สวัสดีค่ะ นัทสึค่ะ วันนี้อยากมาแชร์ประสพการณ์การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ล้วนๆ ทั้งข้อดีและข้อเสียที่พบมากับตัวตลอดหกเดือนที่ผ่านมาให้เพื่อนๆแม่ๆในห้องฟังค่ะ ขอเกริ่นก่อนว่าตัวเราเองขี้โรคค่ะ เป็นภูมแพ้ทุกสิ่งทุกอย่าง อาหารทะเลทุกชนิด ถั่ว ชอคโกแลต นม เป็ด ไก่ (ขนาดที่ว่าคุณสามีบ่นเลยค่ะว่าเธอไม่น่ารอดมาจนโตขนาดนี้) เราทรมาณมากกับอาการแพ้เหล่านี้ที่ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เพราะบางอย่างก็แพ้ถึงระบบทางเดินหายใจกันเลยทีเดียว ดังนั้นตอนท้องลูกสาวเลยกังวลว่า น่าจะแพ้แบบแม่แน่ๆ อย่างนี้ลูกก็ต้องทรมาณแย่เลย คิดถึงขั้นอยากจะเอาลูกออกตั้งแต่แรกเพื่อไม่ให้ลูกเกิดมาแพ้ไปหมดแบบเรา จนได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่ง (ขอเซนเซอร์ชื่อนะคะ ไม่ได้มาขายของ หลังไมค์เอาค่า) พูดถึงการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และประกอบกับได้คุยกับคุณหมอเด็กหลังลูกคลอดว่า 'มีทางหายขาด ถ้าทานนมแม่ล้วนๆไม่มีนมผสมขั้นต่ำหกเดือน' เหมือนเห็นทางสว่างเลยค่ะ ก็ตั้งใจมาตั้งแต่ตอนนั้นว่า 'จะเลี้ยงด้วยนมแม่ล้วนๆละนะ!'
หลังจากผ่านความยากลำบากอันหนักหน่วงตลอดหกเดือนที่ผ่านมา เหล่านี้คือข้อดีและข้อเสียที่เราพบด้วยตัวเอง
1 ลูกยังไม่เคยป่วยเข้าโรงพยาบาลซักครั้ง นอกจากเอาไปฉีดวัคซีนตามกำหนด
2 ลูกไม่ตัวร้อนมีไข้หลังฉีดวัคซีน (อันนี้ไม่รู้ว่าเกี่ยวกันรึเปล่านะคะ แต่สังเกตุมาตลอดเลย)
3 ทางบ้านบอกว่าลูกพัฒนาการเร็วกว่าที่ควร(เอ๊ะ) เขาบอกว่าเด็กคนอื่นๆที่เห็นสามเดือนยังไม่คว่ำเลย ลูกเราคว่ำเองแล้วค่ะ แต่เราคิดว่าอาจเพราะกายบริหารที่คุณหมอให้ทำบ่อยๆด้วย น้องคอเริ่มเเข็งตั้งแต่สองเดือนค่ะ
4 เดินทางไปไหนสะดวกขึ้น ในที่นี้คือเวลาไปต่างจังหวัด หรือรถติดบนถนน เปิดเต้าให้ทานได้เลยค่ะ ไม่ต้องพกอุปกรณ์ชงนมให้วุ่นวายยุ่งยาก
5 ไม่ต้องคอยล้างนึ่งขวดนม
6 ลูกไม่ติดขวดนมค่ะ ชนิดที่ว่าไม่เอาเลยน่าจะถูกกว่า แต่แกดื่มจากถ้วยหัดดื่มคล่องเลยค่ะ
