หนังทำเงินอเมริกา 23 กุมภาฯ Lego ยังเทพ สยบ 3 Days, Pompeii ราบคาบ

US BOXOFFICE February 21-23, 2014

(แปล/ เรียบเรียงจาก www.boxofficemojo.com)

เป็นสัปดาห์ที่สามติดต่อกันแล้วที่หนัง The LEGO Movie ยังครองอันดับ 1 ในบ็อกซ์ ออฟฟิศได้แบบชิลล์ๆ เมื่อหนังเข้าใหม่อย่าง 3 Days to Kill และ Pompeii ต่างก็เรียกคนดูได้ไม่เท่าไหร่ โดย The LEGO Movie รายได้ตกลงเพียง 37% ทำเงินไปได้สัปดาห์นี้ 31.3 ล้านเหรียญ ถือเป็นรายได้สัปดาห์ที่สาม สูงสุดตลอดกาลเป็นอันดับ 2 สำหรับหนังแอนิเมชัน เป็นรองแค่ Shrek 2 (37.9 ล้านเหรียญ) ผ่าน 17 วันหนังได้เงินมาแล้ว 183 ล้านเหรียญ และทางวอร์เนอร์ บราเธอร์ส ก็ประกาศสร้างภาคต่อเรียบร้อยแล้ว

อันดับ 2 เป็นหนังเข้าใหม่ 3 Days to Kill เปิดตัวด้วยรายได้ 12.2 ล้านเหรียญ ต่ำกว่า The Family ซึ่งเป็นผลงานร่วมสร้างของรีเลติวิตี มีเดีย และลุค เบสซงนิดหน่อย แต่ก็มากกว่าหนังอีกสองเรื่องของยูโรปา คอร์ป อย่าง Colombiana (10.4 ล้านเหรียญ) และ From Paris with Love (8.2 ล้านเหรียญ) ที่น่าสนใจก็คือสำหรับหนังที่เป็นการสร้างของเบสซง 3 Days to Kill มีความคล้ายคลึง Taken หนังฮิตเมื่อปี 2009 มากที่สุด แถมเรื่องราวยังใกล้เคียงกันอีกด้วย แต่ขณะที่ Taken มีความโดดเด่น และมีความเป็นตัวของตัวเอง 3 Days ดูจะไม่ต่างไปจากหนังแอ็คชันทั่วไป และคนดูเหมือนจะเอาใจช่วยเลียม นีสัน ในการตามหาตัวลูกสาว มากกว่าช่วยเควิน คอสท์เนอร์สู้กับผู้ก่อการร้าย โดยคนดูหนังพอๆ กันระหว่างชาย และหญิง แต่มีอายุเกิน 25 ปี ถึง 80% คะแนนของซีนีมาสกอร์อยู่ที่ B นั่นหมายความว่าหนังน่าจะผ่าน 30 ล้านเหรียญไปได้ช้าๆ

หนังทุนสูงอย่าง Pompeii คว่ำเละเทะด้วยรายได้เปิดตัว 10.3 ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นตัวเลขที่น้อยมากๆ ในกลุ่มหนังหายนะทั้งหลาย โดยได้มาครึ่งเดียวของหนังคว่ำสนิทอย่าง Poseidon แล้วก็ต่ำกว่าหนังชุด Resident Evil ของผู้กำกับพอล ดับเบิลยูเอส แอนเดอร์สัน แต่ก็มากกว่า The Three Musketeers (8.7 ล้านเหรียญ) นิดหน่อย และมากกว่าหนังสามมิติสองเรื่องล่าสุดอย่าง The Legend of Hercules (8.9 ล้านเหรียญ) และ I, Frankenstein (8.6 ล้านเหรียญ)

