สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกที่ตั้งขึ้นมา ถ้าไม่เหมาะสมขออภัยด้วยนะคะ
เริ่มเรื่องเลยค่ะ สามีกับเราคบหาดูใจกันมาประมาณ5ปีครึ่งเขารักและดูแลเราดีมาก และเขาก็บอกเราว่าเขาสนิทกับแม่มากและชวนเราไปทำความรู้จักแม่สามีซึ่งตอนนั้นก็ดีกับเรามากๆค่ะ จากนั้นไม่นานก็วางแพลนแต่งงานหลังจากแต่งงานก็ได้เข้ามาอยู่บ้านสามีไม่นานเราก็ท้องสามีเราก็ติดทหารเกณฑ์ แม่สามีจึงให้เราหยุดทำงานพักผ่อนอยู่บ้าน(ปล.บ้านสามีพอมีฐานะดีมากกว่าเราค่ะ)ซึ่งตอนแรกเราปฏิเสธแต่พอไปหาหมอเพื่อตรวจครรภ์หมอสั่งให้นอนพัก2เดือนเพราะมดลูกลงมาต่ำมาก แม่สามีจึงให้เราหยุดพักออกจากงานเราเลยตกลง แต่หลังจากคลอดลูก เราก็ยังเลี้ยงลูกเองแบบฟูลไทม์ที่บ้านแม่สามีโดยแม่สามีให้เลี้ยงลูกอยู่บ้านเพราะอยากให้ลูกดื่มนมเรามากๆ แต่เรากับแม่สามีก็มีเรื่องที่มีปัญหากันบ้าง(เรื่องการเลี้ยงลูก) ซึ่งเราก็ทำเฉยไม่เอะอะไม่ต่อกร แต่เมื่อสามีติดต่อมาสามีมักตำหนิเราในทุกเรื่องที่มีปัญหากับแม่เค้าซึางส่วนใหญ่ฟังแล้วเราดูแย่หมดเลย เช่น ลูก4เดือนแล้วทำไมไม่ป้อนกล้วย แม่พี่ก็ให้พี่กินกล้วยก็ไม่ตาย? ทำไมพาลูกไปโดนแดดตอนเช้าเดี๋ยวลูกไม่สบาย? ทำไมไม่ป้อนข้าวลูกบ้าง? เป็นต้น พอเราอธิบายเหตุผลไปโดยอ้างอิงจากหมอ สามีก็ไม่เชื่อและไม่รับฟังบอกเราไม่ต้องมาเล่าเรื่องที่บ้านให้ฟังดีกว่า ซึ่งเราไม่เคยเล่า? เรางงมากแต่ก็รับปากว่าโอเค หลังจากสามีปลดประจำการลูกก็มีอายุประมาณ8เดือน ซึ่งกลับมาวันแรกสามีก็มาตำหนิเราจ้องจับผิดเราเวลาเราเลี้ยงลูก เราก็ทำเฉยเหมือนไม่มีอะไร แต่ก็มีปัญหาเรื่องการกินข้าวลูกพูดคุยกันจนพ่สามีต้องพูดขึ้นมาว่าลูกเองโตแล้วมีฟันบ้างแล้ว แม่มันก็เลี้ยงดีมาตลอดปล่อยวางเถอะ สามีเราจึงหยุดตำหนิเราค่ะ แต่จากวันนั้นสามีเราก็ไม่คุยกับเราไม่สุงสิงกับเราเหมือนแต่ก่อน พยายามไปคุยกับแม่เขาตลอด จนเราที่อยู่บ้านแม่สามีก็อึดอัดใจมากและอดทนมาตลอด จนวันหนึ่งแม่สามีก็พูดกับเราว่านี่ถ้าลูกฉันไม่แต่งงานกับเราลูกฉันก็ได้เรียนต่อป.ตรีแล้ว เราก็ตอบกลับค่ะ แล้วก็เดินหนีในใจคือเจ็บมากที่แม่วามีพูดแบบนี้ แต่วันต่อมาก็ทะเลาะกันอีกสามีจะให้ลูกทานนมผงแทนนมเรา ซึ่งเราก็ถามเหตุผลว่าทำไมหรอ สามีให้เหตุผลว่านมเราไม่มีประโยชน์นมผงประโยชน์เยอะ เราก็เลยให้เขาอ่านฉลากข้างกล่องค่ะว่านมแม่ดีที่สุด แต่เขาก็เถียงและแม่สามีก็เข้าข้างลูกชาย เราก็พยายามพูดจนพี่สะใภ้เราพูดขึ้นมาว่าถ้าพี่มีลูกและมีเวลาแบบเราจะให้ลูกทานนมแม่ตลอดเพราะถ้าอยากได้สารอาหารอะไรก็ซื้อมาให้แม่ทานสิลูกจะได้รับด้วย