7 ประหยัดค่านมผง วันก่อนเดินห้างไปดูนมที่ลูกต้องกินถ้าไม่กินนมแม่ หมอบอกต้องนูตราไมเยนเท่านั้น คำนวนคร่าวๆ แพงกว่าเงินเดือนพ่อแม่อีก ตกใจเลยค่ะ โชคดีจริงๆที่อดทนให้กินนมแม่
8 ลูกรักแม่มากกกกก (อันนี้ปลื้ม) คือเล่นกับใครก็ได้ แต่ถ้าง่วงหรือหิวต้องแม่เท่านั้นคนอื่นเอาไม่อยู่ เราคิดว่าเป็นสิ่งที่ควรจะภูมิใจค่ะ ว่าไม่มีใครมาแทนเราได้ในตอนนี้
9 ลูกไม่เป็นโรคอ้วนแน่นอน 100% ลูกเรากินนมแม่จนอ้วนปุก กลัวว่าจะเป็นโรคอ้วน แต่หมอบอกว่าไม่มีทางเพราะนมแม่ไม่ทำให้อ้วน(โรค) ค่ะ
10 ลดความอ้วนในแม่ <<< อันนี้ผลพลอยได้ค่ะ น้ำหนักก่อนท้องเรา 52 ก่อนคลอด 68 หลังคลอด 65.3 ตอนนี้ผ่านมาหกเดือน เหลือ 49 ค่ะ!! ถามว่ากินเยอะไหม เยอะกว่าก่อนท้อง ไม่ได้ออกกำลังกาย แต่เพราะให้นมลูกล้วนๆ ผอมจนเห็นไหปลาร้า ผอมจนอาม่าบ่นว่าลื้อต้องบำรุงเยอะๆ ท้งที่กินแหลกไม่ยั้งค่ะ แต่ว่าเรางดอาหารกลุ่มเสี่ยงนะคะ เช่น อาหารทะเล นมวัว ไข่ (บางอย่างไม่ได้งดตลอด ทานบ้างแต่ไม่เยอะ และไม่บ่อยค่ะ) อาจมีผลก็ได้นะ
11 สุขภาพแม่ดีขึ้นค่ะ เพราะเน้นทานผักผลไม้เยอะๆ พวกแป้งสาลี ขนมอบทานน้อยลงเพราะสารภูมิแพ้อาจรั่วทางนมทำให้ลูกแพ้ได้อีก เมื่อก่อนกินนมเยอะมากเลยค่ะ ของชอบเลยทั้งนมชีสไข่ สงสัยอ้วนเพราะพวกนี้ 55555
แต่มีข้อดีก็มีข้อเสียแน่นอนค่ะ ซึ่งเราอดทนมาตลอดจนถึงทุกวันนี้และคงต้องอดทนอีกต่อไป จนกว่านังหนูจะหย่านมนะหละ
1 ทะเลาะกับที่บ้าน บ้านเรานี่แหละ แม่บอกว่า บ้านเรามีเงินเยอะแยะ ทำไมไม่ให้ลูกกินนมผงของดีๆ นมตัวเองให้กินพอเป็นพิธีพอ (คือที่บ้านมีความเชื่อว่านมผงเป็นของสำหรับพวกมีเงินจะซื้อให้ลูกกินได้ ส่วนนมแม่เป็นของพวกไม่มีเงินพอจะซื้อของดีให้ลูกทาน) ปวดหัวไปตามๆกัน
2 ไม่ให้ลูกกินน้ำเลย เพราะให้นมแม่ล้วนๆ ผู้ใหญ่ที่บ้านทั้งของสามีและเราก็ทำท่าตกใจแบบอกอีเเป้นจะแตก !!! ตายแล้วๆๆๆๆเลี้ยงได้ไงเดี๋ยวน้องขาดน้ำตาย เดี๋ยวปากเป็นเชื้อรา ! (เลี้ยงมาหกเดือนแล้วยังไม่ขาดน้ำตายเลยนะ )
3 นอนไม่พอค่ะ นอนไม่พอจริงๆโดยเฉพาะสามเดือนแรก ตื่นมากินบ่อย ถ่ายบ่อย ช่วงนิวบอร์น หลังจากนั้นค่อยๆดีขึ้นถ่ายน้อยลง (เด็กกินนมแม่จะถ่ายบ่อยเป็นปกติในช่วงหนึ่งเดือนแรกๆค่ะ) อันนี้ได้คุณสามีช่วยเข้าเต้าสบายไป หลับทั้งที่ให้นมลูกได้ ไม่ต้องคอยลุกมาต้มน้ำชงนมวุ่นวาย เปิดเต้าเเล้วกินโลด
