ความเดิมจากตอนที่แล้ว
http://ppantip.com/topic/31606155
หลังจากเช็คอิน ผ่านตมมา ก็ค่อยๆเดินเอื่อยๆ ไปที่เกท และเพื่อความมั่นใจ เผื่อเอ๋อ ก็ดูเกทดีๆก่อน ว่าไกลแค่ไหน เดี่ยวเดินเล่นเพลิน ต้องวิ่งหูตูบไปเกท (ไม่อยากจะบอกว่าเคยมาแล้ว นึกว่าใกล้ๆ ที่ไหนได้ เกทไกลโพ้น)
หลังจากเช็คเกทแล้ว ก็ไปเดินดมๆ ด้อมๆมองๆ ดิวตี้ฟรี แต่เอาจริงๆ ก็ไม่ได้ซื้อ ฮ่าๆๆ จริงๆแล้วดิวตี้ฟรีที่สนามบินสิงคโปร์ บางอย่างถูกกว่าบ้านเราอีกนะคะ แถมขาเข้า-ขาออก ดิวตี้ฟรี คือที่เดียวกัน ไม่มีการแบ่งแยกราคาเหมือนของสนามบินบ้านเรา ซื้อถูกกว่าฝั่งขาออก เอาไปเที่ยวด้วยหนึ่งรอบแล้วเอากลับเข้ามาใหม่
เดินๆไปพอใกล้เวลาก็ไปรอที่เกทค่ะ การย้ายครั้งนี้บริษัทออกตั๋วไป-กลับให้ แต่ว่าเป็นตั๋วแบบเปิดค่ะ คือมีแค่ตั๋วขาไปอย่างเดียว พอจะกลับค่อยออกตั๋วให้ใหม่ อ้อ ลืมบอกไปว่างานนี้เป็น contract 2 ปี
ว๊าบข้ามมาตอนถึงสิงคโปร์เลยก็แล้วกัน บินไฟล์เช้าก็ได้แต่นั่งๆ หลับๆ กินๆ แป๊บเดียวถึงค่ะ ประมาณสองชมกว่าๆ ก่อนลงจากเครื่องพนักงานต้อนรับก็จะให้เรากรอกใบขาว หรือใบเข้าเมือง
อ้อ ลืมบอกไป ก่อนที่จะบินมา เราต้อง apply Employment Pass (EP) จะเป็นแบบฟอร์ม กรอกรายละเอียด พวกข้อมูลส่วนตัว ประวัติการศึกษา แล้วก็แบบสำเนาเอกสารต่างๆ นานา แล้วก็ส่งให้ออฟฟิตที่สิงคโปร์เค้าดำเนินงานต่อ ใช้เวลาประมาณ 2 อาทิตย์ หลังจากนั้นเราก็จะได้เอกสารปึกหนึ่งเรียกว่าin-principle มาถือไว้สำหรับเข้าเมือง เป็นเอกสารชั่วคราวเท่านั้นนะคะ เพราะก่อนที่รัฐบาลเค้าจะออกบัตร EP เราจะต้องไปโชว์ตัว พร้อมกับปั๊มลายนิ้วมือ ไว้ค่อยมาเล่ารายละเอียดให้ฟัง
ตัวอย่างค่ะ
พอเครื่องลงก็พยายามมองหาป้ายขาเข้าเมือง เพราะอย่างที่บอกว่าดิวตี้ฟรีเค้าใช้ร่วมกัน หลังจากเคลียตมเสร็จก็ออกมารอกระเป๋า สายพานรับกระเป๋าที่นี่ ให้ความรู้สึกต่างจากสนามบินบ้านเราแฮะ ไม่รู้คิดไปเองรึเปล่า รู้สึกว่าสายพานต่ำกว่า พอยกกระเป๋ามันรู้สึกว่าง่ายกว่า … เรียบร้อยกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ 1 ใบ กระเป๋าลาก cabin size อีกหนึ่ง พอหลุดออกมาก็มีลุงคนนึงถือป้ายชื่อเรารอรับ ที่ออฟฟิตมีรถมารับ (โอววดีใจ)
และแล้วก็ก้าวเท้าเหยียบประเทศสิงคโปร์ เราจะเจอกันไปอีกสองปีนะ
ตอนต่อไป...ที่พักชั่วคราวสไตล์ย่อมเยาว์
http://ppantip.com/topic/31615800
