ตามนั้นครับ
หากคุณเป็นนายกฯ หรือ เป็นผู้มีอำนาจทางการเมืองที่ต้องการเข้ามาปฏิรูประบบทหาร/ตำรวจภายในประเทศ
คุณจะปฏิรูปอะไรบ้าง ?
สำหรับผม
1) ให้ผู้บัญชาการเหล่าทัพมาจากการแต่งตั้งของรัฐมนตรีฯกลาโหม โดยความเห็นชอบของรัฐสภาฯ
2) ให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมาจากการแต่งตั้งของนายกฯ โดยความเห็นชอบของรัฐสภาฯ
3) ให้ระบบการเลื่อนชั้นยศทหาร/ตำรวจเป็นไปตามอายุงานและประสบการณ์ทางด้านภารกิจ การปฏิบัติหน้าที่ต่างๆ ความดีความชอบ โดยให้มีคณะกรรมการพิจารณาการเลื่อนชั้นยศ/ตำแหน่งของแต่ละกองทัพเป็นผู้ดำเนินงาน (ไม่มีข้าราชการการเมืองสังกัด)
4) ห้ามมิให้มีการผูกขาดในตำแหน่งทางการทหารและตำรวจใดๆนานกว่า 2 ปี ( เพื่อกระจายและแบ่งสรรอำนาจ ตลอดจนป้องกันการสร้างอิทธิพลและผูกขาดในอำนาจหน้าที่ของตัวเอง )
5) ห้ามมิให้ผู้บัญชาเหล่าทัพกระทำการใดๆที่เป็นการแสดงออกถึงการล้มล้างรัฐธรรมนูญหรือเปลี่ยนแปลงการปกครอง ในกรณีที่ผู้บังคับบัญชาเกิดความสงสัยเพื่อเป็นการป้องกันเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น ให้นายกฯสั่งช่วยราชการ และ ขอเปิดประชุมรัฐสภาฯเพื่อถอดถอนออกจากตำแหน่งได้
6) งบประมาณทางการทหารจะถูกแยกออกจาก พรบ.งบประมาณฯ และจะต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาฯ (ทั้งนี้เพื่อเป็นการพิจารณาเฉพาะด้านเพื่อให้มีความละเอียดและรอบคอบมากขึ้นในการอนุมัติโครงการต่างๆ )
ผมยังคิดได้เท่านี้ครับ ใครคิดเห็นยังไงก็เชิญแสดงความคิดเห็นได้เลยครับ
สมมติว่าท่านปฏิรูประบบทหาร/ตำรวจได้ ท่านจะปฏิรูปอะไรบ้าง ?
หากคุณเป็นนายกฯ หรือ เป็นผู้มีอำนาจทางการเมืองที่ต้องการเข้ามาปฏิรูประบบทหาร/ตำรวจภายในประเทศ
คุณจะปฏิรูปอะไรบ้าง ?
สำหรับผม
1) ให้ผู้บัญชาการเหล่าทัพมาจากการแต่งตั้งของรัฐมนตรีฯกลาโหม โดยความเห็นชอบของรัฐสภาฯ
2) ให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมาจากการแต่งตั้งของนายกฯ โดยความเห็นชอบของรัฐสภาฯ
3) ให้ระบบการเลื่อนชั้นยศทหาร/ตำรวจเป็นไปตามอายุงานและประสบการณ์ทางด้านภารกิจ การปฏิบัติหน้าที่ต่างๆ ความดีความชอบ โดยให้มีคณะกรรมการพิจารณาการเลื่อนชั้นยศ/ตำแหน่งของแต่ละกองทัพเป็นผู้ดำเนินงาน (ไม่มีข้าราชการการเมืองสังกัด)
4) ห้ามมิให้มีการผูกขาดในตำแหน่งทางการทหารและตำรวจใดๆนานกว่า 2 ปี ( เพื่อกระจายและแบ่งสรรอำนาจ ตลอดจนป้องกันการสร้างอิทธิพลและผูกขาดในอำนาจหน้าที่ของตัวเอง )
5) ห้ามมิให้ผู้บัญชาเหล่าทัพกระทำการใดๆที่เป็นการแสดงออกถึงการล้มล้างรัฐธรรมนูญหรือเปลี่ยนแปลงการปกครอง ในกรณีที่ผู้บังคับบัญชาเกิดความสงสัยเพื่อเป็นการป้องกันเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น ให้นายกฯสั่งช่วยราชการ และ ขอเปิดประชุมรัฐสภาฯเพื่อถอดถอนออกจากตำแหน่งได้
6) งบประมาณทางการทหารจะถูกแยกออกจาก พรบ.งบประมาณฯ และจะต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาฯ (ทั้งนี้เพื่อเป็นการพิจารณาเฉพาะด้านเพื่อให้มีความละเอียดและรอบคอบมากขึ้นในการอนุมัติโครงการต่างๆ )
ผมยังคิดได้เท่านี้ครับ ใครคิดเห็นยังไงก็เชิญแสดงความคิดเห็นได้เลยครับ