ผมเห็นกระทู้จำนวนมากถามเรื่องลดน้ำหนัก ว่าลดยังงัยดี ลดเฉพาะส่วนได้ป่ะ ลดตรงนั้นแต่ไม่อยากลดตรงนี้
บางคนก็นิยมลดกันทางเฟสบุ๊ก แต่ไม่เคยไปออกกำลังกายจริงๆ ซักที บางคนอยากลดแต่ไม่อยากเหนื่อย
บ้างก็ว่า ออกกำลังสามสิบนาทีขึ้นไปถึงจะเผาไขมัน บ้างก็ว่าไม่ใช่
สรุป ยังหาทฤษฎีการออกกำลังกายไม่ได้เลยไม่ได้ลดซักที
สำหรับผม แรงบันดาลใจในการลดน้ำหนักคือถูกเมียหยาม คนเราฆ่าได้หยามไม่ได้ เลยลั่นวาจาไปว่าต่อไปนี้กูจะลดน้ำหนักอย่ามาห้ามกู (คิดในใจนะแต่ว่า ขืนพูดออกไปจะตายก่อนลดน้ำหนัก) เมื่อคิดได้ก็ลงมือทำเลย
ตีแบดแบบคู่ เล่นสัปดาห์ล่ะสามวัน วันละสองชั่วโมงบ้างสามบ้าง ตีแบบโหดสัส บุกอย่างเดียว ปรากฎว่าไม่ลด แต่ก็ไม่เพิ่ม
เมื่อไม่ได้อย่างหวังก็ต้องหาอะไรเล่นเพิ่ม พอดีมีค่ายมวยเปิดใหม่ที่ปากซอย ไปลองดูหน่อยสิ ค่ายมวยคงสิทธา ลาดพร้าว 71
ซ้อมมวยอย่างบ้าคลั่ง สัปดาห์ละ 2-3 วัน บางวันไปเช้าเย็น ช่วงหลังนี่ซ้อมสองรอบๆละ 1.5 ชม. ถึงขั้นจะขึ้นชกสมัครเล่นกันเลย วันไหนไปไม่ได้ก็เตะต้นกล้วยอยู่ที่บ้าน ซึ่งก็ยังตีแบดฯและเล่นบอลอยู่ด้วย รวมแล้วออกกำลังอย่างน้อย 5 วันต่อสัปดาห์
ยังไม่หนำใจเพราะน้ำหนักลงยังไม่ถึงที่ต้องการเพราะผมต้องการไปชกมวยไทยสมัครเล่นรุ่น 65.5 กก. แต่น้ำหนักไม่ลดมาสามเดือนแล้ว ทั้งที่ดูภายนอกผอมลง เลยไปซื้อชุดลดน้ำหนักสำหรับนักมวยมาใส่วิ่ง ด้วยความที่ไม่รู้เรื่องการวิ่งเลย ก็ลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆ
ผมใส่ชุดลดน้ำหนักวิ่งตอนเที่ยง 5 กม. เท่ากับหนึ่งรอบนิมคมฯปิ่นทอง หมาแม่มเห่ากันเกลียว บ้างก็ไล่กัดกันอย่างเมามัน แต่ในหัวผมนึกถึงคำเหยียดหยามเมียแล้วก็วิ่งต่อไป กลับมาโรงงานคนก็ขำกันกลิ้งยังกะพ่องมันตาย หาได้แคร์ไม่ ตกเย็นวิ่งอีก 5 กม. คราวนี้ไม่ลดให้มันรู้ไป
แม่เจ้า มันไม่ลงซักขีด เอาวะ งั้นวิ่งแม่มรวดเดียว 10 กม. เลยแล้วกัน สัปดาห์ละสามวัน และยังชกมวยด้วย กลายเป็นออกกำลัง 5-6 วันต่อสัปดาห์ เออทีนี้ลดมาอีกโลกว่าๆ
ยังไม่หนำใจไปลงเรียนตีแบดฯแบบเดี่ยวกะครูอดีตแชมป์ประเทศไทย อีกหนึ่งวัน ครั้งล่ะ 2 ชม. ใครเคยเรียนจะรู้ว่ามันเหนื่อยขนาดไหน มีน้องข้างๆคอร์ตถามว่าพี่ไม่เหนื่อยเหรอ เอ่อกูแทบขาดใจแล้วว่ะ HR พุ่งไป 190
