาบ้านเมือง ก็ยากจะนำประเทศไปสู่ความสงบ กลับเป็นแรงสนับสนุน ให้กลุ่มกบฏฮึกเหิม สร้างกำลังมวลชนที่ไร้สติ ไปกดดันให้ได้สิ่งที่ตนต้องการ โดยไม่เกรงกฎหมาย และนำไปสู่แผนการใหญ่อื่นๆ การ์ดคนเถื่อน เวลานี้รวมอยู่ในกรุง เป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ควรจะระงับโดยเร็ว

ประชาชนส่วนใหญ่รังเกียจ กปปส. ตัวเลขาธิการ แกนนำ รวมทั้งผู้สนับสนุน สิ่งดีๆเที่ยงธรรม นำไปสู่ความเจริญ ต้องมาจากคนที่มีความรู้สติปัญญา ตัวชี้วัดเบื้องต้นคือ กาย วาจา ใจ ดีเรียบร้อย มีวิจารณญาน คุณธรรมดี ไม่ใช่จากกลุ่มที่รักสนุก ป้อนความเฮฮาลามก สร้างภาพหลอกลวงไปวันๆ เอากลุ่มคนที่ด้อยปัญญากว่าเป็นฐานกำลัง

หากคนพวกนี้ทำสำเร็จ รัฐบาลใหม่ที่มาจากชัยชนะของคนพวกนั้ ก็จะเต็มไปด้วยคนของเขา บ้านเมืองระส่ำระสายแน่นอน

ประชาชนที่เคยไม่เอาพรรคเพื่อไทย มาถึงตอนนี้ ก็มองว่า ถ้าประชาธิปัตย์ลงเลือกตั้งอีก ก็จะไม่เลือกแน่นอน ทั้งที่เคยเป็นตัวเลือกสำคัญ

สิ่งที่ประชาชนทำได้ตอนนี้ น่าจะเริ่มที่การจัดการกับ องค์กรอิสระก่อน เพราะเป็นกลุ่มที่บิดเบือนสภาพบ้านเมืองตอนนี้ ทั้งที่อิทธิพลอำนาจนี้ ไม่ได้มีอยู่จริง เพียงแต่ภาพลวงตา หมอกควันที่ปกคลุมคนไทยอยู่ เพียงแต่ประชาชนเข้าไปเปลี่ยนตัวละครใหม่ หาผู้ที่เที่ยงธรรม มีความรู้ความสารถ เข้าไปดำรงตำแหน่งแทน

http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNU5UY3pNelkzT1E9PQ==&sectionid=

บทบรรณาธิการ : องค์กรอิสระ

สูตร คณิตศาสตร์ล้อการเมือง 20 ล้าน+3 < 6 ที่กลุ่มสนับสนุนประชาธิปไตยนำเสนอ คาดว่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ได้รับการบันทึกอยู่ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย

เป็นตลกร้ายที่มีทั้งอารมณ์ขันและการวิพากษ์วิจารณ์ชวนให้คิดพิจารณา

หลังจากการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. ที่มีผู้ใช้สิทธิ 20 ล้านเสียง ถูกวินิจฉัยให้เป็นโมฆะ

มีคำถามคาใจอีกมากมายที่เกิดขึ้นตามมา

โดยเฉพาะการตั้งข้อสังเกตทั้งในกลุ่มคนไทยและต่างชาติว่า องค์กรอิสระควรมีอำนาจตัดสินอนาคตทางการเมืองของประเทศมากมายเท่านี้จริงหรือ

และองค์กรอิสระต่างๆ จะถูกตรวจสอบได้อย่างไร

การมีองค์กรอิสระเป็นผลดีสำหรับการตรวจสอบในระบอบประชาธิปไตย เป็นการถ่วงดุลอำนาจทางการเมืองในรูปแบบหนึ่ง

แต่จุดอ่อนอยู่ที่ว่า คณะกรรมการในองค์กรอิสระผ่านการตรวจสอบมาอย่างไร และจะถูกตรวจสอบอย่างไรจากประชาชน

การหยิบยกคุณสมบัติคุณงามความดีมิได้เป็นเหตุเป็นผล หรือมีระยะเวลาคุ้มครองที่ถาวร

แม้แต่ในพระธรรมคำสอนยังมีคำชี้แนะว่า อย่าเพิ่งเชื่อเพราะผู้พูดควรเชื่อได้ และอย่าเพิ่งเชื่อเพราะผู้พูดนั้นเป็นครูของเรา

สะท้อนว่า ความดีไม่อาจวัดหรือขึ้นอยู่กับความน่าเชื่อถือของบุคคลที่ตัดสินได้ด้วยความรู้สึกหรือความเชื่อ

เพราะความรู้สึกและความเชื่อใช้เป็นกฎเกณฑ์กติกาไม่ได้

ในกรณีของศาลรัฐธรรมนูญต่างประเทศ แต่ละชาติใช้การคัดเลือกที่แตกต่างกัน แต่ยึดโยงถึงอำนาจของประชาชนคล้ายกัน

กรณี ของเยอรมนี รัฐสภาเป็นผู้เลือกตั้งสมาชิกของศาล แต่ละสภาของรัฐสภามีอำนาจเลือกตั้งสมาชิกของศาล สภาละ 8 คน และจะสลับ กับการเลือกประธานศาล โดยการเลือกตั้งสมาชิกของศาลนั้นต้องได้เสียงข้างมาก 2 ใน 3

กรณีของอิตาลี ศาลประกอบด้วยตุลาการ 15 คน มาจากการแต่งตั้งของประธานาธิบดี 5 คน รัฐสภาเลือกตั้ง 5 คน และศาลยุติธรรมสูงสุดกับศาลปกครองสูงสุดเลือกตั้งมา 5 คน เป็นต้น

สำหรับ ไทย การเริ่มต้นขององค์กรอิสระ อาจมาด้วยเจตนาดี แต่วิธีการและรูปแบบนั้นเป็นเรื่องที่ต้องเปิดกว้างให้สังคมวิพากษ์วิจารณ์ และตรวจสอบ

เพื่อจะแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นและเป็นสากลยิ่งขึ้น