4เหนื่อยค่ะ เหนื่อยขาดใจ เลี้ยงแบบตัวติดกันจนถึงสี่เดือนเลยค่ะ เราลงทุน ลาออกจากงานประจำมาอยู่บ้านเพื่อเลี้ยงลูก เราทนได้ค่ะ เพราะแลกกับการที่ภูมิแพ้หายและลูกไม่ทรมาณในภาคหน้า แค่นี้เองเราทำให้ได้
5 โดนประนามว่าเป็นแม่ใจร้ายค่ะ เพราะสามเดือนแล้วยังไม่ครูดกล้วยให้ลูกกิน สี่เดือนก็ยังนมล้วนๆ จนหกเดือนพึ่งให้กินข้าวบดแค่มื้อเดียว 5555 เราต้องใจแข็งมากๆเลย ไม่ยอมฝากแม่ของเราเลี้ยง(แม่สามีอยู่อเมกา) เพราะกลัวจะป้อนอาหารอื่นก่อนหกเดือน กลัวลูกไส้แตก ถึงเขาจะเลี้ยงเรามาแบบนี้แล้วไม่เปนไร แต่เราวิตกจริตอ่ะ กลัวมากๆ แถมมันก็ยังไม่จำเป็นต้องให้เร็วขนาดนั้นด้วย
6 ลูกโดนว่า ว่าเลี้ยงยาก เพราะตื่นมาตลอดคืนเพื่อกินนมแม่ ติดมือแม่ เด็กที่ดีต้องแค่กินแล้วก็นอน
สำหรับเราแล้ว ข้อเสียที่ได้พบมามันคุ้มค่ามาก แค่ทำให้ลูกแพ้น้อยลงก็พอใจแล้วละค่ะ เราทนได้เพื่อลูกแน่นอน เรายอมเหนื่อยตรงนี้ตอนนี้เพื่อจะได้ไม่ต้องทนดูลูกนอนพงาบๆแพ้อาหารในโรงพยาบาลแบบที่เราเคยเป็นก็พอ
สุดท้ายนี้ขอให้กำลังใจคุณแม่ทุกคน โดยเฉพาะคุณแม่ที่พยายามเลี้ยงลูกด้วยนมตัวเองล้วนๆ แม้จะต้องทำงานก็ไม่อ้างว่า 'ไม่มีเวลาต้องทำงาน' แต่กลับพยายามปั้มนมเก็บไว้ให้ลูกทานแทน เรานับถือพวกคุณมากเพราะเราทำไม่ได้ค่ะ เลยต้องลาออกมาเลี้ยงแทน ขอให้ลูกๆของคุณแม่ทุกๆท่านเเข็งแรงโตวันโตคืนและไม่เจ็บป่วยมากมายนะคะ
ขอบคุณที่ทนอ่านมาได้จนถึงตอนนี้ค่ะ 5555555555
แชร์ประสพการณ์เลี้ยงลูกคนเดียวด้วยนมแม่ล้วนๆของเรา
หลังจากผ่านความยากลำบากอันหนักหน่วงตลอดหกเดือนที่ผ่านมา เหล่านี้คือข้อดีและข้อเสียที่เราพบด้วยตัวเอง
1 ลูกยังไม่เคยป่วยเข้าโรงพยาบาลซักครั้ง นอกจากเอาไปฉีดวัคซีนตามกำหนด
2 ลูกไม่ตัวร้อนมีไข้หลังฉีดวัคซีน (อันนี้ไม่รู้ว่าเกี่ยวกันรึเปล่านะคะ แต่สังเกตุมาตลอดเลย)
