เอิ่ม รู้สึกว่าอาจจะไม่ต้องใบ้ชื่อร้านก็ได้ แต่ก็เอาเถอะค่ะ ^_^"
เป็นร้านที่หลายๆคนคงได้อ่านรีวิวมาแล้ว ร้านปิ้งย่างที่มี Regular buffet กับ Premium buffet มีสาขาที่เกษตรนวมินทร์ด้วยค่ะ
ที่ Mercury Ville จะอยู่ชั้น 2 มุมๆเลยค่ะ ข้างๆร้านไก่เกาหลีบอนชอน
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (21 กพ) ได้มีโอกาสไปใช้บริการร้านปิ้งย่างตามชื่อกระทู้ เนื่องในโอกาสงานเลี้ยงประจำเดือนของทางบริษัทเรา
ผู้รับผิดชอบซึ่งเป็นเพื่อนของเราก็ได้ทำการจองสถานที่เพื่อจัดกินเลี้ยงกันที่ร้านนี้ โดยจองไป 60 ที่นั่งค่ะ
และมีการจองพร้อมคอมเฟิร์มกันแล้วว่า จะเป็น Regular Buffet ทั้ง 60 ที่
ทางร้านแจ้งว่า ด้วยความที่ว่าทางเราคนเยอะ ก็จะเริ่มไม่รับลูกค้าเพิ่มเติมตั้งแต่ช่วง 5 - 6 โมงค่ะ เผื่อที่พวกเราค่ะ
(แต่เอาจริงๆก็ยังรับอยู่บ้างตามกำลังและที่ว่าง อันนี้เราก็เห็นด้วยค่ะ)
พอถึงเวลา เพื่อนเราที่เป็นผู้รับผิดชอบก็ไปก่อน จัดแจงที่นั่งสถานที่ แล้วเราก็ตามไปเป็นกลุ่มที่สองของบริษัท
เข้าไปก็โอเคนะคะ แรกๆก็ดูต้อนรับดี ร้านก็ดูดี ตัวเลือกเยอะมากมาย ระบบระบายและดูดอากาศก็ดีค่ะ
เราก็ไปนั่งรอตามที่ที่เค้าได้จัดเตรียมไว้ให้ ซึ่งจะเป็นด้านในของร้าน หน้าเคาท์เตอร์เครื่องดื่มของหวาน
ทางร้านให้เราเริ่มทานกันตอนทุ่มนึง เราไปถึงประมาณหกครึ่ง เราก็นั่งรอไม่มีปัญหาค่ะ (คนค่อยๆทยอยกันมา)
เพื่อนเราก็มาบอกว่า นั่งกินได้ 2 ชั่วโมงนะ แต่เค้าจะไม่รับออเดอร์ตั้งแต่สองทุ่ม
(คือกินได้ถึง 3 ทุ่ม แต่ต้องหยุดสั่งตั้งแต่ 2 ทุ่ม สั่งได้ชม.เดียว แอบงง แต่ก็ไม่ได้อะไร)
เราเริ่มได้กลิ่นไม่ดีช่วงที่นั่งรอไปได้ประมาณ 10 นาที เพราะว่าเริ่มได้ยินพนักงานหญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นหนึ่งในผู้จัดการร้านพูดเสียงดังค่ะ
อารมณ์ว่าเค้าไม่ค่อยโอเคกับการที่พวกเรากินแค่ Regular buffet แล้วคนของเรามาไม่ครบ (ขาดไป 7-8 คน)
ไอ้เราตอนนั้นก็ยังไม่ได้คิดอะไรมาก คิดว่าคงไม่ได้มีปัญหาอะไร เด๋วเพื่อนเราก็คงไปเคลียร์ง่ายๆ
เพราะทุกร้านที่ไปกินมา จองเกินนิดหน่อยได้ ถ้าคนมาไม่ครบก็ไม่เป็นไร ตัดโต๊ะแล้วนับหัวตอนเคลียร์เงิน
เราก็นั่งดูเมนูที่เค้าเอามาให้ไปเรื่อยๆ จนเจ้ผู้หญิงคนนั้น (ผมสั้นแบบจินตหรา มีอายุหน่อยค่ะ) ก็เดินมาคุยกับพนักงานคนอื่นด้านหลังเรา
เค้าเริ่มพูดถึงกลุ่มของพวกเราด้วยน้ำเสียงมีอารมณ์และไม่พอใจเป็นชุด เรียกเด็กๆในร้านมาฟัง ใจความประมาณต่อไปนี้ค่ะ
"พวกเราไม่ได้รับลูกค้าเพิ่มมาตั้งแต่ห้าโมงนะ แล้วนี่มาถ้ายังมากินแบบธรรมดาอีก พวกเราจะไมได้อะไรเลยนะ!"
