กลับมาพบกันในสัปดาห์นี้อีกครั้งนะครับ
เช่นเคย ใครอยากคุยเนื้อหาหลังจากตอนนี้ รบกวนอย่าลืมใส่แท็ก Spoil นะครับ
ต่อจากตอนที่แล้วที่ตัดตอนตรงช่วงอากิบอกความจริงกับครอบครัวเรื่องตัวเองมีความฝัน
มาตอนนี้ช่วงเปิดตอนกลับข้ามเนื้อหาตรงส่วนนั้นไปพูดถึงช่วงบักแว่นกับอากิกลับถึงหอหลังตกลงกับครอบครัวอากิได้แล้วเลย โดยพอกลับถึงหอ อากิก็โทรศัพท์คุยกับโคมาบะเรื่องวัวบ้านโคมาบะที่โดนเอาไปขายว่าเป็นไงบ้าง และเล่าให้โคมาบะฟังว่าตัวเองตัดสินใจแล้วว่าจะไม่สืบทอดฟาร์มต่อ แต่จะมุ่งเป็นคนทำงานเกี่ยวกับม้าอย่างที่เคยฝันมานานแทน และถามโคมาบะว่าจะมาสืบทอดฟาร์มแทนตัวเองมั้ย โคมาบะก็ตอบกลับแทบจะทันทีว่าไม่เอา เพราะฟาร์มบ้านอากินั้นสืบทอดกิจการกันมาหลายชั่วอายุคนแล้ว การให้คนอื่นที่ไม่ใช่คนในครอบครัวมาสืบทอดจึงถือเป็นเรื่องไม่สมควร ที่สำคัญตัวโคมาบะเองอยากได้ฟาร์มเป็นของตัวเองมากกว่าจะสืบทอดของคนอื่น อากิได้ยินดังนั้นก็ไม่พูดอะไรอีก
ตัดมาฉากตอนกลางวันที่โรงทำชีส อากิเล่าให้โยชิโนะฟังเรื่องที่ตัวเองตัดสินใจจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยปศุสัตว์โอเอโสะที่มีชื่อเรื่องชมรมขี่ม้า (ในอนิเมจะบอกแค่ว่าเป็นมหาวิทยาลัยข้างๆ กัน คิดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับโรงเรียนโอเอโสะของพวกแว่นอยู่) โยชิโนะก็บอกว่ามหาลัยนั้นเข้ายากไม่ใช่เหรอ อากิก็บอกว่าเพราะงั้นบักแว่นถึงบอกว่าจะช่วยติวให้
ด้านบักแว่นก็โดนโทคิวะแซวเรื่องติวอากิสอบเข้ามหาวิทยาลัย เลยโดนบักแว่นอัดซะ
หลังกลับหอ บักแว่นก็ขอดูกระดาษข้อสอบของอากิหน่อย เพราะตัวเองต้องทำหน้าที่ติวอากิสอบเข้ามหาวิทยาลัย อากิได้ยินแบบนั้นก็ชะงัก แต่ก็ยอมเอามาให้ดูโดยบอกว่าดูแล้วอย่าหัวเราะนะ
และคอมเมนต์ของบักแว่นหลังดูข้อสอบของอากิก็คือ
"ก็ยังดีกว่าโทคิวะอะนะ"
บักแว่นเลยต้องมาหาวิธีให้อากิทำคะแนนสอบให้ดีขึ้นให้ได้ แต่แค่วิชาประวัติศาสตร์ก็เจอตอเบ้อเริ่มเทิ่มเข้าแล้ว เพราะอากิไม่ถนัดเรื่องจำชื่อคนในประวัติศาสตร์เอาเสียเลย ครั้งแรกบักแว่นจนปัญญาไม่รู้จะทำยังไง แต่พอนึกได้ว่าอากิสนใจเรื่องม้า เลยใช้วิธีตะล่อมให้จำได้ ด้วยการเอาเรื่องดังๆ เกี่ยวกับม้าในประวัติศาสตร์มาเล่าให้อากิฟัง แล้วถือโอกาสเล่าประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องไปด้วยเนียนๆ จนอากิเริ่มจำชื่อคนหรือเหตุการณ์ต่างๆ ในประวัติศาสตร์ได้
