จนถึงวันนี้ หากเรามองข้ามภาพของกลุ่มม๊อบ เราคงยากที่จะปฏิเสธว่าความขัดแย้งทางการเมืองในวันนี้ซึ่งเป็นการปะทะกันระหว่างกลุ่มอำนาจเก่า (อนุรักษ์นิยม) และกลุ่มอำนาจใหม่ (เสรีนิยมใหม่) ระลอกใหม่จะไม่มีทางยุติได้ในเร็ววัน การเดินเกมส์ของทั้งมีอบ องค์กรอิสระ และสานได้ทำลายหลักนิติรัฐ และคุณค่าของสังคมที่ครั้งหนึ่งมันเคยเป็นจุดร่วมของผู้คนในสังคมนี้ไปจนหมดสิ้นแล้ว (ความเมตตา เอื้ออารี ความมีน้ำใจต่อกัน) ตอนนี้ไม่มีใครฟังใคร (บิดเบือนข้อมูลข้อเท็จจริงเพื่อให้อีกฝ่ายเลวร้าย) และไม่มีใครเป็นตัวกลางที่เป็นที่ยอมรับของทั้งสองฝ่ายที่จะประสานรอยร้าวระหว่างคนสองกลุ่มได้แล้ว และที่ควรต้องตระหนักเป็นอย่างมากคือทั้งสองกลุ่มต่างก็มีกองกำลังติดอาวุธของตัวเอง ดังนั้น หากทุกฝ่ายยังคงเดินเกมส์โดยไม่ยึดมั่นในหลักการที่ถูกต้องตามหลักของสากล หรือหลักกฎหมาย เช่นทุกวันนี้ เราคงต้องเริ่มนับถอยหลังเข้าสู่โหมดสงครามภายในชาติได้เแล้ว และหากมีวันนั้นขึ้นจริงๆ ก็ขอให้มันนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอำนาจทางการเมือง โครงสร้างที่เอื้อให้ผู้คนในประเทศนี้มีสิทธิเสรีภาพ และมีโอกาสทางด้านสังคม และเศรษฐกิจโดยทัดเทียมกันแบบก้าวกระโดด ซึงแน่นอนว่ากว่าจะถึงวันนั้นเราคงได้รับบทเรียนที่ล้ำค่าจากความรุนแรงที่เกิดขึ้นว่าคนเท่ากัน คือทุกคนมีสิทธิที่จะเป็นผู้ฆ่า และผู้ถูกฆ่า เท่ากัน หากเราไม่ยอมรับกติการของสังคม แต่หากทุกฝ่ายที่กำลังเดินเกมส์อยู่ในขณะนี้ต้องการแค่ให้เกิดการประนีประนอมเพื่อผลประโยชน์และสถานะทางอำนาจของตัวเองระหว่างอำนาจเก่าและอำนาจใหม่ โดยไม่ได้คำนึงถึงผลประโยชน์ของคนในชาติอย่างแท้จริง ก็ควรจะจบเกมส์ได้แล้ว ก่อนที่ทุกฝ่ายจะไม่สามารถคุมเบี้ยบนกระดานได้อีก
เริ่มนับถอยหลังกันได้แล้ว