จ้าวจตุรทิศ ภาค จัณฑวาตา ตอนที่ 41: เกาะแห่งความตาย (ต่อ)- (2/2)

กระทู้สนทนา
ตอนที่ 41: เกาะแห่งความตาย ต่อ - (1/2) http://ppantip.com/topic/31502322

คุยกันก่อนนะคะ

คุณ Psycho Man: ขอบคุณมากนะคะ มีสลับฉากนิดหนึ่งเนาะ ก่อนจะไปอัดกันรัวๆ ในช่วงท้ายๆ ค่ะ

ขอบคุณสำหรับผู้ให้ถูกใจนะคะ:  คุณ GTW, คุณ zoi , คุณ ลูนาติก


ความเดิมจากตอนที่แล้ว

การที่มาลายอมช่วยเหลือบุษบามินตราเพราะอารมันได้ตกลงทำข้อสัญญาบางอย่างกับมาลาก่อนที่จะเขาจะเดินทางมายังเกาะแห่งความตาย ซึ่งเกี่ยวพันไปถึงเหตุการณ์ที่เป็นข้อพิพาทระหว่างเขากับจ้าวแดนตะวันออกที่ดูเหมือนจะไม่ยอมรับฟังเหตุผลใดๆ ทั้งสิ้น






41. เกาะแห่งความตาย (ต่อ) - 2/2


ยังไม่ทันที่อารมันจะได้มีโอกาสกล่าวแก้ประโยคใด หัสรังสีพลันโจมตีเข้ามาอีกระลอก นักรบแห่งเวนไตยเผลอสบถคำหนึ่ง

ตลอดเวลาเมธินแสนอยากจะกระโดดเข้าไปช่วยนายน้อย ทว่าก่อนหน้านั้นอารมันได้สั่งห้าม ทำให้เขาไม่มีสิทธิ์เข้าไปยุ่งเกี่ยว

เมื่อนั้นอารมันใช้กริชในมือขวาต่อกรกับดาบสองมือของวังสุริยันได้อย่างฉมัง แม้การดวลจะทำให้บังเกิดเป็นวงไฟไปทั่วทว่าพวกมันกลับถูกสลายลงดินบ้างหายลับขึ้นฟ้าบ้างด้วยฤทธิ์เดชวาตเวทของอารมัน ไม่ได้ทำอันตรายต่อเทพนักรบที่ไม่ยอมถอยหนีเพราะตระหนักดีว่านี่ไม่ใช่การประลองที่จะหาชมได้ง่ายๆ แม้แต่ในถิ่นนักรบเอง มันเป็นการใช้อาวุธเวทเข้าสัประยุทธ์กันอย่างดุเดือดและยกระดับการรบจนคล้ายศึกระหว่างจ้าวเทวาทิศไปทุกขณะ

จะเหลือก็เพียงใครจะเรียกคทาเทพเพื่อกำราบฝ่ายตรงข้ามก่อนเท่านั้น

ซึ่งอารมันเองก็ตระหนักดี หากจ้าวแดนตะวันออกเรียกบุริมคทาทิศ แม้จะเป็นกริชเวนไตยคงไม่อาจต้านทานได้ แต่ดูเหมือนเทวะตะวันออกยังมีความหยิ่งทะนงเกินกว่าจะเรียกมหาอาวุธหนึ่งในสี่ของอาณาจักรมาใช้กำราบเขา กระนั้นแม้ว่าจ้าววังสุริยันจะไม่ได้เรียกคทาเทพ พละมนตราที่เกิดจากการสำแดงเดชของอาวุธก็อยู่ในระดับอภิเวท

อารมันนึกกังวลในใจ...นี่ไม่เป็นผลดีต่อท่านมือปราบ ยิ่งเสียเวลามากไปเท่าไรชีวิตของเธอก็ต้องเสี่ยงมากขึ้นเท่านั้น อารมันคิดขณะยันอาวุธกลับไป นึกในใจ

อภัยให้ข้าเถิดจ้าวแดนตะวันออก ข้าจะชดใช้ให้ท่านในภายหลังแน่ แต่ท่านต้องเปิดทางให้ข้าเดี๋ยวนี้!

นักรบแห่งผาพญาครุฑตัดสินใจใช้พละเวทของตนเองอย่างเต็มกำลัง

ในชั่วขณะนั้นทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวของเทพเวนไตยเคลื่อนไหวช้าลง แม้แต่เปลวไฟของดาบแห่งตะวันออกที่ว่าร้ายกาจนักกลับลอยขึ้นช้าๆ ราวหมอกควันที่ไร้ฤทธิเดช อารมันรู้ดีว่ามิติเหลื่อมของเวลานี้คงอยู่ได้ไม่นานนักและพร้อมจะกลับเข้าสู่ช่วงเวลาปรกติได้ทุกเมื่อ

ต้องรีบลงมือ

ในสายตาของบังสูรย์ที่ไม่อาจมองการต่อสู้ได้ทันนั้น เห็นเพียงอารมันใช้ความเร็วที่เกินคาดมองทะลุช่องว่างของการโจมตีของหัสรังสีปัดปลายดาบปาวากะให้พ้นจากทางสังหาร  นอกจากนี้ยังไวพอที่จะคว้าด้ามดาบของหัสรังสีได้กลางอากาศด้วยมือข้างที่ไม่ถนัดอย่างน่าอัศจรรย์ จากนั้นร่ายเวทโจมตีใส่แล้วกระโดดตามติดร่างจ้าวแดนตะวันออกที่พุ่งกระแทกอัดกับผนังโดยแรงจนบังเกิดรอยร้าวเป็นทาง

กว่าที่จ้าววังสุริยันจะรู้ตัวว่าเสียท่าแก่นักรบจากเวนไตยก็เมื่อพบว่าเปลวไฟที่เกิดจากดาบเวทของตัวห่างจากปลายจมูกไปเพียงธุลี...ในชั่วขณะที่หัสรังสีจ้องมองไปยังคู่ต่อสู้ เขาไม่ได้เห็นอารมัน หรือรามิต เขาเห็นปีก...ปีกที่มีรัศมีแห่งเปลวไฟลุกท่วมและใหญ่โตจนแทบคลุมท้องฟ้าให้มืดมิด แต่เพียงครู่เดียวภาพที่น่ากลัวนั้นก็กลับจางหายราวภาพนิรมิต อารมันลดด้ามดาบลงแล้วโยนมันออกไปทางหนึ่ง ดาบไฟพุ่งปักบนพื้นโดยแรงจนด้ามจับแกว่งไหว เพลิงลุกทั่วด้ามก่อนจะสงบลง

“ขออภัย” อารมันกล่าวสั้นๆ และเขาก็หมายความว่าเช่นนั้นจริงๆ ก่อนจะถอยฉากออกมาในขณะที่ฝ่ายตรงข้ามได้แต่มองด้วยความตกตะลึง หัสรังสียกมือทั้งสองขึ้นมา

มันสั่นระริก...

อารมันเก็บกริชของตนเข้าฝักที่เข็มขัดด้านหลัง จากนั้นเขาจึงเดินตัวตรงไปยังอาคารหนึ่ง เทพนักรบหลบเป็นทาง ยังมีเรื่องหนักใจอยู่อีก...อารมันคิดในใจขณะที่ยังคงเดินตรงไปยังอาคารสีอิฐโดยไม่มีการลังเล
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่