มาราธอนแรกในชีวิต ไม่ยากอย่างที่คิด แต่หนักว่าใครหลายคน
เพิ่งเริ่มวิ่งได้เมื่อเดือนสิงหาคม55 ก็เกือบ1ปี4เดือนได้ เป็นคนที่ไม่เคยเล่นกีฬาอะไรเลย
แต่คงเห็นจากหนังรัก7ปีดี7หน จึงรู้สึกเป็นแรงบันดาลใจในการคิดจะวิ่ง ส่วนตัวอาจไม่ใช่นักวิ่งที่ดี เพราะไม่เคยซ้อมมาเลยตลอดที่ลงวิ่ง!!! ไปถึงงานก็วิ่ง มีแต่ใจที่ไม่ยอมแพ้เท่านั้นที่พาไปถึงเส้นชัย
ประสบการณ์ในการวิ่ง ระยะฮาร์ฟมาราธอน 5สนาม ระยะมินิมาราธอนหลายสนาม
เนื่องจากปีนี้ตั้งใจว่าจะต้องวิ่งระยะมาราธอนให้ได้ โดยไปลงในงานวิ่งกรุงเทพมาราธอนที่ผ่านมา ผลคือบาดเจ็บ"รองช้ำ" เจ็บที่เอ็นใต้ฝ่าเท้า งดวิ่งไปเกือบเดือน มาลงสนามอีกทีก็งานสุโขทัยมาราธอน โดยลงในระยะHalf marathon(21km) รอบนี้วิ่งแบบไม่สนใจเวลา วิ่งไปเรื่อยๆ เพราะกลัวเจ็บ วิ่งไปได้3:01ชม.
ภาพในงานวิ่งที่อยุธยา
สนามสุดท้ายของปีที่จะลงวิ่งคือ "เชียงใหม่มาราธอน" เป็นสนามที่ลงวิ่งระยะมาราธอนไว้
ถ้าถามว่ากายพร้อมมั๊ย? บอกได้เลยว่าไม่100% แต่ใจเต็ม100%
เส้นทางในการวิ่งมาราธอน
เริ่มจากจุดปล่อยตัวที่ประตูท่าแพ ตอนตีสี่ อุณหภูมิ15องศา
เตรียมเจลที่เป็นพลังงานเสริมไว้ยามหิว เพราะเราไม่ใช่นักวิ่งแนวหน้า ของทานอาจหมดเวลาเราวิ่งไปถึงจุดแจก เลยหาเตรียมไปเองเต็ม555
ส่วนรองเท้าก็คู่ใหม่ ไม่เคยลงสนามใดๆมาก่อน
มีหลายคนคิดว่าจะวิ่งแบบไหนที่จะไปรอด สำหรับตัวเอง วิ่งไปเรื่อยๆ ไม่บีบเวลาให้ตัวเอง ขอแค่ได้เห็นเส้นชัยเป็นพอ
แรกๆนับ10กิโล ก็แค่สี่รอบเอง พอวิ่งไปสักพัก นับเป็นทุก2กิโลที่รับน้ำแทน แล้วคิดว่าวิ่งแค่2โลเอง อิอิ ปลอบตัวเองดีมาก >______<
มาถึงจุดกลับตัว แวะถ่ายรูปสักหน่อย อย่างกับมาเที่ยว ไม่ได้วิ่งเลย
หลังจากที่วิ่งมาได้26กิโล ก็จะพยายามยืดกล้ามเนื้อเป็นระยะกันตะคริว เพราะไม่เคยวิ่งไกลเกิน21กิโลมาก่อน
ถามว่าหนาวมั๊ยเวลาวิ่งที่อุณหภูมิ13-17องศา ตอบได้เลยว่าหนาวครับ แต่วิ่งไปสักพักร่างกายจะทนได้ ทั้งที่ไม่เคยวิ่งในอากาศแบบนี้มาก่อน
มาถึงแล้วกิโลที่35 หรือปีศาจ555 (จะบอกว่าเจอตั้งแต่กิโลที่30แล้ว5555)
การวิ่งไม่ใช่แค่ก้าวเท้าอย่างที่พี่ตูนบอกจริงๆ มันต้องมีหยุด มีเร่ง มีผ่อน เพราะเห็นได้จาก4กิโลเมตรสุดท้าย ใครหลายคนหมดแรง เดินกันไปหมด แต่ตัวเองยังมีแรงเลยเร่งแทน จากที่โดนแซงไปหลายคน เรากลับนำมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ!!!! นี้แหละแรงใจ
สุดท้ายก็มาถึงเส้นชัยจนได้ เวลา6:05ชม.
