[Spoil] ช้อนเงินคนแปรธาตุ (Silver Spoon) #94 - สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า "เตี่ย"

หายกันไปเกือบสองอาทิตย์ อาทิตย์นี้กลับมาพบกับช้อนเงินภาคมังงะตอนแรกของปี 2014 กันนะครับ



ตอนที่แล้วเกริ่นๆ ทิ้งท้ายให้คนอ่านลงแดงเล่นว่าเตี่ยบักแว่นจะมาในวันทำสัญญาเข้าหอนอกด้วย

และข้างล่างนี้คือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเตี่ยย่างเท้าเข้าประตูโรงเรียนเอโสะโนมาครับ


ปวงชนชาวเอโสะโนถึงกับตั้งกองเกียรติยศค้อมหัวสวัสดีเป็นแถบๆ




สรรพสัตว์ต่างระย่อดุจนกหวาดเกาทัณฑ์ เม่านอนไม่หลับ




แม้แต่เจ้ามารอนม้าจอมแสบประจำชมรมขี่ม้ายังถึงกับตัวเกร็งเปิดสัญชาตญาณระแวงไพรเต็มที่




ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นความต้องการของตัวเตี่ยเองที่อยากจะมาดูโรงเรียนที่ลูกชายเรียนดูสักครั้งนั่นเองครับ


หลังมาสมทบกับบักแว่นที่โรงเรียนแล้ว สามคนพ่อแม่ลูกก็ชวนกันเดินออกจากโรงเรียนตรงไปยังหอนอกที่อาของอากิช่วยแนะนำให้ โดยระหว่างทางเดินไปนั้น บักแว่นกับแม่ก็คุยกันไปตลอดทาง ทั้งเรื่องห้องรมควันสำหรับทำเบคอนกับไส้กรอก ทั้งเรื่องขั้นตอนต่างๆ ของธุรกิจปศุสัตว์ตั้งแต่เลี้ยงยันส่งขายโรงงาน รวมถึงเรื่องอื่นๆ อีกมากมายที่ได้เรียนรู้ตลอดเวลาหนึ่งปีที่มาเรียนที่เอโสะโน โดยระหว่างนั้นเตี่ยบักแว่นแทบไม่ได้พูดอะเไรออกมาเลย เป็นแต่ก้าวพรวดๆ พลางฟังคำพูดที่บักแว่นคุยกับแม่อยู่เงียบๆ ไปพลางเท่านั้น


เดินไปได้พักหนึ่งก็มาถึงหอนอกที่อาของอากิช่วยหาให้ โดยอากิ อาของอากิ กับผู้ดูแลหอมารออยู่ก่อนล่วงหน้าแล้ว โดยหลังจากทำสัญญาเช่าหออย่างเป็นทางการเสร็จ เตี่ยบักแว่นก็พูดคุยพูดคุยทักทายกับผู้ดูแลหอกับอาของอากิตามธรรมเนียมอยู่ครู่หนึ่ง ก็ลากลับ โดยมีบักแว่นกับอากิเดินไปส่ง

ระหว่างเดินไปด้วยกัน อยู่ๆ เตี่ยบักแว่นก็พูดขึ้นมาว่าให้มีคนคอยดูแลเหมือนเวลาอยู่หอในแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่ขี้เกียจตามประสาคนอยู่หอนอกที่มีอิสระโน่นนี่ ทำเอาบักแว่นถึงกับบ่นอุบอิบ

