.
มิได้เจตนาดูถูก..แต่พฤติกรรมมันฟ้อง ตั้งแต่อดีตจนถึง ปัจจุบัน..
ทำให้ผมเข้าใจอย่างถ่องแท้ยิ่งขึ้นว่า
ทำไมคนเขาถึงเรียก พรรคประชาธิปัตย์ ว่าเป็นพรรคแมงสาบ
เชิญอ่านครับ..จากมติชนออนไลน์..
บทเรียน จาก "อดีต" สถานการณ์ เมษายน 2519 ปชป. กับ "ทหาร"
" กลิ่นอายและบรรยากาศแห่งสถานการณ์การเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเดือนเมษายน 2519 กรุ่น โชย เข้ามารุนแรง และเข้มข้น มากยิ่งขึ้นเป็นลำดับ "
รุนแรงกว่า เข้มข้นกว่า เปิดเผยตัวตนมากยิ่งกว่า
คงจำกันได้ว่าการเลือกตั้งทั่วไปเดือนเมษายน 2519 เป็นผลจากการตัดสินใจยุบสภาในเดือนมกราคมของนายกรัฐมนตรี ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช
เป็นการยุบสภาหลังประชุมแม่ทัพ นายกอง ณ ทำเนียบในซอยสวนพลู
เป็นการยุบสภาด้วยความมั่นใจเป็นอย่างสูง เพราะอย่างน้อยก็ได้รับความเห็นชอบจากแม่ทัพ นายกอง พร้อมหน้าพร้อมตา
ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ลงสมัครรับเลือกตั้งในเขตดุสิต
เป็นการลงสมัครรับเลือกตั้งด้วยความมั่นใจ เพราะเคยได้รับเลือกมาแล้วและด้วยเกียรติภูมิของรักษาการนายกรัฐมนตรี
แต่ผลกลับปรากฏว่าสอบตก
ไม่เพียงแพ้ พล.อ.ทวิช เสนีวงศ์ ณ อยุธยา หากแต่ยังแพ้ให้แก่ นายสมัคร สุนทรเวช นักการเมืองรุ่นลูก
รับรู้กันว่าเพราะมือที่มองไม่เห็นจาก พล.อ.กฤษณ์ สีวะรา ยื่นมาแตะ
หลังสถานการณ์เดือนตุลาคม 2516 เมื่ออำนาจแห่ง
"ระบอบถนอม-ประภาส" จบสิ้น
อำนาจใหม่ที่เข้ามาแทนที่ คือ พล.อ.กฤษณ์ สีวะรา
ในเดือนตุลาคม 2516 พล.อ.กฤษณ์ สีวะรา คือ ผู้บัญชาการทหารบก
แม้นายกรัฐมนตรีจะเป็น นายสัญญา ธรรมศักดิ์ แต่บุคคลที่นายกรัฐมนตรีเกรงใจมากที่สุดย่อมเป็น พล.อ.กฤษณ์ สีวะรา
เมื่อ พล.อ.กฤษณ์ สีวะรา เกษียณผู้เข้ามาแทนที่คือ พล.อ.บุญชัย บำรุงพงศ์
รับรู้กันว่าเมื่อ พล.อ.บุญชัย บำรุงพงศ์ เกษียณในเดือนตุลาคม 2519 ผู้ที่เข้ามาแทนที่คือ พล.อ.เสริม ณ นคร
แต่แล้วในเดือนเมษายน 2519 มีการโยกย้าย พล.อ.โชติ หิรัญยัษฐิติ รองผู้บัญชาการทหารบกไปเป็นจเรทหารทั่วไป แล้วเลื่อน พล.อ.ฉลาด หิรัญศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบกไปแทนที่
เป็นการทำโผโดย พล.ต.ประมาณ อดิเรกสาร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
เป็นการลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ เรื่อง ให้นายทหารรับราชการ โดยม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช นายกรัฐมนตรี
