NMG อนาคตควงลูก NMG-W3 พุ่ง 10 เด้ง ?

มีหลายท่านหลังไมค์มาถามผมกรณี หุ้น NMG ที่เคยตั้งกระทู้ไว้ว่ามีมุมมองอื่นของหุ้นตัวนี้บ้างหรือเปล่า
http://ppantip.com/topic/31500521
http://ppantip.com/topic/31503169

ผมเลยอยากจะบอกว่าความจริง NMG ก็ยังมีโอกาสในการพิสูจน์ตัวเองครับ
จุดอ่อนสำคัญคือเรื่องต้นทุนในการทำทีวีดิจิตอลที่สูงขึ้นมาก ในขณะที่รายได้ยังไม่ชัดเจน
แต่ถ้ามองว่า NMG หรือกลุ่มเนชั่นมีโอกาสที่จะทำทีวีได้ฮิตทั้งช่อง SD และช่องข่าว
โอกาสที่รายได้ของ NMG จะโตต่อเนื่องทุกปีจนถึงเป้า 5 ปีที่ผู้ถือหุ้นใหญ่เคยฝันไว้ อาจพอได้เข้าใกล้บ้าง
แต่ทั้งนี้ NMG ต้องประสบความสำเร็จในช่องทีวีดิจิตอลอย่างสูงเท่านั้น

ถ้าจะลองมองหุ้น NMG ในแง่มุมอื่น กลุ่มเนชั่นก็มีความแข็งแกร่งในฐานะผู้ผลิตคอนเทนต์ด้านข่าวในอันดับต้นๆ
นักข่าวหลายคนก็ล้วนเคยทำงานที่เนชั่นมาก่อน หลายรายการข่าวตามช่องต่างๆ เนชั่นก็ทำให้
จากเดิมรายได้ค่าโฆษณาในทีวีดาวเทียมจะมีเรทที่ค่อนข้างต่ำ ต่างจากฟรีทีวีลิบลับที่อย่างหลังอยู่ที่หลักแสน
แต่ถึงไงเรทอัตราค่าโฆษณาในทีวีดิจิตอลก็จะไม่แพงเท่านั้น อาจถูกลงกว่าครึ่งนึง แต่ก็ยังมากกว่าทีวีดาวเทียมหลายเท่าอยู่ดี

NMG จะต้องดึงโฆษณาเก่าไว้ รายเก่าที่ยอมจ่ายค่าโฆษณาเพิ่มเมื่อออกอากาศผ่านทีวีดิจิตอล
และต้องหาโฆษณารายใหม่ๆ ที่สนใจในช่องข่าว ช่องสาระบันเทิงและธุรกิจแบบ SD

สำหรับนักลงทุนรายย่อย ถ้าใครคิดจะลงทุนกับ NMG ในระยะยาว อาจต้องเริ่มศึกษาและมองหุ้น NMG อย่างจริงจังตั้งแต่เดี๋ยวนี้
เพราะถ้าจะรอให้ผ่าน 1-2 ปี แรกไป รอให้ผลประกอบการออกมาก่อนแล้วค่อตัดสินใจ เชื่อว่าถึงตอนนั้นจะไม่ทันแล้ว
เพราะราคาคงวิ่งนำไปไกลแล้ว แต่ถ้ารีบเข้าในขณะที่ยังไม่รู้ว่าจะลงสุดหรือยังหรืออนาคตจะเป็นยังไงคุณก็ต้องแบกรับความเสี่ยงตรงนี้ไว้เอง

ถ้าวัดเฉพาะในกลุ่มช่องข่าว เชื่อว่าเนชั่นจะมาอันดับต้นๆ แน่ และถ้าดูเฉพาะรายใหม่ไม่รวมยักษ์ใหญ่รายเดิมอย่างช่อง 3 7 9
คู่ปรับหน้าใหม่ตัวฉกาจน่าจะเป็นไทยรัฐทีวี เพราะทั้งสองบริษัทก้าวมาจากสื่อสิ่งพิมพ์เหมือนกัน จะต้องการอยู่รอดในยุคที่หนังสือพิมพ์กำลังจะตาย
ทั้งคู่มุ่งสู่อินเทอร์เน็ต มีเว็บไซต์เสนอข่าว ทำทีวีดาวเทียม (แม้เนชั่นจะทำมาล่วงหน้าหลายปี) และล่าสุดเข้าสู่ยุคของทีวีดิจิตอล

ความสำเร็จของทีวีดิจิตอล นอกจากวัดด้วยเรตติ้ง ยังต้องวัดด้วยผลการดำเนินงาน บางช่องอาจดูเหมือนฮิตแต่ผลประกอบการอาจขาดทุน
ทีวีทุกช่องในอนาคต อาจมีรายการดีๆ ที่คนชอบ แต่ใครจะรอดหรือไม่ต้องไปดูว่าช่องนั้นๆ สร้างรายได้จนมีกำไรพอหรือเปล่า