กุญแจสำคัญในการขายหนังหายนะระดับนี้ก็คือ เน้นไปที่ความสัมพันธ์ของตัวละคร หาก Titanic เน้นที่เรือล่ม หนังคงไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่เห็น ทีมการตลาดของ Pompeii พยายามขายเรื่องโรแมนติคระหว่างสองตัวละครหลัก แต่กลับถูกภาพของภูเขาไฟระเบิดกลบความสำคัญไปหมด เห็นได้ชักจากโปสเตอร์ของหนัง งานนี้คนดูผู้ชายเข้าไปชมกัน 52% และคนดูอายุเอ่อ... มากกว่า 30 เข้าไปชมกันถึง 62% ซึ่งเป็นตัวเลขที่แสดงให้เห็นว่าหนังน่าจะลาโรงไปได้อย่างรวดเร็ว และหากรายได้แตะ 25 ล้านเหรียญได้ก็เก่ง

อันดับ 4 เป็น Robocop รายได้ร่วมเพียง 55% ทำเงินมาอีก 9.8 ล้านเหรียญ พอๆ กับ A Good Day to Die Hard ซึ่งรายได้สัปดาห์ที่สองตกลง 59% ได้เงิน 10.2 ล้านเหรียญ เมื่อปีที่แล้ว ผ่าน 12 วันหนังได้เงินไป 44 ล้านเหรียญ และมีโอกาสน้อยมากที่จะจบรายได้ที่ 70 ล้านเหรียญขึ้น

The Monuments Men ยังไม่หลุดจากห้าอันดับแรก ทำรายได้ไป 7.9 ล้านเหรียญ และกลายเป็นหนังจอร์จ คลูนีย์ที่ทำเงินเป็นกอบเป็นกำ 57.9 ล้านเหรียญแล้วในตอนนี้

พอหลุดจากสุดสัปดาห์วันแห่งความรัก หนังโรแมนติค About Last Night, Endless Love และ Winter's Tale ก้ล้วนร่วงผล็อยๆ About Last Night รายได้ตกถึง 71% ทำเงินได้ 7.5 ล้านเหรียญ รายได้รวมเป็น 38.3 ล้านเหรียญ ส่วน Endless Love ตก 70% และรายได้รวมอยู่ที่ 19.8 ล้านเหรียญ ขณะที่ Winter's Tale รายได้ตก 70% และรายได้รวมผ่าน 11 ล้านเหรียญเท่านั้น

กับการเปิดตัว 21 โรง หนังของฮายาโอะ มิยาซากิ The Wind Rises ทำรายได้รวมไป 313,751 เหรียญ หนังได้คะแนน A- และจะเพิ่มโรงเป็น 450 โรงในสัปดาห์หน้า

ในที่สุด The Hunger Games: Catching Fire ก็เดินหน้ามาถึงจุดหมายในสุดสัปดาห์นี้ โดยเมื่อวันศุกร์ หนังทำรายได้ผ่าน Pirates of the Caribbean: Dead Man's Chest กลายเป็นหนึ่งในสิบอันดับหนังทำเงินสูงสุดในอเมริกาตลอดกาล ด้วยรายได้ 423.6 ล้านเหรียญ มากกว่า 408 ล้านเหรียญ ของหนังภาคแรก

ในตลาดนอกอเมริกา The Hobbit: The Desolation of Smaug เปิดตัวได้อย่างสุดมั่นคงที่จีน 32.7 ล้านเหรียญ กลายเป็นหนังเปิดตัวสามวันแรกสูงสุดที่นี่ของวอร์เนอร์ ซึ่งมากกว่าหนังภาคแรกถึง 74% ตอนนี้ Smaug ทำรายได้รวมทั่วโลกไปแล้ว 894 ล้านเหรียญ และวันศุกร์นี้จะบุกตลาดสุดท้าย ญี่ปุ่น