3 ทางบ้านบอกว่าลูกพัฒนาการเร็วกว่าที่ควร(เอ๊ะ) เขาบอกว่าเด็กคนอื่นๆที่เห็นสามเดือนยังไม่คว่ำเลย ลูกเราคว่ำเองแล้วค่ะ แต่เราคิดว่าอาจเพราะกายบริหารที่คุณหมอให้ทำบ่อยๆด้วย น้องคอเริ่มเเข็งตั้งแต่สองเดือนค่ะ
4 เดินทางไปไหนสะดวกขึ้น ในที่นี้คือเวลาไปต่างจังหวัด หรือรถติดบนถนน เปิดเต้าให้ทานได้เลยค่ะ ไม่ต้องพกอุปกรณ์ชงนมให้วุ่นวายยุ่งยาก
5 ไม่ต้องคอยล้างนึ่งขวดนม
6 ลูกไม่ติดขวดนมค่ะ ชนิดที่ว่าไม่เอาเลยน่าจะถูกกว่า แต่แกดื่มจากถ้วยหัดดื่มคล่องเลยค่ะ
7 ประหยัดค่านมผง วันก่อนเดินห้างไปดูนมที่ลูกต้องกินถ้าไม่กินนมแม่ หมอบอกต้องนูตราไมเยนเท่านั้น คำนวนคร่าวๆ แพงกว่าเงินเดือนพ่อแม่อีก ตกใจเลยค่ะ โชคดีจริงๆที่อดทนให้กินนมแม่
8 ลูกรักแม่มากกกกก (อันนี้ปลื้ม) คือเล่นกับใครก็ได้ แต่ถ้าง่วงหรือหิวต้องแม่เท่านั้นคนอื่นเอาไม่อยู่ เราคิดว่าเป็นสิ่งที่ควรจะภูมิใจค่ะ ว่าไม่มีใครมาแทนเราได้ในตอนนี้
9 ลูกไม่เป็นโรคอ้วนแน่นอน 100% ลูกเรากินนมแม่จนอ้วนปุก กลัวว่าจะเป็นโรคอ้วน แต่หมอบอกว่าไม่มีทางเพราะนมแม่ไม่ทำให้อ้วน(โรค) ค่ะ
10 ลดความอ้วนในแม่ <<< อันนี้ผลพลอยได้ค่ะ น้ำหนักก่อนท้องเรา 52 ก่อนคลอด 68 หลังคลอด 65.3 ตอนนี้ผ่านมาหกเดือน เหลือ 49 ค่ะ!! ถามว่ากินเยอะไหม เยอะกว่าก่อนท้อง ไม่ได้ออกกำลังกาย แต่เพราะให้นมลูกล้วนๆ ผอมจนเห็นไหปลาร้า ผอมจนอาม่าบ่นว่าลื้อต้องบำรุงเยอะๆ ท้งที่กินแหลกไม่ยั้งค่ะ แต่ว่าเรางดอาหารกลุ่มเสี่ยงนะคะ เช่น อาหารทะเล นมวัว ไข่ (บางอย่างไม่ได้งดตลอด ทานบ้างแต่ไม่เยอะ และไม่บ่อยค่ะ) อาจมีผลก็ได้นะ
11 สุขภาพแม่ดีขึ้นค่ะ เพราะเน้นทานผักผลไม้เยอะๆ พวกแป้งสาลี ขนมอบทานน้อยลงเพราะสารภูมิแพ้อาจรั่วทางนมทำให้ลูกแพ้ได้อีก เมื่อก่อนกินนมเยอะมากเลยค่ะ ของชอบเลยทั้งนมชีสไข่ สงสัยอ้วนเพราะพวกนี้ 55555
แต่มีข้อดีก็มีข้อเสียแน่นอนค่ะ ซึ่งเราอดทนมาตลอดจนถึงทุกวันนี้และคงต้องอดทนอีกต่อไป จนกว่านังหนูจะหย่านมนะหละ
1 ทะเลาะกับที่บ้าน บ้านเรานี่แหละ แม่บอกว่า บ้านเรามีเงินเยอะแยะ ทำไมไม่ให้ลูกกินนมผงของดีๆ นมตัวเองให้กินพอเป็นพิธีพอ (คือที่บ้านมีความเชื่อว่านมผงเป็นของสำหรับพวกมีเงินจะซื้อให้ลูกกินได้ ส่วนนมแม่เป็นของพวกไม่มีเงินพอจะซื้อของดีให้ลูกทาน) ปวดหัวไปตามๆกัน
