เริ่มรู้สึกรู้สานานาสัมผัส
ในอ้อมลมโอบกระหวัดก็วูบหวาม
หอมไอดินกลิ่นน้ำค้างตอนสางยาม
อุ่นแดดลามโลมผิวริ้วรวี
หมอกยามเช้าก็มิเห็นเช่นคราก่อน
เหมือนซุกซ่อนความนัยไว้เต็มปรี่
พิศวงคีตกานท์ธารนที
ดุจดนตรีเทพคนธรรพ์บรรเลง
ก้านกิ่งพฤกษ์ลมพลิ้วเป็นทิวแถว
กลีบดอกแก้วระริกหวังปลั่งเปล่ง
เฉกนาฏศิลป์ร่ายล้อคลอเพลง
งดงามหากวังเวงความเคว้งคว้าง
ทั้งที่ปรารถนาก็ลาลับ
ใจดับภาพเสียงเพียงหวิวว่าง
สิ้นมรรคสิ้นผลสิ้นหนทาง
กลับกระจ่างสีแสงอย่างแจ้งชัด
ปิดตำราถ้อยธรรมคำสอน
โอนอ่อนในท่ามความสงัด
รับรู้ตามเป็นไปไม่ผูกมัด
ไฉนสัจความจริงจึงเผยตน??
เริ่มรู้สึก
ในอ้อมลมโอบกระหวัดก็วูบหวาม
หอมไอดินกลิ่นน้ำค้างตอนสางยาม
อุ่นแดดลามโลมผิวริ้วรวี
หมอกยามเช้าก็มิเห็นเช่นคราก่อน
เหมือนซุกซ่อนความนัยไว้เต็มปรี่
พิศวงคีตกานท์ธารนที
ดุจดนตรีเทพคนธรรพ์บรรเลง
ก้านกิ่งพฤกษ์ลมพลิ้วเป็นทิวแถว
กลีบดอกแก้วระริกหวังปลั่งเปล่ง
เฉกนาฏศิลป์ร่ายล้อคลอเพลง
งดงามหากวังเวงความเคว้งคว้าง
ทั้งที่ปรารถนาก็ลาลับ
ใจดับภาพเสียงเพียงหวิวว่าง
สิ้นมรรคสิ้นผลสิ้นหนทาง
กลับกระจ่างสีแสงอย่างแจ้งชัด
ปิดตำราถ้อยธรรมคำสอน
โอนอ่อนในท่ามความสงัด
รับรู้ตามเป็นไปไม่ผูกมัด
ไฉนสัจความจริงจึงเผยตน??