"วันนี้ไม่ได้กำไรหรอก ต้องให้กินแต่พรีเมี่ยมเท่านั้นเราถึงจะได้"
"นี่คนก็มาไม่น่าจะครบด้วย เราเสียเยอะนะเนี่ย"
"ถ้าคนไม่ครบ ยังไงก็ต้องให้กินแต่แบบพรีเมี่ยม"
สิ่งที่เราได้ยินทำให้เรารู้สึกแย่ค่ะ เค้าไม่ได้แอบพูดเลย เสียงดัง ฟังชัดมาก แต่เราพยายามไม่คิดอะไรคิดว่าก็คงได้แค่บ่น
แต่ประเด็นคือ เราเป็นลูกค้าเค้านะคะ เรานั่งหัวโด่อยู่นั้นเลยค่ะ ประมาณว่า เราหันไปเอื้อมมือแตะเค้าได้ใกล้ๆเลย
แล้วต่อให้กิน regular หรือยังไงพวกเราก็ยังจ่ายเงินให้เค้าอยู่ดี ไม่ได้มาขอกินฟรีๆ
ระหว่างนั้นเราก็เห็นเพื่อนที่บริษัทอีกโต๊ะเริ่มสั่งอาหารกัน เพราะก็ใกล้เวลาแล้ว และถ้าไม่เอาเตามาลงยังไงก็ปิ้งกันไม่ได้อยู่ดี
เราก็หันไปถามน้องที่บริษัทว่า สั่งได้แล้วใช่ป่าว น้องเค้าก็บอกว่าได้ เราจึงเริ่มจะสั่ง
ด้วยความที่ว่า เจ้ผมสั้นอยู่ใกล้เราสุด เราก็หันไปจะเรียกเจ้แก สิ่งที่เจ้แกทำคือ
หันมายกมือห้ามเรา "ไม่ได้นะคะ อย่าเพิ่งค่ะน้อง สั่งยังไม่ได้นะคะ ขอเคลียร์ก่อนค่ะ" ห้วนๆแรงๆใส่เราเลย
แล้วเค้าก็เรียกเพื่อนเราไปคุยอยู่หลังเรา ในลักษณะเหมือนรุมอ่ะค่ะ เราก็ได้ยินทั้งสองรูหู
(เพื่อนเราคนนี้พูดไทยได้ถือว่าคล่อง แต่จริงๆไม่ใช่คนไทย จะมีติดขัดบ้างบางสถานการณ์)
"เราไม่ได้รับลูกค้าเลย พวกคุณก็มากันไม่ครบ เราจำเป็นต้องมีกำไรค่ะ ดังนั้นพวกคุณต้องกินแบบพรีเมี่ยมเท่านั้น"
เพื่อนเราก็บอกเค้าว่า "แต่ทางผมโทรมาคอนเฟิร์มแล้วนะครับว่าเป็นแบบธรรมดา ไม่ได้มีเงื่อนไขว่าคนไม่ครบต้องกินพรีเมี่ยม"
เจ้นั่น "ยังไงก็ต้องพรีเมี่ยมค่ะ เพราะทางเราปฎิเสธลูกค้าไปเยอะมาก ต้องเปลี่ยนทุกคนเป็นพรีเมี่ยมค่ะ"
เพื่อนเราไม่ยอม ยังไงก็ไม่ยอม สุดท้ายเค้าเลยพาเพื่อนเราไปคุยที่เคาท์เตอร์หน้าร้านค่ะ
เพื่อนเราไปก็โดนพวกพนักงานอาวุโสรุม (ค่อนข้างแน่ใจว่าเป็นพวกดูแลร้าน อารมณ์ผู้จัดการ 3 คน) พยายามจะให้เพื่อนเราเปลี่ยนให้ได้
เถียงๆกันนี่ก็คือ เค้าพยายามยกเรื่องว่า วันนั้นเค้าไม่ได้กำไรในการรับกลุ่มพวกเรา ถ้าหากพวกเราไม่กินแบบพรีเมี่ยมค่ะ
ดังนั้นมันต้องเป็นกลุ่มของเราที่จะต้องเปลี่ยนเป็นพรีเมี่ยมเท่านั้น ต้องจบด้วยการที่พวกเราเปลี่ยนแบบบุฟเฟ่ต์
