เคยหาของอะไรไม่เจอ แล้วไปเจอในที่แปลกๆที่ไม่คิดว่ามันน่าจะอยู่หรือเปล่าคะ

กระทู้คำถาม
มาหาเพื่อนร่วมชะตากกรมค่ะ 555+

พอดีวันนี้จขกท.หาโทรศัพท์ไม่เจอ รู้นะว่ามันอยู่ในบ้านนี่แหละ
แต่ไม่รู้ว่าส่วนไหนของบ้าน หาจนเบื่อเลิกหาไปแล้ว
เลยเดินไปหยิบขนมทาน ดีใจน้ำตาแทบไหล เจอโทรศัพท์อยู่ในตู้เย็น
อยู่ในช่องฟรีซด้วย สงสัยวางลืมไว้ตอนหยิบช็อโกแลต อนาถใจ~ ไปหมดละสมงสมอง 555+
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 10
เคยหานาฬิกาข้อมือค่ะ ไม่รู้ไปถอดทิ้งไว้ที่ไหน
หาอยู่นานค่ะ ก็เลยอยากรูว่าตอนนี้กี่โมงแล้ว หาไปนานเท่าไรแล้ว เลยยกนาฬิกาที่ข้อมือขึ้นมาดู เอิ่มมมมมมมมมมม !!

อยู่นี่เอง หาตั้งนาน
ความคิดเห็นที่ 57
เคยเมาแบบสุดๆแล้ว ตื่นขึ้นมาอยู่ที่ค่ายทหารในเกาหลีเหนือ โดนโป๊ะยาแล้วลักพาตัวมา

สติสุดท้ายที่ทำได้คือพยามพาตัวเองหนีออกมาจากที่นั้นแล้ว โชคดีเจอ taxi เลยลองเสี่ยงเรียก taxi บอกไปสนามบิน

นั้งไปได้ 20นาที . . . . .เอ เกาหลีเหนือทำไมสองข้างทางมันมีป้ายบอกทางเป็นภาษาไทยฟระ ......แล้วโชเฟอร์แท๊กซี่ทำไมมันเหมือนคนไทยจังแถมพูดไทยได้ด้วยนะ
หลังจากเรียกสติกลับมาได้ เริ่มรู้ตัวว่า เมื่อคืน(4ทุ่ม-ตี1) โดนมอมแบบเมามาก จนเพื่อนขับรถมาให้ และเปิดโรงแรมและหิ้วขึ้นไปนอนให้
ด้วยความเมาสุดๆ+ดูหนังมากไป+ฝัน เลยมโน ไปว่าตอนนี้ถูกสายลับลักพาตัวมาที่ค่ายทหารในประเทศเกาหลีเหนือ (คือโรงแรมน่ะแหละ)

พอรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา(โลกหมุนมากๆ)ก็พยามจะหนีออกมาหาทางกลับประเทศไทย เดินออกจากห้องในโรงแรม กดลิฟท์ คิดดูว่าขนาดตอนอยู่ในลิฟท์เจอป้ายภาษาไทย สมองยังคิดไม่ออกเลยว่านี้คือโรงแรมนะเฟ้ย ยังมโนไปเราว่าต้องหนีกลับประเทศให้ได้

วิ่งออกมาริมถนน(ถนนรัชดา)แถมเรียก taxi ไทยอีก ตอนนั้นก็ยังไม่ได้สติ ดันบอกโชเฟอร์ไปว่า ไปสนามบินที่ไกลที่สุด ไปเลยพี่ พี่เค้าก็ขับไปที่สุวรรณภูมิ
พอขับไปได้สักพัก10-15นาทีผ่านไป เออ เริ่มได้สติ. . . . . . เอ ป้ายบอกทางทำไมมันเป็นป้ายภาษาไทยฟระ ทำไมร้านข้างทางมันมีภาษาไทยด้วย เริ่มคุ้นๆทาง สมอฝเริ่มกลับมาทำงาน

เลยถามคำถามที่คิดว่าโง่ที่สุดในชีวิตไป พี่ครับ..พี่ . ที่ ที่ ที่นี้ประเทศไทยใช่ไม้เนี้ย !!!!
เต่าเอือมเต่าเอือมเต่าเอือมเต่าเอือมเต่าเอือม