เสื้อfinisherและเหรียญ
ขอบคุณทุกท่านที่เสียเวลาเข้ามาอ่านกันนะครับ
สุดท้ายอยากวิ่งให้ดีต้องซ้อมเท่านั้นครับ!!! ของผมอาจแค่ตั้งใจอย่างเดียว
"ถ้าคุณอยากวิ่ง วิ่งแค่กิโลเดียวก็พอ แต่ถ้าคุณอยากพบเพื่อนๆ มาวิ่งมาราธอนกัน"
มาราธอนแรกในชีวิต ไม่ยากอย่างที่คิด แต่หนักว่าใครหลายคน
เพิ่งเริ่มวิ่งได้เมื่อเดือนสิงหาคม55 ก็เกือบ1ปี4เดือนได้ เป็นคนที่ไม่เคยเล่นกีฬาอะไรเลย
แต่คงเห็นจากหนังรัก7ปีดี7หน จึงรู้สึกเป็นแรงบันดาลใจในการคิดจะวิ่ง ส่วนตัวอาจไม่ใช่นักวิ่งที่ดี เพราะไม่เคยซ้อมมาเลยตลอดที่ลงวิ่ง!!! ไปถึงงานก็วิ่ง มีแต่ใจที่ไม่ยอมแพ้เท่านั้นที่พาไปถึงเส้นชัย
ประสบการณ์ในการวิ่ง ระยะฮาร์ฟมาราธอน 5สนาม ระยะมินิมาราธอนหลายสนาม
เนื่องจากปีนี้ตั้งใจว่าจะต้องวิ่งระยะมาราธอนให้ได้ โดยไปลงในงานวิ่งกรุงเทพมาราธอนที่ผ่านมา ผลคือบาดเจ็บ"รองช้ำ" เจ็บที่เอ็นใต้ฝ่าเท้า งดวิ่งไปเกือบเดือน มาลงสนามอีกทีก็งานสุโขทัยมาราธอน โดยลงในระยะHalf marathon(21km) รอบนี้วิ่งแบบไม่สนใจเวลา วิ่งไปเรื่อยๆ เพราะกลัวเจ็บ วิ่งไปได้3:01ชม.
ภาพในงานวิ่งที่อยุธยา
สนามสุดท้ายของปีที่จะลงวิ่งคือ "เชียงใหม่มาราธอน" เป็นสนามที่ลงวิ่งระยะมาราธอนไว้
ถ้าถามว่ากายพร้อมมั๊ย? บอกได้เลยว่าไม่100% แต่ใจเต็ม100%
เส้นทางในการวิ่งมาราธอน
เริ่มจากจุดปล่อยตัวที่ประตูท่าแพ ตอนตีสี่ อุณหภูมิ15องศา
เตรียมเจลที่เป็นพลังงานเสริมไว้ยามหิว เพราะเราไม่ใช่นักวิ่งแนวหน้า ของทานอาจหมดเวลาเราวิ่งไปถึงจุดแจก เลยหาเตรียมไปเองเต็ม555
ส่วนรองเท้าก็คู่ใหม่ ไม่เคยลงสนามใดๆมาก่อน
มีหลายคนคิดว่าจะวิ่งแบบไหนที่จะไปรอด สำหรับตัวเอง วิ่งไปเรื่อยๆ ไม่บีบเวลาให้ตัวเอง ขอแค่ได้เห็นเส้นชัยเป็นพอ
แรกๆนับ10กิโล ก็แค่สี่รอบเอง พอวิ่งไปสักพัก นับเป็นทุก2กิโลที่รับน้ำแทน แล้วคิดว่าวิ่งแค่2โลเอง อิอิ ปลอบตัวเองดีมาก >______<
มาถึงจุดกลับตัว แวะถ่ายรูปสักหน่อย อย่างกับมาเที่ยว ไม่ได้วิ่งเลย
หลังจากที่วิ่งมาได้26กิโล ก็จะพยายามยืดกล้ามเนื้อเป็นระยะกันตะคริว เพราะไม่เคยวิ่งไกลเกิน21กิโลมาก่อน
ถามว่าหนาวมั๊ยเวลาวิ่งที่อุณหภูมิ13-17องศา ตอบได้เลยว่าหนาวครับ แต่วิ่งไปสักพักร่างกายจะทนได้ ทั้งที่ไม่เคยวิ่งในอากาศแบบนี้มาก่อน
มาถึงแล้วกิโลที่35 หรือปีศาจ555 (จะบอกว่าเจอตั้งแต่กิโลที่30แล้ว5555)
การวิ่งไม่ใช่แค่ก้าวเท้าอย่างที่พี่ตูนบอกจริงๆ มันต้องมีหยุด มีเร่ง มีผ่อน เพราะเห็นได้จาก4กิโลเมตรสุดท้าย ใครหลายคนหมดแรง เดินกันไปหมด แต่ตัวเองยังมีแรงเลยเร่งแทน จากที่โดนแซงไปหลายคน เรากลับนำมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ!!!! นี้แหละแรงใจ
สุดท้ายก็มาถึงเส้นชัยจนได้ เวลา6:05ชม.
เสื้อfinisherและเหรียญ
ขอบคุณทุกท่านที่เสียเวลาเข้ามาอ่านกันนะครับ
สุดท้ายอยากวิ่งให้ดีต้องซ้อมเท่านั้นครับ!!! ของผมอาจแค่ตั้งใจอย่างเดียว
"ถ้าคุณอยากวิ่ง วิ่งแค่กิโลเดียวก็พอ แต่ถ้าคุณอยากพบเพื่อนๆ มาวิ่งมาราธอนกัน"