ลดความอ้วน แค่รู้จัก ค่า BMR มีชัยไปกว่าครึ่ง

กระทู้สนทนา
....ลดความอ้วน แค่รู้จัก ค่า BMR มีชัยไปกว่าครึ่ง....

แล้วค่า BMR มันคืออะไร ???
ค่า BMR ก็คือ Basal Metabolism หมายถึง อัตราความต้องการเผาผลาญของร่างกายในชีวิตประจำวัน หรือจำนวนแคลอรี่ขั้นต่ำที่ต้องการใช้ในชีวิตแต่ละวัน
เช่น หากคุณมีค่า BMR = 2000 แคลอรี่ หมายถึง ในชีวิตประจำวันของคุณ จะเผาผลาญแคลอรี่ต่อวันเท่ากับ 2000 แคลอรี่ ในภาวะการดำรงชีวิตปรกติ ที่ไม่ได้ออกกำลังกาย
ซึ่ง ค่า BMR แต่ละคนไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับ สัดส่วนกล้ามเนื้อ อายุ เพศ ขนาดร่างกาย และ ฮอร์โมน ยกตัวอย่าง เราเคยสังสัยมั้ยว่า ทำไมไอ้นี่มันกินเยอะแต่ไม่อ้วน ซึ่งหากไปศึกษาร่างกายของเค้าก็จะพบว่า ร่างกายคนเหล่านี้มีกล้ามเนื้อเยอะ และไม่ค่อยมีไขมัน เพราะว่ากล้ามเนื้อสามารถเผาผลาญพลังงานได้ดีกว่าไขมัน 3-5 เท่า

ทีนี้ หากเราสามารถรู้ว่า ค่า BMR เราเท่ากับเท่าไร เราก็จะใช้หลักการ (แคลอรี่ In น้อยกว่า แคลอรี่ Out = ลดไขมัน ) หรือ ง่าย ๆ กินให้น้อยกว่า ค่า BMR นั้นเอง
เพราะบางคนออกกำลังกายทุกวันแต่กินเยอะ เลยไม่ผอมสักที เพราะฉะนั้น หาก เรารู้ค่า BMR และกินให้น้อยกว่าค่า BMR ก็มีชัยในการลดความอ้วนไปกว่าครึ่งแล้วครับ
เอาละครับ ได้เวลา มาดู วิธีการ คำนวน ค่า BMR กันครับ

ผู้ชาย: 10xน้ำหนักตัว + 6.25xความสูง + 5xอายุ + 5 = BMR
ผู้หญิง: 10xน้ำหนักตัว + 6.25xความสูง + 5xอายุ – 161 = BMR

ยกตัวอย่างจากผมเองก็จะได้ประมาณนี้ น้ำหนัก 66kg สูง 172cm อายุ 31

BMR : 10×66 + 6.25×172 + 5×31 + 5 = 1,895
หมายความว่าร่างกายของผมเองต้องใช้พลังงานประมาณ​ 1895 แคลอรีต่อวันในการคงสภาพให้มีชีวิตอยู่ได้ตามปกติ โดยอยู่เฉย ๆ ที่ไม่ได้ออกกำลังกาย

ทีนี้ การดำเนินชีวิตประจำวันของคนเรา แตกต่างกันใช่มั้ยครับ เราต้องเอา ค่า BMR มาคูณ กับ พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของเราก่อน ก่อนที่จะได้ ค่า BMR สุทธิ ตาม พฤติกรรม ของแต่ละคนครับ นั้นคือ ให้เราเอาค่า BMR ที่เราหาได้มาเมื่อตะกี้นี้ มาคูณกับ

x1.2: ไม่ค่อยขยับตัว ไม่ออกกำลังกาย
x1.375: ทำกิจกรรมหรือเล่นกีฬาเบาๆ อาทิตย์ละ 1-3 วัน
x1.55: ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ไม่หนักไป ไม่เบาไป อาทิตย์ละ 3-5 วัน
x1.725: ออกกำลังกายเยอะกว่าคนปกติ อาทิตย์ละ 6-7 วัน
x1.90: ออกกำลังกายระดับนักกีฬา หรือทำกิจกรรมใช้แรงงานเยอะทุกวัน

ซึ่ง ผม เองนั้น จัดอยู่ประเภท ออกกำลังกายสม่ำเสมอ จึงได้เท่ากับว่า
1,895 X 1.55 = 2937.25 แคลอรี่

เพราะฉะนั้น ค่า BMR สุทธิของผมก็คือ 2937.25 แคลอรี่ นั่นเอง
หมายถึง ในแต่ละวัน ร่างกายผมจะเผาผลาญอยู่ที่ 2937.25 แคลอรี่ หากผมกินเยอะกว่าค่า BMR นั้นคือ ออกกำลังไปเหอะ เท่าไร ก็ไม่ลด
แต่หากควบคุมอาหาร ให้น้อยกว่า  2937.25 แคลอรี่  ร่างกาย ก็จะ ทยอย ลดไขมันไปได้เรื่อย ๆ นั่นเอง

เพราะฉะนั้น ใครรู้ค่า BMR สุทธิ ของตัวเองกันแล้ว ก็อาจจะต้องมานั่งนับ แคลอรี ที่กินเข้า อาจเป็นเรื่องที่น่าเบื่อ แต่ทำไปชินเองครับ
อย่าลืม เคล็ดลับคือ กินน้อยกว่าค่า BMR ประมาณ 200-250 แคลอรี่  + เสริมสัดส่วนกล้ามเนื้อให้กับร่างกายเราเองเยอะ ๆ เพื่อจะเผาผลาญดีกว่า 3-5 เท่า + ออกกำลังกายสม่ำเสมอ = หล่อ สวย แน่นอนครับ
และ อย่าลืมอีกข้อ ยาลดความอ้วน ไม่มีในโลกครับ อย่าไปเสียตังโง่ ๆ ให้กับมันเด็ดขาด

เป็นกำลังใจให้ทุกคน ที่พยายามลดความอ้วนอยู่นะครับ  หาค่า BMR  และ ประสบความสำเร็จกับการลดความอ้วนนะครับ
ขอบคุณที่อ่านจนหมดนะครับ

ปล. ผมเองทฤษฏีเปะ แต่ ทำยากครับ แพ้ไอ้เรื่องกินเก่งครับ ผมชอบกิน 55 โชคดีนะครับ
ขอบคุณ ข้อมูลจากเวป http://www.duckingtiger.com/ ด้วยครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่