บะกุ๊ดเต๋ กินตอนร้อน ๆ น้ำซุปร้อนจัด ยิ่งอร่อยชื่นใจ
ทำอย่างไร ลองชมกัน
เครื่องปรุง และเครื่องเคียง
1. สมุนไพรจีน ทำบะกุ๊ดเต๋ มีขายในซุปเปอร์สโตร์ เป็นซอง ๆ ราคาซองละประมาณ 45 - 50 บาท หนึ่งซองใช้ต้มได้หม้อขนาดประมาณ 5 ลิตร
2. กระเทียม เยอะ ๆ หน่อย สัก 4 - 5 หัว หรือประมาณ 30 - 40 กลีบก็ได้ พริกไทยบุบ ๆ สัก 30 - 40 เม็ด เห็ดหอมดอกเล็ก ๆ สัก 10 ดอก ล้างสะอาด แช่น้ำไว้
3. เครื่องเคียง เห็ดแชมปิญอง ผักกาดขาว เห็ดเข็มทอง บางคนชอบใส่ขึ้นไฉ่ ก็เตรียมไว้ด้วยก็ได้
นี่เป็นเครื่องยาจีนที่ีนำออกจากซองแล้ว
แยกเก๋ากี๊ออกมา ต่างหากก่อน
เห็นที่ร้านเค้าชอบหั่นเห็ดฝานบาง ๆ เลยทำเลียนแบบ
ผักกาดขาวเตรียมไว้ ล้างสะอาด หั่นชิ้นย่อม ๆ
วัตถุดิบ กระดูกหมูอ่อน หมูใบพาย หางหมู ลูกชิ้นหมู (มีหมูสามชั้นด้วย แต่ไม่ได้อยู่ในภาพ)
เอากระดูกอ่อนกับหางหมูไปต้มน้ำทิ้งสัก 1 ครั้ง ล้างคาวและสิ่งสกปรก (หมูใบพายไม่ต้องต้มน้ำทิ้ง)
วิธีก็คือ ตั้งหม้อต้มน้ำ ไฟแรง ใส่เกลือสมุทรสักช้อนโต๊ะ น้ำส้มสายชูช้อนโต๊ะ เหล้าจีน (ถ้ามี) สัก 1 ช้อนโต๊ะ พอน้ำเดือด ใส่กระดูกอ่อนกับหางหมูลงไปต้ม พอน้ำเดือดอีกรอบได้สัก 5 นาที ตักกระดูกหมูออกมา นำไปล้างน้ำเย็นให้สะอาด ๆ พวกเศษเลือดขุ่น ๆ ที่ติดอยู่ไม่เอา ล้างออกให้สะอาดเลย
ส่วนน้ำที่ใช้ต้ม ไม่ใช้ ให้ทิ้งไปได้เลย
เตรียมหม้อต้ม ที่เห็นในภาพเป็นหม้อเบอร์ 32 น้ำประมาณ 6 ลิตร ใส่เครื่องยาจีนบะกุ๊ดเต๋ลงไป ใส่เห็ดหอม กระเทียม พริกไทย ลงไปหมดในคราวเดียว
ตั้งเตา ต้มน้ำเริ่มต้นด้วยไฟแรง พอน้ำเดือดแล้วใช้ไฟกลางมาทางอ่อน
เครื่องปรุงที่สำคัญ คือ ซี่อิ๊วดำเค็ม กับ เกลือสมุทร กลิ่นและรสชาติของซี่อิ๊ว มีผลต่อน้ำซุปบะกุ๊ดเต๋ อย่างมาก จริง ๆ แล้ว เพื่อนสมาชิกชอบแบบใด ก็ใช้แบบนั้นได้ ไม่เป็นปัญหา แต่ จขกท. อยากแนะนำให้ใช้ซี่อิ๊วหมักธรรมชาติ
ถ้าจะให้บะกุ๊ดเต๋ให้มีกลิ่นและรสชาติเหมือนกับที่กินที่หาดใหญ่ ปีนัง หรือสิงค์โปร์ ก็อาจใช้ซี่อิ๊วดำเค็มที่ผลิตขายในมาเลเซีย ก็ได้ เห็นที่หาดใหญ่ก็มีขาย เช่น ตราปู เป็นต้น หรือจะใช้ของลีกุมกี่ก็ได้ แต่เดี๋ยวนี้ซี่อิ๊วขาว เกรดพรีเมี่ยม หมักธรรมชาติ ของเด็กสมบูรณ์ กลิ่นและรสก็นำมาใช้ได้ใกล้เคียงกัน (เรียกว่าซี่อิ๊วขาว แต่สีดำปิ๊ดปี๋เลยครับ)