จากนั้น เตี่ยก็เสไปถามเรื่องที่บักแว่นคิดจะเปิดกิจการว่ายังไม่เลิกล้มความคิดนั้นใช่มั้ย คราวนี้บักแว่นตอบอย่างหนักแน่นว่ายังไม่เลิกแน่นอน แต่พอโดนถามถึงความคืบหน้าของแผนงานก็ได้แต่ตอบแบบอ้อมแอ้มเหมือนเดิมว่ายังไม่ไปถึงไหนเลย (เพิ่งโดนทามาโกะโยนแผนงานที่แก้มาใหม่ลงถังไปด้วย) เลยโดนเตี่ยบ่นว่าใช้ไม่ได้เลยนะ คราวนี้บักแว่นเลยเงยหน้าขึ้นมองตาเตี่ยตรงๆ แล้วบอกว่า ถึงตอนนี้จะยังไม่ไปถึงไหน แต่อีกสองปีข้างหน้าเขาจะทำให้เป็นรูปเป็นร่างให้ได้แน่ เพราะงั้นขอให้รอดูได้เลย

ได้ยินดังนั้น เตี่ยก็สวนกลับทันควันว่า "แล้วจะแน่ใจได้ยังไงว่าที่พูดมาไม่ได้ดีแต่ปากเฉยๆ"

เจอสวนเข้าแบบนี้ บักแว่นก็ถึงกับพูดไม่ออกหมดทางต่อปากต่อคำ แต่ขณะกำลังจะเข้าตาจนนั้นเอง อากิที่ฟังเงียบๆ มาตลอดก็ทะลุกลางปล้องขึ้นทันควันว่าถ้าเป็นบักแว่นละก็ต้องทำได้แน่ๆ และเล่าให้เตี่ยฟังว่า ตัวเองนั้นเรียนอ่อนเกือบที่สุดในชั้นเรียน แต่ได้บักแว่นช่วยติวช่วยสอนให้จนผลการเรียนดีขึ้นถึงขนาดมีโอกาสสมัครโควต้าเข้ามหาวิทยาลัยได้

"หนูจะพิสูจน์ให้คุณลุงเห็นเองค่ะว่าฮะจิเค็นคุงไม่ใช่คนดีแต่ปาก ดังนั้น ได้โปรดเชื่อใจฮะจิเค็นคุงหน่อยเถอะค่ะ..."


การเผชิญหน้ากันครั้งแรกระหว่างว่าที่ลูกสะใภ้กับว่าที่พ่อสามี



...ถึงจะลงเอยก็โดนเตี่ยขู่จนหงอเหมือนกันก็เถอะ (แต่เอาเข้าจริงผมว่าเตี่ยแกแค่มองแบบพินิจพิเคราะห์เฉยๆ นา เท่)



คุยถึงตรงนี้ รถแท็กซี่ก็มาพอดี เตี่ยกับแม่บักแว่นเลยขึ้นรถแท็กซี่ไป โดยก่อนไป เตี่ยก็คาดโทษบักแว่นไว้ว่า ทำ 3 อย่างพร้อมกันแบบนี้ (ดูแลตัวเอง ติวให้อากิ วางแผนงานเปิดกิจการ) เกิดเหนื่อยจนน็อคไปอีกแบบคราวงานเทศกาลเอโสะโนละก็โดนดีแน่ ก่อนจะปิดประตูแท็กซี่แล้วบอกให้คนขับขับไปยังสถานีรถไฟ

ระหว่างนั่งอยู่ในรถแท็กซี่นั้นเอง แม่บักแว่นก็คุยกับเตี่ยทำนองว่าเข้มงวดกับบักแว่นจังเลยนะ ทั้งที่ตอนเข้าเอโสะโนทีแรกยังปล่อยไปเฉยๆ ไม่ยุ่งอะไรเลยแท้ๆ เตี่ยก็บอกว่า ที่ตัวเองทำแบบนั้นก็เพราะอ.ที่ปรึกษาของบักแว่นสมัยม.ต้นเป็นคนแนะนำมาต่างหาก (อ.ใส่แว่นที่โผล่มาตอนอบพิซซาจำได้มั้ย) ดังนั้นก็เลยตั้งใจจะดูเงียบๆ ไม่เข้าไปยุ่งสักพัก เพราะเชื่อในตัวอ.ที่ปรึกษาที่เคยเห็นเคยดูแลนักเรียนมามาก และทุกอย่างก็เป็นไปตามที่อ.ที่ปรึกษาคนก่อนแนะนำทุกอย่างจริงๆ

