มีคนตายอีกแล้วอีกรายว้อย!! เป็นไอหนุ่มจากคนบ้านเราประจำ เขาลือกันว่านางตะเคียนมันอาฆาตแรงหนัก
เพราะก่อนจะแปรสภาพเป็นผีนางตะเคียน เทอคือหญิงสาวที่มีผัวเรียงมาแล้วหลายสิบคน แต่โดนผู้ชายทิ้งเป็นขวดกระทิงแดงเลย
เดือน2เดือนก็โดนทิ้ง ทั้งๆที่เทอก็เป็นคนสวยหยาดเยิ้มในหมู่บ้านอย่างกับคนเมือง ก็ไม่รู้ทำไมถึงไม่มีชายที่ไหนเอาเป็นเมียซักที
ดันมาหอบ-ตายใต้ต้นตะเคียนไม่มีใครเห็นอีก เลยเอาต้นตะเคียนเป็นบ้านเลยทีนี้
ตายไปแล้วก็ยังติดนิสัยตอนยังเป็นคน ไม่ชอบอยู่ติดบ้าน นี่คงแค้นผู้ชายจัดเลยมาลงกับคนในหมู่บ้าน
เฉพาะหนุ่มๆก้านใหญ่ก้านยาวทั้งนั้นรายที่9ล่ะ ตอนนี้หมู่บ้านเหลือแต่เด็ก,คนแก่,ผู้หญิง
เด็กผู้ชายที่อายุเข้าแรกเบญจเพศ ก็โดนไล่ไปอยู่ในเมืองบ้างไปอีกชุมชนบ้าง
หมู่บ้านขาดแคลนแรงงานผู้ชายขาดคนขนของ ตัดไม้ พรวนดิน แบกกระสอบ ฯลฯ
ผู้หญิงก็ทยอยหนีตามลูกตามผัวไป อีกไม่นานข้าก็จะย้ายไปเหมือนกัน
หมู่บ้านนี้คงจะร้างอีกไม่นานนี้เนี่ยแล ตอนนี้เหลือไม่ถึง15คนล่ะ
ไปๆ!! แยกย้ายกันกลับบ้านก่อนจะดึกดื่นเถอะ เดี๋ยวโดนอีผีตาเคียนหักคอเป็นศพที่10หรอก
........
ฉันก็อยู่ที่นี่มานานนะ เห็นนางตะเคียนอยู่ทุกวัน เมื่อกี้ชาวบ้านนินทา นางก็หนีไปร้องไห้ที่ริมคลอง
เห็นนางตั้งแต่สมัยตั้งแต่ยังเดินชนกำแพง เพราะนางเป็นคนซุ่มซ้ามมากยันตอนนี้เดินทะลุกำแพงได้แล้ว
บ้านจริงๆนางก็ร้างแล้วพ่อแม่ย้ายไปอยู่ในเมืองหมด ทำเอาฉันพอยไม่มีคนมาถวายกระเพรากับข้าวให้ฉันกินเลย
ฉันก็พอรู้จักแม่ตะเคียนแกบ้างแล จริงๆนางก็ไม่ได้มีเจตนาฆ่าหนุ่มพวกนั้นเพื่อแก้แค้นหรอก
นางเชื่อว่ารักแท้มีจริง นางมักแปลงกายเป็นคนไปอยู่กินกับหนุ่มๆซักระยะ ก็เกิดความชอบพอกัน
แต่เมื่อชายพวกนั้นรู้ความจริงเมื่อไหร่ ก็แค้นจะเอาหมอผีเก่งๆมาจับนางลงหมอถ่วงน้ำ นางเลยต้องชิงฆ่าปิดปากก่อน
ดูท่านางจะหมดศรัทธาต่อความรักล่ะ นางไม่ไปหาใครล่ะ เดี๋ยวนี้วันๆก็แอบไปส่องแต่กระจกบานเท่าตัวสไตล์ยุโรปของบ้านตาปลื้ม
ส่องไปพูดกับตัวเองไป สีหน้ายิ้มบ้าง ร้องไห้บ้าง หัวเราะบ้าง โกรธเป็นไฟบ้าง ฉันก็ไมได้ไปแอบฟังนะว่านางพูดอะไรตนเดียว