นี่สะเทือนทั้ง พล.อ.โชติ หิรัญยัษฐิติ ซึ่งสนิทกับ พล.อ.กฤษณ์ สีวะรา และสะเทือน พล.อ.เสริม ณ นคร ซึ่งเป็นทายาทที่จะสืบทอดตำแหน่งต่อจาก พล.อ.บุญชัย บำรุงพงศ์
ปัจจัยนี้แหละที่ทำให้ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช สอบตกในเดือนเมษายน 2519
ที่น่าสนใจก็คือ เมื่อพรรคประชาธิปัตย์จัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคชาติไทย ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีแน่นอนอยู่แล้ว
แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็น พล.อ.กฤษณ์ สีวะรา
น่าเสียดายที่ พล.อ.กฤษณ์ สีวะรา ต้องประสบชะตากรรมเนื่องแต่พิษ "ข้าวเหนียวมะม่วง" ระหว่างนอนรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลพระมงกุฎฯ
การแก้ปัญหาอันเรียกว่าถอดสลักระเบิดจึงเป็นของ พล.อ.ทวิช เสนีวงศ์ ณ อยุธยา
แต่การเข้าดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของ พล.อ.กฤษณ์ สีวะรา ก็เป็นคำตอบอันแน่ชัดยิ่ง
1 ทำไม นายสมัคร สุนทรเวช จึงสามารถโค่น ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ลงได้ในเขตดุสิต
ขณะเดียวกัน 1 พรรคประชาธิปัตย์ได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้นในขอบเขตทั่วประเทศได้รับเลือกมาจำนวนมากเป็นอันดับ 1 ด้วย 114 ส.ส.
เป็นครั้งแรกที่ได้ ส.ส.เกินหลัก 100 นับแต่จัดตั้งพรรคเมื่อเดือนเมษายน 2489 เป็นต้นมา
ปัจจัยสำคัญเป็นอย่างมากย่อมเป็นปัจจัยที่ร่วมมือกับ พล.อ.กฤษณ์ สีวะรา โดยมีฐานจากกองทัพรองรับ ไม่เพียงแต่สยบและทำสงครามสั่งสอน ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช หากแต่ยังอาศัยปัจจัยของกองทัพขจัดพรรคการเมืองแนวสังคมนิยมจนแทบสูญพันธุ์
เพียงแต่เมื่อเดือนเมษายน2519 พล.อ.กฤษณ์ สีวะรา ทำได้เงียบกริบและด้วยความนุ่มนวล
จากเดือนเมษายน 2519 มาถึงเดือนเมษายน 2554 เวลาล่วงมา 35 ปี
สภาพการณ์ต่างๆ ทางเศรษฐกิจ การเมืองและวัฒนธรรม ในสังคมประเทศไทยพัฒนาและเปลี่ยนแปลงมีความแตกต่างกันเป็นย่อมมาก
แต่ความพยายามในแบบเดือนเมษายน 2519 ก็ปรากฏอีกด้วยความรุนแรง โฉ่งฉ่างยิ่งกว่า
**************************************
เรื่องของเรื่อง มันก็คือ อำนาจที่ไม่เคยปล่อยวาง แล้วทุกครั้งมันก็มาจากทหาร ทหารจึงต้องยืมมือนักการเมืองมาใช้..โดยมิได้พิศสวาส แต่อย่างใด..
แต่ ป่านนี้ พี่มาร์คคงนอนฝันแล้วว่า ฟ้าเป็นของป๋า... แต่นายกฯ ค้องเป็นของกรู..
โคตระ โฉ่ง ฉ่าง...สมที่บทความเขาเขียนไว้จริงๆ
...แต่งานนี้ บอกได้เลย..ยากส์์์์สสสสสสส์..
เพราะประชาชน เขารู้ทันกันหมดแล้ว
ฝันไปเถิดเมิง...