ใส่เกลือสมุทรมากน้อยแล้วแต่ปริมาณการต้ม ก็ประมาณ 2 - 3 ช้อนชา ไม่เกินนี้ ส่วนซี่อิ๊วดำเค็มก็เยอะหน่อย ประมาณ 150 - 200 ซีซี แล้วใส่ซี่อิ๊วดำหวานลงไปสัก 1 ช้อนโต๊ะ เอาสี น้ำตาลกรวด 1 - 2 ช้อนชา (มากน้อยแล้วแต่ต้มมากน้อยนะครับ) แล้วชิมดู
ต้มเครื่องยากับกระเทียมเปล่า ๆ แบบนี้ไปสักครึ่งชั่วโมง แล้วชิมรสชาติดู ที่ให้ชิมหลังต้มไปนานหน่อย ก็เพื่อให้รสของกระเทียมออกมา
จากนั้นก็ใส่เก๋ากี้ลงไป พอใส่ได้สัก 5 นาทีลองชิมน้ำซุปอีกครั้ง จะมีเปรี้ยวตัดเค็ม เพราะเก๋ากี้จะมีรสออกเปรี้ยวนิด ๆ ค่อยปรุงรสเพิ่มตามใจชอบ
กะประมาณว่าต้มเครื่องยาเปล่า ๆ ไปได้สักครึ่งชั่วโมง ชิมรสชาติน้ำซุปจนเป็นที่พอใจแล้ว เร่งไฟแรงอีกครั้ง แล้วค่อยเอาหมูส่วนใบพายลงไปต้ม
หมั่นตักฟองและแพน้ำมันออกทิ้งตลอดเวลา กระชอนแบบที่เห็นในรูป ใช้ตักฟองได้ดี และตักน้ำมันที่ลอยอยู่ได้ด้วย
พอน้ำเดือดอีกรอบ ใส่กระดูกหมูกับหางหมูลงไป
พอน้ำเดือดลดไฟเหลือกลางมาทางอ่อน ปิดฝาหม้อได้ แต่ไม่ต้องปิดสนิท แง้มไว้หน่อยนึง และหมั่นช้อนฟองและน้ำมันที่ลอยหน้าทิ้งบ่อย ๆ
จับเวลา ต้มนาน 2 ชั่วโมงพอ ปิดเตาได้ ถ้านานกว่านี้ เนื้อจะหลุดออกจากกระดูก เละเกินไปจะไม่อร่อย กะเวลา 2 ชั่วโมง จะเปื่อยพอดี ๆ แต่ยังไม่ถึงกับหลุดออกมาจากกระดูก
การเตรียมของอร่อยอีกอย่าง คือหมูสามชั้น โดยในขณะที่กำลังต้มกระดูกหมูอยู่ ก็เอาหมูสามชั้นทั้งชิ้นลงไปต้มในหม้อบะกุ๊ดเต๋ไฟอ่อน ๆ นั้น ทิ้งไว้สัก 10 นาที หรือกะว่าพอดีสุก (ขึ้นอยู่กับว่าชิ้นหนา บาง มากน้อยเพียงใด แต่กะให้พอดีสุก เหลือเลือดแดง ๆ ไว้หน่อยก็ได้ แต่อย่าทิ้งไว้สุกเกินไป) แล้วเอาขึ้นมาจากหม้อ ไม่ต้มต่อ หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ เก็บไว้ก่อน
คราวนี้เวลาจะทาน เนื่องจากต้มทีละมาก ๆ ก็เอามาแบ่งทำทีละชาม
เครื่องเคียงที่เตรียมไว้
เอากระดูกหมู แบ่งออกมาใส่หม้อใบเล็ก ๆ ไว้
เติมน้ำซุป ตั้งเตาให้เดือด ใส่ลูกชิ้นหมูลงไป พอลูกชิ้นหมูใกล้สุก ใส่หมูสามช้นลงไป
แล้วตามด้วยผักกาดขาว กับเห็ดแชมปิญอง
พอเดือดอีกรอบ ปิดเตาแล้วใส่เห็ดเข็มทอง และขึ้นไฉ่เล็กน้อย (ถ้าชอบ หรือไม่ใส่ก็ได้)
ใส่ชามเสริฟได้ ส่วนน้ำจิ้มนี่ก็สำคัญ คือ ซี่อิ๊วดำเค็ม 5 ส่วน ซี่อิ๊วดำหวาน 1 ส่วน พริกขี้หนูแดง กระเทียมสด ครั้งนี้ จขกท. ใช้เด็กสมบูรณ์พรีเมี่ยมที่ว่า หอมอร่อยมาก ใช้ได้เลย
สามชั้นนุ่มมาก ของโปรดจขกท. เลย
กระดูกหมูก็เปื่อยดี เข้าเนื้อ น้ำซุปก็รสชาติหอม หวาน ชื่นใจ
ไม่ยากเกินไป ลองดูนะครับ
ขอบคุณที่ติดตามชม