พอได้สติกลับมา หายเพ้อแล้ว เลยบอกให้พี่แท๊กซี่ช่วยขับกลับไปที่โรงแรมที่เดิม(จำไม่ได้ด้วยมาจากตรงไหน) ถึงรู้ว่าอ่อ ที่มโนไปว่าไอ้ค่ายทหารเกาหลีมันจริงๆมันคือโรงแรมนี้เอง

FacepalmFacepalmFacepalmFacepalmFacepalm

แต่ว่า เรื่องมันยังไม่จบตรงที่ว่ากลับไปนอนต่อที่ห้อง พอตื่นมาสายๆเช็คเอ้าท์ โอเคเริ่มสร่างเมาล๊ะ แต่...เอ๊ะ รถ รถ เราหายไปไหนหว่า จำได้ว่าเมื่อคืนไปร้องคาราโอเกะแถวถนนนวมินท์นิน่า สงสัยเมาแล้วทิ้วรถไว้ที่ร้าน เลยนั่ง taxi จากรัชดาไปนวมินท์พอไปถึง....



ไม่มี รถหาย หาไม่เจอ คราวนี่ผมเหวอสุดๆ เฮ้ยยย รถทั้งคัน หายไปไหนฟระเนี้ย ที่จอดรถก็ไม่มีรถเหลืออยู่เลยเป็นลานกว้างๆ ไม่มีรถเหลืออยู่เลยสักคัน
จนต้องวิ่งเข้าไปถามที่ร้านคาราโอเกะเมื่อคืนว่าเห็นรถสีนี้จอดแถวนี้ไม้ครับ
สรุปทั้งยามทั้งเด็กเฝ้าร้านไม่มีใครจำได้เลย แถมมือถือตอนนั้นแบตก็หมดตั้งแต่เมื่อคืน เลยมโนไปใหญ่ว่าอาจจะทำกุญแจหล่นไว้ แล้วมีคนเก็บได้ขับรถออกไปแล้วด้วย

เม่าตกใจเม่าตกใจเม่าตกใจเม่าตกใจเม่าตกใจ

จนต้องวิ่งไปขอที่ชารต์ BB กับคนแถวนั้น จนเปิดมือถือได้แล้วค่อยโทรถามเพื่อนเมื่อคืน


สุดท้ายถึงรู้ว่าเพื่อนเลยขับรถผมมาส่งที่โรงแรม ส่วนรถก็จอดอยู่ที่จอดรถใต้ถุนโรงแรมนั้นแหละ -   -'
เม่าเป็นลมเม่าเป็นลมเม่าเป็นลมเม่าเป็นลมเม่าเป็นลม
ส่วนกุญแจรถ เพื่อนก็เก็บไว้ในลิ้นชักหน้ารถ (ส่วนตัวรถไม่ได้ล๊อค)