ไม่รู้นางบ่นอะไรคนเดียว วันๆนางก็ทำแต่แบบนี้ตั้งอาทิตย์กว่าๆได้ล่ะ นางคงพิจารณาสภาพตัวเอง โทษนู่นโทษนี่โทษตัวเองว่าทำไม
เหตุใดชายคนแล้วคนเล่าถึงทิ้งนางไป ไม่มีใครรักนางจริงซักคน ถึงนางไม่ใช่มนุษย์แล้วแต่ความรู้สึกคงไม่ต่างกันนัก
ความรู้สึกที่ทุ่มเทให้อีกฝ่ายจนหมดหัวใจ กลับโดนความรักทำร้ายจากชายหลายสิบ พอกพูนความเศร้าผิดหวังไปเรื่อยๆ
ถ้าเปลี่ยนจากความรักเป็นท่อนไม้ มันคงทุบตีทำร้ายนางซ้ำแล้วซ้ำอีกจนกระดูกป่นปี้ ตอนนี้หัวใจของนางคงแตกสลายเป็นผงเศษ
กลายเป็นผีตะเคียนบ้าคุยกับกระจกตนเดียว ฉันก็เพิ่งเคยเห็นผีก็เสียสติได้ด้วยก็คราวนี้แล สิงศาลเจ้ามาก็หลายหมู่บ้านหลายร้อยปี
ไม่เคยพบไม่เคยเจอ ความรักนี่มันน่ากลัวจริงๆทำคนบ้าแถมทำผีบ้าได้ด้วย
.......
ผ่านไปหลายเดือนฉันไม่ได้ข่าวคราวนางเลย ฉันได้ย้ายที่สิงสถิตใหม่ไปอยู่อีกหมู่บ้านล่ะ ไกลจากชุมชนเดิมหลายๆสิบกิโล
มันมีบ้านหลังนึงจุดธูปอันเชิญเจ้าที่มาปกปักดูแลที่ศาลหน้าบ้าน ไอฉันก็หัวหมูไม่ตกถึงดวงจิตมาแรมปีหิวจะตายชัก
เลยรีบเหินเวหาลอยไปตามกลิ่นธูปทันที ในใจก็คิดว่าไม่ทันแน่ๆเพราะฉันมันอยู่ไกลเป็นสิบๆกิโล โดนชิงตัดหน้าไปก่อนแน่
ต้องขอขอบใจไอคลื่น3G ของเขาดีสมชื่อเครือข่ายเลย ทำให้ฉันเกาะคลื่นไปไม่ถึง5วินาที ฉันก็จองศาลได้เรียบร้อย
มีวิญญาณหลายตนจ้องฉันตาเขม่ง เพราะแซงตัดหน้าพวกมันต่อหน้าต่อตา มันมาข้อหุ้นศาลฉันก็ไม่ให้เพราะไอฉันมันโลกส่วนตัวสูง
ฉันก็อยู่ที่ศาลแห่งนี้สบายดี อิ่มสบายแสงสีทองเปล่งรอบดวงจิต ไอฉันก็พึ่งมานึกได้ว่าลืมหนังสือสวดมนตร์ที่ศาลเก่า
ดวงจิตฉันสูงเวลาละก็มีหลงๆลืมๆบ้าง เลยย้อนกลับไปเอาเกาะคลื่น3Gกลับไปเอา
แต่ไอคราวนี้มันของเครือข่ายไรไม่รู้ ช้าเป็นตะพาบคานเลย ตั้งเกือบครึ่งวันกว่าจะถึง เศร้าสร้อยสมชื่อมันนั่นแล
เอาหนังสือสวดมนตร์เสร็จ กำลังจะกลับศาลบ้านใหม่ก็เห็นแม่นางตะเคียนบ้าตนนั้นลอยผ่านมา
ทำให้ไอฉันเข้าใจอย่างอัตโนมัติเลย ที่มันพูดกับกระจกบานนั้นตนเดียว ฉันเห็นมันลอยไปกับฝรั่งรูปงามตัวล้ำโตตนนึง