2 ไม่ให้ลูกกินน้ำเลย เพราะให้นมแม่ล้วนๆ ผู้ใหญ่ที่บ้านทั้งของสามีและเราก็ทำท่าตกใจแบบอกอีเเป้นจะแตก !!! ตายแล้วๆๆๆๆเลี้ยงได้ไงเดี๋ยวน้องขาดน้ำตาย เดี๋ยวปากเป็นเชื้อรา ! (เลี้ยงมาหกเดือนแล้วยังไม่ขาดน้ำตายเลยนะ )
3 นอนไม่พอค่ะ นอนไม่พอจริงๆโดยเฉพาะสามเดือนแรก ตื่นมากินบ่อย ถ่ายบ่อย ช่วงนิวบอร์น หลังจากนั้นค่อยๆดีขึ้นถ่ายน้อยลง (เด็กกินนมแม่จะถ่ายบ่อยเป็นปกติในช่วงหนึ่งเดือนแรกๆค่ะ) อันนี้ได้คุณสามีช่วยเข้าเต้าสบายไป หลับทั้งที่ให้นมลูกได้ ไม่ต้องคอยลุกมาต้มน้ำชงนมวุ่นวาย เปิดเต้าเเล้วกินโลด
4เหนื่อยค่ะ เหนื่อยขาดใจ เลี้ยงแบบตัวติดกันจนถึงสี่เดือนเลยค่ะ เราลงทุน ลาออกจากงานประจำมาอยู่บ้านเพื่อเลี้ยงลูก เราทนได้ค่ะ เพราะแลกกับการที่ภูมิแพ้หายและลูกไม่ทรมาณในภาคหน้า แค่นี้เองเราทำให้ได้
5 โดนประนามว่าเป็นแม่ใจร้ายค่ะ เพราะสามเดือนแล้วยังไม่ครูดกล้วยให้ลูกกิน สี่เดือนก็ยังนมล้วนๆ จนหกเดือนพึ่งให้กินข้าวบดแค่มื้อเดียว 5555 เราต้องใจแข็งมากๆเลย ไม่ยอมฝากแม่ของเราเลี้ยง(แม่สามีอยู่อเมกา) เพราะกลัวจะป้อนอาหารอื่นก่อนหกเดือน กลัวลูกไส้แตก ถึงเขาจะเลี้ยงเรามาแบบนี้แล้วไม่เปนไร แต่เราวิตกจริตอ่ะ กลัวมากๆ แถมมันก็ยังไม่จำเป็นต้องให้เร็วขนาดนั้นด้วย
6 ลูกโดนว่า ว่าเลี้ยงยาก เพราะตื่นมาตลอดคืนเพื่อกินนมแม่ ติดมือแม่ เด็กที่ดีต้องแค่กินแล้วก็นอน
สำหรับเราแล้ว ข้อเสียที่ได้พบมามันคุ้มค่ามาก แค่ทำให้ลูกแพ้น้อยลงก็พอใจแล้วละค่ะ เราทนได้เพื่อลูกแน่นอน เรายอมเหนื่อยตรงนี้ตอนนี้เพื่อจะได้ไม่ต้องทนดูลูกนอนพงาบๆแพ้อาหารในโรงพยาบาลแบบที่เราเคยเป็นก็พอ
สุดท้ายนี้ขอให้กำลังใจคุณแม่ทุกคน โดยเฉพาะคุณแม่ที่พยายามเลี้ยงลูกด้วยนมตัวเองล้วนๆ แม้จะต้องทำงานก็ไม่อ้างว่า 'ไม่มีเวลาต้องทำงาน' แต่กลับพยายามปั้มนมเก็บไว้ให้ลูกทานแทน เรานับถือพวกคุณมากเพราะเราทำไม่ได้ค่ะ เลยต้องลาออกมาเลี้ยงแทน ขอให้ลูกๆของคุณแม่ทุกๆท่านเเข็งแรงโตวันโตคืนและไม่เจ็บป่วยมากมายนะคะ
ขอบคุณที่ทนอ่านมาได้จนถึงตอนนี้ค่ะ 5555555555