จากมติชน
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1389008436&grpid=03&catid&subcatid
เนื้อหาสำคัญคือ
"ผมคิดว่าผิดถนัดที่หลายองค์กรมองวิกฤตครั้งนี้ เป็นเพียงความขัดแย้งระหว่างกลุ่มการเมืองต่างกลุ่มเหมือนที่ผ่านมา การเสนอตัวเป็น "คนกลาง" เพื่อให้เกิดการเจรจาระหว่างอาชญากรและรัฐ เป็นการเสนอตัวที่หลงประเด็น เพราะรัฐหรือผู้ถืออำนาจรัฐแทนปวงชนชาวไทย ไม่มีอำนาจที่จะรอมชอมกับอาชญากรให้ละเมิดกฎหมายได้ตามใจชอบเช่นนี้ ทั้งกฎหมายและรัฐไม่ใช่สมบัติส่วนตัวของนายกรัฐมนตรี ที่จะเอาไปยื่นให้แก่ใครเพื่อยุติความขัดแย้งได้ เช่นหาก ครม.ทั้งคณะยอมลาออก นอกจากละเมิดรัฐธรรมนูญซึ่งกำหนดให้ต้องทำหน้าที่จนกว่าจะมี ครม.ชุดใหม่แล้ว ยังเท่ากับยกประเทศไทยให้แก่อันธพาลการเมือง หักหลังประชาชนส่วนใหญ่ซึ่งไม่ได้ให้อำนาจนั้นแก่นายกรัฐมนตรี"
และกับทหาร
"รวมทั้งออกคำสั่งให้กองทัพส่งกำลังอีกมาก มาเป็นผู้ช่วยตำรวจในการปฏิบัติหน้าที่ ต้องไม่อนุญาตให้กองทัพปฏิบัติงานโดยลำพัง เพราะกองทัพไม่มีสมรรถภาพในการควบคุมฝูงชน เขาไม่ใช่หน่วยงานที่มีภาระหน้าที่เช่นนี้ จึงไม่ถูกฝึกให้ทำเป็น สมรรถภาพของกองทัพอยู่ที่การทำลายล้างฝ่ายตรงข้ามอย่างเฉียบพลันรุนแรง จึงไม่เหมาะที่จะปฏิบัติงานเช่นนี้ได้ จำเป็นต้องอยู่ในบังคับบัญชาฝ่ายตำรวจ (เรื่องนี้ "เล็งเห็นผล" ได้ หากไม่โง่หรือโหดเหี้ยมจนเกินไป)"
อ.นิธิ เอียวศรีวงศ์ ซัด กปปส. คือ อันธพาลการเมือง และทหารให้ประชันหน้ากับฝูงชนโดยลำพังไม่ได้
เนื้อหาสำคัญคือ
"ผมคิดว่าผิดถนัดที่หลายองค์กรมองวิกฤตครั้งนี้ เป็นเพียงความขัดแย้งระหว่างกลุ่มการเมืองต่างกลุ่มเหมือนที่ผ่านมา การเสนอตัวเป็น "คนกลาง" เพื่อให้เกิดการเจรจาระหว่างอาชญากรและรัฐ เป็นการเสนอตัวที่หลงประเด็น เพราะรัฐหรือผู้ถืออำนาจรัฐแทนปวงชนชาวไทย ไม่มีอำนาจที่จะรอมชอมกับอาชญากรให้ละเมิดกฎหมายได้ตามใจชอบเช่นนี้ ทั้งกฎหมายและรัฐไม่ใช่สมบัติส่วนตัวของนายกรัฐมนตรี ที่จะเอาไปยื่นให้แก่ใครเพื่อยุติความขัดแย้งได้ เช่นหาก ครม.ทั้งคณะยอมลาออก นอกจากละเมิดรัฐธรรมนูญซึ่งกำหนดให้ต้องทำหน้าที่จนกว่าจะมี ครม.ชุดใหม่แล้ว ยังเท่ากับยกประเทศไทยให้แก่อันธพาลการเมือง หักหลังประชาชนส่วนใหญ่ซึ่งไม่ได้ให้อำนาจนั้นแก่นายกรัฐมนตรี"
และกับทหาร
"รวมทั้งออกคำสั่งให้กองทัพส่งกำลังอีกมาก มาเป็นผู้ช่วยตำรวจในการปฏิบัติหน้าที่ ต้องไม่อนุญาตให้กองทัพปฏิบัติงานโดยลำพัง เพราะกองทัพไม่มีสมรรถภาพในการควบคุมฝูงชน เขาไม่ใช่หน่วยงานที่มีภาระหน้าที่เช่นนี้ จึงไม่ถูกฝึกให้ทำเป็น สมรรถภาพของกองทัพอยู่ที่การทำลายล้างฝ่ายตรงข้ามอย่างเฉียบพลันรุนแรง จึงไม่เหมาะที่จะปฏิบัติงานเช่นนี้ได้ จำเป็นต้องอยู่ในบังคับบัญชาฝ่ายตำรวจ (เรื่องนี้ "เล็งเห็นผล" ได้ หากไม่โง่หรือโหดเหี้ยมจนเกินไป)"