เล่นหุ้นด้วยตัวเอง ฝึกใจให้มั่นคง … พูดง่าย แต่ทำยากจัง
มา ชาน ลี จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจวันที่ 4 ก.ย. 56 พูดได้น่าสนใจในเรื่องการเล่นหุ้น วิธีคิด อ่านแล้วอาจได้อะไรบ้าง และเรื่องจริงที่แมงเม่าชอบซื้อตอนหุ้นขึ้นไปสูงๆ แล้ว และชอบขายตอนหุ้นตกหนักๆ
ผมบอกอย่างนี้ก็แล้วกัน คือเมื่อไรมีข่าว แปลว่าเพราะเซียนอยากขายหุ้นจึงปล่อยข่าว เพราะฉะนั้นคุณก็ต้องรีบหนี เพราะเซียนกลุ่มนี้ เล่นสั้น เป็น short term แต่ผมคำว่า “นักลงทุนหุ้น” ไม่ควรจะเล่น short term
ทุกวันนี้คนจะคิดว่า เล่นเป็น short term แล้วก็มีกำไรทุกวัน 10% เหมือนที่เซียนหุ้นพูดกัน ซึ่งไม่มีหรอก คนตังค์(สตางค์) น้อย ก็ต้องลงน้อย มันช่วยไม่ได้ ก็เราจนกว่าคนอื่น ไม่ใช่เห็นคนอื่นรวยแล้วอยากรวย อย่ามาคิดอย่างนี้ เพราะสุดท้ายจะจน ไม่ใช่มีเงินล้านจะลงทุนล้าน เพราะคิดว่าจะได้กำไร 10%,ได้ 1 แสน ลงทุนแสน
ชาญ ยกตัวอย่างว่า พฤติกรรมคนไทยส่วนใหญ่พอดัชนีหุ้น 1,000 ก็ลงเต็ม ,พอดัชนีขึ้น 1,200 ก็คิดว่ามีกำไรเทหมดหน้าตักอีก มาดัชนี 1,600 ก็ขายออกทำกำไร แต่สุดท้ายก็กลับไปซื้อใหม่ที่ดัชนีเดิม 1,600 อีก ซึ่งความจริงก็คือยังไม่ได้ขายนั่นเอง คือขายไปแล้วก็ซื้อกลับมาเต็มพอร์ตอีกทันทีในดัชนีเดิม วิธีการอย่างนี้ก็เหมือนพาชีวิตตัวเองเสี่ยงตลอดเวลา คือหลอกตัวเองว่าขาย แต่ความจริงไม่ได้ขาย แค่เปลี่ยนตัวหุ้นเท่านั้น
ที่เซียนหุ้น (รุ่นใหม่) บอกว่ามีกำไร ก็กำไรจริงก็เพราะมีรายย่อยตามอย่างไร ซึ่งผมไม่อยากให้ปล่อยข่าวออกมาซี้ซั้ว และการออกมาให้ข่าวกับรายย่อย ก็เหมือนกับว่ารายใหญ่เองอยากขาย ถ้าเป็นผม ผมจะแนะนำรายย่อย ว่าอย่าไปฟังข่าว ออกมาเล่นหุ้นด้วยตัวเองเลย เพราะการฟังข่าวแล้วมาเล่น โอกาสขาดทุนมีสูงมาก เพราะรายใหญ่ เมื่อก่อนเขาอาจซื้อหุ้นในราคาถูกมาก แต่วันนี้อยากขายก็ออกมาปล่อยข่าว แต่ใครจะเจ๊งไม่เจ๊ง ไม่มีใครรู้
ส่วนเทคนิคง่ายๆคือ ลงทุนแบบธรรมชาติ คือซื้อถูกขายแพง เพราะแน่นอนว่าไม่มีปัญหาแน่ แต่ความจริง ทุกครั้งที่หุ้นตก คนกลับไม่ถามหรือสนใจว่าจะซื้อหุ้นตัวไหน มีแต่จะขาย แต่เมื่อไรที่หุ้นแพงกลับแย่งกันจะซื้อ ปัญหาจึงอยู่ที่ว่าหุ้นราคาสูง คุณก็ลงทุน100% ดังนั้นเมื่อหุ้นต่ำคุณก็มีแต่หมดตัว เท่านั้นเอง
วิธีแสนง่าย ความจริงไม่ยากเลย ใครๆ ก็รู้กันอยู่ที่ว่าจะทำได้มั๊ยแค่นั้นเอง บางทีการเล่นหุ้น สิ่งที่ต้องฝึกอาจไม่ใช่การฝึกวิเคราะห์หุ้นหรือพื้นฐานบริษัท ไม่ใช่ฝึกตีกราฟ วิเคราะห์เทคนิค แต่เราอาจต้องฝึกจิตใจให้แข็งแรงมากกว่า ทำยังไงถึงจะใจแข็งและปฎิบัตตามกฎเกณฑ์ของตัวเองที่วางไว้ได้อย่างเคร่งครัด ถ้าทำได้นั่นคือสำเร็จขั้นนึง