ออกกำลังแม่มเกือบทุกวันแล้ว น้ำหนักก็ลงมาสมใจ จาก 72 เหลือ 64 ในเวลาลองผิดลองถูกไป 10 เดือน อ้อลืมบอกไป ผมสูง 170 อายุ 42 ปี
สรุปจากที่ผมทดลอง
1. กินข้าวทุกมือแต่กินจานเดียว เช่น เคยกินขาหมูสองจานก็ลดเหลือจานเดียว เพิ่มไข่สอง
2. วิ่ง 10 กม. หรือหนึ่งชม. สัปดาห์ละสามวัน
3. ชกมวยไทยหรือตีแบดฯ อีก 2-3 วัน
4. วางเป้าหมายเสมอว่าทำไปทำไม เช่น ผมซ้อมมวยผมก็ต้องไปชกจริง ซ้อมแบดฯก็ต้องไปแข่งกับเด็กฝึก ซ้อมวิ่งก็ต้องตั้งเป้าให้ถึงมาราธอน
ค่าใช้จ่าย
ตีแบดฯ เดือนละไม่เกินพัน
เรียนแบดฯ เดือนละ 4 พัน
เรียนมวยไทย ครั้งละสี่ร้อย เดือนละประมาณ 4 พัน
ผมจ่ายช่วงบ้าระห่ำ นี่เดือนละเกือบหมื่น แต่ก็สนุกมากมาย
วิ่ง ไม่เสียซักบาทแค่ผมซื้อ Skechers Go Run มาคู่นึงแล้วก็วิ่ง อ้อลืมไป ค่าน้ำหนึ่งขวดกะเครื่องดื่มเกลือแร่
ผมทำแบบนี้แลัวได้ผล ส่วนคนอื่นก็เลือกเอาซักอย่างก็พอ แล้วลงมือทำเลยครับ
ขอให้สนุกกับการออกกำลังกายครับ
ลดน้ำหนักแบบสนุกๆ ไม่ต้องอดอาหาร ไม่ต้องกินยา ไม่ต้องนับแคลอรี่
บางคนก็นิยมลดกันทางเฟสบุ๊ก แต่ไม่เคยไปออกกำลังกายจริงๆ ซักที บางคนอยากลดแต่ไม่อยากเหนื่อย
บ้างก็ว่า ออกกำลังสามสิบนาทีขึ้นไปถึงจะเผาไขมัน บ้างก็ว่าไม่ใช่
สรุป ยังหาทฤษฎีการออกกำลังกายไม่ได้เลยไม่ได้ลดซักที
สำหรับผม แรงบันดาลใจในการลดน้ำหนักคือถูกเมียหยาม คนเราฆ่าได้หยามไม่ได้ เลยลั่นวาจาไปว่าต่อไปนี้กูจะลดน้ำหนักอย่ามาห้ามกู (คิดในใจนะแต่ว่า ขืนพูดออกไปจะตายก่อนลดน้ำหนัก) เมื่อคิดได้ก็ลงมือทำเลย
ตีแบดแบบคู่ เล่นสัปดาห์ล่ะสามวัน วันละสองชั่วโมงบ้างสามบ้าง ตีแบบโหดสัส บุกอย่างเดียว ปรากฎว่าไม่ลด แต่ก็ไม่เพิ่ม
เมื่อไม่ได้อย่างหวังก็ต้องหาอะไรเล่นเพิ่ม พอดีมีค่ายมวยเปิดใหม่ที่ปากซอย ไปลองดูหน่อยสิ ค่ายมวยคงสิทธา ลาดพร้าว 71
ซ้อมมวยอย่างบ้าคลั่ง สัปดาห์ละ 2-3 วัน บางวันไปเช้าเย็น ช่วงหลังนี่ซ้อมสองรอบๆละ 1.5 ชม. ถึงขั้นจะขึ้นชกสมัครเล่นกันเลย วันไหนไปไม่ได้ก็เตะต้นกล้วยอยู่ที่บ้าน ซึ่งก็ยังตีแบดฯและเล่นบอลอยู่ด้วย รวมแล้วออกกำลังอย่างน้อย 5 วันต่อสัปดาห์
