เอกลักษณ์การทำธุรกิจของแสนฯ?

ผมอยากแชร์สิ่งที่ประสบ แน่นอนเป็นทัศนคติของผม ผมเขียนข้อความนี้ไว้ในเว็บประกาศดอทคอมครับ

********* โพสไว้เมื่อวันที่ 22 กย. 56

ผมเป็นคนหนึ่งที่ลงทุนในอสังหาฯ สั้นบ้างยาวบ้างแล้วแต่ความคุ้มค่าในการลงทุน ครั้งแรกที่มาถือคอนโดในเครือแสนสิริ ดีคอนโด สาธุประดิษฐ์49 พอถามเรื่องโอนกรรมสิทธิ์สัญญา แสนสิริบอกจะเก็บ 3,000 บาท เงินไม่ได้เยอะครับ แต่ขัดใจอยู่ สงสัยว่า ค่าธรรมเนียมตรงนี้กฏหมายเค้าบอกว่าไม่มีตั้งนานแล้วไม่ใช่หรือ

อ้างอิงจากสัญญา ส่วนหนึ่งของสัญญาระบุแบบนี้นะครับ

ข้อ 4. การชำระเงินและการโอนกรรมสิทธิ์
.
.
.
.
ข้อย่อย 4.5
" ในระหว่างที่สัญญานี้มีผลใช้บังคับ ผู้จะซื้อมีสิทธิโอนสิทธิตามสัญญานี้ให้บุคคลอื่นโดยบอกกล่าวเป็นหนังสือให้ผู้จะขาย โดยผู้จะขายตกลงจะไม่เรียกร้องค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ผู้จะขายต้องจัดให้ผู้รับโอนไปซึ่งสิทธิและหน้าที่"

ผมคุยกับเซลล์ที่ดูแลสัญญาห้องผมเพิ่มเติม ผมแจ้งว่าทางกฏหมายบอกไว้ชัดเจนเรื่องการโอนกรรมสิทธิ์คอนโดไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมใดๆ ถ้าเป็นลุมพินี APหรือLH ไม่มีใครเก็บค่าใช้จ่ายแบบนี้ ซึ่งระดับราคาคอนโด ก็มีทั้งต่ำกว่าและสูงกว่าดีคอนโด เรืองราคาคอนโดจึงไม่น่าเกี่ยวข้อง

เซลล์ตอบกลับมาว่า คนอื่นก็จ่ายกันทั้งนั้น ก่อนจะอธิบายเพิ่ม นี่ไม่ใช่ค่าโอนกรรมสิทธิ์แต่เป็นค่าจัดทำเอกสาร ผู้จะซื้อ (หมายถึงผมเอง) ต้องจ้าง “บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด” จัดทำสัญญา อ้อ..มีแบบนี้ด้วย

จริงๆเงินค่าทำเอกสารไม่ได้เยอะหรอกครับ แต่เสียความรู้สึกมากกว่าที่บริษัทใช้วิธีแบบนี้

ผมยืนยันว่า เป็นสิ่งที่แย่มากและไม่มีใครทำน่าเกลียดแบบนี้ มาตรฐานและการบริการจากบริษัทอื่นดีกว่านี้มาก ถ้าบริษัทบอกผมว่าค่าจัดทำเอกสาร 4 พันหรือ 5 พัน หรือ 6 พัน หรือ หนึ่งหมื่น ไม่รู้ผมต้องยอมรับไปโดยปริยายด้วยรึเปล่า เพราะไม่ได้บ่งอะไรเลยเกี่ยวกับส่วนนี้ไว้ในสัญญา ลองถามจากผู้ถือรายอื่นดูก็ได้

เซลล์หายกลับไปปรึกษาหัวหน้าครู่นึงแล้วกลับมาแจ้งผมว่า ผมมีสิทธิโอนกรรมสิทธิ์ตามกฏหมาย แต่เรื่องเอกสารผมต้องเตรียมเอง แล้วบริษัทจะเซ็นให้ เซลล์ท่านนั้นยังสามารถส่งตัวอย่างหนังสือที่เป็นต้นแบบให้ผมได้

ผมลองนึกดูว่าถ้าผมได้ต้นแบบมา แล้วผมมานั่งพิมพ์เอง เรียบเรียงจัดโน้นนึ่ใหม่หรือไม่ก็พิมพ์ให้เหมือนกันไปเลย พิมพ์ออกมาแล้วเซ็นและส่งให้บริษัทเซ็น ผมก็จะประหยัดสามพันบาท คุณว่ามันตลกมั้ยล่ะ ทำไมผมต้องลำบากขนาดนั้น ทั้งๆที่บริษัทฯสามารถอำนวยความสะดวกให้ผมได้ดีกว่านี้มาก

