ความเหมือนระหว่างระบอบสุเทพ กับ ระบอบฟาสซิสต์แห่งอิตาลี
ทางเดินที่เหมือนกันยึดอำนาจโดยประชาชนกลุ่มหนึ่งในประเทศไม่ยอมรับประชาธิปไตย แต่งตั้งตำแหน่งสำคัญๆโดยตัวบุคคลมาบริหารประเทศ แล้วคนอย่างเราที่ต้องการประชาธิปไตยไปอยู่ไหนดีอ่ะ
ฟาสซิสต์ (Facism) เป็นหนึ่งในลักษณะการปกครองของรัฐ ในฟาสซิสต์ซึ่งปรากฏในช่วงก่อนและระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง โดยมีแนวคิดสำคัญว่า รัฐเป็นสิ่งที่สำคัญกว่าตนหรือบุคคล ฟาสซิสต์จะมีบุคคลคนหนึ่งปกครองประเทศเรียกว่า ผู้นำเผด็จการ มีอำนาจสิทธิในการควบคุมรัฐบาลและประชาชน ซึ่งประชาชนภายในรัฐจะต้องเชื่อฟังผู้นำสูงสุด เพื่อใช้ประเทศชาติอยู่รอดปลอดภัย และพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง
ฟาสซิสต์ นั้นแตกต่างจากคอมมิวนิสต์ เนื่องจากฟาสซิสต์ไม่ต้องการจะเป็นเจ้าของที่ดิน หรือโรงงานผลิตสินค้า แต่ลัทธิฟาสซิสต์จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับสิ่งเหล่านั้นและใช้เป็นทรัพยากรในการผลิตกองทัพที่แข็งแกร่ง หรือส่วนอื่นของลัทธิฟาสซิสต์ สำหรับลัทธิฟาสซิสต์แล้วถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่โรงเรียนทุกโรงในประเทศจะสอนเด็กว่าผู้นำเผด็จการเป็นบุคคลที่สำคัญที่สุดในโลก เมื่อโตขึ้นแบบอย่างที่ควรทำคือเข้ารวมกลุ่มกับลัทธิฟาสซิสต์ โดยบุคคลที่ไม่เห็นด้วยกับลัทธิจักต้องถูกสังหารหมู่ทั้งหมด ผู้นำลัทธิฟาสซิสต์มักจะเป็นบุคคลที่มียศสูงในกองทัพ ถึงแม้พวกเขาจะไม่มียศมาก่อนก็ตาม และมักปรากฏตัวในชุดกองทัพบกหรือกองทัพเรือต่อหน้าสาธารณะชน
ลัทธิฟาสซิสต์ ถูกใช้ขึ้นครั้งแรกโดย เบนิโต มุสโสลินี ผู้นำเผด็จการชาวอิตาลี จากปี พ.ศ. 2465 ถึงปี พ.ศ. 2486 รัฐบาลของ เอ็นกิลเบริต ดอลฟิว ในออสเตรีย อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ในนาซีเยอรมนี และฟรานซิสโก ฟรังโก ในสเปน คำขวัญของฟาสซิสต์ คือ "สามัคคีคือพลัง"
ที่มาของชื่อ
ในอิตาลี่โดยเรียกการปกครองแบบนี้ว่า ฟาซิโอ เป็นภาษาละติน แปลว่า สหภาพ หรือ สมาชิก ทั้งยังแปลได้อีกว่าเป็นแขนงไม้ที่พันรอบขวาน ลัทธิฟาสซิสต์เป็นชื่อของอาณาจักรโรมันสมัยก่อน มันคือไม้เมื่อไม้มีอยู่แท่งเดียวก็จะหักได้ง่าย แต่เมื่อนำไม้มารวมกันนั้นจะหักได้ยากมาก เหมือนกับเมื่อชาติมีประชาชนมารวมกันก็จะทำให้ชาติแข็งแกร่งไร้เทียมทาน แต่กลายเป็นว่าลัทธิฟาสซิสต์ ไม่แข็งแกร่งเท่าที่ควรเพราะประชาชนเบื่อกับการทำงาน และการปฏิวัติของลัทธิฟาสซิสต์ซึ่งทำให้ลัทธิฟาสซิสต์สิ้นสุดในปี พ.ศ. 2486
ไปเห็นในเฟสมาครับ
