เกริ่นก่อนนะคะ คือบ้านเราอยู่แถวเอกมัย อยู่แถวนี้มาตั้งแต่เด็กๆแล้วค่ะ
ได้ยินชื่อเสียงความอร่อยของบะหมี่ไข่ลุงเฉื่อยมานานแล้ว แต่ไม่เคยไปนั่งทานที่ร้านค่ะ มีแต่คุณพ่อซื้อมาให้ที่บ้าน
พอดีเมื่อ 2 วันที่แล้วเพื่อนมาบ้านแล้วบอกว่าอยากลองบะหมี่ไข่ เราเลยพาเพื่อนไปนั่งกินที่ร้าน เดินไปถึงร้านก็ต้องตกใจเมื่อพบกับยักษ์ 2 ตนยืนลวกบะหมี่ด้วยหน้าตาเหมือนลืมถ่ายตอนเช้า โอเคค่ะไม่เป็นไรคนอาจจะเยอะ เข้าใจได้ เราอาจมาจังหวะที่เขาเพิ่งอารมณ์เสียจากอะไรสักอย่าง
พอนั่งโต๊ะ เด็กเสิร์ฟก็จะ"โยน"สมุดกับปากกาให้ค่ะแล้วเดินไปเลย เราต้องเขียนโดยไม่รู้ข้อมูลอะไรสักอย่างไม่ว่าจะเป็นราคา เมนู หรือน้ำดื่ม เราเลยตัดสินใจถามราคาเด็กเสิร์ฟค่ะ ซึ่งไม่มีใครตอบเราแต่ส่งสายตาอาฆาตแค้นราวกับเราจะไปขอเขากิน โอเคไม่เป็นไร คนเยอะ อาจจะยุ่งเลยอารมณ์เสีย ไม่ถามก็ได้
เราตัดสินใจสั่ง "บะหมี่แห้งไข่ 2 ชาม" รอสักพัก(ใหญ่ๆ) บะหมี่ก็มาเสิร์ฟ ..บะหมี่ไม่มีไข่ยางมะตูมเหมือนที่เราเขียนสั่งไปเราเลยบอกพี่ยักษ์ที่ยืนลวกบะหมี่ว่า "พี่คะ ไม่มีไข่มาค่ะ ขอไข่เพิ่มต่างหาก 2 ฟองค่ะ"
ค่ะ แทนที่จะได้ไข่ กลับได้เสียงที่โวยวายกลับมาว่า
"โต๊ะไร 1 เหรอ ก็ไม่ได้เขียนไข่มาอะ จะตรัสรู้ปะว่าจะกินไข่ "
เรานิ่ง เงียบสักพัก เริ่มอารมณ์เสีย เริ่มฉุน กำลังจะลุกขึ้นตวาดกลับ พอดีเพื่อนที่ไปด้วยดึงไว้ก่อนเราเลยยอมนิ่ง
สักพักไข่มาเสิร์ฟก็เริ่มลงมีทานบะหมี่ค่ะ พอทานเสร็จก็เรียกเก็บเงิน รวมเบ็ดเสร็จทั้งหมด 140 กว่าบาท
ประทับใจในราคาและการบริการมากเลยค่ะ ค่าน้ำซุปนี่ไม่รู้เท่าไหร่นะคะแอบคิดว่าชามละ 20 เพราะราคาบะหมี่น่าจะประมาณ 60 บาท แต่ครั้งเดียวค่ะที่จะมาย่างกรายร้านนี้ อร่อยก็ไม่อยากกินค่ะบริการเหมือนชามละ 20 บาท แม่ค้าที่น่าจะเป็นลูกของลุงเฉื่อย(?) ก็หน้าอย่างกับตูดลิงบาบูนตลอดเวลาที่นั่งทาน คิดว่าอารมณ์เสียแบบนี้ทุกวันแน่ๆเพราะดูหน้าไม่ค่อยชอบในงานบริการเท่าไหร่ ใครคิดจะไปทานบะหมี่ไข่ลุงเฉื่อยต้องไปวันที่อารมณ์ดีๆนะคะไม่งั้นอาจจะมีมวยเกิดขึ้นได้ ขอจบความประทับใจที่มีต่อร้านนี้เพียงเท่านี้ค่ะ