ลอยกระหนุ่งกระหนิงจู๋จี๋กัน ผลัดกันป้อนไก่ต้ม กล้วยดิบ ขนมเข่งเข้าปาก ไอฉันก็อยากรู้อยากเห็น เลยค้างที่ศาลเก่าซักวัน
หวังอยากติดตามละครน้ำเน่า อยากรู้มันหวานชื่นสมหวังกับความรักดีไหม หลังสิ้นหวังกับความรักมาหลายทศวรรษทีเดียวเชียว
เช้าวันต่อมาฉันเห็นนางลอยผ่านมาเช่นเดิม แต่คราวนี้นางร้องไห้ฟูมฟายเจ็บเจียนแทบจะตายรอบ2ให้ได้เลย
นางเศร้าหมองน้ำตาไหลเป็นสายเลือด ตานางแดงกร่ำ ถ้ามีคนผ่านตอนนี้มาคงโดนนางจับหักคอเป็นแน่
ฉันเลยเข้าไปถามด้วยความสงสัยว่า “เป็นอะไรหรือแม่นางตะเคียน ร้องไห้เศร้าโศกยกใหญ่เชียว”
แม่นางตอบกลับมาปนเสียงสะอื้นว่า “ก็ไอตาปลื้มสิ มันย้ายบ้านไปเมื่อวาน ไม่รู้ไปตอนไหน มันหอบเอาผัวกู(กระจก)ไปด้วย!! ฮือๆๆ”
“แม่นางตะเคียนเอ๋ย มืงคงเกิดมาไร้คู่จริงๆแล เวรกรรมแต่ปางก่อนคงหนักหนาเป็นหมอกบดบังความรักจนหมดสิ้นหนทาง รูปโฉมที่สวยงามหุ่นอึ๋มเอวคอดสะโพกนูนไม่ช่วยทุเลาผลกรรมเลย ฉันหล่ะสงสารแกจริงๆ คงเศร้าโศกไปอีกหลายปี ไปพักศาลใหม่กับข้าก่อนไหมล่ะ ข้ามีเตียงคู่หน่ะ"
.....จบ
ตะเคียนเสี้ยนรัก....
เพราะก่อนจะแปรสภาพเป็นผีนางตะเคียน เทอคือหญิงสาวที่มีผัวเรียงมาแล้วหลายสิบคน แต่โดนผู้ชายทิ้งเป็นขวดกระทิงแดงเลย
เดือน2เดือนก็โดนทิ้ง ทั้งๆที่เทอก็เป็นคนสวยหยาดเยิ้มในหมู่บ้านอย่างกับคนเมือง ก็ไม่รู้ทำไมถึงไม่มีชายที่ไหนเอาเป็นเมียซักที
ดันมาหอบ-ตายใต้ต้นตะเคียนไม่มีใครเห็นอีก เลยเอาต้นตะเคียนเป็นบ้านเลยทีนี้
ตายไปแล้วก็ยังติดนิสัยตอนยังเป็นคน ไม่ชอบอยู่ติดบ้าน นี่คงแค้นผู้ชายจัดเลยมาลงกับคนในหมู่บ้าน
เฉพาะหนุ่มๆก้านใหญ่ก้านยาวทั้งนั้นรายที่9ล่ะ ตอนนี้หมู่บ้านเหลือแต่เด็ก,คนแก่,ผู้หญิง
เด็กผู้ชายที่อายุเข้าแรกเบญจเพศ ก็โดนไล่ไปอยู่ในเมืองบ้างไปอีกชุมชนบ้าง
หมู่บ้านขาดแคลนแรงงานผู้ชายขาดคนขนของ ตัดไม้ พรวนดิน แบกกระสอบ ฯลฯ
ผู้หญิงก็ทยอยหนีตามลูกตามผัวไป อีกไม่นานข้าก็จะย้ายไปเหมือนกัน
หมู่บ้านนี้คงจะร้างอีกไม่นานนี้เนี่ยแล ตอนนี้เหลือไม่ถึง15คนล่ะ
ไปๆ!! แยกย้ายกันกลับบ้านก่อนจะดึกดื่นเถอะ เดี๋ยวโดนอีผีตาเคียนหักคอเป็นศพที่10หรอก
........