...สรุปว่ากรณีเดียวกับนัตสึฮิโกะจากเรื่องอายชิลด์ 21 สินะ ประเภท
"ถ้าเป็นหัวข้อที่ตัวเองสนใจจะรู้เรื่อง" แบบนี้
ระหว่างติวก็มีรุ่นพี่หน้าโหดคนเดิม (ที่เคยเอาของมาแลกกับเบคอนเนื้อบุตะด้งของบักแว่น) มาชวนไปเป็นคณะกรรมการอีเวนท์อบพิซซ่า (ที่บักแว่นเคยจัดในซีซั่นแรก)
บักแว่นเห็นหน้าโหดๆ ของรุ่นพี่ก็กลัวจนไม่กล้าตอบ แต่สุดท้ายก็รวบรวมความกล้าตอบปฏิเสธไปพร้อมบอกเหตุผลว่าต้องช่วยติวให้เพื่อนสอบเข้ามหาวิทยาลัย
รุ่นพี่ได้ฟังก็เข้าใจยอมถอยให้แต่โดยดี
แต่พอเห็นว่าคนที่บักแว่นติวให้คืออากิ ก็เปลี่ยนโหมดเป็นรุ่นพี่จอมโหดไปทันควัน
...เล่นเอาบักแว่นวิญญาณเกือบหลุดลอยไปหาบุตะด้งที่อีกฟากของแม่น้ำยมโลกเลยทีเดียว
(แอบตัดตรงที่บักแว่นนอนชักกระตุกไปพลาง จ้อเรื่องกลิ่นเท้า + ม้าเหงื่อโลหิต + ม้าเซ็กเธาว์ไปพลางแฮะ...แต่อันนี้เข้าใจว่ามันยาวเกินไม่จำเป็นต้องใส่เข้ามา)
แต่ก็ได้มีฉากหวานเล็กๆ กับอากิระหว่างทางกลับหอ แค่นี้ก็ถือว่าคุ้มเกินคุ้มละนะแว่นเอ๊ย
มาเข้าชมรมตอนเช้า อากิก็โดนซาคาเอะจังเพื่อนร่วมชมรมแซวเอาเรื่องที่บักแว่นติวเข้มให้ ทำนองว่าก็แฟนกันนี่นะ
พออากิลนลานปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นแฟนกันซักหน่อย ก็ทำหน้าไม่อยากเชื่อหูว่าถึงขั้นนี้แล้วยังไม่เป็นแฟนกันอีกเหรอ
บักแว่นเองก็โดนทั่นประธานที่เคารพถามเอาเรื่องนี้เหมือนกัน
แถมยังโดนเพื่อนชายร่วมชมรมรุมสหบาทาสามัคคีข้อหามีสาวให้กุ๊กกิ๊กทั้งที่คนอื่นไม่มีอีก
ช่วงเวลา
"ผ่อนคลาย" ของอากิหลังตะบี้ตะบันท่องหนังสือจนสมองแทบลัดวงจร
ฝ่ายบักแว่นที่เป็นคนสอนเองก็เจอตอเบ้อเริ่มเข้าเช่นกัน แม้จะแก้ปัญหาเรื่องติวไปได้บางส่วน แต่ก็ลำบากอยู่ดี
สุดท้ายเลยจำใจต้องโทรไปขอคำแนะนำจากพี่ชายที่ตัวเองไม่ชอบขี้หน้าว่าจะทำยังไงดี
อนึ่ง โปรดสังเกตสถานที่ที่พี่บักแว่นอยู่ให้ดีๆ นะครับ เพราะมันจะบอกใบ้ถึงสิ่งที่จะเกิดกับพี่ชายในเนื้อเรื่องหลังจากนี้ได้ดีเลยล่ะ
พี่บักแว่นถึงกับอึ้ง เพราะนึกไม่ถึงว่าน้องชายที่แสนจะถือทิฐิคนนั้นจะยอมโทรมาขอคำแนะนำเรื่องเรียนจากตัวเองแบบนี้
โดยหลังจากได้ฟังเรื่องทั้งหมด พี่บักแว่นก็บอกว่าตัวเองเก็บพวกโน้ตย่อที่เคยใช้สมัยสอบเข้ามหาวิทยาลัยไว้ที่บ้าน ให้บักแว่นลองไปหาดูที่บ้านเอาละกัน บักแว่นก็โวยว่าพี่ไปเอาให้หน่อยเด้ พี่บักแว่นก็ปฏิเสธทันควันบอกว่าไม่อยากกลับบ้านไปเจอหน้าเตี่ย แล้วกดสายทิ้งดื้อๆ ทิ้งให้บักแว่นยืนทำหน้าลำบากใจอยู่ตรงนั้นเอง
