สัปดาห์นี้ DRINK ME THAILAND นึกอยากดื่มด่ำในน้ำนม
แต่จะนำเสนอเรื่องนมแบบพื้นๆ นมวัว นมถั่วเหลือง สีขาวนวล ก็ธรรมดาเกิน
จึงขอพาเพื่อนๆชาวก้นครัว ณ PANTIP เหินฟ้าเพื่อค้นหานมเด่นแห่งเอชียกัน!!
นมม้าหมัก …. เครื่องดื่มในตำนานแห่งเจงกิสข่าน!!!
ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์อันไกลโพ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.681 บ่งชัดว่า KUMIS จะอ่านออกเสียงว่าคูมิส หรือ กูมึส ก็แล้วแต่สะดวกปากค่ะ คือ บรรพบุรุษของโยเกิร์ต ซึ่งกำเนิดจากการเดินทางของชนเผ่าเร่ร่อนที่อพยพย้ายถิ่นฐานจากทวีปเอเชียกลาง (ตุรกี,อุซเบกิซสถาน,มองโกเลีย) มาสู่คาบสมุทรมัลข่านและตรงสู่บัลแกเรีย โดยการนำนมม้าบรรจุในถุงหนังแกะซึ่งคาดไว้กับตัวม้า เมื่อม้าเดินไปเดินมา น้ำนมในนั้นก็ทำปฎิกิริยากับหนังแกะ บวกกับอุณหภูมิร้อนๆ ก็เกิดกระบวนการหมักโดยธรรมชาติ ทำให้นมนมใสๆ กลายสภาพเป็นข้น ซึ่งมันก็ถูกเรียกว่าโยเกิร์ตนั่นเอง!! แต่ถ้านมม้าถูกหมักในระยะเวลาไม่นานมากนัก มันก็จะไม่ข้นคลั่กจนเป็นโยเกิร์ต แต่ยังคงสถานะเป็นน้ำนมอยู่!!
สำหรับรสชาติของ KUMIS จะเข้มข้น เปรี้ยวๆ หวานๆ ซ่าๆ ที่สำคัญจะมีแอลกอฮอลล์ปะปนเล็กน้อยด้วยนะคะ เพราะนมม้าจะมีน้ำตาลมากกว่านมวัวหรือนมแพะ ดังนั้นในกระบวนการหมัก ทำให้ยีสต์บางส่วนเปลี่ยนสภาพน้ำตาลให้กลายเป็นแอลกอออลล์!!!! แม้ KUMIS จะมีดีกรีแอลกอฮอลล์ไม่สูงนัก แต่หากจิบบ่อยๆ ซดเรื่อยๆ ก็หัวทิ่มหัวตำได้เหมือนกัน
หลายคนอาจจะงงว่า KUMIS เป็นนม หรือเป็นเหล้า หรือเป็นนมเหล้ากันแน่ แต่ชัวร์ๆ KUMIS ถูกจัดให้เป็นดริ๊งค์เพื่อสุขภาพอย่างดีเยี่ยม!!! ช่วยรักษาทั้งโลหิตจาง วัณโรค หลอดลมอักเสบ แม้แต่เจงกิสข่าน นักรบผู้เกรียงไกรแห่งมองโกลยังจิบดื่ม KUMIS แทนน้ำเพื่อเป็นภูมิต้านทานและบรรเทาอาการบาดเจ็บที่เกิดจากศึกสงคราม!!
5 นม เด่น แห่ง เอเชีย!!!
แต่จะนำเสนอเรื่องนมแบบพื้นๆ นมวัว นมถั่วเหลือง สีขาวนวล ก็ธรรมดาเกิน
จึงขอพาเพื่อนๆชาวก้นครัว ณ PANTIP เหินฟ้าเพื่อค้นหานมเด่นแห่งเอชียกัน!!
นมม้าหมัก …. เครื่องดื่มในตำนานแห่งเจงกิสข่าน!!!
ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์อันไกลโพ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.681 บ่งชัดว่า KUMIS จะอ่านออกเสียงว่าคูมิส หรือ กูมึส ก็แล้วแต่สะดวกปากค่ะ คือ บรรพบุรุษของโยเกิร์ต ซึ่งกำเนิดจากการเดินทางของชนเผ่าเร่ร่อนที่อพยพย้ายถิ่นฐานจากทวีปเอเชียกลาง (ตุรกี,อุซเบกิซสถาน,มองโกเลีย) มาสู่คาบสมุทรมัลข่านและตรงสู่บัลแกเรีย โดยการนำนมม้าบรรจุในถุงหนังแกะซึ่งคาดไว้กับตัวม้า เมื่อม้าเดินไปเดินมา น้ำนมในนั้นก็ทำปฎิกิริยากับหนังแกะ บวกกับอุณหภูมิร้อนๆ ก็เกิดกระบวนการหมักโดยธรรมชาติ ทำให้นมนมใสๆ กลายสภาพเป็นข้น ซึ่งมันก็ถูกเรียกว่าโยเกิร์ตนั่นเอง!! แต่ถ้านมม้าถูกหมักในระยะเวลาไม่นานมากนัก มันก็จะไม่ข้นคลั่กจนเป็นโยเกิร์ต แต่ยังคงสถานะเป็นน้ำนมอยู่!!
สำหรับรสชาติของ KUMIS จะเข้มข้น เปรี้ยวๆ หวานๆ ซ่าๆ ที่สำคัญจะมีแอลกอฮอลล์ปะปนเล็กน้อยด้วยนะคะ เพราะนมม้าจะมีน้ำตาลมากกว่านมวัวหรือนมแพะ ดังนั้นในกระบวนการหมัก ทำให้ยีสต์บางส่วนเปลี่ยนสภาพน้ำตาลให้กลายเป็นแอลกอออลล์!!!! แม้ KUMIS จะมีดีกรีแอลกอฮอลล์ไม่สูงนัก แต่หากจิบบ่อยๆ ซดเรื่อยๆ ก็หัวทิ่มหัวตำได้เหมือนกัน
หลายคนอาจจะงงว่า KUMIS เป็นนม หรือเป็นเหล้า หรือเป็นนมเหล้ากันแน่ แต่ชัวร์ๆ KUMIS ถูกจัดให้เป็นดริ๊งค์เพื่อสุขภาพอย่างดีเยี่ยม!!! ช่วยรักษาทั้งโลหิตจาง วัณโรค หลอดลมอักเสบ แม้แต่เจงกิสข่าน นักรบผู้เกรียงไกรแห่งมองโกลยังจิบดื่ม KUMIS แทนน้ำเพื่อเป็นภูมิต้านทานและบรรเทาอาการบาดเจ็บที่เกิดจากศึกสงคราม!!