บทวิเคราะห์ที่เฉียบคมและแยบคาย ภาคพิเศษ อ่านกันให้ขาด - มันคือ โลกาภิวัตน์

กระทู้สนทนา
การเลือกตั้งทั่วไป ผ่านไปแล้ว แต่ยังไม่ประกาศผลคะแนน คงมีคำถามง่ายๆเกิดขึ้นกับหลายๆคน ว่า ในสภาพที่รัฐบาลมีอำนาจที่อ่อนแอและขาดเสถียรภาพทางการเมือง รัฐบาลจะไปต่ออย่างไร ก่อนอื่น เราต้องเข้าใจให้ได้ก่อน ว่า ประเทศไทยมีสภาพเป็นประเทศที่มีรัฐซ้อนรัฐ หรือหมายถึงกองทัพคือผู้ที่มีอำนาจสูงสุด ที่คอยบงการการเมืองของประเทศไทยมาแต่อดีตกาล โดยได้รับการชี้นำจากอเมริกา หลังการสิ้นสุดการเจรจาต่างๆหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยจอมพลสฤษดิ์ ธนรัตน์ ที่จะมีพรรคประชาธิปัตย์รองรับและสนองตอบนโยบายหรือทิศทางการควบคุมประเทศของกองทัพ

การปฎิวัติแต่ละครั้ง จะเห็นได้ค่อนข้างชัดเจน ว่า ทำลงไปเพื่อปูทางให้พรรคประชาธิปัตย์ขึ้นมาครองอำนาจเพียงเท่านั้น และการบริหารจะเป็นไปในลักษณะการแบ่งชนชั้นอยู่ในตัวอย่างเบ็ดเสร็จ ทั้งความมั่งคั่งและเทคโนโลยีที่ทันสมัย จะมาพร้อมกับอบายมุขอันหลากหลายที่เป็นภัยสังคม เช่น ยาเสพติด ค่านิยมผิดๆ รวมถึงการก่อการร้ายในหลายๆรูปแบบ ซึ่งโดยรวมแล้วเป็นเพียงการแบ่งชนชั้นของสังคม และแยกแยะผู้ที่เข้มแข็งและผู้ที่อ่อนแอออกจากกันอย่างชัดเจนเพียงเท่านั้น

สถานการณ์ปัจจุบัน ในการอ่านการเมืองในประเทศ จำเป็นต้องดูกระแสและทิศทางของพรรคการเมืองประเทศต่างๆด้วย ตามหลักการข้างต้น ที่กองทัพไทยมีบทบาทควบคุมการเมืองไทย นั่นหมายถึง กองทัพต้องตระหนักถึงกระแสโลกาภิวัตน์เป็นอย่างดี อันขึ้นตรงกับอเมริกาหรืออย่างน้อย ก็เพื่อให้ประเทศไทย ไม่เอียงไปฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมากเกินไป อันเป็นยุทธศาสตร์ในการปกครองตั้งแต่อดีตกาลมา

- ยุทธศาสตร์การปิดล้อมจีน และทำลายเศรษฐกิจจีน โดยการทำลายนโยบายโครงสร้างพื้นฐานรถไฟความเร็วสูง

- การแยกประเทศไทยออกจากประชาคมเศรษฐกิจอาเซี่ยน เพื่อทำลายความมั่นคงของภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ หรือการสร้างความอ่อนแอให้กับกลุ่มประเทศ AEC ที่จะเกิดขึ้นในปี 2558

- การเตรียมความพร้อมทางการทหาร เพื่อรองรับกับสภาวะสงครามที่อาจเกิดขึ้นได้เสมอ จากข้อพิพาษต่างๆ ของประเทศมหาอำนาจในเอเซีย เช่น ข้อพิพาษหมู่เกาะแสปชลี , การทวงคืนไต้หวันของจีน และความไม่มั่นคงในคาบสมุทรเกาหลี โดยอาจรวมถึง ปัญหาความมั่นคงของโลกที่ก่อตัวในตะวันออกกลาง

เพราะฉนั้น สิ่งที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทย เป็นอยู่ คือการเอียงซ้ายไปตามลัทธิสังคมนิยมอย่างที่เคยเป็นมาและเป็นอยู่ หรือการอ่อนโอนไปตามความเป็นไทย โดยกองทัพ หรือจะนิยามง่ายๆ ว่า นี่ คือ สงครามเย็นระหว่างลัทธิคอมมิวนิสต์แห่งรัสเซีย และลัทธิประชาธิปไตยโดยอเมริกา ก็ได้

มีองค์ประกอบง่ายๆ ในการชี้วัดว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะหมดอำนาจไป หรือจะดิ้นรนอยู่ได้ในภาวะวิกฤตนี้ คือ พันธมิตร พันธมิตรจะต้องอุ้มกันขึ้นมาจากการโจมตีจากฝ่ายตรงข้าม นั่นคือ รัฐบาลของสมเด็จฮุนเซน ในกัมพูชา เพราะการโจมตีครั้งนี้ ไม่ได้ต้องการทำลายรัฐบาลของประเทศไทยเท่านั้น หากแต่พรรคฝ่ายค้านของกัมพูชา ก็จับพันธมิตรกับพรรคฝ่ายค้านของไทย ทำลายรัฐบาลด้วยเช่นกัน หากแต่ม๊อปหรือพลังทำลายของพรรคฟุนซินเปก ดูเหมือนจะมีพลังไม่มากพอจะทำลาย สมเด็จฮุนเซน ที่ทรงอิทธิพลของกองทัพลงได้ นั่นอาจหมายถึง รัฐบาลพรรคเพื่อไทย ของไทย อาจไม่ถูกทำลายลงตามยุทธศาสตร์ที่ควรจะเป็น

และหากว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น ฝ่ายที่สร้างความไร้เสถ่ียรภาพให้กับไทยและกัมพูชา หรือภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉ่ียงใต้ ไม่ได้ต้องการชัยชนะอย่างแท้จริงล่ะ ?

และหากแค่ต้องการให้กลุ่มประเทศเหล่านี้ หรือประชาคมเศรษฐกิจอาเซี่ยนมีสภาพที่อ่อนแอและไม่มีทางไปถึงคำว่า " สหภาพ " ได้ล่ะ ? นั่นก็อาจเป็นยุทธศาสตร์ที่แท้จริง ของผู้โจมตี ก็ได้เช่นกัน.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่