รู้แบบนั้น บักแว่นก็เครียดจัดจนแทบไม่เป็นอันทำงาน เลยเจออ.นากาจิมะไล่ออกจากห้องบ่มชีสซะข้อหาแพร่เชื้อด้านลบในห้องบ่ม
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยประจำตอนนี้ ชีสที่บ่มไว้ในห้องเย็นแบบนี้ต้องขัดผิวด้วยน้ำเกลือประมาณ 2 - 3 วันต่อครั้งเพื่อเป็นการเพิ่มรสชาติให้ชีส เพื่อป้องกันไม่ให้ราหรือแบคทีเรียอย่างอื่นที่ไม่ใช่เชื้อบ่มมาขึ้นชีส (บางครั้งไม่ใช้น้ำเกลือแต่ใช้เหล้าหรือไวน์ขัดก็มีเหมือนกัน)
แล้วเก๊าะมาถึงฉากปล่อยก๊ากฉากหนึ่งประจำตอน...กับบทพูดโคตรจะอันตรายของอากิในตอนนี้
"ถ้ามีอะไรที่ชั้นพอจะช่วยได้ก็บอกนะ ชั้นยินดีทำทุกอย่าง"
(อธิบาย - อากิเห็นบักแว่นเครียดเรื่องกลับบ้านมากก็มาปลอบมาคุยให้บักแว่นหายเครียด...ปัญหาอยู่ที่คำพูดที่เจ้าตัวเลือกใช้ขณะพูดกับบักแว่นนี่สิ)
เจอบทพูดนี้ของอากิเข้าไป บักแว่นก็ถึงกับลมปราณแตกซ่านไปทั่วร่าง แต่ยังฝืนไล่อากิให้กลับไปท่องหนังสือได้ทัน ก่อนตัวเองจะทนไม่ไหวออกมานอนชักกระตุกบิดตัวอยู่หน้าโรงบ่มชีส
เห็นฉากนี้แล้วถึงกับนึกในใจว่า
"แว่นเอ๊ย..." ขึ้นมาเลยทีเดียว...
วันรุ่งขึ้น บักแว่นก็แพ็คกระเป๋าแต่เช้า (พร้อมด้วยของฝากจากเพื่อนๆ) เตรียมตัวกลับบ้าน
โดยมีเบ็ปปุกับนิชิคาวะตื่นมาส่ง
ของฝากจากบักสมองไก่โทคิวะ โยเกิร์ตทำเองที่ทำเอาบักแว่นถึงกับซึ้ง
...จนกระทั่งได้รู้ถึงที่มาของโยเกิร์ต
เอาไปบ่มในบ่อน้ำร้อนฝั่งชายที่มีคนใช้เกือบตลอดเวลา
หลังจะวุ่นวายเรื่องของฝากกันอยู่พักหนึ่ง บักแว่นก็มาจนถึงสถานีรถไฟรอรถเที่ยวแรกเข้าซัปโปโรได้สำเร็จ
โดยระหว่างรอรถ บักแว่นก็เปิดดูกระติกเย็นใบใหญ่ที่ใส่ของฝากจากพวกเพื่อนๆ มา ปรากฏว่าข้างในมีแต่ของหมักของดอง (ไชเท้าดอง, ถั่วหมัก) อยู่เต็มไปหมด เล่นเอาบักแว่นปิดแทบไม่ทัน (ตรงนี้ในภาคมังงะ บักแว่นจะดันเอาไปเปิดดูตอนอยู่บนรถ เล่นเอาโดนผู้โดยสารคนอื่นจ้องกันเป็นแถบ)
ตอนนั้นบักแว่นก็สังเกตเห็นกล่องใบเล็กใบหนึ่งวางอยู่ตรงมุมกระติก ที่มุมกล่องมีเขียนไว้ว่าชีสสด มีกระดาษโน้ตเล็กๆวางทับอยู่ บักแว่นหยิบกระดาษโน้ตมาเปิดดู ก็พบว่าเป็นโน้ตของอากินั่นเอง
ในภาคมังงะเขียนเยอะกว่านี้แฮะ ในภาคอนิเมเขียนแค่
"ขอบใจนะ" กับชื่อแค่นั้นเอง