Against the wind : Bob Seger
http://www.youtube.com/watch?v=ZNaA7fVXB28
ใครไม่เชื่อว่า..ปชป..โหนทหารมานานแล้ว..โปรดอ่านบทความนี้
มิได้เจตนาดูถูก..แต่พฤติกรรมมันฟ้อง ตั้งแต่อดีตจนถึง ปัจจุบัน..
ทำให้ผมเข้าใจอย่างถ่องแท้ยิ่งขึ้นว่า
ทำไมคนเขาถึงเรียก พรรคประชาธิปัตย์ ว่าเป็นพรรคแมงสาบ
เชิญอ่านครับ..จากมติชนออนไลน์..
บทเรียน จาก "อดีต" สถานการณ์ เมษายน 2519 ปชป. กับ "ทหาร"
" กลิ่นอายและบรรยากาศแห่งสถานการณ์การเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเดือนเมษายน 2519 กรุ่น โชย เข้ามารุนแรง และเข้มข้น มากยิ่งขึ้นเป็นลำดับ "
รุนแรงกว่า เข้มข้นกว่า เปิดเผยตัวตนมากยิ่งกว่า
คงจำกันได้ว่าการเลือกตั้งทั่วไปเดือนเมษายน 2519 เป็นผลจากการตัดสินใจยุบสภาในเดือนมกราคมของนายกรัฐมนตรี ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช
เป็นการยุบสภาหลังประชุมแม่ทัพ นายกอง ณ ทำเนียบในซอยสวนพลู
เป็นการยุบสภาด้วยความมั่นใจเป็นอย่างสูง เพราะอย่างน้อยก็ได้รับความเห็นชอบจากแม่ทัพ นายกอง พร้อมหน้าพร้อมตา
ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ลงสมัครรับเลือกตั้งในเขตดุสิต
เป็นการลงสมัครรับเลือกตั้งด้วยความมั่นใจ เพราะเคยได้รับเลือกมาแล้วและด้วยเกียรติภูมิของรักษาการนายกรัฐมนตรี
แต่ผลกลับปรากฏว่าสอบตก
ไม่เพียงแพ้ พล.อ.ทวิช เสนีวงศ์ ณ อยุธยา หากแต่ยังแพ้ให้แก่ นายสมัคร สุนทรเวช นักการเมืองรุ่นลูก
รับรู้กันว่าเพราะมือที่มองไม่เห็นจาก พล.อ.กฤษณ์ สีวะรา ยื่นมาแตะ
หลังสถานการณ์เดือนตุลาคม 2516 เมื่ออำนาจแห่ง "ระบอบถนอม-ประภาส" จบสิ้น อำนาจใหม่ที่เข้ามาแทนที่ คือ พล.อ.กฤษณ์ สีวะรา
ในเดือนตุลาคม 2516 พล.อ.กฤษณ์ สีวะรา คือ ผู้บัญชาการทหารบก
แม้นายกรัฐมนตรีจะเป็น นายสัญญา ธรรมศักดิ์ แต่บุคคลที่นายกรัฐมนตรีเกรงใจมากที่สุดย่อมเป็น พล.อ.กฤษณ์ สีวะรา
เมื่อ พล.อ.กฤษณ์ สีวะรา เกษียณผู้เข้ามาแทนที่คือ พล.อ.บุญชัย บำรุงพงศ์
รับรู้กันว่าเมื่อ พล.อ.บุญชัย บำรุงพงศ์ เกษียณในเดือนตุลาคม 2519 ผู้ที่เข้ามาแทนที่คือ พล.อ.เสริม ณ นคร
แต่แล้วในเดือนเมษายน 2519 มีการโยกย้าย พล.อ.โชติ หิรัญยัษฐิติ รองผู้บัญชาการทหารบกไปเป็นจเรทหารทั่วไป แล้วเลื่อน พล.อ.ฉลาด หิรัญศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบกไปแทนที่
เป็นการทำโผโดย พล.ต.ประมาณ อดิเรกสาร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
เป็นการลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ เรื่อง ให้นายทหารรับราชการ โดยม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช นายกรัฐมนตรี