ธรรมดากับพรีเมี่ยมราคาจะต่างกันประมาณ 200 บาท คูณคนเป็นสิบมันก็เยอะมากอยู่นะคะ
เพื่อนเราไปคุยประมาณ 10-15 นาทีได้ จน ณ จุดหนึ่งเพื่อนเราเซ็งมากจึงพูดว่า
"คุณไม่ได้พูดถึงเรื่องพรีเมี่ยมและเงื่อนไขพวกนี้เลยนะในโทรศัพท์ คอนเฟิร์มกันทุกอย่างว่าจะเป็นแบบธรรมดา
แล้วทำไมต้องเรียกผมมาคุย ปัญหาคืออะไร"
เจ้ผมสั้นเลยขึ้นเสียงพูดว่า "ปัญหาก็คือ พวกคุณไม่กินแบบพรีเมี่ยม"
เพื่อนเราโมโห เลยตอบกลับไปเชิงตะคอกๆว่า "งั้นถ้าคุณมีปัญหา ผมขอยกเลิกหมดเลยละกัน"
สุดท้ายพวกเขาเลยต้องยอมให้พวกเรากินแบบธรรมดาตามที่ได้จองมาค่ะ
เอาจริงๆ อาหารดีค่ะ อร่อยมาก บริการนอกเหนือจากตอนนั้นก็โอเคหมดค่ะ
(อาหารแอบหลุดไปโต๊ะอื่นเยอะมากจนกว่าจะได้ก็หมดเวลาจะสั่งแล้ว)
เด็กๆน้องๆในร้านกับพี่ๆอีกหลายคนก็น่ารักมาก บริการเต็มที่
จะมีก็ตอนใกล้หมดเวลารับออเดอร์ (ซึ่งสุดท้ายเค้าก็ยืดให้เป็นสองทุ่มครึ่ง)
ที่เจ้ผู้หญิงคนเดิมมาตะโกนๆแถวพวกเรา (แค่กับพวกเราด้วย) ว่า "last order แล้วนะคะๆๆ"
ในขณะที่พนักงานคนอื่นจะเข้ามาพูดกับพวกเราโดยตรง
ถ้าถามว่าไปอีกมั้ย เราคงไปอีกค่ะ เพราะร้านและอาหารดี และพนักงานคนอื่นๆก็ดี แต่คงไม่จองไปแบบนี้อีกแล้ว
พยายามแยกแยะค่ะ ยังพอจะมีเหตุผลค่ะ เพื่อนเรายังบอกเลยว่า ถ้าไปกินกันเองคงไม่เจอแบบที่เจอวันนี้
แต่ความรู้สึกก็เสียไปเยอะละค่ะ นึกจะว่าจะนินทาก็เอามันตรงนั้นข้างหลังกันเลย วันหลังมานั่งโต๊ะว่ากันใส่หน้าก็ได้นะคะ
พวกเราเข้าใจว่า การที่พวกเราจองอาจจะทำให้เค้าเสียโอกาสกับลูกค้าหลายคน
แต่ถ้าคุยกันดีๆตั้งแต่แรก ทางเรายอมจ่ายค่าส่วนต่างด้วยซ้ำค่ะ
เพราะตอนแรกพอเริ่มมีปัญหาผู้จัดการบริษัทเราก็ออกปากว่าจะออกเงินส่วนต่างให้ก็ได้นะ
แต่พอเห็นท่าทางกับการพูดจาแบบนั้น กับเหตุผลที่ว่า ชั้นต้องได้กำไรวันนี้ เลยไม่เป็นไรละกัน หมดอารมณ์กันไปค่ะ
อยากฝากไปถึงผู้ดูแลหน่อยค่ะ ว่าช่วยดูแลมารยาทของพนักงานในร้านหน่อยก็ดีนะคะ ยิ่งเป็นพวกผู้จัดการด้วยแล้วเนี่ยช่วยเข้มงวดนิดนึง