ความเหมือนระหว่างระบอบสุเทพ กับ ระบอบฟาสซิสต์แห่งอิตาลี
ทางเดินที่เหมือนกันยึดอำนาจโดยประชาชนกลุ่มหนึ่งในประเทศไม่ยอมรับประชาธิปไตย แต่งตั้งตำแหน่งสำคัญๆโดยตัวบุคคลมาบริหารประเทศ แล้วคนอย่างเราที่ต้องการประชาธิปไตยไปอยู่ไหนดีอ่ะ
ฟาสซิสต์ (Facism) เป็นหนึ่งในลักษณะการปกครองของรัฐ ในฟาสซิสต์ซึ่งปรากฏในช่วงก่อนและระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง โดยมีแนวคิดสำคัญว่า รัฐเป็นสิ่งที่สำคัญกว่าตนหรือบุคคล ฟาสซิสต์จะมีบุคคลคนหนึ่งปกครองประเทศเรียกว่า ผู้นำเผด็จการ มีอำนาจสิทธิในการควบคุมรัฐบาลและประชาชน ซึ่งประชาชนภายในรัฐจะต้องเชื่อฟังผู้นำสูงสุด เพื่อใช้ประเทศชาติอยู่รอดปลอดภัย และพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง
ฟาสซิสต์ นั้นแตกต่างจากคอมมิวนิสต์ เนื่องจากฟาสซิสต์ไม่ต้องการจะเป็นเจ้าของที่ดิน หรือโรงงานผลิตสินค้า แต่ลัทธิฟาสซิสต์จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับสิ่งเหล่านั้นและใช้เป็นทรัพยากรในการผลิตกองทัพที่แข็งแกร่ง หรือส่วนอื่นของลัทธิฟาสซิสต์ สำหรับลัทธิฟาสซิสต์แล้วถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่โรงเรียนทุกโรงในประเทศจะสอนเด็กว่าผู้นำเผด็จการเป็นบุคคลที่สำคัญที่สุดในโลก เมื่อโตขึ้นแบบอย่างที่ควรทำคือเข้ารวมกลุ่มกับลัทธิฟาสซิสต์ โดยบุคคลที่ไม่เห็นด้วยกับลัทธิจักต้องถูกสังหารหมู่ทั้งหมด ผู้นำลัทธิฟาสซิสต์มักจะเป็นบุคคลที่มียศสูงในกองทัพ ถึงแม้พวกเขาจะไม่มียศมาก่อนก็ตาม และมักปรากฏตัวในชุดกองทัพบกหรือกองทัพเรือต่อหน้าสาธารณะชน
ลัทธิฟาสซิสต์ ถูกใช้ขึ้นครั้งแรกโดย เบนิโต มุสโสลินี ผู้นำเผด็จการชาวอิตาลี จากปี พ.ศ. 2465 ถึงปี พ.ศ. 2486 รัฐบาลของ เอ็นกิลเบริต ดอลฟิว ในออสเตรีย อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ในนาซีเยอรมนี และฟรานซิสโก ฟรังโก ในสเปน คำขวัญของฟาสซิสต์ คือ "สามัคคีคือพลัง"
ที่มาของชื่อ
ในอิตาลี่โดยเรียกการปกครองแบบนี้ว่า ฟาซิโอ เป็นภาษาละติน แปลว่า สหภาพ หรือ สมาชิก ทั้งยังแปลได้อีกว่าเป็นแขนงไม้ที่พันรอบขวาน ลัทธิฟาสซิสต์เป็นชื่อของอาณาจักรโรมันสมัยก่อน มันคือไม้เมื่อไม้มีอยู่แท่งเดียวก็จะหักได้ง่าย แต่เมื่อนำไม้มารวมกันนั้นจะหักได้ยากมาก เหมือนกับเมื่อชาติมีประชาชนมารวมกันก็จะทำให้ชาติแข็งแกร่งไร้เทียมทาน แต่กลายเป็นว่าลัทธิฟาสซิสต์ ไม่แข็งแกร่งเท่าที่ควรเพราะประชาชนเบื่อกับการทำงาน และการปฏิวัติของลัทธิฟาสซิสต์ซึ่งทำให้ลัทธิฟาสซิสต์สิ้นสุดในปี พ.ศ. 2486
ไปเห็นในเฟสมาครับ