ผมเห็นเพื่อนหลายคนขายดาวน์โดยบอกราคาที่อยากขายและมีวงเล็บชี้แจ้งค่าโน้นนี่ หนึ่งในนั้นมีค่าโอนกรรมสิทธิ์ด้วย ผมก็คิดว่าบริษัทก็คงประสบความสำเร็จในการใช้วิธีน่าเกลียดแบบนี้ไปกับหลายคนแล้วล่ะ ผมยังไม่เห็นมีใครเขียนว่า "ค่าจัดทำเอกสาร" แม้แต่คนเดียว

ลองย้อนขึ้นไปดูในข้อสัญญาด้านบนดีๆนะครับ บ่งไว้ชัด "ผู้จะขายต้องจัดให้" เขียนไว้ดูดีมาก แต่ความเป็นจริงบริษัทแค่พยายามทำยังไงก็ได้ให้เอาเงินเข้าไปจองก่อน แล้วจากนั้นจะทำยังไงก็ค่อยว่ากัน แบบให้ประสบการณ์การลงทุนกับนักลงทุนที่ไม่ดีเลย ผมถึงบอกเสียความรู้สึกไง เหมือนโดนเอาเปรียบ ขนาดกฏหมายก็มีบอกไว้แล้วยังอุตส่าห์หาทางเลี่ยงจนได้

ผมเห็นข่าวเรื่องโฟมในกำแพงที่ผ่านมา บ่องตงไม่แปลกใจครับ เหมือนมันเป็นลักษณะนิสัยการทำธุรกิจของเค้ารึเปล่า แบบนี้แล้วผมจะไว้ใจได้ยังไงว่าผมจะได้รับการบริการ การบริหารและจัดการหลังการขายที่ดีเมื่อซื้อของจากบริษัทหรือตัวแทนของบริษัท กับเรื่องเล็กๆพวกนี้คุณยังทำแบบนี้เลย หรือเพราะเรื่องเล็กทางบริษัทจึงไม่ใส่ใจ

********* โพสไว้เมื่อวันที่ 1 มค. 57

ตอนที่ไปจองไว้เมื่อซักปีกว่าๆนั้น ผมจองห้องหนึ่งแฟนจองอีกห้องนึง เราจอง ทำสัญญา ผ่อนดาวน์แบบเป็นลูกค้าที่ดีเสมอมา ในสัญญาระบุว่าแสนฯจะส่งมอบคอนโดสร้างเสร็จไม่เกิน 27 ธ.ค. 56 แต่สร้างคอนโดสร้างเสร็จก่อน ก็เลยส่งหนังสือแจ้งให้มาโอน ถ้ายังไม่โอนก็ส่งจดหมายแจ้งเตือน เพื่อไล่บี้ยึดเงินจอง เงินทำสัญญาและเงินดาวน์ทั้งหมด

ช่วงที่ทางคอนโดแจ้งให้ไปตรวจรับห้อง ผมเข้าไปตรวจห้องก็ชี้จุดที่ Defect ตามปกติ หนึ่งสัปดาห์ให้หลัง ผมกับแฟนก็ไปตรวจห้องอีกครั้ง มีเซลล์คนหนึ่งติดตามไปที่ห้องด้วย ขณะที่เราตรวจห้องยังมีจุดที่ไม่เรียบร้อย ได้มีการเรืยกช่าง เข้ามาปรับโน้นแก้ไขนี่ตามที่เราร้องขอ เซลล์ก็คุยเล่นกับช่างสนุกสนาน บังเอิญแฟนผมเปิดประตูห้องครัวทางที่จะออกไปเฉลียงซึ่งเป็นบานเฟี๊ยมคือบานประตูมันเกยกันอยู่ทำให้เปิดออกนิดนึงแล้วมันดีดกลับงับนิ้วแฟนผม ธรรมชาติของคน แฟนผมดึงนิ้วกลับ โชคดีนิ้วไม่ขาด แต่ปรากฏเป็นแผลยาว เลือดไหลเป็นทาง ผมตกใจ รีบให้แฟนล้างแผลก่อนที่ตรงอ่างล้างชาม เซลล์ที่มาด้วยยืนตรงประตูส่วนห้องสตูดิโอยังเฉย คุยเล่นกับช่างต่อไปเหมือนไม่มีอะไร ผมแปลกใจมาก สงสัยไม่เห็นรึเปล่า คนประสบอุบัติเหตุมีเสียงอุทานออกจะดัง มัวคุยเล่นกับช่างไปเรื่อย ผมและแฟนเดินออกจากประตูห้องด้วยความไม่พอใจ เซลล์เดินตามมา อ้อ! เพิ่งรู้ว่าคุณรับรู้ด้วยว่าลูกค้าได้รับอุบัติเหตุบาดเจ็บขณะตรวจรับห้อง