[Spoil] ช้อนเงินคนแปรธาตุ (Silver Spoon) อนิเมซีซั่นสอง #10 - ทางเลือกของอากิ
เช่นเคย ใครอยากคุยเนื้อหาหลังจากตอนนี้ รบกวนอย่าลืมใส่แท็ก Spoil นะครับ
ต่อจากตอนที่แล้วที่ตัดตอนตรงช่วงอากิบอกความจริงกับครอบครัวเรื่องตัวเองมีความฝัน
มาตอนนี้ช่วงเปิดตอนกลับข้ามเนื้อหาตรงส่วนนั้นไปพูดถึงช่วงบักแว่นกับอากิกลับถึงหอหลังตกลงกับครอบครัวอากิได้แล้วเลย โดยพอกลับถึงหอ อากิก็โทรศัพท์คุยกับโคมาบะเรื่องวัวบ้านโคมาบะที่โดนเอาไปขายว่าเป็นไงบ้าง และเล่าให้โคมาบะฟังว่าตัวเองตัดสินใจแล้วว่าจะไม่สืบทอดฟาร์มต่อ แต่จะมุ่งเป็นคนทำงานเกี่ยวกับม้าอย่างที่เคยฝันมานานแทน และถามโคมาบะว่าจะมาสืบทอดฟาร์มแทนตัวเองมั้ย โคมาบะก็ตอบกลับแทบจะทันทีว่าไม่เอา เพราะฟาร์มบ้านอากินั้นสืบทอดกิจการกันมาหลายชั่วอายุคนแล้ว การให้คนอื่นที่ไม่ใช่คนในครอบครัวมาสืบทอดจึงถือเป็นเรื่องไม่สมควร ที่สำคัญตัวโคมาบะเองอยากได้ฟาร์มเป็นของตัวเองมากกว่าจะสืบทอดของคนอื่น อากิได้ยินดังนั้นก็ไม่พูดอะไรอีก
ตัดมาฉากตอนกลางวันที่โรงทำชีส อากิเล่าให้โยชิโนะฟังเรื่องที่ตัวเองตัดสินใจจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยปศุสัตว์โอเอโสะที่มีชื่อเรื่องชมรมขี่ม้า (ในอนิเมจะบอกแค่ว่าเป็นมหาวิทยาลัยข้างๆ กัน คิดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับโรงเรียนโอเอโสะของพวกแว่นอยู่) โยชิโนะก็บอกว่ามหาลัยนั้นเข้ายากไม่ใช่เหรอ อากิก็บอกว่าเพราะงั้นบักแว่นถึงบอกว่าจะช่วยติวให้
ด้านบักแว่นก็โดนโทคิวะแซวเรื่องติวอากิสอบเข้ามหาวิทยาลัย เลยโดนบักแว่นอัดซะ
หลังกลับหอ บักแว่นก็ขอดูกระดาษข้อสอบของอากิหน่อย เพราะตัวเองต้องทำหน้าที่ติวอากิสอบเข้ามหาวิทยาลัย อากิได้ยินแบบนั้นก็ชะงัก แต่ก็ยอมเอามาให้ดูโดยบอกว่าดูแล้วอย่าหัวเราะนะ
และคอมเมนต์ของบักแว่นหลังดูข้อสอบของอากิก็คือ "ก็ยังดีกว่าโทคิวะอะนะ"
บักแว่นเลยต้องมาหาวิธีให้อากิทำคะแนนสอบให้ดีขึ้นให้ได้ แต่แค่วิชาประวัติศาสตร์ก็เจอตอเบ้อเริ่มเทิ่มเข้าแล้ว เพราะอากิไม่ถนัดเรื่องจำชื่อคนในประวัติศาสตร์เอาเสียเลย ครั้งแรกบักแว่นจนปัญญาไม่รู้จะทำยังไง แต่พอนึกได้ว่าอากิสนใจเรื่องม้า เลยใช้วิธีตะล่อมให้จำได้ ด้วยการเอาเรื่องดังๆ เกี่ยวกับม้าในประวัติศาสตร์มาเล่าให้อากิฟัง แล้วถือโอกาสเล่าประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องไปด้วยเนียนๆ จนอากิเริ่มจำชื่อคนหรือเหตุการณ์ต่างๆ ในประวัติศาสตร์ได้