ยกตัวอย่างเช่นทีวีดาวเทียมบางช่อง เราอาจไม่ชอบดูเพราะมีแต่รายการขายสินค้า แต่มันก็จะมีคนกลุ่มนึงที่เป็นทาร์เก็ตของเขาดูอยู่
และช่องเขาสามารถขายของได้ ดีไม่ดีอาจมีรายได้มากกว่าช่องที่ฉายหนังหรือฉายสารคดีที่เราชอบดูซะด้วยซ้ำ

เพราะฉะนั้นเชื่อว่าในอนาคตทีวีดิจิตอลแต่ละช่องจะต้องวิเคราะห์กลุ่มทาร์เก็ตให้ตรงเป้าหมายและคอนเทนต์ของตัวเองให้มากที่สุด
ตัวเองมีจุดแข็งคอนเทนต์ด้านไหนก็ต้องทำให้แข็งแกร่งเต็มที่ จะทำแบบรวมมิตรเหมือนช่อง 3 7 9 ในปัจจุบันไม่ได้
เพราะถ้าทำแบบเดียวกันหมด 24 ช่อง ช่องคุณจะไม่มีความโดดเด่นหรือมีคอนเทนต์แม่เหล็กในการดึงผู้ชมที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย

สำหรับ NMG คงต้องเฝ้าติดตามแผนงานทางธุรกิจที่ทางบริษัทจะเปิดเผยออกมาว่าจะทำยังไงกับทีวีดิจิตอล
วิเคราะห์ความเป็นไปได้ว่ามีโอกาสมากน้อยแค่ไหน แต่แน่นอนเชื่อได้ว่าแผนต้องดูดี แต่ทำออกมาจริงจะได้หรือเปล่านั่นมันอีกเรื่อง

สำหรับนักลงทุนรายย่อยอาจใช้วิธีง่ายๆ เช่นหลังจาก NMG ออกอากาศทีวีดิจิตอล เราก็ต้องมานั่งเฝ้าดูหน้าจอแต่ละรายการแต่ละช่วงเวลา
ว่ามีโฆษณาลงเยอะแค่ไหน ในแต่ละรายการ โฆษณานานไหม โฆษณาถี่ไหม ป้ายโฆษณาหรือรูปสินค้าในรายการ รวมถึงโฆษณาแฝงมีมากแค่ไหน
ถ้ายิ่งเห็นเยอะยิ่งอาจอุ่นใจได้ว่าอนาคตจะไปรอด

ถ้าต้องการละเอียด อัตราค่าโฆษณาในทีวีดิจิตอลจะได้มากกว่าทีวีดาวเทียมปัจจุบัน เราอาจใช้เรทที่เนชั่นได้รับปัจจุบันเป็นฐาน
แล้วนั่งนับโฆษณาคร่าวๆ ในทีวีดิจิตอล ลองคำนวนๆ ดูว่าวันนึงมีโฆษณาทั้งหมดเท่าไหร่ ได้ค่าโฆษณาเท่าไหร่ ไตรมาสนึงจะได้ค่าโฆษณาเพิ่มจากเดิมเท่าไหร่

ตรงนี้จะเป็นตัวชี้วัดว่าอนาคต NMG  จะเป็นยังไง แล้วทำไมรอดูงบปลายไตรมาสไปเลย ? มันไม่ทันไง
ถ้ามัวไปรอดูงบอย่างเดียวรับรองไม่ทัน ในกรณีถ้ามันดีจริง คนที่รู้ข้อมูลมากกว่านักลงทุนรายย่อยก็คงเก็บจนราคาไปไกลแล้ว

ถ้ามองอย่างเป็นกลาง NMG  เองก็มีรายได้และกำไรจากธุรกิจในปัจจุบันอยู่ในขั้นดีและเติบโตต่อเนื่อง
ถึงแม้ต่อไปจะมีต้นทุนทีวีดิจิตอลเข้ามา แต่ถ้ารายได้จากทีวีดิจิตอลเข้ามา cover ต้นทุนส่วนนี้ได้มันก็ไม่ใช่ปัญหา
ถ้านักลงทุนรายย่อยมีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้น NMG และธุรกิจในอนาคต อาจมองว่ารายได้หมื่นล้านในอีก 5 ปีข้างหน้ามีโอกาสเป็นไปได้