ผมเดินไปที่โต๊ะที่เช็คชื่อลูกค้าที่มาตรวจรับห้องที่ทางแสนสิริตั้งไว้ ถามเจ้าหน้าที่ว่าพอมีพลาสเตอร์ยาหรือเปล่า เจ้าหน้าที่กลุ่มเล็กๆหลายคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะรีบสอบถามถึงเหตุการณ์ด้วยท่าทีกระตือรือร้น เซลล์ที่คุยเล่นกับช่างเดินไปนิติฯแล้ว เดินมาบอกว่าที่นิติฯไม่ได้ซื้อพลาสเตอร์ไว้หรือแก้ตัวอะไรซักอย่างนึง ซึ่งผมไม่ได้พูดอะไรตอบและถามเจ้าหน้าที่ทั้งหมดว่า ผมขอคุยกับหัวหน้าของพวกคุณหน่อย ทุกคนกลับชี้ไปที่เซลล์ที่พาผมกับแฟนไปดูห้องนั่นแหละว่าตอนนี้คนนี้แหละใหญ่ที่สุดแล้ว นี่พนักงานระดับสูงแล้วเหรอ ระดับการบริการเป็นแบบนี้ ผมรู้สึกว่าพนักงานตัวเล็กๆที่สอบถามว่าเกิดอะไรขึ้นที่โต๊ะยังใส่ใจลูกค้ามากกว่าเซลล์ช่างจ้อที่พอผมไปตรวจสภาพห้อง และเท่าที่ดูแสนฯคงไม่ได้ใช้ความสามารถในการวัดตำแหน่งของงานเป็นแน่ ผมขอเบอร์ชื่อและเบอร์ติดต่อหัวหน้าที่สูงกว่านี้เพื่อโทรคุย พนักงานปรึกษากันเบาๆและพูดกันว่าก็ต้องเป็นพี่ศรีวิรัช ตอนนี้อยู่หัวหินอะไรประมาณนี้ ซุบซิบๆ ผมได้เบอร์คุณศรีวิรัช ผมก็โทรครับ โทรติดต่อทันทีตั้งแต่วันเสาร์ที่เข้าไปดูห้อง โทรไป 2 ครั้ง ไม่มีคนรับสาย ส่งข้อความไปอีกว่า “กรุณาติดต่อกลับลูกค้า” ก็ไม่ได้รับการติดต่อกลับ

วันจันทร์ทางแสนฯส่งเจ้าหน้าที่ชื่อคุณกฤติกาโทรกลับทางผมคลี่คลายเรื่องต่างๆ บอกแจ้งว่า ผมติดต่อคุณศรีวิรัชแต่ไม่ได้รับการติดต่อกลับ คุณกฤติการแจ้งว่าศรีวิรัชอยู่ต่างประเทศ ผมก็นึกในใจว่า ผมเพิ่งทราบว่าหัวหินคือต่างประเทศ แต่ไม่ได้ติดใจอะไร ผมตำหนิเจ้าหน้าที่ของแสนฯผ่านทางคุณกฤติการเรื่องความมีมนุษยธรรมของคนสู่คน เค้าเป็นเจ้าหน้าที่ประเภทไหนกันที่เห็นคนบาดเจ็บต่อหน้าต่อตาแล้วทำเฉย จิตใจทำด้วยอะไร นึ่ไม่นับนะว่าเป็นลูกค้า สรุปคือ คุณกฤติกาจะทำหนังสือขอโทษถึงผม แล้วเปลี่ยนเซลล์คนที่ดูแลห้องผมกับแฟนให้เป็นเซลล์ nn ตรงนี้เป็นข้อผิดพลาดของผมเรื่องหนึ่งที่ไม่ได้เก็บเบอร์คุณศรีวิรัชไว้

กลับมาที่หนังสือแจ้งเตือนเพื่อบอกเลิกสัญญา ให้โอนภายในวันศุกร์ที่ 13 ธันวาคม 2556 คนที่ลงนามเอกสารคือ “คุณศรีวิรัช หินแข็งแกร่ง” ผู้อำนวยการฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ ท้ายจดหมายยังระบุ หากต้องการติดต่อเพื่อโอนห้อง ให้ติดต่อ “คุณสิริญา สาลีสี” เซลล์ไร้มนุษยธรรมคนที่พาผมกับแฟนตรวจห้องคนนั้นไง

