โกเมซต้า ซินยอร์.....
กลับมาคุยเรื่องเมืองอิเหนากันต่อนะครับ.....เมื่อวานผมพาน้องๆไปเที่ยวอนุสรณ์สถานของประธานาธิบดีซูการ์โน.....แล้วซื้อพวงกุญแจกลับมาพร้อมทั้งหินภูเขาไฟแบบยกพวงไป100บาท.......2อย่างก็200.....คราวนี้ก็ลุยยาวเลยแล้วกัน......
อาชีพขายของที่ระลึกนี่ มันต้องอาศัยความอดทนและลูกตื้อใครหน้าบาง(จะเขียนว่าหน้าด้าน ก็เกินไปหน่อยนะครับ เพราะเขาไม่ได้มายืนแก้ผ้าขายสินค้านี่หว่า.....) ก็จะมาทำอาชีพอย่างนี้ไม่ได้ เพราะฉะนั้นการโก่งราคาสินค้าของเขาให้สูงลิ่วเอาไว้ก่อน เผื่อการต่อรองหรือเผื่อกันแห้ว ขายไม่ได้ตามเป้าหมายหรือวันหนึ่งขายได้ชิ้นเดียวมันก็ยังพอปะทังชีวิตไปได้บ้าง
ตัวอย่างเหมือนที่กล่าวนี้จะใช้ได้เฉพาะประเทศที่ค่อนข้างยากจน อย่างเช่นอินเดียและอินโดเนเซียหรือเขมรเท่านั้นนะครับ จะเอาไปใช้ในประเทศร่ำรวยเหมือนเมืองญี่ปุ่น หรือเมืองฝรั่งไม่ได้ เพราะมาตรฐานการดำเนินชีวิตมันต่างกัน
ชีวิตในอินโดเนเซียที่ผมเห็นในสายตาวันนี้ มีแต่การดิ้นรนเพื่อหาเงินมาเป็นปัจจัยในการครองชีพกันอย่างแทบเลือดตากระเด็นทั้งนั้นครับ
ไม่ว่าจะเป็นยุคก่อนไอเอ็มเอฟ หรือหลังไอเอ็มเอฟ ทุกอย่างมันอยู่ในอาการกระ
กระสนไปทุกหย่อมหญ้า ตามสี่แยกของถนนหนทางก็จะมีคนขายน้ำและของกินกระจุกกระจิกเหมือนในเมืองไทยเรานี่แหละครับ โดยเฉพาะถั่วลิสงต้มนั้นจะมีมากกว่าสินค้าอื่น ๆ และก็มีแปลกกว่าในเมืองไทยเราอีตรงที่เขาถอนมาต้มทั้งต้นเลย ไม่มีการแกะเอาเฉพาะฝักของมันมาต้มและใส่ถุงขาย
คือเขาอาศัยรวบต้นของมันเป็นกระจุกแบบมัดหอมมัดกระเทียมหยั่งงั้นแหละ.....ก็ง่ายดีเหมือนกัน แต่เมื่อผมลองซื้อมากินดูแล้ว ปรากฏว่าส่วนมากมันเป็นถั่วอ่อนซะกว่าครึ่ง เม็ดยังไม่ทันเต็มฝัก เขาก็จัดการถอนเอามาต้มขายซะแล้ว
สถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่งในเมืองอินโดเนเซีย ส่วนเมืองหลวงนี้ก็คือ "มินิอินโดเนเซีย" ซึ่งจะอยู่ทางใต้ของเมืองหลวงไปประมาณ 50 กม.
อยากให้กระทู้มีสาระ(ไปสนามแข่งเซ็นตูลยกสุดท้าย-มั้ง)
กลับมาคุยเรื่องเมืองอิเหนากันต่อนะครับ.....เมื่อวานผมพาน้องๆไปเที่ยวอนุสรณ์สถานของประธานาธิบดีซูการ์โน.....แล้วซื้อพวงกุญแจกลับมาพร้อมทั้งหินภูเขาไฟแบบยกพวงไป100บาท.......2อย่างก็200.....คราวนี้ก็ลุยยาวเลยแล้วกัน......
อาชีพขายของที่ระลึกนี่ มันต้องอาศัยความอดทนและลูกตื้อใครหน้าบาง(จะเขียนว่าหน้าด้าน ก็เกินไปหน่อยนะครับ เพราะเขาไม่ได้มายืนแก้ผ้าขายสินค้านี่หว่า.....) ก็จะมาทำอาชีพอย่างนี้ไม่ได้ เพราะฉะนั้นการโก่งราคาสินค้าของเขาให้สูงลิ่วเอาไว้ก่อน เผื่อการต่อรองหรือเผื่อกันแห้ว ขายไม่ได้ตามเป้าหมายหรือวันหนึ่งขายได้ชิ้นเดียวมันก็ยังพอปะทังชีวิตไปได้บ้าง
ตัวอย่างเหมือนที่กล่าวนี้จะใช้ได้เฉพาะประเทศที่ค่อนข้างยากจน อย่างเช่นอินเดียและอินโดเนเซียหรือเขมรเท่านั้นนะครับ จะเอาไปใช้ในประเทศร่ำรวยเหมือนเมืองญี่ปุ่น หรือเมืองฝรั่งไม่ได้ เพราะมาตรฐานการดำเนินชีวิตมันต่างกัน
ชีวิตในอินโดเนเซียที่ผมเห็นในสายตาวันนี้ มีแต่การดิ้นรนเพื่อหาเงินมาเป็นปัจจัยในการครองชีพกันอย่างแทบเลือดตากระเด็นทั้งนั้นครับ
ไม่ว่าจะเป็นยุคก่อนไอเอ็มเอฟ หรือหลังไอเอ็มเอฟ ทุกอย่างมันอยู่ในอาการกระกระสนไปทุกหย่อมหญ้า ตามสี่แยกของถนนหนทางก็จะมีคนขายน้ำและของกินกระจุกกระจิกเหมือนในเมืองไทยเรานี่แหละครับ โดยเฉพาะถั่วลิสงต้มนั้นจะมีมากกว่าสินค้าอื่น ๆ และก็มีแปลกกว่าในเมืองไทยเราอีตรงที่เขาถอนมาต้มทั้งต้นเลย ไม่มีการแกะเอาเฉพาะฝักของมันมาต้มและใส่ถุงขาย
คือเขาอาศัยรวบต้นของมันเป็นกระจุกแบบมัดหอมมัดกระเทียมหยั่งงั้นแหละ.....ก็ง่ายดีเหมือนกัน แต่เมื่อผมลองซื้อมากินดูแล้ว ปรากฏว่าส่วนมากมันเป็นถั่วอ่อนซะกว่าครึ่ง เม็ดยังไม่ทันเต็มฝัก เขาก็จัดการถอนเอามาต้มขายซะแล้ว
สถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่งในเมืองอินโดเนเซีย ส่วนเมืองหลวงนี้ก็คือ "มินิอินโดเนเซีย" ซึ่งจะอยู่ทางใต้ของเมืองหลวงไปประมาณ 50 กม.