...สรุปว่ากรณีเดียวกับนัตสึฮิโกะจากเรื่องอายชิลด์ 21 สินะ ประเภท "ถ้าเป็นหัวข้อที่ตัวเองสนใจจะรู้เรื่อง" แบบนี้
ระหว่างติวก็มีรุ่นพี่หน้าโหดคนเดิม (ที่เคยเอาของมาแลกกับเบคอนเนื้อบุตะด้งของบักแว่น) มาชวนไปเป็นคณะกรรมการอีเวนท์อบพิซซ่า (ที่บักแว่นเคยจัดในซีซั่นแรก)
บักแว่นเห็นหน้าโหดๆ ของรุ่นพี่ก็กลัวจนไม่กล้าตอบ แต่สุดท้ายก็รวบรวมความกล้าตอบปฏิเสธไปพร้อมบอกเหตุผลว่าต้องช่วยติวให้เพื่อนสอบเข้ามหาวิทยาลัย
รุ่นพี่ได้ฟังก็เข้าใจยอมถอยให้แต่โดยดี
แต่พอเห็นว่าคนที่บักแว่นติวให้คืออากิ ก็เปลี่ยนโหมดเป็นรุ่นพี่จอมโหดไปทันควัน
...เล่นเอาบักแว่นวิญญาณเกือบหลุดลอยไปหาบุตะด้งที่อีกฟากของแม่น้ำยมโลกเลยทีเดียว
(แอบตัดตรงที่บักแว่นนอนชักกระตุกไปพลาง จ้อเรื่องกลิ่นเท้า + ม้าเหงื่อโลหิต + ม้าเซ็กเธาว์ไปพลางแฮะ...แต่อันนี้เข้าใจว่ามันยาวเกินไม่จำเป็นต้องใส่เข้ามา)
แต่ก็ได้มีฉากหวานเล็กๆ กับอากิระหว่างทางกลับหอ แค่นี้ก็ถือว่าคุ้มเกินคุ้มละนะแว่นเอ๊ย
มาเข้าชมรมตอนเช้า อากิก็โดนซาคาเอะจังเพื่อนร่วมชมรมแซวเอาเรื่องที่บักแว่นติวเข้มให้ ทำนองว่าก็แฟนกันนี่นะ
พออากิลนลานปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นแฟนกันซักหน่อย ก็ทำหน้าไม่อยากเชื่อหูว่าถึงขั้นนี้แล้วยังไม่เป็นแฟนกันอีกเหรอ
บักแว่นเองก็โดนทั่นประธานที่เคารพถามเอาเรื่องนี้เหมือนกัน
แถมยังโดนเพื่อนชายร่วมชมรมรุมสหบาทาสามัคคีข้อหามีสาวให้กุ๊กกิ๊กทั้งที่คนอื่นไม่มีอีก
ช่วงเวลา "ผ่อนคลาย" ของอากิหลังตะบี้ตะบันท่องหนังสือจนสมองแทบลัดวงจร
ฝ่ายบักแว่นที่เป็นคนสอนเองก็เจอตอเบ้อเริ่มเข้าเช่นกัน แม้จะแก้ปัญหาเรื่องติวไปได้บางส่วน แต่ก็ลำบากอยู่ดี
สุดท้ายเลยจำใจต้องโทรไปขอคำแนะนำจากพี่ชายที่ตัวเองไม่ชอบขี้หน้าว่าจะทำยังไงดี
อนึ่ง โปรดสังเกตสถานที่ที่พี่บักแว่นอยู่ให้ดีๆ นะครับ เพราะมันจะบอกใบ้ถึงสิ่งที่จะเกิดกับพี่ชายในเนื้อเรื่องหลังจากนี้ได้ดีเลยล่ะ
พี่บักแว่นถึงกับอึ้ง เพราะนึกไม่ถึงว่าน้องชายที่แสนจะถือทิฐิคนนั้นจะยอมโทรมาขอคำแนะนำเรื่องเรียนจากตัวเองแบบนี้
โดยหลังจากได้ฟังเรื่องทั้งหมด พี่บักแว่นก็บอกว่าตัวเองเก็บพวกโน้ตย่อที่เคยใช้สมัยสอบเข้ามหาวิทยาลัยไว้ที่บ้าน ให้บักแว่นลองไปหาดูที่บ้านเอาละกัน บักแว่นก็โวยว่าพี่ไปเอาให้หน่อยเด้ พี่บักแว่นก็ปฏิเสธทันควันบอกว่าไม่อยากกลับบ้านไปเจอหน้าเตี่ย แล้วกดสายทิ้งดื้อๆ ทิ้งให้บักแว่นยืนทำหน้าลำบากใจอยู่ตรงนั้นเอง