ตอนนั้นผมถือ 1 ห้อง ตึก B และแฟนผมจองตึก A คนละห้อง วันพฤหัสบดีที่ 12 ธค.56 เป็นความโชคดีแบบทุลักทุเลที่มีคนที่เคยมาดูห้องตัดสินใจติดต่อเข้ามา สนใจจะซื้อดาวน์ต่อจากผมที่ตึก B แต่จำได้ใช่มั้ยครับ ตามจม.ที่แสนฯอ้าง หลังจากวันศุกร์ที่ 13 ทางแสนฯจะบอกเลิกสัญญา แปลว่าห้องจะไม่ใช่ของผมอีกต่อไป แต่ในสัญญาระบุไว้ว่าแสนฯจะส่งมอบคอนโดให้ผมอย่างช้าที่สุดวันศุกร์ที่ 27 ธค. 56 ผมคิดว่าน่าจะคุยกันได้เพราะเวลาก็เหลือๆนี่ครับ ผมคุยกับลูกค้ารายใหม่ในวันพฤหัสที่ 12 นั้นเองว่าเงื่อนไขในสัญญาและจม.จากแสนฯเป็นดังที่ผมได้ทราบ พร้อมกันนั้นก็โทรไปถามคุณกฤติกาว่าถ้าเป็นวันเสาร์ที่ 14 จะได้มั้ย เพราะจะสะดวกกับทุกคนไม่กระชั้นชิดเกินไป แล้วอย่างที่บอกคือ วันไม่ได้ต่างอะไรกันมาก แล้วเวลาในกรอบที่ทางแสนฯวางไว้ก็ยาวไปจนถึงสิ้นปี ปรากฏว่าคำตอบจากคุณกฤติกาคือ “ไม่ได้” แค่ขยับวันเดียวนะครับ ตามกรอบเวลาที่แสนฯเองก็เผื่อไว้แล้ว ผมเลยต้องแจ้งทางลูกค้ารายใหม่เพิ่มว่าถ้าตัดสินใจยังไง รบกวนต้องเป็นวันศุกร์ที่ 13 ธค. 56

วันศุกร์ที่ 13 ลูกค้ารายใหม่โทรมาแจ้งว่าสนใจจะซื้อต่อจากผม ผมจึงโทรแจ้งคุณกฤติกาถึงความประสงค์ ทางคุณกฤติกา รับเรื่องประสานงานต่อ ซักพักคุณกฤติกาโทรกลับมาแจ้งว่า ทำเรื่องเปลี่ยนชื่อวันนี้ไม่ได้ เพราะต้องให้ลูกค้ารายใหม่ทำเรื่องผ่านแบงค์ก่อนแล้วผมรอไปเปลี่ยนชื่อให้เป็นชื่อลูกค้ารายใหม่ที่กรมที่ดิน แสนฯจะช่วยประสานงานกับทางธนาคารให้ลูกค้ารายใหม่

ผมก็งงว่ายังไง ทำไมทำเรื่องเปลี่ยนชื่อไม่ได้ ผมยังไม่ได้โอนแล้วทำไมต้องให้ผมไปกรมที่ดินจะโอนเป็นชื่อผมก่อนหรือ แต่เรื่องของเรื่องคือ สิทธิการเปลี่ยนชื่อและสิทธิการโอนห้องตอนนี้แสนฯมองว่ามันต้องไปด้วยกัน ถ้าจะเปลี่ยนชื่อก็ต้องโอนไปพร้อมๆกัน ผมกลับมองว่า คุณก็ทำเรื่องเปลี่ยนชื่อไปตามปกติและคุณก็ตามการโอนกับลูกค้าใหม่ไป คุณจะดึงผมไปถึงตอนลูกค้ารายใหม่โอนทำไม แล้วอีกอย่างก่อนหน้านี้คุณกฤติกาเองยืนยันนักหนากับผมว่า ถ้าจะโอนสิทธิ์ ต้องภายในวันที่ 13 ธค. 56 เท่านั้น ตรงนี้ชัดเจนอยู่แล้วว่า กรรมสิทธิ์ห้องนี้จะเป็นของผมแค่วันศุกร์ที่ 13 ธค.56 ผมก็เชิญเค้ามาวันที่ 13 ธค.แล้วไง ถ้าแสนฯจะยืดให้ผมไปโอนตอนลูกค้ารายใหม่กู้ผ่านแล้วตอนนั้นมันวันที่เท่าไหร่แล้ว แล้วทำไมกรณีนี้คุณยอมให้ยืดวันออกไปได้ล่ะ? แปลว่าอะไรที่เป็นประโยชน์กับทางแสนฯสามารถทำได้ อะไรไม่เป็นประโยชน์ทำไม่ได้หรือเปล่า ผมคุยเรื่องนี้อยู่กับคุณกฤติกาอยู่หลายชั่วโมง เน้นว่าหลายชั่วโมง จนผมบอกว่าขอคุยกับคุณศรีวิรัช คุณกฤติกาเลยขอโทรกลับ แล้วแกกลับมาบอกว่าได้ปรึกษากับทางผู้ใหญ่แล้ว สามารถเปลี่ยนชื่อวันศุกร์ได้ แล้วแสนฯจะไปตามเรื่องโอนกับลูกค้ารายใหม่เอง โดยให้เซลล์ nn ที่ส่งมาใหม่เป็นผู้ประสานงานต่อ แต่ค่าจัดเตรียมเอกสารขออนุญาตเก็บค่าธรรมเนียมตามฟอร์ม นี่ขนาดผมคุยกับเซลล์ก่อนหน้านี้แล้ว แต่ครั้งนี้มาแบบ ยังไงก็ไม่ให้ทางผมเตรียมเอกสารเองเลย คุยกันจนเพลียอ่ะครับ