ยังไม่หนำใจเพราะน้ำหนักลงยังไม่ถึงที่ต้องการเพราะผมต้องการไปชกมวยไทยสมัครเล่นรุ่น 65.5 กก. แต่น้ำหนักไม่ลดมาสามเดือนแล้ว ทั้งที่ดูภายนอกผอมลง เลยไปซื้อชุดลดน้ำหนักสำหรับนักมวยมาใส่วิ่ง ด้วยความที่ไม่รู้เรื่องการวิ่งเลย ก็ลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆ
ผมใส่ชุดลดน้ำหนักวิ่งตอนเที่ยง 5 กม. เท่ากับหนึ่งรอบนิมคมฯปิ่นทอง หมาแม่มเห่ากันเกลียว บ้างก็ไล่กัดกันอย่างเมามัน แต่ในหัวผมนึกถึงคำเหยียดหยามเมียแล้วก็วิ่งต่อไป กลับมาโรงงานคนก็ขำกันกลิ้งยังกะพ่องมันตาย หาได้แคร์ไม่ ตกเย็นวิ่งอีก 5 กม. คราวนี้ไม่ลดให้มันรู้ไป
แม่เจ้า มันไม่ลงซักขีด เอาวะ งั้นวิ่งแม่มรวดเดียว 10 กม. เลยแล้วกัน สัปดาห์ละสามวัน และยังชกมวยด้วย กลายเป็นออกกำลัง 5-6 วันต่อสัปดาห์ เออทีนี้ลดมาอีกโลกว่าๆ
ยังไม่หนำใจไปลงเรียนตีแบดฯแบบเดี่ยวกะครูอดีตแชมป์ประเทศไทย อีกหนึ่งวัน ครั้งล่ะ 2 ชม. ใครเคยเรียนจะรู้ว่ามันเหนื่อยขนาดไหน มีน้องข้างๆคอร์ตถามว่าพี่ไม่เหนื่อยเหรอ เอ่อกูแทบขาดใจแล้วว่ะ HR พุ่งไป 190
ออกกำลังแม่มเกือบทุกวันแล้ว น้ำหนักก็ลงมาสมใจ จาก 72 เหลือ 64 ในเวลาลองผิดลองถูกไป 10 เดือน อ้อลืมบอกไป ผมสูง 170 อายุ 42 ปี
สรุปจากที่ผมทดลอง
1. กินข้าวทุกมือแต่กินจานเดียว เช่น เคยกินขาหมูสองจานก็ลดเหลือจานเดียว เพิ่มไข่สอง
2. วิ่ง 10 กม. หรือหนึ่งชม. สัปดาห์ละสามวัน
3. ชกมวยไทยหรือตีแบดฯ อีก 2-3 วัน
4. วางเป้าหมายเสมอว่าทำไปทำไม เช่น ผมซ้อมมวยผมก็ต้องไปชกจริง ซ้อมแบดฯก็ต้องไปแข่งกับเด็กฝึก ซ้อมวิ่งก็ต้องตั้งเป้าให้ถึงมาราธอน
ค่าใช้จ่าย
ตีแบดฯ เดือนละไม่เกินพัน
เรียนแบดฯ เดือนละ 4 พัน
เรียนมวยไทย ครั้งละสี่ร้อย เดือนละประมาณ 4 พัน
ผมจ่ายช่วงบ้าระห่ำ นี่เดือนละเกือบหมื่น แต่ก็สนุกมากมาย
วิ่ง ไม่เสียซักบาทแค่ผมซื้อ Skechers Go Run มาคู่นึงแล้วก็วิ่ง อ้อลืมไป ค่าน้ำหนึ่งขวดกะเครื่องดื่มเกลือแร่
ผมทำแบบนี้แลัวได้ผล ส่วนคนอื่นก็เลือกเอาซักอย่างก็พอ แล้วลงมือทำเลยครับ
ขอให้สนุกกับการออกกำลังกายครับ