สวัสดี
บะกุ๊ดเต๋ อาหารหน้าหนาว
ทำอย่างไร ลองชมกัน
เครื่องปรุง และเครื่องเคียง
1. สมุนไพรจีน ทำบะกุ๊ดเต๋ มีขายในซุปเปอร์สโตร์ เป็นซอง ๆ ราคาซองละประมาณ 45 - 50 บาท หนึ่งซองใช้ต้มได้หม้อขนาดประมาณ 5 ลิตร
2. กระเทียม เยอะ ๆ หน่อย สัก 4 - 5 หัว หรือประมาณ 30 - 40 กลีบก็ได้ พริกไทยบุบ ๆ สัก 30 - 40 เม็ด เห็ดหอมดอกเล็ก ๆ สัก 10 ดอก ล้างสะอาด แช่น้ำไว้
3. เครื่องเคียง เห็ดแชมปิญอง ผักกาดขาว เห็ดเข็มทอง บางคนชอบใส่ขึ้นไฉ่ ก็เตรียมไว้ด้วยก็ได้
นี่เป็นเครื่องยาจีนที่ีนำออกจากซองแล้ว
แยกเก๋ากี๊ออกมา ต่างหากก่อน
เห็นที่ร้านเค้าชอบหั่นเห็ดฝานบาง ๆ เลยทำเลียนแบบ
ผักกาดขาวเตรียมไว้ ล้างสะอาด หั่นชิ้นย่อม ๆ
วัตถุดิบ กระดูกหมูอ่อน หมูใบพาย หางหมู ลูกชิ้นหมู (มีหมูสามชั้นด้วย แต่ไม่ได้อยู่ในภาพ)
เอากระดูกอ่อนกับหางหมูไปต้มน้ำทิ้งสัก 1 ครั้ง ล้างคาวและสิ่งสกปรก (หมูใบพายไม่ต้องต้มน้ำทิ้ง)
วิธีก็คือ ตั้งหม้อต้มน้ำ ไฟแรง ใส่เกลือสมุทรสักช้อนโต๊ะ น้ำส้มสายชูช้อนโต๊ะ เหล้าจีน (ถ้ามี) สัก 1 ช้อนโต๊ะ พอน้ำเดือด ใส่กระดูกอ่อนกับหางหมูลงไปต้ม พอน้ำเดือดอีกรอบได้สัก 5 นาที ตักกระดูกหมูออกมา นำไปล้างน้ำเย็นให้สะอาด ๆ พวกเศษเลือดขุ่น ๆ ที่ติดอยู่ไม่เอา ล้างออกให้สะอาดเลย
ส่วนน้ำที่ใช้ต้ม ไม่ใช้ ให้ทิ้งไปได้เลย
เตรียมหม้อต้ม ที่เห็นในภาพเป็นหม้อเบอร์ 32 น้ำประมาณ 6 ลิตร ใส่เครื่องยาจีนบะกุ๊ดเต๋ลงไป ใส่เห็ดหอม กระเทียม พริกไทย ลงไปหมดในคราวเดียว
ตั้งเตา ต้มน้ำเริ่มต้นด้วยไฟแรง พอน้ำเดือดแล้วใช้ไฟกลางมาทางอ่อน
เครื่องปรุงที่สำคัญ คือ ซี่อิ๊วดำเค็ม กับ เกลือสมุทร กลิ่นและรสชาติของซี่อิ๊ว มีผลต่อน้ำซุปบะกุ๊ดเต๋ อย่างมาก จริง ๆ แล้ว เพื่อนสมาชิกชอบแบบใด ก็ใช้แบบนั้นได้ ไม่เป็นปัญหา แต่ จขกท. อยากแนะนำให้ใช้ซี่อิ๊วหมักธรรมชาติ
ถ้าจะให้บะกุ๊ดเต๋ให้มีกลิ่นและรสชาติเหมือนกับที่กินที่หาดใหญ่ ปีนัง หรือสิงค์โปร์ ก็อาจใช้ซี่อิ๊วดำเค็มที่ผลิตขายในมาเลเซีย ก็ได้ เห็นที่หาดใหญ่ก็มีขาย เช่น ตราปู เป็นต้น หรือจะใช้ของลีกุมกี่ก็ได้ แต่เดี๋ยวนี้ซี่อิ๊วขาว เกรดพรีเมี่ยม หมักธรรมชาติ ของเด็กสมบูรณ์ กลิ่นและรสก็นำมาใช้ได้ใกล้เคียงกัน (เรียกว่าซี่อิ๊วขาว แต่สีดำปิ๊ดปี๋เลยครับ)
