สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
ตอนที่บวชมีการอบรมวิปัสสนากรรมฐาน...มีพระนวกะภาคกลางมาร่วมฝึกปฏิบัติเกือบ 100 รูป
มีเณรอยู่องค์หนึ่งมาจากวัดในจังหวัดอ่างทอง...เพียงวันแรกแกก็มองเห็นทุกอย่างเป็นกระดูกไปหมด
แมวหมาที่เดินผ่านไปมารวมถึงผู้คน...กลายเป็นโครงกระดูกเดินได้
คราวนี้ก็เลยสนุกกันใหญ่....พวกเราเลยลองภูมิว่าแกเห็นจริงหรือมั่ว
มีพระนวกะเป็นสิบองค์เดินแถวมาให้แกเอ็กเรย์...และตอบให้ได้ว่าแต่ละคนมีท่อนเหล็กในร่างกายกี่ชิ้นและที่ไหนบ้าง
บางองค์เคยแขนหัก...ขาหักจากอุบัติเหตุ...เณรแกแค่ชำเลืองดูและชี้บอกได้ถูกทุกคน
บางองค์กระดูกขาหักถึง 3 ท่อน...แกก็ตอบถูก
แต่ด้วยสภาวะจิตใจที่ยังฝึกไม่ถึง...ยังวางอุเบกขาไม่เป็น...ได้ฤทธิ์มาจากบารมีเก่าอย่างไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจ
เณรแกก็จิตตกกินไม่ได้นอนไม่หลับ...ยามจะกินก็มองเห็นเมล็ดข้าวในบาตรเป็นเศษกระดูกน่าสะอิดสะเอียน
สุดท้ายต้องแยกตัวออกไปให้อาจารย์ปรับอารมณ์นานเป็นสัปดาห์
เริ่มแรกคุณต้องไม่กลัวตาย...ต้องอดทนกับความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมานใจสารพัด
ผมเคยฝึกนั่งสมาธิทุกวัน...วันละ 8 ชม...อากาศกลางเดือนเมษาก็ร้อนสุดๆ
แถมยังต้องนั่งฝึกรวมกันในเต๊นท์ใหญ่...เบียดเสียดผู้คน..เหงื่อไหลท่วมตัว
เวลานอนปวดระบมไปทั้งตัว....ปานกระดูกแต่ละชิ้นถูกทุบก็ไม่ปาน
จนครบเดือนก็ยังไม่ได้ฤทธิ์เดชอะไรเลย...นอกจากสมาธิที่ตั้งมั่นขึ้น
สงบใจนิ่งอยู่กับความเจ็บปวดทางด้านร่างกายได้ง่ายขึ้น...เท่านั้นเอง
คงไม่ต้องพูดถึงการฝึกเข้าออกจากสมาธิได้อย่างชำนาญ...ภายใต้สภาวะแวดล้อมอันเป็นอุปสรรคทุกชนิด
สมเด็จโต ฯ เคยฝึกสมาธิภายใต้สายน้ำของน้ำตก...บางองค์บอกอากาศร้อนให้ปิดห้องแล้วฝึก
อากาศหนาวให้ออกไปนั่งฝึกกลางแจ้ง...บางองค์ฝึกในป่าบนทางเสือและช้างเดินผ่าน
บางองค์เข้าไปฝึกในถ้ำที่มีงูจงอาง...เพื่อต่อสู้กับความกลัวในจิตใจ
เคยคุยกับพระธุดงค์ที่เคยนั่งสมาธิบนก้อนหินใหญ่กลางป่าแล้วถูกงูเหลือมรัด...นาทีวิกฤติขนาดนั้นจิตของท่านก็ยังอยู่กับสมาธิ
ปล่อยวางชีวิต...ท่านบอกถ้าเคยเป็นเจ้ากรรมนายเวรต่อกันก็กินท่านซะ...จะได้หมดเวรต่อกันไม่ต้องมาจองเวรกันอีก
แต่สุดท้ายงูเหลือมตัวนั้นก็ปล่อยท่าน.....คุณพร้อมจะเจอกับสภาวะแบบนั้นหรือเปล่า
การจะไปไกลจนถึงจุดนั้น...เราคงต้องย้อนกลับมามองดูตัวเรา ณ จุดปัจจุบัน
ว่าเรายืนอยู่ตรงไหนบนทางสายนี้...ถ้าแค่ศีล 5 ยังรักษาเอาไว้ไม่ได้...ยังรั่วแล้วรั่วอีก
สิ่งที่เล่ามาทั้งหมดคงเป็นได้แค่นิทานก่อนนอนเท่านั้นเอง...
ลองเข้าฝึกอบรมปฏิบัติกรรมฐานก่อนดีกว่า...แค่ 7 วันนี่แหละ
แม้จะยังไม่ได้ฤทธิ์...แต่อย่างน้อยอาจได้สัมผัสกับความมหัศจรรย์ของจิต
เป็นการปลูกศรัทธาเล็กๆ เพื่อมีกำลังใจปฏิบัติในสิ่งที่ยากขึ้นต่อไปในอนาคต
แล้วเราจะรู้ด้วยตัวเอง...ที่เขาพูดกันว่า "โชคดีที่ได้เกิดมาพบเจอศาสนาพุทธ"
มันหมายความว่าอย่างไร...