ฉันก็อยู่ที่นี่มานานนะ เห็นนางตะเคียนอยู่ทุกวัน เมื่อกี้ชาวบ้านนินทา นางก็หนีไปร้องไห้ที่ริมคลอง
เห็นนางตั้งแต่สมัยตั้งแต่ยังเดินชนกำแพง เพราะนางเป็นคนซุ่มซ้ามมากยันตอนนี้เดินทะลุกำแพงได้แล้ว
บ้านจริงๆนางก็ร้างแล้วพ่อแม่ย้ายไปอยู่ในเมืองหมด ทำเอาฉันพอยไม่มีคนมาถวายกระเพรากับข้าวให้ฉันกินเลย
ฉันก็พอรู้จักแม่ตะเคียนแกบ้างแล จริงๆนางก็ไม่ได้มีเจตนาฆ่าหนุ่มพวกนั้นเพื่อแก้แค้นหรอก
นางเชื่อว่ารักแท้มีจริง นางมักแปลงกายเป็นคนไปอยู่กินกับหนุ่มๆซักระยะ ก็เกิดความชอบพอกัน
แต่เมื่อชายพวกนั้นรู้ความจริงเมื่อไหร่ ก็แค้นจะเอาหมอผีเก่งๆมาจับนางลงหมอถ่วงน้ำ นางเลยต้องชิงฆ่าปิดปากก่อน
ดูท่านางจะหมดศรัทธาต่อความรักล่ะ นางไม่ไปหาใครล่ะ เดี๋ยวนี้วันๆก็แอบไปส่องแต่กระจกบานเท่าตัวสไตล์ยุโรปของบ้านตาปลื้ม
ส่องไปพูดกับตัวเองไป สีหน้ายิ้มบ้าง ร้องไห้บ้าง หัวเราะบ้าง โกรธเป็นไฟบ้าง ฉันก็ไมได้ไปแอบฟังนะว่านางพูดอะไรตนเดียว
ไม่รู้นางบ่นอะไรคนเดียว วันๆนางก็ทำแต่แบบนี้ตั้งอาทิตย์กว่าๆได้ล่ะ นางคงพิจารณาสภาพตัวเอง โทษนู่นโทษนี่โทษตัวเองว่าทำไม
เหตุใดชายคนแล้วคนเล่าถึงทิ้งนางไป ไม่มีใครรักนางจริงซักคน ถึงนางไม่ใช่มนุษย์แล้วแต่ความรู้สึกคงไม่ต่างกันนัก
ความรู้สึกที่ทุ่มเทให้อีกฝ่ายจนหมดหัวใจ กลับโดนความรักทำร้ายจากชายหลายสิบ พอกพูนความเศร้าผิดหวังไปเรื่อยๆ
ถ้าเปลี่ยนจากความรักเป็นท่อนไม้ มันคงทุบตีทำร้ายนางซ้ำแล้วซ้ำอีกจนกระดูกป่นปี้ ตอนนี้หัวใจของนางคงแตกสลายเป็นผงเศษ
กลายเป็นผีตะเคียนบ้าคุยกับกระจกตนเดียว ฉันก็เพิ่งเคยเห็นผีก็เสียสติได้ด้วยก็คราวนี้แล สิงศาลเจ้ามาก็หลายหมู่บ้านหลายร้อยปี
ไม่เคยพบไม่เคยเจอ ความรักนี่มันน่ากลัวจริงๆทำคนบ้าแถมทำผีบ้าได้ด้วย
.......