ภาพบักแว่นตอนขึ้นเสียงใส่ตัวเองอย่างไม่หวาดกลัวผิดกับเมื่อก่อนถึงสองครั้งลอยวูบขึ้นมาในหัวของเตี่ย พร้อมกับความคิดว่าตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะที่บักแว่นกล้าเถียงกล้าออกความเห็นกับตัวเองอย่างตรงไปตรงมาโดยไม่หลบสายตาแบบนั้น

"ในเมื่อมันเอาจริง ฉันก็ต้องตอบรับความตั้งใจจริงของมันด้วยความตั้งใจจริงเช่นกัน เรื่องมันก็เท่านั้นแหละ"




ตัดกลับมาทางฝั่งบักแว่นกับอากิ หลังส่งเตี่ยกับแม่ขึ้นแท็กซี่เสร็จ อากิก็ทรุดเข่าอ่อนอย่างหมดแรงต่อรังสีอำมหิตที่เตี่ยปล่อยใส่ ร้อนถึงบักแว่นต้องค่อยๆ ปลอบค่อยๆ ให้กำลังใจ พร้อมชวนไปหาอะไรกินเป็นการตอบแทนช็อกโกแลตที่อากิให้เมื่อตอนวาเลนไทน์ เนื่องจากวันนี้เป็นวันไวท์เดย์พอดี (ตรงกับวันที่ 14 มี.ค. เป็นวันที่ผู้ชายจะให้ของขวัญตอบแทนช็อกโกแลตที่ผู้หญิงให้ตอนวันวาเลนไทน์) พอดี

และนี่คือของตอบแทนวันไวท์เดย์ที่อากิจังเลือกมา...บุตะด้งสนามม้า




เลยเจอประดาแม่สื่อแม่ชักประจำหอหญิงทั้งหลายเฉ่งเอาตามระเบียบข้อหาไม่ยอมขออะไรให้มันโรมานซ์กว่านี้เป็นอันจบตอน หัวเราะ












อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกเหมือนเตี่ยเป็นพระเอกของตอนแทนบักแว่นยังไงไม่รู้แฮะ ยิ่งฉากตอนเดินเข้าไปในโรงเรียน แล้วประดานักเรียนโค้งสวัสดีกันเป็นแถบนี่ให้อารมณ์เหมือนหมีสีน้ำตาลฮอกไกโดเดินเทิ่งๆ เข้าไปกลางดงปศุสัตว์ยังไงยังงั้นเลยจริงๆ

ยังไงก็แล้วแต่ ตอนนี้เรียกว่าทำให้ได้เห็นอีกด้านหนึ่งของเตี่ยจากลักษณะเผินๆ ภายนอกที่เหมือนคนเย็นชาไม่มีหัวใจ สนแต่ว่าลูกขยันเรียนมั้ยอย่างเดียวแล้วขึ้นมาบ้างแล้วแฮะ ถึงภายนอกจะดูเข้มงวดไม่มีผ่อนปรนเหมือนเดิมก็เถอะ

เห็นแบบนี้แล้วชักอยากเห็นไอ้ที่แม่บักแว่นเคยบอกไว้ในหน้าแถมท้ายเล่ม 7 ว่า "ที่ตัดสินใจแต่งงานกับพ่อบักแว่นเพราะใบหน้าตอนยิ้มดูดี" ขึ้นมาจริงๆ แล้วสิ คาดว่าอ.วัวแกคงเก็บไว้เป็นไม้ตายให้คนทึ่งเล่นในช่วงหลังๆ เป็นแน่ อมยิ้ม15

แล้วพบกันใหม่ตอนหน้าครับ ยิ้ม


ปล. - อนึ่ง ในแง่หนึ่งอยากเห็นฉากนี้จริงๆ เลยพับผ่า

ฉาก "เดอะเตี่ย VS เดอะเตี่ย" ในจินตนาการของบักแว่นเนี่ย เค้าล้อเล่น

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่