ใส่เกลือสมุทรมากน้อยแล้วแต่ปริมาณการต้ม ก็ประมาณ 2 - 3 ช้อนชา ไม่เกินนี้ ส่วนซี่อิ๊วดำเค็มก็เยอะหน่อย ประมาณ 150 - 200 ซีซี แล้วใส่ซี่อิ๊วดำหวานลงไปสัก 1 ช้อนโต๊ะ เอาสี น้ำตาลกรวด 1 - 2 ช้อนชา (มากน้อยแล้วแต่ต้มมากน้อยนะครับ) แล้วชิมดู
ต้มเครื่องยากับกระเทียมเปล่า ๆ แบบนี้ไปสักครึ่งชั่วโมง แล้วชิมรสชาติดู ที่ให้ชิมหลังต้มไปนานหน่อย ก็เพื่อให้รสของกระเทียมออกมา
จากนั้นก็ใส่เก๋ากี้ลงไป พอใส่ได้สัก 5 นาทีลองชิมน้ำซุปอีกครั้ง จะมีเปรี้ยวตัดเค็ม เพราะเก๋ากี้จะมีรสออกเปรี้ยวนิด ๆ ค่อยปรุงรสเพิ่มตามใจชอบ
กะประมาณว่าต้มเครื่องยาเปล่า ๆ ไปได้สักครึ่งชั่วโมง ชิมรสชาติน้ำซุปจนเป็นที่พอใจแล้ว เร่งไฟแรงอีกครั้ง แล้วค่อยเอาหมูส่วนใบพายลงไปต้ม
หมั่นตักฟองและแพน้ำมันออกทิ้งตลอดเวลา กระชอนแบบที่เห็นในรูป ใช้ตักฟองได้ดี และตักน้ำมันที่ลอยอยู่ได้ด้วย
พอน้ำเดือดอีกรอบ ใส่กระดูกหมูกับหางหมูลงไป
พอน้ำเดือดลดไฟเหลือกลางมาทางอ่อน ปิดฝาหม้อได้ แต่ไม่ต้องปิดสนิท แง้มไว้หน่อยนึง และหมั่นช้อนฟองและน้ำมันที่ลอยหน้าทิ้งบ่อย ๆ
จับเวลา ต้มนาน 2 ชั่วโมงพอ ปิดเตาได้ ถ้านานกว่านี้ เนื้อจะหลุดออกจากกระดูก เละเกินไปจะไม่อร่อย กะเวลา 2 ชั่วโมง จะเปื่อยพอดี ๆ แต่ยังไม่ถึงกับหลุดออกมาจากกระดูก
การเตรียมของอร่อยอีกอย่าง คือหมูสามชั้น โดยในขณะที่กำลังต้มกระดูกหมูอยู่ ก็เอาหมูสามชั้นทั้งชิ้นลงไปต้มในหม้อบะกุ๊ดเต๋ไฟอ่อน ๆ นั้น ทิ้งไว้สัก 10 นาที หรือกะว่าพอดีสุก (ขึ้นอยู่กับว่าชิ้นหนา บาง มากน้อยเพียงใด แต่กะให้พอดีสุก เหลือเลือดแดง ๆ ไว้หน่อยก็ได้ แต่อย่าทิ้งไว้สุกเกินไป) แล้วเอาขึ้นมาจากหม้อ ไม่ต้มต่อ หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ เก็บไว้ก่อน
คราวนี้เวลาจะทาน เนื่องจากต้มทีละมาก ๆ ก็เอามาแบ่งทำทีละชาม
เครื่องเคียงที่เตรียมไว้
เอากระดูกหมู แบ่งออกมาใส่หม้อใบเล็ก ๆ ไว้
เติมน้ำซุป ตั้งเตาให้เดือด ใส่ลูกชิ้นหมูลงไป พอลูกชิ้นหมูใกล้สุก ใส่หมูสามช้นลงไป
แล้วตามด้วยผักกาดขาว กับเห็ดแชมปิญอง
พอเดือดอีกรอบ ปิดเตาแล้วใส่เห็ดเข็มทอง และขึ้นไฉ่เล็กน้อย (ถ้าชอบ หรือไม่ใส่ก็ได้)
ใส่ชามเสริฟได้ ส่วนน้ำจิ้มนี่ก็สำคัญ คือ ซี่อิ๊วดำเค็ม 5 ส่วน ซี่อิ๊วดำหวาน 1 ส่วน พริกขี้หนูแดง กระเทียมสด ครั้งนี้ จขกท. ใช้เด็กสมบูรณ์พรีเมี่ยมที่ว่า หอมอร่อยมาก ใช้ได้เลย
สามชั้นนุ่มมาก ของโปรดจขกท. เลย
กระดูกหมูก็เปื่อยดี เข้าเนื้อ น้ำซุปก็รสชาติหอม หวาน ชื่นใจ
ไม่ยากเกินไป ลองดูนะครับ
ขอบคุณที่ติดตามชม
สวัสดี