SG: Stepping in Singapore…ก้าวเท้าเหยียบสิงคโปร์
http://ppantip.com/topic/31606155
หลังจากเช็คอิน ผ่านตมมา ก็ค่อยๆเดินเอื่อยๆ ไปที่เกท และเพื่อความมั่นใจ เผื่อเอ๋อ ก็ดูเกทดีๆก่อน ว่าไกลแค่ไหน เดี่ยวเดินเล่นเพลิน ต้องวิ่งหูตูบไปเกท (ไม่อยากจะบอกว่าเคยมาแล้ว นึกว่าใกล้ๆ ที่ไหนได้ เกทไกลโพ้น)
หลังจากเช็คเกทแล้ว ก็ไปเดินดมๆ ด้อมๆมองๆ ดิวตี้ฟรี แต่เอาจริงๆ ก็ไม่ได้ซื้อ ฮ่าๆๆ จริงๆแล้วดิวตี้ฟรีที่สนามบินสิงคโปร์ บางอย่างถูกกว่าบ้านเราอีกนะคะ แถมขาเข้า-ขาออก ดิวตี้ฟรี คือที่เดียวกัน ไม่มีการแบ่งแยกราคาเหมือนของสนามบินบ้านเรา ซื้อถูกกว่าฝั่งขาออก เอาไปเที่ยวด้วยหนึ่งรอบแล้วเอากลับเข้ามาใหม่
เดินๆไปพอใกล้เวลาก็ไปรอที่เกทค่ะ การย้ายครั้งนี้บริษัทออกตั๋วไป-กลับให้ แต่ว่าเป็นตั๋วแบบเปิดค่ะ คือมีแค่ตั๋วขาไปอย่างเดียว พอจะกลับค่อยออกตั๋วให้ใหม่ อ้อ ลืมบอกไปว่างานนี้เป็น contract 2 ปี
ว๊าบข้ามมาตอนถึงสิงคโปร์เลยก็แล้วกัน บินไฟล์เช้าก็ได้แต่นั่งๆ หลับๆ กินๆ แป๊บเดียวถึงค่ะ ประมาณสองชมกว่าๆ ก่อนลงจากเครื่องพนักงานต้อนรับก็จะให้เรากรอกใบขาว หรือใบเข้าเมือง
อ้อ ลืมบอกไป ก่อนที่จะบินมา เราต้อง apply Employment Pass (EP) จะเป็นแบบฟอร์ม กรอกรายละเอียด พวกข้อมูลส่วนตัว ประวัติการศึกษา แล้วก็แบบสำเนาเอกสารต่างๆ นานา แล้วก็ส่งให้ออฟฟิตที่สิงคโปร์เค้าดำเนินงานต่อ ใช้เวลาประมาณ 2 อาทิตย์ หลังจากนั้นเราก็จะได้เอกสารปึกหนึ่งเรียกว่าin-principle มาถือไว้สำหรับเข้าเมือง เป็นเอกสารชั่วคราวเท่านั้นนะคะ เพราะก่อนที่รัฐบาลเค้าจะออกบัตร EP เราจะต้องไปโชว์ตัว พร้อมกับปั๊มลายนิ้วมือ ไว้ค่อยมาเล่ารายละเอียดให้ฟัง
ตัวอย่างค่ะ
พอเครื่องลงก็พยายามมองหาป้ายขาเข้าเมือง เพราะอย่างที่บอกว่าดิวตี้ฟรีเค้าใช้ร่วมกัน หลังจากเคลียตมเสร็จก็ออกมารอกระเป๋า สายพานรับกระเป๋าที่นี่ ให้ความรู้สึกต่างจากสนามบินบ้านเราแฮะ ไม่รู้คิดไปเองรึเปล่า รู้สึกว่าสายพานต่ำกว่า พอยกกระเป๋ามันรู้สึกว่าง่ายกว่า … เรียบร้อยกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ 1 ใบ กระเป๋าลาก cabin size อีกหนึ่ง พอหลุดออกมาก็มีลุงคนนึงถือป้ายชื่อเรารอรับ ที่ออฟฟิตมีรถมารับ (โอววดีใจ)
และแล้วก็ก้าวเท้าเหยียบประเทศสิงคโปร์ เราจะเจอกันไปอีกสองปีนะ
ตอนต่อไป...ที่พักชั่วคราวสไตล์ย่อมเยาว์
http://ppantip.com/topic/31615800