ปัจจุบัน NMG  มีรายได้ประมาณ 2-3 พันล้านบาทต่อปี มีกำไรราว 200 ล้านบาทต่อปี
รายได้มากขึ้น 3-4 เท่าในอีก 5 ปี เขาหวังว่ามันจะมาจากธุรกิจทีวีดิจิตอล
และรายได้จากทีวีดิจิตอลจะกลายมาเป็นรายได้หลักของบริษัทในอนาคตแทนที่สื่อสิ่งพิมพ์ในปัจจุบัน

วัดจากเรทโฆษณา ลดลงครึ่งนึงจากอัตราโฆษณาในฟรีทีวีปัจจุบันที่หลักหลายแสนบาท
ลดครึ่งนึงจะยังถือว่าเยอะอยู่ระดับแสนกว่าเหมือน ต่างจากทีวีดาวเทียมที่ไพรม์ไทม์บางทียังอยู่แค่หลักหมื่นกลางๆ

ความเสี่ยงและความสูญเสียของ NMG  ไม่สูงมากเพราะไม่ได้เป็นเจ้าตลาดเดิมอย่าง 3 7 9 ที่มีโอกาสถูกแบ่งมาร์เก็ตแชร์
แต่ NMG  เป็นหน้าใหม่ที่เข้ามาสู่อาณาจักรฟรีทีวีนี้ จึงมีโอกาสได้มากกว่า ขึ้นอยู่กับว่าจะแย่งมาได้มากหรือน้อย

ถ้า NMG  ทำรายได้แตะหมื่นล้านในปีที่ 5 จริง นั่นย่อมหมายความว่ากำไรสุทธิอาจอยู่ที่ระดับพันล้านได้เหมือนกัน
ถ้าเทียบกับอัตราส่วนกำไรในปัจจุบันกับรายได้เท่านี้ และถ้าเทียบกับกำไรต่อหุ้นตอนนี้ PE ระดับนี้
อนาคตตอนนั้นอาจเห็น NMG แถว 5-6 บาท เป็นอย่างต่ำ หรือมากกว่าตอนนี้ 5 เท่า

ส่วน NMG-W3 ปัจจุบัน ราคา 0.39 บาท โดยมีค่าแปลง 1 บาท และอัตราแปลง 1:1
และจะหมดอายุกลางปี 2561 อีก 5 ปีข้างหน้า
ถ้าคิดแบบตรงตัวง่ายๆ ก็ใช้ราคาหุ้นแม่ ลบ 1 บาทได้เลย แต่ซื้อขายจริงก็บวกเข้าไปอีกหน่อย

ตอนนี้ NMG ราคา 1.08 บาท NMG-W3  ราคา 0.39 บาท ถ้าในอนาคต NMG ไปถึง 5-6 บาทจริง
หุ้นลูก NMG-W3  ก็สามารถไปถึง 4-5 บาทได้สบายๆ คิดดูแล้ว มากกว่า 10 เด้งแน่นอนสำหรับ NMG-W3
แต่ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขคือ NMG ประสบความสำเร็จในทีวีดิจิตอล มีรายได้จากค่าโฆษณาเป็นกอบเป็นกำ
ที่สำคัญที่สุด ต่อให้ราคาไปถึงจุดนั้นจริง คุณจะทนรอไหวมั๊ย 4-5 ปีจากนี้ ระหว่างทางแน่นอนต้องมีขึ้นมีลงแรงๆ ให้เห็น
คุณจะทนได้มั๊ย นอกจากเรื่องเวลาแล้ว เรื่องจิตใจยังต้องแข็งแกร่งพอที่จะทนถือได้นานขนาดนั้น
แต่ถ้าทำได้ กำไรระดับ 10 เท่านี่สบายๆ เขาถึงมักพูดกันว่าคนเล่นหุ้นแล้วรวยจริงๆ ส่วนใหญ่เป็นพวกถือหุ้นนานๆ ข้ามปีเท่านั้น
พวกที่ซื้อขายบ่อยๆ มักจะจน เล่นไม่รวยหรือไม่ก็ขาดทุนหมดตัวจนต้องออกตลาดหุ้นไป

และกว่าจะไปถึงจุดนั้น ไม่แน่ เดือนหน้า ไตรมาสหน้า NMG อาจลงไป 0.50 NMG-W3  อาจลงไป 0.15 ก่อนก็ได้ใครจะไปรู้
หรือดีไม่ดีอาจไม่ลงหรือลงไม่มากกว่านี้แล้ว ก็ไม่มีใครบอกได้เหมือนกัน

ตอนนี้จึงเหมือนเป็นการเก็งอนาคต และมองอนาคตของนักลงทุน ถ้ามองถูกทางก็เหมือนถูกหวยชุดใหญ่

นี่ก็เป็นมุมมองอีกด้านที่มีคนสอบถามมาทางหลังไมค์ ผมก็คิดไว้แบบนี้ ที่เหลืออยู่ที่ตัวเองที่ต้องตัดสินใจ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่