เออออ....
นี้คงเป็นการลืมของที่เหวอที่สุดเท่าที่จำได้แล้วมั้งนะครับ ถึงผ่านมา5ปีแล้วก็ยังจำได้อยู่เลย -  -'
ความคิดเห็นที่ 7
โทรศัพท์ไม่ค่อยเคยที่แปลกๆ แต่แว่นตานี้ตลอด
ชอบถามหาแว่น อยู่ไหน หาเป็นครึ่งวัน เอาไปเสยผมอยู่บนหัว หง่าวมาก
ความคิดเห็นที่ 13
เคยครับ แต่ไม่ใช่โทรศัพท์นะ
ตอนมัธยมต้นมีปากกาอยู่แท่งนึงรักมากๆ พกติดตัวประจำ จู่ๆ วันนึงก็หายไปแบบไร้ร่องรอย
ด้วยความที่เป็นคนไม่ค่อยทำของหาย หรือถ้าของคลาดสายตาไปก็จะนึกย้อนไปว่าครั้งสุดท้ายเอาไปใช้ที่ไหน เมื่อไหร่
แต่ครั้งนี้นึกยังไงๆ ก็นึกไม่ออก ภาพสุดท้ายที่สัมผัสปากกามันขาดห้วงไป
เสียดายมาก ค้นหาทั้งบ้านก็ไม่เจอ แทบเรียกว่าจัดห้องกันใหม่เลยล่ะ สุดท้ายท้อละ ยอม!!
.
.
.
.
.
และแล้ววันนึงก็มีความหวังขึ้นอีกครั้ง น้าคนรู้จักที่ไปมาหาสู่กับที่บ้านบ่อยครั้ง ชื่อ "น้าตุ่น"
น้าตุ่นมักจะสวมชุดขาวเสมอ ถือศีล ไปวัด ตามประสาคนวัยกลางคน ก็เลยเปรยๆ เรื่องปากกาให้แกฟัง
พอน้าแกได้ยินเท่านั้น กุลีกุจอปูผ้าขาว สับไพ่ ตั้งวง เอ้ยย ทำพิธีเสี่ยงทายให้เลย บอกเดี๋ยวถามครูอาจารย์ให้
สุดท้ายได้คำตอบว่า "ของที่หายๆ ภายนอกเคหสถาน มีโอกาสได้คืนภายใน 7-10 วัน"
10 วันผ่านไป เป็น 20 วัน เป็นเดือน จนกระทั่งลืมเรื่องนี้ไปสนิท
.
.
.
.
.
.
.
.
.
พอตอนมัธยมหกต้องย้ายบ้าน ระหว่างที่เลื่อนหัวเตียงออกเพื่อย้ายไปบ้านใหม่
ปรากฏว่าปากกาสุดรักนอนแน่นิ่งสีมอมๆ อยู่ซอกข้างหัวเตียง. . . . . .น้าตุ่น!!!!
FacepalmFacepalmFacepalm
ความคิดเห็นที่ 87
อันนี้เป็นเรื่องจริงประสบกับตัวค่ะ  แต่ไม่ใช่เราที่ลืม
วันนั้นขึ้นรถเมล์  สายที่ขึ้นเป็นสายต้นทาง  มีเรากับเพื่อนนั่งมากันอยู่สองคน
รถก็เคลื่อนออก  ไปถึงกลางสะพานแล้ว  ก็ยังไม่มีใครมาเก็บเงิน
เราเลยถามลุงคนขับรถเมล์ว่า
เรา :   ลุงแล้วกระเป๋ารถเมล์ไปไหนอ่า
คนขับรถนิ่งชะงักไปซักพัก ก็ร้องขึ้นมาอย่างดัง
คนขับรถเมล์ : เม่าตกใจ อ้าว!!!! เชี่ย!!! ชิบหาบแล้วกูลืมคนเก็บตังค์ไว้ป้ายที่แล้ว
เรา :      ==''
แล้วทันใดนั้นลุงก็รีบลนลานเตรียมจอดรถ
เรา :      อ้าว ลุงจะจอดรถทำไม
คนขับรถเมล์ :     ก็จอดรอเป๋าตังค์ให้ให้มันเดินมาขึ้นรถไง
เรา :     เอิ่ม....แต่...ลุงนี้มันกลางสะพานเลยนะ  จอดรอป้ายหน้าดีกว่ามั๊ยลุง ==
คนขับรถเมล์ :    เออใช่ๆๆ
แล้วรถก็ไปจอดรอกระเป๋ารถเมล์ป้ายต่อไป   ป้ากระเป๋ารถเมล์แกก็นั่งรถเมล์คันอื่น  มาขึ้นรถตัวเอง  
พอเดินขึ้นรถเมล์คันของตัวเองเท่านั้นแหละ สงครามก็เกิด
ป้ากระเป๋ารถเมล์ :     หน็อย !!!! ไอ้แก่  กูบอกแล้วใช่มั๊ยว่ากูจะลงไปซื้อเป๊ปซี่  หันมาก็ไปแล้ว  กล้าลืมกูหรอฮ่ะ#$@$%#@

ปล. ไม่เกี่ยวกับเรื่องหาของแต่อย่างใด  แค่อยากเล่าให้ฟัง อิอิ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่