ความฟุ้งซ่านทำให้หิวใช่ไหม

กระทู้คำถาม
เพราะเมื่อหิวแล้วกินความฟุ้งซ่านดับลงเพราะเกิดสุข
พระอภิธรรมบอกว่า ความไม่ฟุ้งซ่านย่อมมี ตามที่ขีดเส้นใต้ข้างล่าง

พระสังคิณี
กุสะลา  ธัมมา,    พระธรรมทั้งหลายที่เป็นกุศล,  ให้ผลเป็นความสุข
อะกุสะลา  ธัมมา,    ธรรมทั้งหลายที่เป็นอกุศล,  ให้ผลเป็นความทุกข์,
อัพ๎ยากะตา  ธัมมา,    ธรรมทั้งหลายที่เป็นอัพยากฤต,  เป็นจิตกลาง ๆ อยู่,
กะตะเม  ธัมมา  กุสะลา,    ธรรมเหล่าใดเป็นกุศล
ยัส๎ะมิง  สะมะเย,    ในสมัยใด,
กามาวะจะรัง  กุสะลัง  จิตตัง  อุปปันนัง  โหติโสมะนัสสะสะหะคะตัง  ญาณะสัมปะยุตตัง,    กามาวจรกุศลจิตที่ร่วมด้วยโสมนัส,  คือความยินดี,  ประกอบด้วยญาน คือ ปัญญาเกิดขึ้น ปรารภอารมณ์ใด ๆ,
รูปารัมมะนัง  วา,    จะเป็นรูปารมณ์,  คือยินดีในรูปเป็นอารมณ์ก็ดี,
สัททารัมมะนัง  วา,    จะเป็นสัททารมณ์,  คือยินดีในเสียงเป็นอารมณ์ก็ดี,
คันธารัมมะนัง  วา,    จะเป็นคันธารมณ์,  คือยินดีในกลิ่นเป็นอารมณ์ก็ดี,
ระสารัมมะนัง  วา,    จะเป็นรสารมณ์,  คือยินดีในรสเป็นอารมณ์ก็ดี,
โผฏฐัพพารัมมะนัง  วา,  จะเป็นโผฏฐัพพารมณ์,  คือยินดีในสิ่งที่กระทบถูกต้องกายเป็นอารมณ์ก็ดี,
ธัมมารัมมะนัง  วา  ยัง  ยัง  วา  ปะนารัพภะ,    จะเป็นธรรมารมณ์,  คือยินดีในธรรมเป็นอารมณ์ก็ดี,
ตัส๎ะมิง  สะมะเย  ผัสโส  โหติ,  อะวิกเขโป  โหติ,  เย  วา  ปะนะ  ตัส๎ะมิง  สะมะเย,  อัญเญปิ  อัตถิ  ปะฏิจจะสะมุปปันนา  อะรูปิโน  ธัมมา,    ในสมัยนั้นผัสสะและความไม่ฟุ้งซ่านย่อมมี,  อีกอย่างหนึ่ง  ในสมัยนั้น ธรรมเหล่าใด,  แม้อื่นมีอยู่เป็นธรรมที่ไม่มีรูป,  อาศัยกันและกันเกิดขึ้น,
อิเม  ธัมมา  กุสะลา,    ธรรมเหล่านี้เป็นกุศล,  ให้ผลเป็นความสุข
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่