ความประทับใจของเราต่อร้านบะหมี่ไข่ลุงเฉื่อยเอกมัย
ได้ยินชื่อเสียงความอร่อยของบะหมี่ไข่ลุงเฉื่อยมานานแล้ว แต่ไม่เคยไปนั่งทานที่ร้านค่ะ มีแต่คุณพ่อซื้อมาให้ที่บ้าน
พอดีเมื่อ 2 วันที่แล้วเพื่อนมาบ้านแล้วบอกว่าอยากลองบะหมี่ไข่ เราเลยพาเพื่อนไปนั่งกินที่ร้าน เดินไปถึงร้านก็ต้องตกใจเมื่อพบกับยักษ์ 2 ตนยืนลวกบะหมี่ด้วยหน้าตาเหมือนลืมถ่ายตอนเช้า โอเคค่ะไม่เป็นไรคนอาจจะเยอะ เข้าใจได้ เราอาจมาจังหวะที่เขาเพิ่งอารมณ์เสียจากอะไรสักอย่าง
พอนั่งโต๊ะ เด็กเสิร์ฟก็จะ"โยน"สมุดกับปากกาให้ค่ะแล้วเดินไปเลย เราต้องเขียนโดยไม่รู้ข้อมูลอะไรสักอย่างไม่ว่าจะเป็นราคา เมนู หรือน้ำดื่ม เราเลยตัดสินใจถามราคาเด็กเสิร์ฟค่ะ ซึ่งไม่มีใครตอบเราแต่ส่งสายตาอาฆาตแค้นราวกับเราจะไปขอเขากิน โอเคไม่เป็นไร คนเยอะ อาจจะยุ่งเลยอารมณ์เสีย ไม่ถามก็ได้
เราตัดสินใจสั่ง "บะหมี่แห้งไข่ 2 ชาม" รอสักพัก(ใหญ่ๆ) บะหมี่ก็มาเสิร์ฟ ..บะหมี่ไม่มีไข่ยางมะตูมเหมือนที่เราเขียนสั่งไปเราเลยบอกพี่ยักษ์ที่ยืนลวกบะหมี่ว่า "พี่คะ ไม่มีไข่มาค่ะ ขอไข่เพิ่มต่างหาก 2 ฟองค่ะ"
ค่ะ แทนที่จะได้ไข่ กลับได้เสียงที่โวยวายกลับมาว่า "โต๊ะไร 1 เหรอ ก็ไม่ได้เขียนไข่มาอะ จะตรัสรู้ปะว่าจะกินไข่ "
เรานิ่ง เงียบสักพัก เริ่มอารมณ์เสีย เริ่มฉุน กำลังจะลุกขึ้นตวาดกลับ พอดีเพื่อนที่ไปด้วยดึงไว้ก่อนเราเลยยอมนิ่ง
สักพักไข่มาเสิร์ฟก็เริ่มลงมีทานบะหมี่ค่ะ พอทานเสร็จก็เรียกเก็บเงิน รวมเบ็ดเสร็จทั้งหมด 140 กว่าบาท
ประทับใจในราคาและการบริการมากเลยค่ะ ค่าน้ำซุปนี่ไม่รู้เท่าไหร่นะคะแอบคิดว่าชามละ 20 เพราะราคาบะหมี่น่าจะประมาณ 60 บาท แต่ครั้งเดียวค่ะที่จะมาย่างกรายร้านนี้ อร่อยก็ไม่อยากกินค่ะบริการเหมือนชามละ 20 บาท แม่ค้าที่น่าจะเป็นลูกของลุงเฉื่อย(?) ก็หน้าอย่างกับตูดลิงบาบูนตลอดเวลาที่นั่งทาน คิดว่าอารมณ์เสียแบบนี้ทุกวันแน่ๆเพราะดูหน้าไม่ค่อยชอบในงานบริการเท่าไหร่ ใครคิดจะไปทานบะหมี่ไข่ลุงเฉื่อยต้องไปวันที่อารมณ์ดีๆนะคะไม่งั้นอาจจะมีมวยเกิดขึ้นได้ ขอจบความประทับใจที่มีต่อร้านนี้เพียงเท่านี้ค่ะ