มีเณรอยู่องค์หนึ่งมาจากวัดในจังหวัดอ่างทอง...เพียงวันแรกแกก็มองเห็นทุกอย่างเป็นกระดูกไปหมด
แมวหมาที่เดินผ่านไปมารวมถึงผู้คน...กลายเป็นโครงกระดูกเดินได้
คราวนี้ก็เลยสนุกกันใหญ่....พวกเราเลยลองภูมิว่าแกเห็นจริงหรือมั่ว
มีพระนวกะเป็นสิบองค์เดินแถวมาให้แกเอ็กเรย์...และตอบให้ได้ว่าแต่ละคนมีท่อนเหล็กในร่างกายกี่ชิ้นและที่ไหนบ้าง
บางองค์เคยแขนหัก...ขาหักจากอุบัติเหตุ...เณรแกแค่ชำเลืองดูและชี้บอกได้ถูกทุกคน
บางองค์กระดูกขาหักถึง 3 ท่อน...แกก็ตอบถูก
แต่ด้วยสภาวะจิตใจที่ยังฝึกไม่ถึง...ยังวางอุเบกขาไม่เป็น...ได้ฤทธิ์มาจากบารมีเก่าอย่างไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจ
เณรแกก็จิตตกกินไม่ได้นอนไม่หลับ...ยามจะกินก็มองเห็นเมล็ดข้าวในบาตรเป็นเศษกระดูกน่าสะอิดสะเอียน
สุดท้ายต้องแยกตัวออกไปให้อาจารย์ปรับอารมณ์นานเป็นสัปดาห์
เริ่มแรกคุณต้องไม่กลัวตาย...ต้องอดทนกับความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมานใจสารพัด
ผมเคยฝึกนั่งสมาธิทุกวัน...วันละ 8 ชม...อากาศกลางเดือนเมษาก็ร้อนสุดๆ
แถมยังต้องนั่งฝึกรวมกันในเต๊นท์ใหญ่...เบียดเสียดผู้คน..เหงื่อไหลท่วมตัว
เวลานอนปวดระบมไปทั้งตัว....ปานกระดูกแต่ละชิ้นถูกทุบก็ไม่ปาน
จนครบเดือนก็ยังไม่ได้ฤทธิ์เดชอะไรเลย...นอกจากสมาธิที่ตั้งมั่นขึ้น
สงบใจนิ่งอยู่กับความเจ็บปวดทางด้านร่างกายได้ง่ายขึ้น...เท่านั้นเอง
คงไม่ต้องพูดถึงการฝึกเข้าออกจากสมาธิได้อย่างชำนาญ...ภายใต้สภาวะแวดล้อมอันเป็นอุปสรรคทุกชนิด
สมเด็จโต ฯ เคยฝึกสมาธิภายใต้สายน้ำของน้ำตก...บางองค์บอกอากาศร้อนให้ปิดห้องแล้วฝึก
อากาศหนาวให้ออกไปนั่งฝึกกลางแจ้ง...บางองค์ฝึกในป่าบนทางเสือและช้างเดินผ่าน
บางองค์เข้าไปฝึกในถ้ำที่มีงูจงอาง...เพื่อต่อสู้กับความกลัวในจิตใจ
เคยคุยกับพระธุดงค์ที่เคยนั่งสมาธิบนก้อนหินใหญ่กลางป่าแล้วถูกงูเหลือมรัด...นาทีวิกฤติขนาดนั้นจิตของท่านก็ยังอยู่กับสมาธิ
ปล่อยวางชีวิต...ท่านบอกถ้าเคยเป็นเจ้ากรรมนายเวรต่อกันก็กินท่านซะ...จะได้หมดเวรต่อกันไม่ต้องมาจองเวรกันอีก
แต่สุดท้ายงูเหลือมตัวนั้นก็ปล่อยท่าน.....คุณพร้อมจะเจอกับสภาวะแบบนั้นหรือเปล่า
การจะไปไกลจนถึงจุดนั้น...เราคงต้องย้อนกลับมามองดูตัวเรา ณ จุดปัจจุบัน
ว่าเรายืนอยู่ตรงไหนบนทางสายนี้...ถ้าแค่ศีล 5 ยังรักษาเอาไว้ไม่ได้...ยังรั่วแล้วรั่วอีก
สิ่งที่เล่ามาทั้งหมดคงเป็นได้แค่นิทานก่อนนอนเท่านั้นเอง...
ลองเข้าฝึกอบรมปฏิบัติกรรมฐานก่อนดีกว่า...แค่ 7 วันนี่แหละ
แม้จะยังไม่ได้ฤทธิ์...แต่อย่างน้อยอาจได้สัมผัสกับความมหัศจรรย์ของจิต
เป็นการปลูกศรัทธาเล็กๆ เพื่อมีกำลังใจปฏิบัติในสิ่งที่ยากขึ้นต่อไปในอนาคต
แล้วเราจะรู้ด้วยตัวเอง...ที่เขาพูดกันว่า "โชคดีที่ได้เกิดมาพบเจอศาสนาพุทธ"
มันหมายความว่าอย่างไร...
แสดงความคิดเห็น
นั่งสมาธิ, กรรมฐาน หรือ ได้ฌาน ขั้นไหน นานแค่ไหน ถึงจะมีวิชาอาคมเหาะเหินเดินอากาศ เสกอะไรก้ได้ เหมือน