วันที่ 6 ก.พ.
นายดัก บานโดว์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายการต่างประเทศ สถาบันคาโต ประเทศสหรัฐอเมริกา เขียนบนความที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ฟอร์บส์ เรื่อง
การทำร้ายประชาธิปไตยในประเทศไทยของฝ่ายต่อต้านเมื่อผู้มีสิทธิโหวตเลือกตั้งรัฐบาลใหม่ : ผู้ชุมนุม เสื้อเหลือง ทำเหมือนพวกเสื้อดำของมุสโสลินี โดยมีเนื้อหาว่า ประเทศไทยจัดการเลือกตั้งเป็นครั้งที่ 3 ตั้งแต่กองทัพก่อการรัฐประหารในปี 2549 ซึ่งฝ่ายประชานิยมชนะอีกครั้ง ส่วนกลุ่มชนชั้นสูงผู้เป็นอันธพาลกลับไม่ลงแข่งขันเลือกตั้ง ทำให้ประเทศนี้กำลังเดินหน้าสู่ความสับสนอลหม่าน
ขณะที่ผู้ต่อต้านในอียิปต์และยูเครน สนับสนุนให้มีการเลือกตั้งใหม่ แต่พรรคประชาธิปัตย์และกปปส. กลับขัดขวางการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา และทำตัวเหมือนกองทัพเสื้อดำยุคใหม่ของเบนิโต มุสโสลินี นายกรัฐมนตรีเผด็จการผู้รวบอำนาจประเทศอิตาลี ในพ.ศ.2486
ทั้งที่ระบบการเมืองการปกครองของไทยเป็นระบอบประชาธิปไตยแต่กองทัพได้ก่อการรัฐประหารหลายครั้ง และมีอิทธิพลเหนือรัฐบาลในหลายสมัย ไม่เว้นแม้แต่ยุครัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งการปกครองยังคงถูกควบคุมโดยกลุ่มชนชั้นสูง หมายรวมถึงกองทัพ ข้าราชการ นักธุรกิจ กลุ่มคนรวย และทั้งที่ราชวงศ์ไทยมีบทบาทจำกัดภายใต้รัฐธรรมนูญ
แต่กลุ่มต่อต้านประชาธิปไตยกลับนำเบื้องบนมาใช้แอบอ้างเพื่อสร้างความได้เปรียบทางการเมือง
การที่นายสุเทพและกลุ่มชนชั้นสูงยืนยันว่าพวกตนเท่านั้นที่มีสิทธิ์ปกครองประเทศ
ทำให้นึกย้อนไปถึงยุคสมัยที่กลุ่มผู้ศรัทธาในลัทธิฟาสซิสต์ในหลายประเทศข่มขู่ประชาชนส่วนใหญ่ก่อนจะขึ้นสู่อำนาจแม้นายสุเทพอ้างว่ากลุ่ม กปปส.เป็นตัวแทนของคนทั้งประเทศ แต่กลับดูถูกใครก็ตามที่ไม่เห็นด้วยกับข้อเรียกร้องของตน นายบานโดว์ระบุ
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNU1UWTVNak0wTmc9PQ%3D%3D&subcatid
แม้วซื้อสื่อต่างประเทศอีกแล้วครัช
สื่อตปท. ชี้ม็อบทำตัวเหมือนพวกเสื้อดำของมุสโสลินี
วันที่ 6 ก.พ. นายดัก บานโดว์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายการต่างประเทศ สถาบันคาโต ประเทศสหรัฐอเมริกา เขียนบนความที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ฟอร์บส์ เรื่อง การทำร้ายประชาธิปไตยในประเทศไทยของฝ่ายต่อต้านเมื่อผู้มีสิทธิโหวตเลือกตั้งรัฐบาลใหม่ : ผู้ชุมนุม เสื้อเหลือง ทำเหมือนพวกเสื้อดำของมุสโสลินี โดยมีเนื้อหาว่า ประเทศไทยจัดการเลือกตั้งเป็นครั้งที่ 3 ตั้งแต่กองทัพก่อการรัฐประหารในปี 2549 ซึ่งฝ่ายประชานิยมชนะอีกครั้ง ส่วนกลุ่มชนชั้นสูงผู้เป็นอันธพาลกลับไม่ลงแข่งขันเลือกตั้ง ทำให้ประเทศนี้กำลังเดินหน้าสู่ความสับสนอลหม่าน ขณะที่ผู้ต่อต้านในอียิปต์และยูเครน สนับสนุนให้มีการเลือกตั้งใหม่ แต่พรรคประชาธิปัตย์และกปปส. กลับขัดขวางการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา และทำตัวเหมือนกองทัพเสื้อดำยุคใหม่ของเบนิโต มุสโสลินี นายกรัฐมนตรีเผด็จการผู้รวบอำนาจประเทศอิตาลี ในพ.ศ.2486
ทั้งที่ระบบการเมืองการปกครองของไทยเป็นระบอบประชาธิปไตยแต่กองทัพได้ก่อการรัฐประหารหลายครั้ง และมีอิทธิพลเหนือรัฐบาลในหลายสมัย ไม่เว้นแม้แต่ยุครัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งการปกครองยังคงถูกควบคุมโดยกลุ่มชนชั้นสูง หมายรวมถึงกองทัพ ข้าราชการ นักธุรกิจ กลุ่มคนรวย และทั้งที่ราชวงศ์ไทยมีบทบาทจำกัดภายใต้รัฐธรรมนูญ แต่กลุ่มต่อต้านประชาธิปไตยกลับนำเบื้องบนมาใช้แอบอ้างเพื่อสร้างความได้เปรียบทางการเมือง
การที่นายสุเทพและกลุ่มชนชั้นสูงยืนยันว่าพวกตนเท่านั้นที่มีสิทธิ์ปกครองประเทศทำให้นึกย้อนไปถึงยุคสมัยที่กลุ่มผู้ศรัทธาในลัทธิฟาสซิสต์ในหลายประเทศข่มขู่ประชาชนส่วนใหญ่ก่อนจะขึ้นสู่อำนาจแม้นายสุเทพอ้างว่ากลุ่ม กปปส.เป็นตัวแทนของคนทั้งประเทศ แต่กลับดูถูกใครก็ตามที่ไม่เห็นด้วยกับข้อเรียกร้องของตน นายบานโดว์ระบุ
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNU1UWTVNak0wTmc9PQ%3D%3D&subcatid
แม้วซื้อสื่อต่างประเทศอีกแล้วครัช