เราก็ไม่รู้ว่า กลุ่มเราผิดอะไรนักหนานะคะ ที่กินบุฟเฟ่ต์ธรรมดาซึ่งราคาก็เหยียบ 500 บาทแล้ว ถึงกับต้องบังคับให้เปลี่ยนกันให้ได้เลยทีเดียว
คือมันดูไม่มีภาษีเท่าลูกค้าที่กินแบบสั่งหรือพรีเมี่ยมงั้นหรอคะ เป็นลูกค้าชั้นสองหรอคะ
ที่สำคัญ การที่มาพูดเรื่องลูกค้าและเรื่องที่ตัวเองไม่พอใจเกี่ยวกับลูกค้าบนหัวลูกค้า มันใช่หรอคะ
หรือว่าทางร้านมีนโยบายเปิดอกกับลูกค้ามากขนาดนี้ = =" เรานึกว่าเรามาขอกินฟรีซะอีกนะ
แล้วยกเรื่องกำไรมาอ้าง + คนมาไม่ครบ (7-8 คน = หนึ่งโต๊ะ ซึ่งเค้าก็รับลูกค้ามาเพิ่มอยู่ดี) มาพยายามกดดันบังคับลูกค้าให้เปลี่ยนไปกินอะไรที่แพงกว่า
มันเป็นอะไรที่แบบ.... น่าเกลียดน่ะค่ะ = =" ตกลงอะไรกันก็เสร็จไปหมดแล้ว อยู่ๆก็มาบีบคอให้ลูกค้าเปลี่ยนซะงั้น ตลกค่ะ
ขอบคุณสำหรับพื้นที่ค่ะ
ใครจะจองกลุ่มกับร้านนี้เยอะๆ ก็คุยดีๆให้เคลียร์ละกันนะคะ = ="
ขอแชร์ประสบการณ์แย่ๆกับร้าน J**se* ปิ้งย่างที่ Mercury Ville ค่ะ
เป็นร้านที่หลายๆคนคงได้อ่านรีวิวมาแล้ว ร้านปิ้งย่างที่มี Regular buffet กับ Premium buffet มีสาขาที่เกษตรนวมินทร์ด้วยค่ะ
ที่ Mercury Ville จะอยู่ชั้น 2 มุมๆเลยค่ะ ข้างๆร้านไก่เกาหลีบอนชอน
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (21 กพ) ได้มีโอกาสไปใช้บริการร้านปิ้งย่างตามชื่อกระทู้ เนื่องในโอกาสงานเลี้ยงประจำเดือนของทางบริษัทเรา
ผู้รับผิดชอบซึ่งเป็นเพื่อนของเราก็ได้ทำการจองสถานที่เพื่อจัดกินเลี้ยงกันที่ร้านนี้ โดยจองไป 60 ที่นั่งค่ะ
และมีการจองพร้อมคอมเฟิร์มกันแล้วว่า จะเป็น Regular Buffet ทั้ง 60 ที่
ทางร้านแจ้งว่า ด้วยความที่ว่าทางเราคนเยอะ ก็จะเริ่มไม่รับลูกค้าเพิ่มเติมตั้งแต่ช่วง 5 - 6 โมงค่ะ เผื่อที่พวกเราค่ะ
(แต่เอาจริงๆก็ยังรับอยู่บ้างตามกำลังและที่ว่าง อันนี้เราก็เห็นด้วยค่ะ)
พอถึงเวลา เพื่อนเราที่เป็นผู้รับผิดชอบก็ไปก่อน จัดแจงที่นั่งสถานที่ แล้วเราก็ตามไปเป็นกลุ่มที่สองของบริษัท
เข้าไปก็โอเคนะคะ แรกๆก็ดูต้อนรับดี ร้านก็ดูดี ตัวเลือกเยอะมากมาย ระบบระบายและดูดอากาศก็ดีค่ะ
เราก็ไปนั่งรอตามที่ที่เค้าได้จัดเตรียมไว้ให้ ซึ่งจะเป็นด้านในของร้าน หน้าเคาท์เตอร์เครื่องดื่มของหวาน