ผ่านไปหลายเดือนฉันไม่ได้ข่าวคราวนางเลย ฉันได้ย้ายที่สิงสถิตใหม่ไปอยู่อีกหมู่บ้านล่ะ ไกลจากชุมชนเดิมหลายๆสิบกิโล
มันมีบ้านหลังนึงจุดธูปอันเชิญเจ้าที่มาปกปักดูแลที่ศาลหน้าบ้าน ไอฉันก็หัวหมูไม่ตกถึงดวงจิตมาแรมปีหิวจะตายชัก
เลยรีบเหินเวหาลอยไปตามกลิ่นธูปทันที ในใจก็คิดว่าไม่ทันแน่ๆเพราะฉันมันอยู่ไกลเป็นสิบๆกิโล โดนชิงตัดหน้าไปก่อนแน่
ต้องขอขอบใจไอคลื่น3G ของเขาดีสมชื่อเครือข่ายเลย ทำให้ฉันเกาะคลื่นไปไม่ถึง5วินาที ฉันก็จองศาลได้เรียบร้อย
มีวิญญาณหลายตนจ้องฉันตาเขม่ง เพราะแซงตัดหน้าพวกมันต่อหน้าต่อตา มันมาข้อหุ้นศาลฉันก็ไม่ให้เพราะไอฉันมันโลกส่วนตัวสูง
ฉันก็อยู่ที่ศาลแห่งนี้สบายดี อิ่มสบายแสงสีทองเปล่งรอบดวงจิต ไอฉันก็พึ่งมานึกได้ว่าลืมหนังสือสวดมนตร์ที่ศาลเก่า
ดวงจิตฉันสูงเวลาละก็มีหลงๆลืมๆบ้าง เลยย้อนกลับไปเอาเกาะคลื่น3Gกลับไปเอา
แต่ไอคราวนี้มันของเครือข่ายไรไม่รู้ ช้าเป็นตะพาบคานเลย ตั้งเกือบครึ่งวันกว่าจะถึง เศร้าสร้อยสมชื่อมันนั่นแล
เอาหนังสือสวดมนตร์เสร็จ กำลังจะกลับศาลบ้านใหม่ก็เห็นแม่นางตะเคียนบ้าตนนั้นลอยผ่านมา
ทำให้ไอฉันเข้าใจอย่างอัตโนมัติเลย ที่มันพูดกับกระจกบานนั้นตนเดียว ฉันเห็นมันลอยไปกับฝรั่งรูปงามตัวล้ำโตตนนึง
ลอยกระหนุ่งกระหนิงจู๋จี๋กัน ผลัดกันป้อนไก่ต้ม กล้วยดิบ ขนมเข่งเข้าปาก ไอฉันก็อยากรู้อยากเห็น เลยค้างที่ศาลเก่าซักวัน
หวังอยากติดตามละครน้ำเน่า อยากรู้มันหวานชื่นสมหวังกับความรักดีไหม หลังสิ้นหวังกับความรักมาหลายทศวรรษทีเดียวเชียว
เช้าวันต่อมาฉันเห็นนางลอยผ่านมาเช่นเดิม แต่คราวนี้นางร้องไห้ฟูมฟายเจ็บเจียนแทบจะตายรอบ2ให้ได้เลย
นางเศร้าหมองน้ำตาไหลเป็นสายเลือด ตานางแดงกร่ำ ถ้ามีคนผ่านตอนนี้มาคงโดนนางจับหักคอเป็นแน่
ฉันเลยเข้าไปถามด้วยความสงสัยว่า “เป็นอะไรหรือแม่นางตะเคียน ร้องไห้เศร้าโศกยกใหญ่เชียว”
แม่นางตอบกลับมาปนเสียงสะอื้นว่า “ก็ไอตาปลื้มสิ มันย้ายบ้านไปเมื่อวาน ไม่รู้ไปตอนไหน มันหอบเอาผัวกู(กระจก)ไปด้วย!! ฮือๆๆ”
“แม่นางตะเคียนเอ๋ย มืงคงเกิดมาไร้คู่จริงๆแล เวรกรรมแต่ปางก่อนคงหนักหนาเป็นหมอกบดบังความรักจนหมดสิ้นหนทาง รูปโฉมที่สวยงามหุ่นอึ๋มเอวคอดสะโพกนูนไม่ช่วยทุเลาผลกรรมเลย ฉันหล่ะสงสารแกจริงๆ คงเศร้าโศกไปอีกหลายปี ไปพักศาลใหม่กับข้าก่อนไหมล่ะ ข้ามีเตียงคู่หน่ะ"
.....จบ