นี่สะเทือนทั้ง พล.อ.โชติ หิรัญยัษฐิติ ซึ่งสนิทกับ พล.อ.กฤษณ์ สีวะรา และสะเทือน พล.อ.เสริม ณ นคร ซึ่งเป็นทายาทที่จะสืบทอดตำแหน่งต่อจาก พล.อ.บุญชัย บำรุงพงศ์
ปัจจัยนี้แหละที่ทำให้ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช สอบตกในเดือนเมษายน 2519
ที่น่าสนใจก็คือ เมื่อพรรคประชาธิปัตย์จัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคชาติไทย ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีแน่นอนอยู่แล้ว
แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็น พล.อ.กฤษณ์ สีวะรา
น่าเสียดายที่ พล.อ.กฤษณ์ สีวะรา ต้องประสบชะตากรรมเนื่องแต่พิษ "ข้าวเหนียวมะม่วง" ระหว่างนอนรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลพระมงกุฎฯ
การแก้ปัญหาอันเรียกว่าถอดสลักระเบิดจึงเป็นของ พล.อ.ทวิช เสนีวงศ์ ณ อยุธยา
แต่การเข้าดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของ พล.อ.กฤษณ์ สีวะรา ก็เป็นคำตอบอันแน่ชัดยิ่ง
1 ทำไม นายสมัคร สุนทรเวช จึงสามารถโค่น ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ลงได้ในเขตดุสิต
ขณะเดียวกัน 1 พรรคประชาธิปัตย์ได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้นในขอบเขตทั่วประเทศได้รับเลือกมาจำนวนมากเป็นอันดับ 1 ด้วย 114 ส.ส.
เป็นครั้งแรกที่ได้ ส.ส.เกินหลัก 100 นับแต่จัดตั้งพรรคเมื่อเดือนเมษายน 2489 เป็นต้นมา
ปัจจัยสำคัญเป็นอย่างมากย่อมเป็นปัจจัยที่ร่วมมือกับ พล.อ.กฤษณ์ สีวะรา โดยมีฐานจากกองทัพรองรับ ไม่เพียงแต่สยบและทำสงครามสั่งสอน ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช หากแต่ยังอาศัยปัจจัยของกองทัพขจัดพรรคการเมืองแนวสังคมนิยมจนแทบสูญพันธุ์
เพียงแต่เมื่อเดือนเมษายน2519 พล.อ.กฤษณ์ สีวะรา ทำได้เงียบกริบและด้วยความนุ่มนวล
จากเดือนเมษายน 2519 มาถึงเดือนเมษายน 2554 เวลาล่วงมา 35 ปี
สภาพการณ์ต่างๆ ทางเศรษฐกิจ การเมืองและวัฒนธรรม ในสังคมประเทศไทยพัฒนาและเปลี่ยนแปลงมีความแตกต่างกันเป็นย่อมมาก
แต่ความพยายามในแบบเดือนเมษายน 2519 ก็ปรากฏอีกด้วยความรุนแรง โฉ่งฉ่างยิ่งกว่า
**************************************
เรื่องของเรื่อง มันก็คือ อำนาจที่ไม่เคยปล่อยวาง แล้วทุกครั้งมันก็มาจากทหาร ทหารจึงต้องยืมมือนักการเมืองมาใช้..โดยมิได้พิศสวาส แต่อย่างใด..
แต่ ป่านนี้ พี่มาร์คคงนอนฝันแล้วว่า ฟ้าเป็นของป๋า... แต่นายกฯ ค้องเป็นของกรู..
โคตระ โฉ่ง ฉ่าง...สมที่บทความเขาเขียนไว้จริงๆ
...แต่งานนี้ บอกได้เลย..ยากส์์์์สสสสสสส์..
เพราะประชาชน เขารู้ทันกันหมดแล้ว
ฝันไปเถิดเมิง...
Against the wind : Bob Seger
http://www.youtube.com/watch?v=ZNaA7fVXB28