ทางร้านให้เราเริ่มทานกันตอนทุ่มนึง เราไปถึงประมาณหกครึ่ง เราก็นั่งรอไม่มีปัญหาค่ะ (คนค่อยๆทยอยกันมา)
เพื่อนเราก็มาบอกว่า นั่งกินได้ 2 ชั่วโมงนะ แต่เค้าจะไม่รับออเดอร์ตั้งแต่สองทุ่ม
(คือกินได้ถึง 3 ทุ่ม แต่ต้องหยุดสั่งตั้งแต่ 2 ทุ่ม สั่งได้ชม.เดียว แอบงง แต่ก็ไม่ได้อะไร)
เราเริ่มได้กลิ่นไม่ดีช่วงที่นั่งรอไปได้ประมาณ 10 นาที เพราะว่าเริ่มได้ยินพนักงานหญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นหนึ่งในผู้จัดการร้านพูดเสียงดังค่ะ
อารมณ์ว่าเค้าไม่ค่อยโอเคกับการที่พวกเรากินแค่ Regular buffet แล้วคนของเรามาไม่ครบ (ขาดไป 7-8 คน)
ไอ้เราตอนนั้นก็ยังไม่ได้คิดอะไรมาก คิดว่าคงไม่ได้มีปัญหาอะไร เด๋วเพื่อนเราก็คงไปเคลียร์ง่ายๆ
เพราะทุกร้านที่ไปกินมา จองเกินนิดหน่อยได้ ถ้าคนมาไม่ครบก็ไม่เป็นไร ตัดโต๊ะแล้วนับหัวตอนเคลียร์เงิน
เราก็นั่งดูเมนูที่เค้าเอามาให้ไปเรื่อยๆ จนเจ้ผู้หญิงคนนั้น (ผมสั้นแบบจินตหรา มีอายุหน่อยค่ะ) ก็เดินมาคุยกับพนักงานคนอื่นด้านหลังเรา
เค้าเริ่มพูดถึงกลุ่มของพวกเราด้วยน้ำเสียงมีอารมณ์และไม่พอใจเป็นชุด เรียกเด็กๆในร้านมาฟัง ใจความประมาณต่อไปนี้ค่ะ
"พวกเราไม่ได้รับลูกค้าเพิ่มมาตั้งแต่ห้าโมงนะ แล้วนี่มาถ้ายังมากินแบบธรรมดาอีก พวกเราจะไมได้อะไรเลยนะ!"
"วันนี้ไม่ได้กำไรหรอก ต้องให้กินแต่พรีเมี่ยมเท่านั้นเราถึงจะได้"
"นี่คนก็มาไม่น่าจะครบด้วย เราเสียเยอะนะเนี่ย"
"ถ้าคนไม่ครบ ยังไงก็ต้องให้กินแต่แบบพรีเมี่ยม"
สิ่งที่เราได้ยินทำให้เรารู้สึกแย่ค่ะ เค้าไม่ได้แอบพูดเลย เสียงดัง ฟังชัดมาก แต่เราพยายามไม่คิดอะไรคิดว่าก็คงได้แค่บ่น
แต่ประเด็นคือ เราเป็นลูกค้าเค้านะคะ เรานั่งหัวโด่อยู่นั้นเลยค่ะ ประมาณว่า เราหันไปเอื้อมมือแตะเค้าได้ใกล้ๆเลย
แล้วต่อให้กิน regular หรือยังไงพวกเราก็ยังจ่ายเงินให้เค้าอยู่ดี ไม่ได้มาขอกินฟรีๆ
ระหว่างนั้นเราก็เห็นเพื่อนที่บริษัทอีกโต๊ะเริ่มสั่งอาหารกัน เพราะก็ใกล้เวลาแล้ว และถ้าไม่เอาเตามาลงยังไงก็ปิ้งกันไม่ได้อยู่ดี
เราก็หันไปถามน้องที่บริษัทว่า สั่งได้แล้วใช่ป่าว น้องเค้าก็บอกว่าได้ เราจึงเริ่มจะสั่ง