เล่นหุ้นด้วยตัวเอง ฝึกใจให้มั่นคง … พูดง่าย แต่ทำยากจัง
เล่นหุ้นด้วยตัวเอง ฝึกใจให้มั่นคง … พูดง่าย แต่ทำยากจัง
มา ชาน ลี จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจวันที่ 4 ก.ย. 56 พูดได้น่าสนใจในเรื่องการเล่นหุ้น วิธีคิด อ่านแล้วอาจได้อะไรบ้าง และเรื่องจริงที่แมงเม่าชอบซื้อตอนหุ้นขึ้นไปสูงๆ แล้ว และชอบขายตอนหุ้นตกหนักๆ
ผมบอกอย่างนี้ก็แล้วกัน คือเมื่อไรมีข่าว แปลว่าเพราะเซียนอยากขายหุ้นจึงปล่อยข่าว เพราะฉะนั้นคุณก็ต้องรีบหนี เพราะเซียนกลุ่มนี้ เล่นสั้น เป็น short term แต่ผมคำว่า “นักลงทุนหุ้น” ไม่ควรจะเล่น short term
ทุกวันนี้คนจะคิดว่า เล่นเป็น short term แล้วก็มีกำไรทุกวัน 10% เหมือนที่เซียนหุ้นพูดกัน ซึ่งไม่มีหรอก คนตังค์(สตางค์) น้อย ก็ต้องลงน้อย มันช่วยไม่ได้ ก็เราจนกว่าคนอื่น ไม่ใช่เห็นคนอื่นรวยแล้วอยากรวย อย่ามาคิดอย่างนี้ เพราะสุดท้ายจะจน ไม่ใช่มีเงินล้านจะลงทุนล้าน เพราะคิดว่าจะได้กำไร 10%,ได้ 1 แสน ลงทุนแสน
ชาญ ยกตัวอย่างว่า พฤติกรรมคนไทยส่วนใหญ่พอดัชนีหุ้น 1,000 ก็ลงเต็ม ,พอดัชนีขึ้น 1,200 ก็คิดว่ามีกำไรเทหมดหน้าตักอีก มาดัชนี 1,600 ก็ขายออกทำกำไร แต่สุดท้ายก็กลับไปซื้อใหม่ที่ดัชนีเดิม 1,600 อีก ซึ่งความจริงก็คือยังไม่ได้ขายนั่นเอง คือขายไปแล้วก็ซื้อกลับมาเต็มพอร์ตอีกทันทีในดัชนีเดิม วิธีการอย่างนี้ก็เหมือนพาชีวิตตัวเองเสี่ยงตลอดเวลา คือหลอกตัวเองว่าขาย แต่ความจริงไม่ได้ขาย แค่เปลี่ยนตัวหุ้นเท่านั้น
ที่เซียนหุ้น (รุ่นใหม่) บอกว่ามีกำไร ก็กำไรจริงก็เพราะมีรายย่อยตามอย่างไร ซึ่งผมไม่อยากให้ปล่อยข่าวออกมาซี้ซั้ว และการออกมาให้ข่าวกับรายย่อย ก็เหมือนกับว่ารายใหญ่เองอยากขาย ถ้าเป็นผม ผมจะแนะนำรายย่อย ว่าอย่าไปฟังข่าว ออกมาเล่นหุ้นด้วยตัวเองเลย เพราะการฟังข่าวแล้วมาเล่น โอกาสขาดทุนมีสูงมาก เพราะรายใหญ่ เมื่อก่อนเขาอาจซื้อหุ้นในราคาถูกมาก แต่วันนี้อยากขายก็ออกมาปล่อยข่าว แต่ใครจะเจ๊งไม่เจ๊ง ไม่มีใครรู้
ส่วนเทคนิคง่ายๆคือ ลงทุนแบบธรรมชาติ คือซื้อถูกขายแพง เพราะแน่นอนว่าไม่มีปัญหาแน่ แต่ความจริง ทุกครั้งที่หุ้นตก คนกลับไม่ถามหรือสนใจว่าจะซื้อหุ้นตัวไหน มีแต่จะขาย แต่เมื่อไรที่หุ้นแพงกลับแย่งกันจะซื้อ ปัญหาจึงอยู่ที่ว่าหุ้นราคาสูง คุณก็ลงทุน100% ดังนั้นเมื่อหุ้นต่ำคุณก็มีแต่หมดตัว เท่านั้นเอง
วิธีแสนง่าย ความจริงไม่ยากเลย ใครๆ ก็รู้กันอยู่ที่ว่าจะทำได้มั๊ยแค่นั้นเอง บางทีการเล่นหุ้น สิ่งที่ต้องฝึกอาจไม่ใช่การฝึกวิเคราะห์หุ้นหรือพื้นฐานบริษัท ไม่ใช่ฝึกตีกราฟ วิเคราะห์เทคนิค แต่เราอาจต้องฝึกจิตใจให้แข็งแรงมากกว่า ทำยังไงถึงจะใจแข็งและปฎิบัตตามกฎเกณฑ์ของตัวเองที่วางไว้ได้อย่างเคร่งครัด ถ้าทำได้นั่นคือสำเร็จขั้นนึง