แม่สามีกับสามีเงียบเลยค่ะ แต่ก็ไม่วายพอพี่สะใภ้ออกไปทำงานก็ว่าพี่สะใภ้ไม่รู้จริงไม่มีลูก และถามลูกชายเขาจะเชื่อใครแม่กับเมีย ลูกก็ตอบเชื่อแม่สิแม่เลี้ยงเขามา เราจุกเลยค่ะ เสียใจแต่ทำอะไรไม่ได้พูดก็ไม่ได้พูดไปก็ผิดตลอดและพอตอนนี้ลูกเราได้1ขวบกว่าจากที่อยากให้ลูกเรากินข้าวก็อยากให้ทานนมแทนข้าวแล้วค่ะ เราบอกสามีไปว่าเราอยากให้ลูกทานข้าวครบ3มื้อและทานนมปกติ ตามที่ลูกควรได้รับหรือตามที่เขาต้องการต่อวัน สามีก็พูดกับเราอีกว่าแม่เขาอยากให้กินนมจะได้ฉลาดกินข้าวไม่ฉลาดเท่าหลานอีกคนของเขาหรอก ตอนนี้เราอยู่ในสถานะที่พูดอะไรไม่ได้เลย เป็นคนผิดของบ้าน อยากพาลูกไปเลี้ยงเองที่บ้านยาย(ยายพร้อมซัพพอร์ต) แต่จดทะเบียนสมรสสามีบอกไม่ยอม ถ้าเรามีปัญหาให้เราไปอยู่บ้านแม่ตัวเองคนเดียว เราติดลูกค่ะไม่อยากห่าง แม่เราเขาก็ไม่อยากให้เราห่างลูกแต่ถ้าเราไม่ไหวแม่ก็อยากให้เรากลับไปพักที่บ้าน แต่สามีก็ขู่ว่าถ้ากลับบ้านไปแล้วแยกกันอยู่ก็หย่าและยกลูกให้เขาถ้าไม่งั้นเขาก็ไม่ยอม เราก็ถามทำไมทำแบบนี้ เขาก็ว่าเราไม่เคยฟังเขาเลยต่อต้านเขากับที่แม่เขาบอกตลอด ถ้าอยากให้เขารักต้องเชื่อฟังเขากับแม่อย่าทำตัวมีปัญหา ใครเคยเจอสถานการณ์แบบนี้บ้างค่ะ? แล้วแก้ไขยังไงดี?
ปัญหาครอบครัว
เริ่มเรื่องเลยค่ะ สามีกับเราคบหาดูใจกันมาประมาณ5ปีครึ่งเขารักและดูแลเราดีมาก และเขาก็บอกเราว่าเขาสนิทกับแม่มากและชวนเราไปทำความรู้จักแม่สามีซึ่งตอนนั้นก็ดีกับเรามากๆค่ะ จากนั้นไม่นานก็วางแพลนแต่งงานหลังจากแต่งงานก็ได้เข้ามาอยู่บ้านสามีไม่นานเราก็ท้องสามีเราก็ติดทหารเกณฑ์ แม่สามีจึงให้เราหยุดทำงานพักผ่อนอยู่บ้าน(ปล.บ้านสามีพอมีฐานะดีมากกว่าเราค่ะ)ซึ่งตอนแรกเราปฏิเสธแต่พอไปหาหมอเพื่อตรวจครรภ์หมอสั่งให้นอนพัก2เดือนเพราะมดลูกลงมาต่ำมาก แม่สามีจึงให้เราหยุดพักออกจากงานเราเลยตกลง แต่หลังจากคลอดลูก เราก็ยังเลี้ยงลูกเองแบบฟูลไทม์ที่บ้านแม่สามีโดยแม่สามีให้เลี้ยงลูกอยู่บ้านเพราะอยากให้ลูกดื่มนมเรามากๆ แต่เรากับแม่สามีก็มีเรื่องที่มีปัญหากันบ้าง(เรื่องการเลี้ยงลูก) ซึ่งเราก็ทำเฉยไม่เอะอะไม่ต่อกร แต่เมื่อสามีติดต่อมาสามีมักตำหนิเราในทุกเรื่องที่มีปัญหากับแม่เค้าซึางส่วนใหญ่ฟังแล้วเราดูแย่หมดเลย เช่น ลูก4เดือนแล้วทำไมไม่ป้อนกล้วย แม่พี่ก็ให้พี่กินกล้วยก็ไม่ตาย? ทำไมพาลูกไปโดนแดดตอนเช้าเดี๋ยวลูกไม่สบาย? ทำไมไม่ป้อนข้าวลูกบ้าง? เป็นต้น พอเราอธิบายเหตุผลไปโดยอ้างอิงจากหมอ สามีก็ไม่เชื่อและไม่รับฟังบอกเราไม่ต้องมาเล่าเรื่องที่บ้านให้ฟังดีกว่า ซึ่งเราไม่เคยเล่า? เรางงมากแต่ก็รับปากว่าโอเค หลังจากสามีปลดประจำการลูกก็มีอายุประมาณ8เดือน ซึ่งกลับมาวันแรกสามีก็มาตำหนิเราจ้องจับผิดเราเวลาเราเลี้ยงลูก เราก็ทำเฉยเหมือนไม่มีอะไร แต่ก็มีปัญหาเรื่องการกินข้าวลูกพูดคุยกันจนพ่สามีต้องพูดขึ้นมาว่าลูกเองโตแล้วมีฟันบ้างแล้ว แม่มันก็เลี้ยงดีมาตลอดปล่อยวางเถอะ สามีเราจึงหยุดตำหนิเราค่ะ แต่จากวันนั้นสามีเราก็ไม่คุยกับเราไม่สุงสิงกับเราเหมือนแต่ก่อน พยายามไปคุยกับแม่เขาตลอด จนเราที่อยู่บ้านแม่สามีก็อึดอัดใจมากและอดทนมาตลอด จนวันหนึ่งแม่สามีก็พูดกับเราว่านี่ถ้าลูกฉันไม่แต่งงานกับเราลูกฉันก็ได้เรียนต่อป.ตรีแล้ว เราก็ตอบกลับค่ะ แล้วก็เดินหนีในใจคือเจ็บมากที่แม่วามีพูดแบบนี้ แต่วันต่อมาก็ทะเลาะกันอีกสามีจะให้ลูกทานนมผงแทนนมเรา ซึ่งเราก็ถามเหตุผลว่าทำไมหรอ สามีให้เหตุผลว่านมเราไม่มีประโยชน์นมผงประโยชน์เยอะ เราก็เลยให้เขาอ่านฉลากข้างกล่องค่ะว่านมแม่ดีที่สุด แต่เขาก็เถียงและแม่สามีก็เข้าข้างลูกชาย เราก็พยายามพูดจนพี่สะใภ้เราพูดขึ้นมาว่าถ้าพี่มีลูกและมีเวลาแบบเราจะให้ลูกทานนมแม่ตลอดเพราะถ้าอยากได้สารอาหารอะไรก็ซื้อมาให้แม่ทานสิลูกจะได้รับด้วย แม่สามีกับสามีเงียบเลยค่ะ แต่ก็ไม่วายพอพี่สะใภ้ออกไปทำงานก็ว่าพี่สะใภ้ไม่รู้จริงไม่มีลูก และถามลูกชายเขาจะเชื่อใครแม่กับเมีย ลูกก็ตอบเชื่อแม่สิแม่เลี้ยงเขามา เราจุกเลยค่ะ เสียใจแต่ทำอะไรไม่ได้พูดก็ไม่ได้พูดไปก็ผิดตลอดและพอตอนนี้ลูกเราได้1ขวบกว่าจากที่อยากให้ลูกเรากินข้าวก็อยากให้ทานนมแทนข้าวแล้วค่ะ เราบอกสามีไปว่าเราอยากให้ลูกทานข้าวครบ3มื้อและทานนมปกติ ตามที่ลูกควรได้รับหรือตามที่เขาต้องการต่อวัน สามีก็พูดกับเราอีกว่าแม่เขาอยากให้กินนมจะได้ฉลาดกินข้าวไม่ฉลาดเท่าหลานอีกคนของเขาหรอก ตอนนี้เราอยู่ในสถานะที่พูดอะไรไม่ได้เลย เป็นคนผิดของบ้าน อยากพาลูกไปเลี้ยงเองที่บ้านยาย(ยายพร้อมซัพพอร์ต) แต่จดทะเบียนสมรสสามีบอกไม่ยอม ถ้าเรามีปัญหาให้เราไปอยู่บ้านแม่ตัวเองคนเดียว เราติดลูกค่ะไม่อยากห่าง แม่เราเขาก็ไม่อยากให้เราห่างลูกแต่ถ้าเราไม่ไหวแม่ก็อยากให้เรากลับไปพักที่บ้าน แต่สามีก็ขู่ว่าถ้ากลับบ้านไปแล้วแยกกันอยู่ก็หย่าและยกลูกให้เขาถ้าไม่งั้นเขาก็ไม่ยอม เราก็ถามทำไมทำแบบนี้ เขาก็ว่าเราไม่เคยฟังเขาเลยต่อต้านเขากับที่แม่เขาบอกตลอด ถ้าอยากให้เขารักต้องเชื่อฟังเขากับแม่อย่าทำตัวมีปัญหา ใครเคยเจอสถานการณ์แบบนี้บ้างค่ะ? แล้วแก้ไขยังไงดี?