ดูเหมือนว่าจะจบด้วยดี แต่ก็มีบททดสอบอีก ลูกค้ารายใหม่บอกอยากทำเรื่องวันเสาร์จะให้ให้คุณแม่ช่วยดูความเรียบร้อยแล้วก็จะได้ไม่ต้องทำเร่งๆรีบๆ ผมแจ้งคุณกฤติกาผ่านเซลล์ nn ไปว่าลูกค้าเลื่อนขยับ 1 วัน คิดว่าไม่น่ามีปัญหาเพราะคุยกันจบแล้ว แต่ก็มีเรื่องให้ประหลาดใจอีก คำตอบคือ “ไม่ได้” คุณกฤติกาอ้างรับอำนาจและปรึกษาทุกอย่างมาจากคุณศรีวิรัชและคุณศรีวิรัชก็รับทราบเรื่องทั้งหมดแล้ว เห็นตรงกันว่ายังไงก็ต้องวันศุกร์ จะให้ไปหาที่ทำงาน ที่บ้านของลูกค้ารายใหม่ ดึกดื่นเที่ยงคืนก็จะรอ ฟังดูป่วยๆยังไงไม่รู้ ลงเอยเรื่องนี้ ผม ลูกค้ารายใหม่กับเซลล์ nn นัดเจอกันที่โครงการตอน 18.00น. ทุกคนมาสายหมดมาเจอกัน 19.00น. จบเคสด้วยหน้าเป็นเครื่องหมายคำถามกันทั้งทางผม ทั้งลูกค้ารายใหม่ มาตรฐานการบริการระดับเทพ?

กรณีนี้บริบทแบบนี้แสนฯกับความเป็นกันเองกับลูกค้านี่แย่นะ อ้างอิงตามกรอบเวลาที่แสนฯขีดไว้นี่ถือว่าทำเกินไปรึเปล่า ทำแบบนี้จะไม่ให้เข้าใจว่าบริษัทตั้งหน้าตั้งตาไล่บี้ยึดเงินจอง เงินทำสัญญา เงินดาวน์อย่างเดียวได้ยังไง

อีกห้องนึงที่แฟนผมเค้าจองไว้ เค้ายื่นแบงก์ไม่ผ่าน บางคนแนะให้ทำเอกสารและส่งหลักฐานให้ทางโครงการและหลักฐาน แฟนผมก็ส่งเอกสารขอยกเลิก หลักฐานจากแบงก์ไปให้แสนฯ นะครับ ก็ไม่แปลกใจคือ แสนฯไม่สนใจ ถ้าอยากได้เงินคืนจากแสนฯก็ไปฟ้องเอา

ที่ผ่านมาแสนฯ นอกจากส่งงานไม่ได้มาตรฐานอย่างในหลายข่าวที่ผ่านมา คอนโดวันต้องยุบแบรน บริการหลังการขายซ่อมแล้วซ่อมอีกไม่หายในหลายโครงการที่ผมเคยอ่านในกระทู้อื่น กรณีนี้เจอกับตัวเองเรื่องความไม่เป็นกันเองกับลูกค้า ตรงนี้ชัดเจนมาก ผมขอลาละกันครับอสังหาฯทั้งหมดในเครือแสน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่