ด้วยความที่ว่า เจ้ผมสั้นอยู่ใกล้เราสุด เราก็หันไปจะเรียกเจ้แก สิ่งที่เจ้แกทำคือ
หันมายกมือห้ามเรา "ไม่ได้นะคะ อย่าเพิ่งค่ะน้อง สั่งยังไม่ได้นะคะ ขอเคลียร์ก่อนค่ะ" ห้วนๆแรงๆใส่เราเลย
แล้วเค้าก็เรียกเพื่อนเราไปคุยอยู่หลังเรา ในลักษณะเหมือนรุมอ่ะค่ะ เราก็ได้ยินทั้งสองรูหู
(เพื่อนเราคนนี้พูดไทยได้ถือว่าคล่อง แต่จริงๆไม่ใช่คนไทย จะมีติดขัดบ้างบางสถานการณ์)
"เราไม่ได้รับลูกค้าเลย พวกคุณก็มากันไม่ครบ เราจำเป็นต้องมีกำไรค่ะ ดังนั้นพวกคุณต้องกินแบบพรีเมี่ยมเท่านั้น"
เพื่อนเราก็บอกเค้าว่า "แต่ทางผมโทรมาคอนเฟิร์มแล้วนะครับว่าเป็นแบบธรรมดา ไม่ได้มีเงื่อนไขว่าคนไม่ครบต้องกินพรีเมี่ยม"
เจ้นั่น "ยังไงก็ต้องพรีเมี่ยมค่ะ เพราะทางเราปฎิเสธลูกค้าไปเยอะมาก ต้องเปลี่ยนทุกคนเป็นพรีเมี่ยมค่ะ"
เพื่อนเราไม่ยอม ยังไงก็ไม่ยอม สุดท้ายเค้าเลยพาเพื่อนเราไปคุยที่เคาท์เตอร์หน้าร้านค่ะ
เพื่อนเราไปก็โดนพวกพนักงานอาวุโสรุม (ค่อนข้างแน่ใจว่าเป็นพวกดูแลร้าน อารมณ์ผู้จัดการ 3 คน) พยายามจะให้เพื่อนเราเปลี่ยนให้ได้
เถียงๆกันนี่ก็คือ เค้าพยายามยกเรื่องว่า วันนั้นเค้าไม่ได้กำไรในการรับกลุ่มพวกเรา ถ้าหากพวกเราไม่กินแบบพรีเมี่ยมค่ะ
ดังนั้นมันต้องเป็นกลุ่มของเราที่จะต้องเปลี่ยนเป็นพรีเมี่ยมเท่านั้น ต้องจบด้วยการที่พวกเราเปลี่ยนแบบบุฟเฟ่ต์
ธรรมดากับพรีเมี่ยมราคาจะต่างกันประมาณ 200 บาท คูณคนเป็นสิบมันก็เยอะมากอยู่นะคะ
เพื่อนเราไปคุยประมาณ 10-15 นาทีได้ จน ณ จุดหนึ่งเพื่อนเราเซ็งมากจึงพูดว่า
"คุณไม่ได้พูดถึงเรื่องพรีเมี่ยมและเงื่อนไขพวกนี้เลยนะในโทรศัพท์ คอนเฟิร์มกันทุกอย่างว่าจะเป็นแบบธรรมดา
แล้วทำไมต้องเรียกผมมาคุย ปัญหาคืออะไร"
เจ้ผมสั้นเลยขึ้นเสียงพูดว่า "ปัญหาก็คือ พวกคุณไม่กินแบบพรีเมี่ยม"
เพื่อนเราโมโห เลยตอบกลับไปเชิงตะคอกๆว่า "งั้นถ้าคุณมีปัญหา ผมขอยกเลิกหมดเลยละกัน"
สุดท้ายพวกเขาเลยต้องยอมให้พวกเรากินแบบธรรมดาตามที่ได้จองมาค่ะ
เอาจริงๆ อาหารดีค่ะ อร่อยมาก บริการนอกเหนือจากตอนนั้นก็โอเคหมดค่ะ
(อาหารแอบหลุดไปโต๊ะอื่นเยอะมากจนกว่าจะได้ก็หมดเวลาจะสั่งแล้ว)