The LEGO Movie ยังไปได้ดีนอกอเมริกา เมื่อได้เงินมาอีก 23.1 ล้านเหรียญ ซึ่งรวมรายได้จากตลาดที่เพิ่งเปิดตัวอย่าง ฝรั่งเศส (3 ล้านเหรียญ) และอิตาลี (2.3 ล้านเหรียญ) นอกจากนี้ยังขึ้นอันดับ 1 ที่อังกฤษ ด้วยรายได้ที่ลดลงจากสัปดาห์ก่อนเพียง 5% ทำเงินมาอีก 9.4 ล้านเหรียญ ถึงตอนนี้รายได้นอกอเมริกาของหนังอยู่ที่ 92.5 ล้านเหรียญ และยังไม่เปิดตัวที่ รัสเซีย, ญี่ปุ่น, ออสเตรเลีย และเยอรมันนี

แม้จะเปิดตัวแย่ในอเมริกา แต่ Pompeii ก็เปิดตัวใช้ได้นอกอเมริกา กับ 37 ตลาดหนังได้เงินมาทั้งหมด 22.8 ล้านเหรียญ โดยขึ้นอันดับ 2 ในเกาหลีใต้ 3.6 ล้านเหรียญ และทำเรายได้เป็นกอบเป็นกำที่รัสเซีย และไปได้สวยที่ฝรั่งเศส (2.3 ล้านเหรียญ), บราซิล (1.5 ล้านเหรียญ) และ เม็กซิโก (1.3 ล้านเหรียญ) แต่ที่บ้านเกิดของเรื่องราว อิตาลี หนังได้ตังค์เพียง 1.4 ล้านเหรียญ Pompeii จะเปิดตัวไปเรื่อยๆ จนถึงเดือนมิถุนายน และคงไม่มีปัญหากับการทำรายได้เกิน 100 ล้านเหรียญนอกอเมริกา

ขณะที่ RoboCop เติมเงินมาได้อีก 17.7 ล้านเหรียญ รายได้รวมถึง 100 ล้านเรียบร้อย หนังเปิดตัวอันดับ 1 ที่บราซิลบ้านเกิดของผู้กำกับด้วยรายได้ 3.4 ล้านเหรียญ ส่วนThe Monuments Men ที่เปิดฉายนอกอเมรอกามาเป็นสัปดาห์ที่สอง ทำรายได้ไปอีก 13.6 ล้านเหรียญ โดยเปิดตัวได้ดีที่เยอรมันนี (2.3 ล้านเหรียญ) และสเปน (2 ล้านเหรียญ) แต่ไม่สวยนักที่รัสเซีย (1.1 ล้านเหรียญ) รายได้รวมนอกอเมริกาตอนนี้อยู่ที่ 26.4 ล้านเหรียญ

ส่วน Frozen ก็ทำรายได้แซง Despicable Me 2 เรียบร้อยแล้ว โดยรายได้รวมทั่วโลกอยู่ที่ 980 ล้านเหรียญ และน่าจะถึง 1 พันล้านเหรียญก่อนเปิดตัวที่ญี่ปุ่น 15 มีนาคมนี้

ปิดท้ายด้วยคำวิจารณ์ของหนังที่เข้าฉายในบ้านเราเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เริ่มกันที่ Pompeii งานหายนะ-โรเแมนติคของผู้กำกับ Resident Evil คลิกอ่านได้ที่ http://bit.ly/1c3NwLE

สำหรับหนังสงครามที่สร้างจากเรื่องจริงปฏิบัติการรักษางานศิลปะของทหารสว. ในสงครามโลกครั้งที่ 2 งานชิลล์ๆ ของ จอร์จ คลูนีย์ The Monuments Men คลิกอ่านได้ที่ http://bit.ly/1c5VnIB

ส่วน Saving Mr. Banks มีทั้งของอ. ประวิทย์ แต่งอักษร ที่ http://bit.ly/1jichZL และนพปฎล พลศิลป์ที่ http://bit.ly/MdQzKe


อ่านแล้วชอบคลิกไลค์ให้กำลังใจได้ที่ www.facebook.com/Sadaos อ่านข่าวคราว-บทความ-บทวิจารณ์หนังและเพลง ได้ที่ www.sadaos.com
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่