รู้แบบนั้น บักแว่นก็เครียดจัดจนแทบไม่เป็นอันทำงาน เลยเจออ.นากาจิมะไล่ออกจากห้องบ่มชีสซะข้อหาแพร่เชื้อด้านลบในห้องบ่ม
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยประจำตอนนี้ ชีสที่บ่มไว้ในห้องเย็นแบบนี้ต้องขัดผิวด้วยน้ำเกลือประมาณ 2 - 3 วันต่อครั้งเพื่อเป็นการเพิ่มรสชาติให้ชีส เพื่อป้องกันไม่ให้ราหรือแบคทีเรียอย่างอื่นที่ไม่ใช่เชื้อบ่มมาขึ้นชีส (บางครั้งไม่ใช้น้ำเกลือแต่ใช้เหล้าหรือไวน์ขัดก็มีเหมือนกัน)
แล้วเก๊าะมาถึงฉากปล่อยก๊ากฉากหนึ่งประจำตอน...กับบทพูดโคตรจะอันตรายของอากิในตอนนี้
"ถ้ามีอะไรที่ชั้นพอจะช่วยได้ก็บอกนะ ชั้นยินดีทำทุกอย่าง"
(อธิบาย - อากิเห็นบักแว่นเครียดเรื่องกลับบ้านมากก็มาปลอบมาคุยให้บักแว่นหายเครียด...ปัญหาอยู่ที่คำพูดที่เจ้าตัวเลือกใช้ขณะพูดกับบักแว่นนี่สิ)
เจอบทพูดนี้ของอากิเข้าไป บักแว่นก็ถึงกับลมปราณแตกซ่านไปทั่วร่าง แต่ยังฝืนไล่อากิให้กลับไปท่องหนังสือได้ทัน ก่อนตัวเองจะทนไม่ไหวออกมานอนชักกระตุกบิดตัวอยู่หน้าโรงบ่มชีส
เห็นฉากนี้แล้วถึงกับนึกในใจว่า "แว่นเอ๊ย..." ขึ้นมาเลยทีเดียว...
วันรุ่งขึ้น บักแว่นก็แพ็คกระเป๋าแต่เช้า (พร้อมด้วยของฝากจากเพื่อนๆ) เตรียมตัวกลับบ้าน
โดยมีเบ็ปปุกับนิชิคาวะตื่นมาส่ง
ของฝากจากบักสมองไก่โทคิวะ โยเกิร์ตทำเองที่ทำเอาบักแว่นถึงกับซึ้ง
...จนกระทั่งได้รู้ถึงที่มาของโยเกิร์ต
เอาไปบ่มในบ่อน้ำร้อนฝั่งชายที่มีคนใช้เกือบตลอดเวลา
หลังจะวุ่นวายเรื่องของฝากกันอยู่พักหนึ่ง บักแว่นก็มาจนถึงสถานีรถไฟรอรถเที่ยวแรกเข้าซัปโปโรได้สำเร็จ
โดยระหว่างรอรถ บักแว่นก็เปิดดูกระติกเย็นใบใหญ่ที่ใส่ของฝากจากพวกเพื่อนๆ มา ปรากฏว่าข้างในมีแต่ของหมักของดอง (ไชเท้าดอง, ถั่วหมัก) อยู่เต็มไปหมด เล่นเอาบักแว่นปิดแทบไม่ทัน (ตรงนี้ในภาคมังงะ บักแว่นจะดันเอาไปเปิดดูตอนอยู่บนรถ เล่นเอาโดนผู้โดยสารคนอื่นจ้องกันเป็นแถบ)
ตอนนั้นบักแว่นก็สังเกตเห็นกล่องใบเล็กใบหนึ่งวางอยู่ตรงมุมกระติก ที่มุมกล่องมีเขียนไว้ว่าชีสสด มีกระดาษโน้ตเล็กๆวางทับอยู่ บักแว่นหยิบกระดาษโน้ตมาเปิดดู ก็พบว่าเป็นโน้ตของอากินั่นเอง
ในภาคมังงะเขียนเยอะกว่านี้แฮะ ในภาคอนิเมเขียนแค่ "ขอบใจนะ" กับชื่อแค่นั้นเอง