เด็กๆน้องๆในร้านกับพี่ๆอีกหลายคนก็น่ารักมาก บริการเต็มที่
จะมีก็ตอนใกล้หมดเวลารับออเดอร์ (ซึ่งสุดท้ายเค้าก็ยืดให้เป็นสองทุ่มครึ่ง)
ที่เจ้ผู้หญิงคนเดิมมาตะโกนๆแถวพวกเรา (แค่กับพวกเราด้วย) ว่า "last order แล้วนะคะๆๆ"
ในขณะที่พนักงานคนอื่นจะเข้ามาพูดกับพวกเราโดยตรง
ถ้าถามว่าไปอีกมั้ย เราคงไปอีกค่ะ เพราะร้านและอาหารดี และพนักงานคนอื่นๆก็ดี แต่คงไม่จองไปแบบนี้อีกแล้ว
พยายามแยกแยะค่ะ ยังพอจะมีเหตุผลค่ะ เพื่อนเรายังบอกเลยว่า ถ้าไปกินกันเองคงไม่เจอแบบที่เจอวันนี้
แต่ความรู้สึกก็เสียไปเยอะละค่ะ นึกจะว่าจะนินทาก็เอามันตรงนั้นข้างหลังกันเลย วันหลังมานั่งโต๊ะว่ากันใส่หน้าก็ได้นะคะ
พวกเราเข้าใจว่า การที่พวกเราจองอาจจะทำให้เค้าเสียโอกาสกับลูกค้าหลายคน
แต่ถ้าคุยกันดีๆตั้งแต่แรก ทางเรายอมจ่ายค่าส่วนต่างด้วยซ้ำค่ะ
เพราะตอนแรกพอเริ่มมีปัญหาผู้จัดการบริษัทเราก็ออกปากว่าจะออกเงินส่วนต่างให้ก็ได้นะ
แต่พอเห็นท่าทางกับการพูดจาแบบนั้น กับเหตุผลที่ว่า ชั้นต้องได้กำไรวันนี้ เลยไม่เป็นไรละกัน หมดอารมณ์กันไปค่ะ
อยากฝากไปถึงผู้ดูแลหน่อยค่ะ ว่าช่วยดูแลมารยาทของพนักงานในร้านหน่อยก็ดีนะคะ ยิ่งเป็นพวกผู้จัดการด้วยแล้วเนี่ยช่วยเข้มงวดนิดนึง
เราก็ไม่รู้ว่า กลุ่มเราผิดอะไรนักหนานะคะ ที่กินบุฟเฟ่ต์ธรรมดาซึ่งราคาก็เหยียบ 500 บาทแล้ว ถึงกับต้องบังคับให้เปลี่ยนกันให้ได้เลยทีเดียว
คือมันดูไม่มีภาษีเท่าลูกค้าที่กินแบบสั่งหรือพรีเมี่ยมงั้นหรอคะ เป็นลูกค้าชั้นสองหรอคะ
ที่สำคัญ การที่มาพูดเรื่องลูกค้าและเรื่องที่ตัวเองไม่พอใจเกี่ยวกับลูกค้าบนหัวลูกค้า มันใช่หรอคะ
หรือว่าทางร้านมีนโยบายเปิดอกกับลูกค้ามากขนาดนี้ = =" เรานึกว่าเรามาขอกินฟรีซะอีกนะ
แล้วยกเรื่องกำไรมาอ้าง + คนมาไม่ครบ (7-8 คน = หนึ่งโต๊ะ ซึ่งเค้าก็รับลูกค้ามาเพิ่มอยู่ดี) มาพยายามกดดันบังคับลูกค้าให้เปลี่ยนไปกินอะไรที่แพงกว่า
มันเป็นอะไรที่แบบ.... น่าเกลียดน่ะค่ะ = =" ตกลงอะไรกันก็เสร็จไปหมดแล้ว อยู่ๆก็มาบีบคอให้ลูกค้าเปลี่ยนซะงั้น ตลกค่ะ
ขอบคุณสำหรับพื้นที่ค่ะ
ใครจะจองกลุ่มกับร้านนี้เยอะๆ ก็คุยดีๆให้เคลียร์ละกันนะคะ = ="